คุณหนูสี่ สตรีเปื้อนเลือด - ตอนที่ 1057 วิกฤตของฟู่ไห่
หลังจากหยุดพักอยู่ที่ขอบรอบนอกของสมรภูมิรบโบราณเป็นเวลาหนึ่งวัน ความแข็งแกร่งของหานโม่ฉือก็ฟื้นฟูกลับมา
หลังจากที่ใช้พลังนั้น พลังของหานโม่ฉือก็ลดลงมากจนฉินอวี้โม่รู้สึกว่าแม้กระทั่งจอมยุทธ์ขอบเขตราชาเซียนธรรมดาก็สามารถสังหารเขาได้ทุกเมื่อ
เพราะเหตุนั้น หากไม่มั่นใจอย่างเต็มที่ นางจึงไม่ต้องการให้เขาใช้พลังนั้นอีก หลังจากที่หานโม่ฉือตกปากรับคำ ฉินอวี้โม่ก็รู้สึกโล่งใจมากขึ้น
เมื่อหยุดพักจนฟื้นฟูพลังกันได้อย่างสมบูรณ์ ทุกคนก็ไม่มีความคิดที่จะเดินทางกลับ
นับตั้งแต่แยกทางกันในสมรภูมิรบโบราณ ฉินอวี้โม่และทั้งสามก็ไม่ได้ข่าวคราวของฟู่ไห่และคนอื่น ๆ อีกเลย แม้การต่อสู้กับจอมยุทธ์ปีศาจก่อนหน้านี้จะดุเดือดมาก คนเหล่านั้นก็ยังไม่ปรากฏตัวให้เห็น ฉินอวี้โม่จึงคาดการณ์ว่าอาจเกิดเรื่องบางอย่างกับกลุ่มของพวกเขา
เนื่องจากอุปกรณ์สื่อสารไม่สามารถใช้งานได้ในสมรภูมิรบโบราณ พวกนางจึงไม่มีทางติดต่อไปหาฟู่ไห่และคนอื่น ๆ ได้เลย
แม้สมรภูมิรบโบราณจะมีพื้นที่ที่กว้างขวางอย่างมาก ทว่าด้วยความแข็งแกร่งของฟู่ไห่ หากมิใช่เพราะเกิดเรื่องบางอย่างที่ไม่คาดคิด เขาจะต้องค้นพบสถานการณ์การต่อสู้ของพวกนางในก่อนหน้านี้และรีบตามมาสมทบอย่างแน่นอน
“ไปตามหาผู้อาวุโสฟู่ไห่และคนอื่น ๆ กันเถอะ”
ทุกคนหารือกันและตัดสินใจเข้าไปในสมรภูมิรบโบราณอีกคราเพื่อตามหาคนที่เหลือ
ในบรรดาผู้ที่เป็นตัวแทนมาที่สมรภูมิรบโบราณครานี้ นอกเหนือจากกลุ่มสี่คนของฉินอวี้โม่ คนอื่นทั้งหมดก็หายตัวไปอย่างไร้วี่แวว แม้ว่าฟู่ไห่จะมีความแข็งแกร่งมากพอที่จะปกป้องตัวเองได้ ทว่าหลานเผิง หลงเพ่ยเอ๋อร์และคนอื่น ๆ ที่มาด้วยกันในครานี้ก็ทำให้ฉินอวี้โม่กังวลอยู่ไม่น้อย
ฉินอวี้โม่และทั้งสามเริ่มจากการเข้าไปในจุดที่เกิดการต่อสู้ก่อนหน้านี้และพบว่าไม่มีกลิ่นอายของสิ่งใดผิดปกติ
หลังจากที่สมาชิกจอมยุทธ์ปีศาจถอนตัวออกไป พวกเขาก็ไม่กลับมาที่นี่อีก ซากศพในสมรภูมิรบโบราณก็กลายเป็นเถ้าถ่านสลายไปในอากาศแล้ว เพราะเหตุนั้น ที่ที่เคยเต็มไปด้วยพลังแห่งความตายก่อนหน้านี้จึงเหลือเพียงความว่างเปล่าและความเงียบสงบ
“คิดไว้ไม่มีผิด บุรุษผู้นั้นค้นพบเราแล้ว โชคดีจริง ๆ ที่ก่อนหน้านี้เรารีบมุ่งหน้าออกไปอย่างรวดเร็ว”
ภายในมิติเชื่อมอสูรของหานโม่ฉือ เนตรปีศาจกระซิบกระซาบเบา ๆ
โชคดีที่ผู้เป็นนายของมันตัดสินใจอย่างเด็ดขาดและรวดเร็วพอ มิฉะนั้น หากถูกค้นพบโดย ‘คนเหล่านั้น’ เกรงว่าพวกเขาคงไม่สามารถรับมือได้ในตอนนี้
“รีบพัฒนาพลังของเจ้าเถอะ เกรงว่าอีกไม่นานนายท่านคงจะต้องไปจากที่นี่”
กิเลนอัคคีกล่าวอย่างเรียบเฉย เมื่อนึกถึงบุรุษผู้นั้น จิตสังหารก็ปรากฏชัดเจนในแววตาของมัน
ในไม่ช้าก็เร็ว สิ่งที่เคยเป็นของนายท่านจะต้องถูกทวงคืนมา บุรุษผู้นั้นครอบครองตำแหน่งที่มิใช่ของเขามานานเกินไป และมันถึงเวลาแล้วที่จะต้องคืนมันกลับมาเสียที !
