คุณหนูสี่ สตรีเปื้อนเลือด - ตอนที่ 1036 ตามหาเบาะแส
หลงซินเอ๋อร์กังวลใจอย่างที่สุด นอกเหนือจากกังวลว่าอาจเกิดเรื่องไม่ดีกับหลงยวี่เอ๋อร์ นางก็กังวลความปลอดภัยของตนเองเช่นกัน
ตระกูลราชวงศ์มีองค์หญิงทั้งหมดสี่คน ตอนนี้หลงเพ่ยเอ๋อร์และหลงเฟยเอ๋อร์ก็ปลอดภัยดี ทว่าเกิดเรื่องบางอย่างกับหลงยวี่เอ๋อร์
หลงยวี่เอ๋อร์และหลงซินเอ๋อร์มีตัวตนในสถานะเดียวกันนั่นคือมิใช่ธิดาขององค์ฮองเฮา หากแต่เป็นพระสนม สิ่งที่เกิดขึ้นกับหลงยวี่เอ๋อร์หมายความว่านางจะเป็นรายต่อไปหรือไม่…
“น้องสาม อย่าเพิ่งกังวลจนเกินไป เรายังไม่ทราบแน่ชัดว่าใครจับตัวน้องรองไป หากเรารีบบอกท่านพ่อในตอนนี้ มันอาจเป็นการแหวกหญ้าให้งูตื่นเสียเปล่า ๆ และมันอาจทำให้น้องรองตกอยู่ในอันตรายยิ่งกว่าเดิม”
แม้ยังไม่ทราบว่าหลงยวี่เอ๋อร์อยู่ที่ใด หลงเพ่ยเอ๋อร์ก็มั่นใจว่านางยังไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต สมาชิกตระกูลราชวงศ์ทุกคนมีกระดาษชีวิตประจำตัวอยู่และหากชีวิตกำลังตกอยู่ในอันตราย กระดาษชีวิตดังกล่าวก็จะเปลี่ยนแปลงไป ทว่าหากคนผู้นั้นตายไป กระดาษชีวิตก็จะไหม้กลายเป็นเถ้าถ่านทันที เมื่อครู่นี้นางสั่งให้คนไปตรวจดูแล้วและพบว่ากระดาษชีวิตของหลงยวี่เอ๋อร์ยังคงอยู่ในสภาพปกติดี
พวกนางก็มั่นใจว่าหลงยวี่เอ๋อร์ไม่ได้ออกไปจากที่นี่ด้วยตัวเอง ในเมื่อเป็นเช่นนี้ก็หมายความว่าหลงยวี่เอ๋อร์จะต้องถูกใครบางคนจับตัวไปอย่างแน่นอน
“ถ้าเช่นนั้นเราต้องรีบหานางให้พบ ข้าไม่อยากให้เกิดอันตรายใดกับพี่รอง”
หลงซินเอ๋อร์จับมือหลงเพ่ยเอ๋อร์ไว้และต้องการตามหาหลงยวี่เอ๋อร์โดยเร็วที่สุด อย่างไรก็ตาม นางถูกหลงเพ่ยเอ๋อร์ห้ามปรามไว้อีกครา
“อย่าเพิ่งกังวลไปเลย เราหารือเพื่อวางแผนกันก่อนเถอะ”
หากพิจารณาจากปฏิกิริยาของหลงซินเอ๋อร์ นางคงจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดกับเรื่องนี้และคงจะไม่ได้แอบร่วมมือกับจอมยุทธ์ปีศาจลับหลังพวกนาง
“หลงซินเอ๋อร์ ตอนมาที่ตำหนักนี้ในคราก่อน เจ้าพบสิ่งใดผิดปกติรึไม่ ?”
