คุณหนูสี่ สตรีเปื้อนเลือด - ตอนที่ 1195 ผลึกศักดิ์สิทธิ์
ณ มุมหนึ่ง เสวียนปิงยืนอยู่ภายใต้ม่านป้องกันและมองดูการต่อสู้ระหว่างฉินอวี้โม่และสุนัขผลึกน้ำแข็งโดยไม่คิดที่จะเข้าไปแทรกแซง
เขาเคยประจันหน้ากับสุนัขผลึกน้ำแข็งมาก่อนและพบว่าอีกฝ่ายไม่มีจุดอ่อนแม้แต่น้อย ไม่ว่าจะเป็นด้านการโจมตีหรือการป้องกัน ความสามารถของมันล้วนอยู่ในระดับยอดเยี่ยมและยากที่จะเอาชนะได้
อย่างไรก็ตาม พลังในการต่อสู้ของฉินอวี้โม่ทำให้เสวียนปิงประหลาดใจไม่น้อย
เขาเคยได้ยินข่าวลือหนาหูและทราบว่าพลังการต่อสู้ของฉินอวี้โม่น่าสะพรึงกลัวยิ่งนัก ทว่าหลังจากได้เห็นกับตา เขาก็ตระหนักแล้วว่าพลังที่แท้จริงของนางแกร่งกล้ากว่าข่าวลือเหล่านั้นหลายเท่าตัวนัก
ในการประจันหน้ากับสุนัขผลึกน้ำแข็ง แม้ไม่สามารถขึ้นเป็นฝ่ายได้เปรียบ นางก็สามารถยับยั้งมันได้ในระดับหนึ่ง หากมิใช่เพราะสุนัขผลึกน้ำแข็งเป็นตัวตนที่พิเศษเหนือธรรมชาติ เกรงว่ามันคงพ่ายแพ้ต่อฉินอวี้โม่ไปนานแล้ว
เสวียนปิงตั้งหน้าตั้งตารอดูการเคลื่อนไหวต่อไปของฉินอวี้โม่และต้องการทราบว่านางจะหาทางจัดการกับสุนัขผลึกน้ำแข็งเพื่อชิงหล่อฮั้งก้วยได้สำเร็จหรือไม่
หลังจากที่พยายามใช้วิธีการต่าง ๆ ทว่ายังไม่สามารถเอาชนะสุนัขผลึกน้ำแข็งหรือแย่งชิงหล่อฮั้งก้วยมาได้ ฉินอวี้โม่ก็ถึงกับต้องกุมขมับ ในเวลานี้ แรงกดดันของซิวไร้ประโยชน์ไปอย่างสิ้นเชิงและข่ายอาคมของมารยาก็ไม่มีผลต่อสุนัขผลึกน้ำแข็งเช่นกัน
ตราบใดที่มีสิ่งมีชีวิตเข้าใกล้หล่อฮั้งก้วย สุนัขผลึกน้ำแข็งจะรับรู้ได้ในทันที แม้แต่อสูรพฤกษาเช่นต้นโพธิ์ศักดิ์สิทธิ์ก็ไม่สามารถเข้าไปใกล้หล่อฮั้งก้วยได้เช่นกัน เพราะเหตุนั้น หากต้องการนำมันกลับไป ฉินอวี้โม่จะต้องคิดหาทางอื่น
เมื่อเห็นว่าฉินอวี้โม่ไม่เข้ามาใกล้หล่อฮั้งก้วยอีกต่อไป สุนัขผลึกน้ำแข็งก็หันหลังเพื่อกลับเข้าในถ้ำตามเดิม ภารกิจของมันคือการคุ้มกันความปลอดภัยของหล่อฮั้งก้วย ตราบใดที่ไม่รู้สึกถึงภัยคุกคาม มันก็จะเก็บตัวเงียบภายในถ้ำและไม่ปรากฏตัวขึ้นมา
“เราหยุดพักสักหน่อยเถอะ”
ฉินอวี้โม่และซิวเดินเข้าไปหยุดพักในมุมหนึ่งขณะมองไปยังหล่อฮั้งก้วยและไตร่ตรองหาทางแก้ปัญหาต่อไป
ก่อนหน้านี้นางพยายามที่จะลองชิงหล่อฮั้งก้วยมาจากระยะไกลเช่นกัน ทว่าน่าเสียดายที่ยังมีพลังบางอย่างล้อมรอบหล่อฮั้งก้วยไว้ซึ่งคอยคุ้มกันมันอยู่ เว้นแต่ว่าสุนัขผลึกน้ำแข็งจะเพลี่ยงพล้ำและพลังนั้นสลายหายไป มันจะไม่มีผู้ใดชิงหล่อฮั้งก้วยออกไปจากที่นี่ได้อย่างแน่นอน
“ไม่อาจทราบได้เลยว่าผู้ใดกันที่สร้างสิ่งมีชีวิตที่ทรงพลังเช่นเจ้าตัวน้อยนั่นขึ้นมาได้ หากเอาตัวมันกลับไปได้ มันจะกลายเป็นกองกำลังที่ทรงพลังมากทีเดียว”