แน่นอนว่าฉินอวี้โม่ไม่ทราบบทสนทนาระหว่างสองอสูร เวลานี้นางและคนอื่น ๆ กำลังหารือกันว่าควรจะแยกย้ายกันไปตามหาฟู่ไห่และคนอื่น ๆ หรือไม่
ก่อนหน้านี้แต่ละกลุ่มล้วนเลือกสำรวจออกไปคนละทิศคนละทางและไม่อาจทราบได้เลยว่าตอนนี้คนที่เหลือได้รวมตัวกันหรือไม่
“เอาล่ะ อวี้โม่ เจ้าไปกับโม่ฉือ ให้หานอวี้และอสูรจำนวนหนึ่งมากับเรา”
ท้ายที่สุดพวกนางก็ตัดสินใจแยกกันเป็นสองกลุ่ม
กลุ่มแรกคือกลุ่มของฉินอวี้โม่และหานโม่ฉือสองคน ส่วนอีกกลุ่มคือเซิ่งเซียวและอวิ๋นซื่อเทียนที่มีหานอวี้โม่และอสูรอื่น ๆ ร่วมด้วย
ฉินอวี้โม่และหานโม่ฉือเลือกสำรวจไปในทิศทางเหนือ ในขณะที่อวิ๋นซื่อเทียนและเซิ่งเซียวออกสำรวจในทิศทางใต้
ทิศตะวันตกจากจุดนี้คือทิศทางที่พวกนางเข้ามา ส่วนทางตะวันออกคืออาณาเขตส่วนที่ลึกเข้าไปซึ่งเชื่อว่าฟู่ไห่และคนอื่น ๆ ไม่มีทางไปที่นั่น
จากนั้นฉินอวี้โม่และหานโม่ฉือก็เริ่มออกเดินทางไปในทิศเหนือท่ามกลางบรรยากาศที่เงียบสงัดอย่างยิ่ง
เดิมทีสมรภูมิรบโบราณเป็นสถานที่พิเศษที่ถูกปิดผนึกไว้อย่างแน่นหนา หากมิใช่เพราะจอมยุทธ์ปีศาจบุกรุกเข้ามา เกรงว่ามันก็คงจะไม่ปรากฏให้เห็นในดินแดนนี้
อย่างไรก็ตาม ในตอนนี้ข่ายอาคมและผนึกทั้งหมดก็ถูกทำลายไปแล้ว คาดว่าอีกไม่นานสมรภูมิรบโบราณแห่งนี้อาจกลายเป็นดินแดนสำหรับฝึกยุทธ์และบ่มเพาะวิชาของบรรดาจอมยุทธ์ก็เป็นได้
“โม่เอ๋อร์ มีบางอย่างที่ข้ายังบอกเจ้าไม่ได้ในตอนนี้ ข้าเองก็ยังไม่อาจทำความเข้าใจกับหลายสิ่งหลายอย่างในความทรงจำ เมื่อความทรงจำเหล่านั้นชัดเจนขึ้นและไม่ได้ยุ่งเหยิงอีกต่อไป ข้าจะอธิบายกับเจ้าอย่างละเอียด”
หานโม่ฉือจับมือบางของฉินอวี้โม่และกล่าวขึ้นเบา ๆ ใช่ว่าเขาไม่ต้องการบอกความจริงกับนาง เพียงแต่ตัวเขาเองก็ยังไม่เข้าใจมันอย่างแน่ชัดในตอนนี้
ไม่ว่าชีวิตในภพก่อนหรือปัจจุบัน รวมถึงศัตรูที่ซ่อนอยู่ เขาก็ทราบข้อมูลเพียงคร่าว ๆ เท่านั้น
การบอกฉินอวี้โม่ในตอนนี้มีแต่จะทำให้นางต้องกังวลใจไปเสียเปล่า ๆ