ฉินอวี้โม่เอ่ยถามด้วยความสงสัย บางทีในคราก่อนที่หลงซินเอ๋อร์มาที่นี่ก็อาจจะเกิดเรื่องบางอย่างกับหลงยวี่เอ๋อร์แล้ว เพียงแต่นางอาจจะไม่ทราบก็เท่านั้น
ยิ่งไปกว่านั้น นางก็รู้สึกได้ว่าคนร้ายของเรื่องนี้จงใจวางแผนให้เกิดผลลัพธ์เช่นนี้ การที่หลงซินเอ๋อร์เข้ามาที่ตำหนักนี้เพียงลำพังและจู่ ๆ หลงยวี่เอ๋อร์ก็หายตัวไป ทุกคนจะต้องโทษว่าเป็นความผิดของหลงซินเอ๋อร์อย่างแน่นอนและคนร้ายก็จะถือโอกาสนั้นลงมือทำอะไรบางอย่าง
“ไม่ ทุกอย่างปกติดี ข้ายืนอยู่ข้างนอกห้องฝึกยุทธ์ครู่ใหญ่และเดินชมไปรอบ ๆ ก่อนที่จะกลับไปในที่สุด ระหว่างที่อยู่ที่นี่ ข้าก็ไม่รู้สึกถึงสิ่งใดผิดปกติแม้แต่น้อย”
หลงซินเอ๋อร์ครุ่นคิดครู่หนึ่งและส่ายศีรษะเบา ๆ
ครานั้นนางรู้สึกเบื่อหน่ายและต้องการมาดูว่าหลงยวี่เอ๋อร์ผู้ซึ่งเก็บตัวบ่มเพาะพลังอยู่นานออกมาหรือยัง หลังจากเข้ามาที่นี่ นางก็รับรู้ได้ว่าหลงยวี่เอ๋อร์ยังคงเก็บตัวอยู่และนางก็อยู่ที่นี่เพียงไม่นานก่อนกลับไปที่ตำหนักของตน หลงซินเอ๋อร์มั่นใจว่าไม่มีสิ่งผิดปกติใดเกิดขึ้นระหว่างที่อยู่ที่นี่และทุกอย่างยังคงปกติดี
“เราไม่ทราบด้วยซ้ำว่าเกิดเรื่องกับพี่รองตั้งแต่เมื่อใด เราควรจะทำอย่างไรต่อไปดี ?”
หลงเฟยเอ๋อร์จับมือฉินอวี้โม่ไว้แน่นราวกับต้องการถ้อยคำปลอบโยนบางอย่าง สีหน้าของนางดูกังวลอย่างยิ่ง เมื่อนึกถึงพี่รองของตนที่ไม่ทราบเลยว่าอยู่ที่ใด นางก็กังวลใจจนแทบจะอยู่ไม่ติด
“เรายังต้องสืบหาเบาะแสต่อไป ทว่ายังมีหนทางอื่นเช่นกันที่จะช่วยให้ตามหาได้ว่าใครอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้”
ฉินอวี้โม่และหานโม่ฉือมองหน้ากันด้วยความเข้าใจ เวลาล่วงเลยมานานแล้วและมิใช่เรื่องง่ายที่จะสืบหาเบาะแสที่หลงเหลือในตอนนี้ อย่างไรก็ตาม หากเสแสร้งแสดงละครไปตามแผนการของอีกฝ่ายต่อไป พวกนางอาจจะได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์มา
“หนทางใดหรือเจ้าคะ ?”
หลงเฟยเอ๋อร์เบิกตาโพลงพร้อมกับจับจ้องไปที่ฉินอวี้โม่ทันที แม้แต่หลงซินเอ๋อร์ที่มีเรื่องบาดหมางกันก่อนหน้านี้ก็มองนางอย่างมีความหวังเช่นกัน
“องค์หญิงสามและองค์หญิงรองมีความสัมพันธ์ที่สนิทสนมกันมากใช่รึไม่ ?”
ฉินอวี้โม่มองไปที่หลงซินเอ๋อร์และเอ่ยถาม ‘หนทางนั้น’ ที่นางคิดขึ้นมาจะต้องได้รับการร่วมมือจากหลงซินเอ๋อร์เช่นกัน
“หากต้องยอมตกอยู่ในอันตรายเพื่อช่วยองค์หญิงรอง องค์หญิงสามจะเต็มใจทำหรือไม่ ?”