ฉินอวี้โม่กล่าวพลางถอนหายใจ การประจันหน้าที่ผ่านมาพิสูจน์ให้เห็นชัดเจนมากขึ้นเรื่อย ๆ แล้วว่าสุนัขผลึกน้ำแข็งตัวนี้เป็นสิ่งมีชีวิตที่ใครบางคนทิ้งไว้ที่นี่ และมิใช่สิ่งที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ
มิอาจทราบได้ว่าร่างของสุนัขผลึกน้ำแข็งถูกสร้างขึ้นมาอย่างไร ฉินอวี้โม่และซิวไม่สามารถสร้างความเสียหายหรือทำให้มันบาดเจ็บได้เลย ต่อให้ใช้เพลิงแห่งชีวิตของซิวที่ได้ชื่อว่าสามารถแผดเผาทุกสรรพสิ่งก็ตาม
ซิวเองก็ถึงกับส่ายศีรษะอย่างจนปัญหา ในความทรงจำของมันไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตประหลาดตัวนี้แม้แต่น้อย อีกทั้งบรรพบุรุษของมันก็ไม่เคยเหยียบย่ำเข้ามาในอาณาเขตของทุ่งน้ำแข็งทางเหนือ มันจึงไม่มีข้อมูลที่เป็นประโยชน์ใด
“ฉินอวี้โม่ สุนัขผลึกน้ำแข็งตัวนี้คงจะถูกสร้างขึ้นมาจากผลึกศักดิ์สิทธิ์ของยอดฝีมือผู้ยิ่งใหญ่และมีเศษเสี้ยวจิตวิญญาณของยอดฝีมือผู้นั้นอยู่ในจิตของมัน ผลึกศักดิ์สิทธิ์คือสิ่งที่เรียกได้ว่าวิเศษวิโสที่สุดในโลกหล้าซึ่งทั้งหายากและแข็งแกร่งทนทานมาก แม้ด้วยพลังของเจ้า มันก็ยังถือว่าขาดแคลนไปอีกมาก”
จู่ ๆ เสวียนปิงก็กล่าวขึ้นและเตือนฉินอวี้โม่
นี่คือหนึ่งในสิ่งที่เขามั่นใจหลังจากการศึกษามานานหลายปีและนั่นคือสุนัขผลึกน้ำแข็งคงจะถูกสร้างขึ้นมาจากผลึกศักดิ์สิทธิ์ เพราะเหตุนั้นมันจึงมีการป้องกันที่แกร่งกล้าจนแทบจะเรียกได้ว่าไร้เทียมทาน
‘ผลึกศักดิ์สิทธิ์’ ฉินอวี้โม่เองก็เคยอ่านพบมันในตำราเก่าแก่โบราณ ผลึกศักดิ์สิทธิ์เป็นสิ่งที่เปี่ยมไปด้วยพลังลึกลับและวิเศษ นอกเหนือจากการป้องกันที่น่าทึ่ง มันก็ยังแอบแฝงไปด้วยพลังมายาที่ไม่รู้จบ หากใช้ผลึกศักดิ์สิทธิ์ในการสร้างชุดเกราะ มันจะเทียบเท่าได้กับการมีอุปกรณ์ช่วยชีวิตเพิ่มอีกชิ้นหนึ่ง ต่อให้ต้องประจันหน้ากับยอดฝีมือผู้แกร่งกล้า ผู้ที่สวมเกราะนั้นก็สามารถต้านทานการโจมตีได้หลายกระบวนท่า
การที่สุนัขผลึกน้ำแข็งมีเศษเสี้ยวจิตวิญญาณของเจ้าของเดิมก็เป็นสิ่งที่ฉินอวี้โม่คาดเดาไว้แล้ว นางจึงพยายามใช้พลังวิญญาณเพื่อตรวจสอบดูว่าจะสามารถขจัดเศษเสี้ยวจิตวิญญาณนั้นออกไปและสยบสุนัขผลึกน้ำแข็งมาเป็นของตนได้หรือไม่
น่าเสียดายที่แม้หลังจากพยายามอย่างจริงจัง นางพบว่ามีผนึกลึกลับอยู่ในจิตวิญญาณของสุนัขผนึกน้ำแข็ง แม้ด้วยพลังในปัจจุบัน นางก็ไม่สามารถทำลายมันหรือลบล้างสิ่งที่สลักอยู่ในจิตวิญญาณของมันได้เลย
ฉินอวี้โม่สัมผัสได้อย่างเลือนรางว่าพลังในจิตวิญญาณของสุนัขผลึกน้ำแข็งแตกต่างจากพลังที่เผชิญหน้าเมื่อครู่นี้มาก มันเป็นพลังที่แปลกประหลาดและลึกลับกว่ามากซึ่งเหนือชั้นจนสิ่งที่พวกนางบ่มเพาะฝึกฝนในปัจจุบันเทียบไม่ติด
