คุณหนูสี่ สตรีเปื้อนเลือด - ตอนที่ 1087 สังหารเสียอวิ๋น
แรงกดดันอันทรงพลังกดข่มทั้งร่างของฉินอวี้โม่และส่งผลกระทบต่อนางเป็นอย่างมาก ความแข็งแกร่งของบุรุษลึกลับจากโลกปีศาจอยู่ในขอบเขตเทพยุทธ์เจ็ดดาราเป็นอย่างต่ำ และแรงกดดันของเขาเพียงอย่างเดียวก็ทำให้ฉินอวี้โม่ไม่มีพลังที่จะต้านทานได้เลย
อย่างไรก็ตาม ฉินอวี้โม่ไม่มีทางตอบตกลงยินยอมมอบคฤหาสน์เฟิงหัวให้เขาอย่างแน่นอน
“เหอะ หากข้าบอกว่าไม่ล่ะ ?”
นางกล่าวปฏิเสธด้วยรอยยิ้มเย็นชาทันที ในเวลานี้พลังมายาของนางก็แผ่ออกไปรอบตัวเพื่อปัดเป่าแรงกดดันของอีกฝ่ายและเริ่มเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ
“ฮ่า ๆ ๆ สิ่งที่ข้าผู้นี้ต้องการมิใช่สิ่งที่เจ้าจะปฏิเสธได้ ! แม่สาวน้อย ข้าไม่ได้กำลังต่อรองกับเจ้า ทว่านี่เป็นคำสั่ง !”
บุรุษผู้นั้นกล่าวด้วยน้ำเสียงเย้ยหยันและพลังมายาก่อตัวเป็นฝ่ามือวายุเพื่อโจมตีเข้าที่ฉินอวี้โม่ทันที
พลั่ก ! ตุ้บ !
ฉินอวี้โม่ควบแน่นเกราะพลังมายาขึ้นมาเพื่อพยายามต้านทานไว้ ทว่าร่างของนางก็ถูกฟาดอย่างแรงจนกระเด็นออกไปและร่วงลงกระแทกพื้น พลังงานและเลือดลมภายในร่างกายของนางผันผวนอย่างรุนแรงและเห็นได้ชัดว่านางได้รับบาดเจ็บอย่างหนักภายในการโจมตีเพียงครั้งเดียว
“แข็งแกร่งยิ่งนัก !”
นางแอบตกตะลึงอยู่ในใจลึก ๆ ไม่แปลกใจเลยที่แม้แต่หานโม่ฉือก็ยังหวาดหวั่นต่อบุรุษผู้นี้ ความแข็งแกร่งของเขาเหนือชั้นเกินกว่าที่พวกนางจะรับมือได้จริง ๆ
“แม่สาวน้อย อย่าบีบบังคับให้ข้าต้องฆ่าเจ้าเลย ด้วยความแข็งแกร่งของเจ้า เจ้ารักษามิติที่สองนั่นไว้ไม่ได้หรอกและไม่มีทางที่จะแสดงพลังของมันได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เพราะฉะนั้น ส่งมันมาให้ข้าเสียดี ๆ เถอะและเจ้าจะไม่ต้องทุกข์ทรมานอีกต่อไป !”
บุรุษลึกลับยังคงกล่าววาจาข่มขู่ฉินอวี้โม่ด้วยน้ำเสียงที่เผด็จการ ในดินแดนมหาเทพแห่งนี้ ไม่ว่าผู้ใดก็ไม่มีทางขัดขวางการกระทำของเขาได้
“ไม่มีทาง !”
ฉินอวี้โม่ปฏิเสธเสียงแข็งทันทีในขณะที่มารยาและอสูรอื่น ๆ ก็ก้าวเข้ามาปกป้องนางและประจันหน้ากับอีกฝ่าย
“ถ้าเช่นนั้นก็ลงนรกไปเสียเถอะ !”
สีหน้าของบุรุษลึกลับจากโลกปีศาจกลายเป็นเย็นชาทันทีและกระบี่เล่มยาวในมือของเขาก็เปลี่ยนกลายเป็นแสงทะมึนก่อนพุ่งตรงเข้าไปที่ฉินอวี้โม่
“เหอะ !”