นางเอ่ยถามอีกครั้ง หากหลงซินเอ๋อร์ไม่ยินยอม พวกนางก็ยังมีวิธีอื่นอีก ทว่าหากหลงซินเอ๋อร์ตอบตกลงด้วยความเต็มใจ นางก็ยินดีลืมเลือนความบาดหมางทั้งหมดก่อนหน้านี้
“เจ้ามีแผนการอะไรอยู่ ? บอกมาเร็วเข้า ข้าจะทำ !”
หลงซินเอ๋อร์พยักศีรษะหงึกหงักอย่างไม่ลังเล นางมิใช่คนโง่เขลา หากไม่สามารถจับตัวคนร้ายที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ได้สำเร็จ เป้าหมายรายต่อไปก็อาจจะเป็นองค์หญิงสามอย่างนางได้ การตอบตกลงต่อวิธีการของฉินอวี้โม่อาจทำให้นางตกอยู่ในอันตราย ทว่านางไม่เกรงกลัวสิ่งใด
“เอาล่ะ หากองค์หญิงสามให้ความร่วมมือ หลังจากนี้ทุกคนก็ทำตามแผนการของข้า”
จากนั้นฉินอวี้โม่ก็อธิบายแผนการของตนกับทั้งสามด้วยเสียงเบาและพวกนางก็พยักศีรษะตอบรับก่อนมองหน้ากันอย่างเข้าใจตรงกัน
ทั่วบริเวณรอบตัวของทุกคนในตอนนี้ก็ถูกหานโม่ฉือปิดกั้นไว้โดยอาคมบางอย่าง เพราะเหตุนั้นพวกนางจึงไม่ต้องกังวลว่าผู้ใดจะมาได้ยินเข้า ซึ่งมีเพียงพวกนางเท่านั้นที่ทราบถึง ‘แผนการ’ ดังกล่าว…
หลังจากรอเวลาหนึ่งก้านธูป ตำหนักของหลงยวี่เอ๋อร์ก็เกิดเสียงสาดวาจาตอบโต้กันซึ่งเป็นเสียงที่ดังพอที่จะได้ยินไปถึงคนนอกตำหนัก
“ฉินอวี้โม่ เหตุใดเจ้าจึงกล่าวหาข้าเช่นนี้ ? ข้ากับพี่รองสนิทกันมาก ข้าจะคิดทำร้ายนางได้อย่างไรกัน ?!”
หลงซินเอ๋อร์จ้องหน้าฉินอวี้โม่ตาเขม็งและแสดงสีหน้าอย่าง ‘โกรธเคือง’ ขณะตะโกนเสียงดัง
“จอมยุทธ์อวี้โม่ ข้าไม่คิดว่านี่จะเป็นฝีมือของน้องสาม ท่านกำลังเข้าใจผิดอยู่หรือไม่ ?”
หลงเพ่ยเอ๋อร์ที่ยืนอยู่ถัดจากหลงซินเอ๋อร์ก็เอ่ยถามพลางขมวดคิ้วมุ่นขณะมองฉินอวี้โม่ด้วยความไม่มั่นใจ
“นั่นสิ แม้ว่าปกติแล้วพี่สามจะเอาแต่ใจเกินไปก็ไม่มีทางที่นางจะทำเช่นนั้นแน่ พี่อวี้โม่ ท่านและพี่โม่ฉือกำลังเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่าเจ้าคะ ?”
หลงเฟยเอ๋อร์เอ่ยถามด้วยความระแวดระวังและเสแสร้งแสดงสีหน้าฉงนงุนงง
หลงซินเอ๋อร์กลอกตาไปมาทันที น้องสี่กล่าววาจาเช่นนี้กับข้าได้อย่างไร ? หมายความว่าอย่างไรกันที่บอกว่าปกติข้าเอาแต่ใจเกินไป ? ถึงแม้ว่ามันจะเป็นความจริง หลงซินเอ๋อร์ก็ไม่คิดว่านางจะกล่าววาจาเช่นนี้…
“เหอะ องค์หญิงรองหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย มีเพียงหลงซินเอ๋อร์ที่มาที่นี่ในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมา ตอนนี้การที่นางเพียงกล่าวว่าไม่เกี่ยวข้องด้วย นี่เป็นสิ่งที่จะเชื่อถือได้หรือ ?”