“เข้าใจแล้ว ข้าเองก็จะมุ่งมั่นพัฒนาความแข็งแกร่งและจะตามเจ้าให้ทันโดยเร็วที่สุด”
ฉินอวี้โม่พยักศีรษะและรู้สึกว่าความแข็งแกร่งของตนในตอนนี้ยังอ่อนแอเกินกว่าจะยืนเคียงข้างหานโม่ฉือได้ หลังจากสะสางปัญหาในดินแดนมหาเทพเสร็จสิ้น นางหมายมั่นที่จะพัฒนาความแข็งแกร่งของตนโดยเร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้
ทั้งสองมีลางสังหรณ์อยู่ในใจและทราบดีว่าอาจต้องพลัดพรากจากกันอีกครั้งในเวลาอีกไม่นาน
ในเวลานี้ หานโม่ฉือก็มองสตรีคนรักด้วยแววตาเปี่ยมไปด้วยความรักและความหลงใหล หลังจากนี้เขาจะกวาดล้างอุปสรรคขวากหนามทั้งหมดและรอให้ฉินอวี้โม่แข็งแกร่งมากขึ้น…
หลังจากเดินหน้าไปในทิศทางเหนือเป็นเวลานานโดยที่ไม่พบเบาะแสใด ทั้งสองจึงแผ่พลังวิญญาณออกไปสำรวจรอบตัวทว่าก็ยังไม่พบร่องรอยของสิ่งมีชีวิตใด สมรภูมิรบโบราณกว้างใหญ่ยิ่งนักและเวลาก็ผ่านมานานพอสมควรแล้ว พวกนางไม่อาจคาดเดาได้เลยว่าฟู่ไห่และคนอื่น ๆ หายไปที่ใด…
ทว่าในเวลานี้ ฟู่ไห่และคนอื่น ๆ ก็เผชิญกับปัญหาอย่างที่ฉินอวี้โม่คาดการณ์ไว้จริง และตอนนี้พวกเขาติดอยู่ในป่าทึบส่วนหนึ่งของสมรภูมิรบโบราณ
นอกเหนือจากฉินอวี้โม่และคนทั้งสาม ทุกคนที่เหลือที่เข้ามาในสมรภูมิรบโบราณด้วยกันก็ล้วนติดอยู่ที่นี่
ก่อนหน้านี้พวกเขาแยกย้ายกันออกไปตามหาคนของจอมยุทธ์ปีศาจแต่ก็มารวมตัวกันอยู่ที่นี่โดยบังเอิญ เมื่อสัมผัสได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ พวกเขาก็ติดอยู่ในป่าทึบแห่งนี้เสียแล้วและไม่สามารถติดต่อหาฉินอวี้โม่ได้เลย
“อย่าคิดขัดขืน ยอมจำนนต่อจอมยุทธ์ปีศาจของเราเสียดี ๆ และพวกเราจะไว้ชีวิตเจ้า !”
น้ำเสียงเรียบเฉยดังขึ้นท่ามกลางความว่างเปล่าและเห็นได้ชัดว่าเจ้าของเสียงเป็นสมาชิกของจอมยุทธ์ปีศาจ อย่างไรก็ตาม กลุ่มของฟู่ไห่ก็มองไม่เห็นผู้ใดในบริเวณนั้นแม้แต่คนเดียว ราวกับว่าต้นเสียงดังกล่าวอยู่ไกลออกไปซึ่งประหลาดยิ่งนัก
“คิดจะให้พวกข้ายอมจำนนต่อจอมยุทธ์ปีศาจงั้นรึ ? ฝันไปเถอะ !”