มารยาแค่นเสียงเบา ๆ ในลำคอและน้ำแข็งเยือกเย็นก็ก่อตัวขึ้นในมือก่อนถูกปล่อยออกไปเพื่อขัดขวางลำแสงดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม พลังของมันทำได้เพียงแค่ชะลอความเร็วของแสงทะมึนเท่านั้นและไม่สามารถขัดขวางมันได้สำเร็จ แสงประหลาดจึงพุ่งตรงมายังทิศทางของฉินอวี้โม่ต่อไป
โร่ววว !
ด้วยเสียงคำรามดังสนั่น มังกรขนาดใหญ่ทั้งเก้าจากข่ายอาคมเก้ามังกรทลายพิภพก็เข้าไปเรียงตัวขวางหน้าฉินอวี้โม่เพื่อปกป้องนางจากลำแสงเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม แสงทะมึนนี้ก็พุ่งทะลวงผ่านมังกรเหล่านั้นไปและทำให้มังกรสองตัวสลายหายไปกลางอากาศทันทีส่งผลให้ข่ายอาคมเก้ามังกรทลายพิภพสั่นคลอนเล็กน้อย เพียงการโจมตีเบา ๆ ของบุรุษผู้นี้ก็แข็งแกร่งยิ่งกว่าการโจมตีทั้งหมดของฮวาฟางเฟยเสียอีก
“ช่างเป็นพลังที่น่าสะพรึงกลัวยิ่งนัก”
ฉินอวี้โม่แอบหวาดหวั่นอยู่ในใจและตระหนักดีว่าความแข็งแกร่งของบุรุษผู้นี้เหนือชั้นกว่าหานโม่ฉืออย่างแน่นอน
หานโม่ฉือกล่าวไว้ก่อนหน้านี้แล้วว่าบุรุษผู้นี้คงจะไม่ได้มีสถานะที่สูงนักในเผ่าปีศาจ ทว่าพลังที่เขาแสดงออกมากลับแกร่งกล้าอย่างยิ่ง ไม่อาจคาดเดาได้เลยว่าสมาชิกระดับสูงของเผ่าปีศาจจะน่าสะพรึงกลัวเพียงใด ?
ตอนนี้ฉินอวี้โม่ก็สัมผัสได้ถึงแรงกดดันอย่างมหาศาล ศัตรูที่พวกนางต้องเผชิญในอนาคตข้างหน้าทรงพลังกว่าที่คิดไว้มากนัก…
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้มิใช่เวลาที่จะคิดในสิ่งที่ยังมาไม่ถึง สิ่งสำคัญที่สุดคือการจดจ่อกับสถานการณ์ตรงหน้าและหาทางต่อสู้กับบุรุษของเผ่าปีศาจผู้นี้ แม้มีพลังที่เทียบชั้นกับอีกฝ่ายไม่ได้ ทว่าการถ่วงเวลาสักระยะก็ถือเป็นทางออกที่ดี
เมื่อเห็นว่าบุรุษผู้นั้นโจมตีฉินอวี้โม่ แน่นอนว่าหานโม่ฉือก็เร่งความเร็วของตนเองทันทีและต้องการจบการต่อสู้นี้โดยเร็วที่สุด ในเวลานี้เสียอวิ๋นที่พยายามต้านทานเขามานานก็ถูกบีบไล่ต้อนจนแทบจะต้านทานไม่ไหวอีกต่อไป
ไม่ว่าจะเป็นด้านพลัง ความเร็วหรือกระบวนท่า เสียอวิ๋นล้วนด้อยกว่าหานโม่ฉือทุกประการ พลังความมืดกัดกร่อนที่เขาบ่มเพาะฝึกฝนมานั้นไม่มีผลกระทบต่อหานโม่ฉือแม้แต่น้อย
กระบวนท่าโจมตีของหานโม่ฉือทำให้เขาหวาดกลัว ในขณะที่การโจมตีของเขาทำอะไรหานโม่ฉือไม่ได้เลย ยิ่งการต่อสู้ยืดเยื้อต่อไป ความมั่นอกมั่นใจที่เสียอวิ๋นเคยมีก็ลดน้อยลงไปเรื่อย ๆ และกระบวนท่าโจมตีที่ปล่อยออกไปก็เริ่มยุ่งเหยิงและเสียจังหวะ
“เหตุใดเจ้าจึงทรงพลังได้ถึงเพียงนี้กัน…”
เขามองหานโม่ฉือด้วยแววตาที่ไม่อยากเชื่อและไม่สามารถคิดหาสาเหตุได้เลยว่าเหตุใดบุรุษหนุ่มจากดินแดนระดับต่ำจึงครอบครองพลังที่น่าสะพรึงกลัวถึงเพียงนี้ได้
ฟุ่บ !