ฉินอวี้โม่แสยะยิ้มและกล่าวต่อ “สำหรับเหตุผลนั้นก็ง่ายมาก นางริษยาในความสัมพันธ์ระหว่างองค์หญิงใหญ่ เฟยเอ๋อร์และองค์หญิงรอง ดังนั้นจึงได้วางแผนเช่นนี้ เมื่อใดที่แผนการประสบความสำเร็จ องค์หญิงทั้งสองคนก็จะต้องสนใจนางเพียงผู้เดียวเท่านั้น”
ฉินอวี้โม่เปิดเผยสาเหตุที่เตรียมไว้ก่อนหน้านี้และกล่าวหาหลงซินเอ๋อร์ด้วยความมั่นใจ
“ฉินอวี้โม่ อย่าคิดใส่ร้ายข้าเลย ข้าทราบว่าก่อนหน้านี้ข้าทำให้เจ้าไม่พอใจ เจ้าจึงคิดใช้เรื่องนี้เพื่อกล่าวหาข้า ข้าสนิทสนมกับพี่รองมาเสมอ ข้าจะทำสิ่งใดที่เป็นอันตรายต่อนางได้อย่างไรกัน ?”
หลงซินเอ๋อร์มองฉินอวี้โม่อย่าง ‘โกรธเคือง’ และตอบโต้ด้วยเสียงที่ดังชัดเจน ทว่าน้ำเสียงก็ฟังดูราวกับเจือไปด้วยความรู้สึกผิดอยู่เล็กน้อย
“เหอะ เจ้าจะทำร้ายนางหรือไม่นั้นก็มีเพียงเจ้าที่ทราบดี เจ้าไม่ต้องอธิบายอะไรแล้ว หากยังไม่ยอมรับ เจ้าก็ไปที่ตำหนักองค์จักรพรรดิกับพวกเราเถอะ !”
หลังจากกล่าวจบ ฉินอวี้โม่และทุกคนก็มุ่งหน้าไปยังตำหนักขององค์จักรพรรดิหลงอวี้เทียนทันที
ณ ตำหนักองค์จักรพรรดิ หลงอวี้เทียนได้รับข่าวมาก่อนหน้านี้แล้วและกำลังรอพวกนางอยู่
“ท่านพ่อ ท่านต้องให้ความเป็นธรรมกับข้านะเจ้าคะ”
หลงซินเอ๋อร์ปรี่เข้าไปด้วยสีหน้าโศกเศร้าและยังคงกล่าวเสียงดัง
“เป็นอะไรไป ? ใครรังแกเจ้ารึ ?”
สีหน้าของหลงอวี้เทียนไม่เปลี่ยนแปลงแม้แต่น้อยและกล่าวตอบอย่างให้ความร่วมมือ
“พี่รองหายตัวไปเจ้าค่ะ ฉินอวี้โม่และสหายใส่ร้ายว่าข้าเป็นคนวางแผนทำร้ายพี่รอง ทว่าข้าไม่ได้ทำจริง ๆ ท่านพ่อต้องให้ความเป็นธรรมกับข้านะเจ้าคะ”
หลงซินเอ๋อร์อธิบายถึงสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยสีหน้าที่หดหู่
“ท่านพ่อ เป็นเช่นนั้นจริง ๆ เจ้าค่ะ”
หลงเพ่ยเอ๋อร์กล่าวแทรกขึ้นมาได้จังหวะพอดิบพอดีและเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นอีกครั้งอย่างยุติธรรมและไม่ลำเอียง
“ซินเอ๋อร์ เจ้าแน่ใจรึว่าเจ้าไม่มีความเกี่ยวข้องใด ๆ กับการหายตัวไปของยวี่เอ๋อร์ ?”
หลงอวี้เทียนพยายามข่มสีหน้ากังวลและเอ่ยถามเพื่อยืนยันอีกครั้ง