ฟู่ไห่วางม่านป้องกันไว้รอบตัวเพื่อปกป้องตนเองและคนอื่น ๆ ไว้
ในป่าทึบแห่งนี้มีพลังงานที่ชั่วร้ายบางอย่างซึ่งกำลังดูดกลืนพลังมายาของทุกคน หากมิใช่เพราะอยู่ภายใต้ม่านป้องกันของฟู่ไห่ เกรงว่าพลังมายาในร่างของพวกเขาทุกคนคงจะแห้งเหือดไปนานแล้ว
“ฮ่า ๆ ๆ คิดว่ามันขึ้นอยู่กับพวกเจ้างั้นรึ ? หากไม่ยอมจำนนก็จงติดอยู่ที่นี่ตลอดไปเถอะ !”
เสียงหัวเราะอย่างเย้ยหยันดังขึ้นและเกิดคลื่นพลังประหลาดในอากาศ จากนั้นรอยแตกก็ปรากฏบนม่านป้องกันของฟู่ไห่ก่อนที่จะเริ่มลุกลามออกไปอย่างรวดเร็ว
“ไม่ได้การแล้ว พลังงานชั่วร้ายบางอย่างกำลังกัดกร่อนม่านป้องกันของข้า เกรงว่ามันคงจะต้านทานได้ไม่นาน”
สีหน้าของฟู่ไห่ถอดสีทันทีและสัมผัสได้ว่าม่านป้องกันของตนกำลังสลายลงอย่างรวดเร็ว
“มันจะทนได้อีกนานแค่ไหนรึ ?”
สีหน้าของหลงเพ่ยเอ๋อร์และคนอื่น ๆ ดูไม่สู้ดีนักเช่นกัน ในตอนนี้พลังมายาของพวกนางถูกกดข่มไว้และสามารถแสดงพลังออกมาได้เพียงครึ่งหนึ่งเท่านั้น
บรรยากาศทั่วบริเวณก็แปลกประหลาดจนเกินไป เกรงว่าหากหาทางเอาตัวรอดออกไปไม่ได้โดยเร็ว ทุกคนคงต้องตายอยู่ที่นี่จริง ๆ
“อีกหนึ่งก้านธูป !”
ฟู่ไห่ถ่ายทอดพลังมายาออกไปอย่างเต็มที่และใบหน้าซีดเซียวลงเรื่อย ๆ ขณะพยายามเสริมพลังให้กับม่านป้องกันรอบตัว
“ทุกคน ใช้ไพ่ตายที่มีเร็วเข้า !”
ทุกคนมองหน้ากันและไม่คิดปิดบังอีกต่อไปก่อนเริ่มใช้ไพ่ตายของตนตาม ๆ กัน
อึดใจต่อมา พลังมหาศาลก็หลั่งไหลไปทั่วบริเวณเพื่อพยายามปัดเป่าพลังงานชั่วร้ายของจอมยุทธ์ปีศาจออกไป
แต่ทว่า…มันก็ไม่เป็นประโยชน์เท่าใดนัก
พลังดังกล่าวประหลาดจนเกินไปและปกคลุมไปทั่วทั้งผืนป่า ยิ่งไปกว่านั้น ป่าทึบแห่งนี้ก็ดูกว้างใหญ่ไร้ที่สิ้นสุด ไม่ว่าพยายามดิ้นรนเพียงใดก็ดูจะไม่มีทางออกสำหรับพวกเขา
“เหอะ นี่คือมนต์ป้องกันที่ผู้อาวุโสอ้านของเราใช้เวลาหลายเดือนเพื่อจัดเตรียม อย่าว่าแต่พวกเจ้าเลย ต่อให้ฟู่ชางมาที่นี่ด้วยตัวเอง เขาก็ทำลายมันไม่ได้ !”
น้ำเสียงเย้ยหยันดังขึ้นอีกครั้งและกล่าวยืนยันกับฟู่ไห่และคนอื่น ๆ ว่าไม่มีทางที่พวกเขาจะหนีออกไปจากที่นี่ได้