หานโม่ฉือเพียงแสยะยิ้มเยือกเย็นและกระบี่ยาวส่องแสงปรากฏในมือของเขา พลังมายาทั่วบริเวณก็หลั่งไหลเข้ามารวมตัวกันที่กระบี่ของเขาซึ่งเป็นพลังที่สามารถทำลายล้างทั้งยุทธภพได้จนทำให้สายตาของทุกคนจับจ้องมาเป็นตาเดียว
“หากเจ้ากำลังคิดที่จะสังหารข้าอยู่ละก็ อย่าแม้แต่จะคิดเลย !”
เสียอวิ๋นรับรู้ได้ถึงพลังมหาศาลที่อัดแน่นในกระบวนท่าโจมตีของอีกฝ่ายและสีหน้าเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง จู่ ๆ พลังสีดำทะมึนก็ปกคลุมทั่วร่างของเขาและก่อตัวกลายเป็นโล่พลังมายาสีดำตรงหน้าซึ่งอัดแน่นไปด้วยพลังที่ทำให้ผู้คนหวาดหวั่นเช่นกัน
“หึ ก็แค่มดปลวกตัวหนึ่ง !”
หานโม่ฉือแสยะยิ้มออกมาและจ้วงแทงกระบี่ในมืออย่างไม่ลังเล
โครมมม !
เสียงปะทะดังสนั่นเมื่อกระบี่ยาวของหานโม่ฉือกระทบเข้ากับโล่ป้องกันตรงหน้าเสียอวิ๋นและหยุดชะงักเป็นการชั่วคราว
เสียอวิ๋นลอบถอนหายใจด้วยความโล่งอกเมื่อเห็นว่าโล่พลังมายาของตนสามารถขัดขวางการโจมตีของฝ่ายตรงข้ามไว้ได้
“เชื่อรึยังว่าเจ้าไม่มีทางฆ่าข้าได้ !”
เขายิ้มอย่างภาคภูมิใจเจือด้วยเลศนัยบางอย่าง ความคิดของเขาในตอนนี้ไม่ซับซ้อนแต่อย่างใด นั่นคือต้องการถ่วงเวลาหานโม่ฉือต่อไปเพื่อให้บุรุษของเผ่าปีศาจสังหารฉินอวี้โม่ให้สำเร็จ เมื่อถึงตอนนั้น หานโม่ฉือและคนของดินแดนมหาเทพก็จะเดือดดาลอย่างที่สุดและร่วมมือกันโจมตีบุรุษของเผ่าปีศาจผู้นั้นอย่างแน่นอน
และเมื่อถึงตอนนั้น บุรุษผู้นั้นก็ไม่มีทางตีตัวออกจากสงครามครานี้ได้อีกและทำได้เพียงแค่ตอบโต้ผู้คนจากฝ่ายดินแดนมหาเทพเท่านั้น
ตราบใดที่เขาตัดสินใจลงมือ ฝ่ายดินแดนมหาเทพก็จะถูกกำจัดอย่างแน่นอนและนั่นหมายถึงชัยชนะของจอมยุทธ์ปีศาจ
ต้องกล่าวเลยว่าความคิดของเสียอวิ๋นเป็นแผนการที่ดีมาก เพียงแต่น่าเสียดายที่หานโม่ฉือไม่มีทางปล่อยให้เขาได้มีโอกาสนั้น
“ตายซะ !”
หานโม่ฉือเพียงเอ่ยสั้น ๆ ด้วยแววตาที่เย็นชาและจู่ ๆ แสงสีดำก็ครอบคลุมไปทั่วกระบี่เล่มยาวของเขาก่อนที่จะครอบงำโล่พลังมายาของเสียอวิ๋นทันที
“นี่มันพลังอะไรกัน ?!”
สีหน้าของเสียอวิ๋นเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง แม้บุรุษลึกลับจากโลกปีศาจไม่คิดที่จะแทรกแซงสงครามครานี้ ทว่าก่อนหน้านี้เขาก็มีส่วนช่วยให้เสียอวิ๋นทะลวงพลังเช่นกัน และโล่ป้องกันที่เสียอวิ๋นสร้างขึ้นเมื่อครู่ก็เจือปนไปด้วยพลังของเผ่าปีศาจอยู่เล็กน้อย
เวลานี้ เขาก็สัมผัสได้ว่ากระบี่เล่มยาวของหานโม่ฉือถูกห่อหุ้มไปด้วยพลังงานปีศาจ แม้จะไม่ชัดเจนนัก เสียอวิ๋นก็สามารถรับรู้ได้
“นี่มัน…”
เดิมทีบุรุษจากโลกปีศาจผู้นั้นก็กำลังต่อสู้กับฉินอวี้โม่ ทว่าเมื่อสัมผัสได้ถึงพลังที่คุ้นเคย เขาก็หันขวับไปมองที่หานโม่ฉือทันที
“มันคือพลังที่จะฆ่าเจ้าอย่างไรล่ะ !”
ในเวลานี้ หานโม่ฉือไม่มีความคิดที่จะปิดบังซ่อนเร้นอีกต่อไปและเพิ่มระดับพลังอย่างเต็มที่โดยที่เปิดเผยพลังของเผ่าปีศาจออกไปอย่างชัดเจน แสงสีดำที่ปกคลุมกระบี่ของเขาก็เข้มข้นมากขึ้นก่อนที่มันจะพุ่งทะลวงผ่านโล่ป้องกันไปและแทงทะลุเข้าไปที่หัวใจของเสียอวิ๋นโดยตรง
“ม่ายยยย !”
เสียอวิ๋นมีเวลาที่จะส่งเสียงร้องโหยหวนออกมาอย่างน่าสมเพชเท่านั้นและทำได้เพียงมองดูรูโหว่บนหน้าอกของตนเองก่อนที่พลังชีวิตทั้งหมดจะดับมอดไปอย่างรวดเร็ว
การโจมตีของหานโม่ฉืออัดแน่นไปด้วยพลังกลืนกินที่น่าสะพรึงกลัวอย่างที่สุดซึ่งสามารถดูดกลืนจิตวิญญาณของอีกฝ่ายได้โดยตรงและมิให้โอกาสเสียอวิ๋นได้หลบหนีเอาตัวรอดแม้แต่น้อย
จิตวิญญาณของเสียอวิ๋นดับสลายไปและผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดของจอมยุทธ์ปีศาจก็ล้มตายไปเช่นนี้ ยิ่งไปกว่านั้น พลังของหานโม่ฉือเมื่อครู่ก็ได้ทำลายโอกาสของการที่เสียอวิ๋นจะฟื้นคืนชีพใหม่ เรียกได้ว่าผู้นำของจอมยุทธ์ปีศาจที่เป็นศัตรูของดินแดนมหาเทพมาช้านานได้สิ้นชื่ออย่างแท้จริงแล้ว
“อ๊ากกก !”
ไล่เลี่ยกับการตายของเสียอวิ๋น มังกรกระดูกดำซึ่งอยู่กลางอากาศก็ถูกแผดเผาโดยเพลิงอันทรงพลังของซิวเช่นกัน มันส่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดและโครงกระดูกหลอมละลายไปส่วนหนึ่ง ทว่ากระดูกที่ละลายไปของมันก็กลายเป็นกองของเหลวสกปรกที่ส่งกลิ่นประหลาดคลุ้งไปทั่วบริเวณ เห็นได้ชัดว่าตอนนี้สถานการณ์ของมังกรกระดูกดำก็ดูไม่สู้ดีนัก
“เหอะ นายน้อย ข้าตามหาท่านมานานเหลือเกิน !”
น้ำเสียงไม่เป็นมิตรดังขึ้นในหูของทุกคนเมื่อจู่ ๆ คู่ต่อสู้ของฉินอวี้โม่ก็พุ่งไปปรากฏตัวตรงหน้าหานโม่ฉือและมองเขาด้วยแววตาเย็นชา
ฉินอวี้โม่และบรรดาอสูรทั้งหมดก็เหาะเข้าไปข้างกายหานโม่ฉืออย่างรวดเร็วและประจันหน้ากับบุรุษของเผ่าปีศาจด้วยสีหน้าที่ไร้ซึ่งความเกรงกลัว
.
.