“บางทีท่านควรจะใช้พลังที่ถูกปิดผนึกอยู่ในร่างกายของท่าน ข้าคิดว่ามันคล้ายกับพลังในจิตวิญญาณของสุนัขผลึกน้ำแข็งนั่น”
หลังจากนิ่งเงียบไปนาน จู่ ๆ ซิวก็กล่าวขึ้นอีกครั้งโดยระบุถึงพลังลึกลับในร่างกายของฉินอวี้โม่
พลังดังกล่าวลึกลับและแกร่งกล้าอย่างที่สุด เมื่อนางเผชิญกับวิกฤตก่อนหน้านี้ พลังนั้นก็แสดงอิทธิฤทธิ์ที่ทรงพลังเกือบทุกคราและฉินอวี้โม่เองก็ควรจะสัมผัสได้เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ตัวนางในปัจจุบันยังไม่สามารถควบคุมพลังที่แกร่งกล้านั้นได้ ทว่าหากต้องการเพียงทำให้มันแสดงตัวออกมา นางก็พอมีวิธีที่จะทำได้สำเร็จ
“คงจะเหลือเพียงวิธีนั้น”
ฉินอวี้โม่ก็ยังไม่สามารถคิดหาวิธีอื่นที่ดีกว่านี้ได้เช่นกัน ในเวลานี้ หนทางเดียวที่พอจะเป็นไปได้คือการสยบสุนัขผลึกน้ำแข็งโดยการใช้พลังลึกลับที่ซ่อนเร้นอยู่ในร่างของนาง
“ตราบใดที่เผชิญวิกฤต พลังนั้นจะปรากฏออกมาแน่ อีกประเดี๋ยวข้าจะบุกเข้าไปและพยายามชิงหล่อฮั้งก้วยมาโดยตรง เมื่อพลังของสุนัขผลึกน้ำแข็งโจมตีตรงมาที่ข้า พลังลึกลับในร่างของข้าก็คงจะออกมาต่อต้าน เมื่อถึงตอนนั้น อยากรู้นักว่าสุนัขผลึกน้ำแข็งจะทำอย่างไร”
เมื่อคิดได้เช่นนั้น นางก็ไม่รอช้าและตรงเข้าไปหาหล่อฮั้งก้วยทันที
แม้ต้องต้านทานแรงโจมตีของสุนัขผลึกน้ำแข็ง ด้วยสภาวะร่างกายของฉินอวี้โม่ นางย่อมไม่บาดเจ็บจนเกินไป ต่อให้พลังลึกลับในร่างไม่ปรากฏออกมา นางก็จะไม่ตกอยู่ในอันตรายที่ถึงแก่ชีวิต
ครานี้ซิวและมารยาไม่ตามฉินอวี้โม่เข้าไป ทว่ายืนอยู่ในระยะไกลและรอสังเกตปฏิกิริยาของสุนัขผลึกน้ำแข็ง
เมื่อฉินอวี้โม่เข้าไปใกล้หล่อฮั้งก้วยมากขึ้นเรื่อย ๆ สุนัขผลึกน้ำแข็งก็วิ่งออกมาจากในถ้ำอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม ครานี้ฉินอวี้โม่ไม่คิดที่จะหยุดยั้งและมุ่งหน้าตรงเข้าหาหล่อฮั้งก้วยต่อไป
สุนัขผลึกน้ำแข็งเห่าเสียงดังสองครา ทว่าเมื่อเห็นว่าฉินอวี้โม่ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลง มันก็อ้าปากและพ่นลมหายใจน้ำแข็งออกมา
พลังธาตุน้ำแข็งที่เย็นยะเยือกกระทบร่างฉินอวี้โม่และแช่แข็งนางจนแทบไม่ต่างไปจากรูปปั้นน้ำแข็ง
พลังเยือกเย็นยังคงกัดกร่อนไปทั่วร่างของฉินอวี้โม่และนางสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่าหากพลังนี้ยังลุกลามไปในร่างกายต่อไป อีกไม่นานพลังชีวิตของนางก็จะดับสูญไป
อย่างไรก็ตาม นางเพียงจดจ่อพลังไปที่จุดตันเถียนเพื่อปกป้องจุดชีพจรสำคัญไว้และไม่คิดที่จะต้านทานมัน
ทั้งซิวและมารยาเริ่มหวาดหวั่นจนอยู่ไม่ติดและกังวลว่าพลังลึกลับจะไม่ปรากฏขึ้นมา
ในอีกมุมหนึ่งซึ่งไม่ไกลออกไป แม้เสวียนปิงจะไม่เข้าใจสิ่งที่ฉินอวี้โม่พยายามทำ เขาก็ไม่คิดที่จะเข้าไปแทรกแซงเช่นเดิมและยังคงมองดูสถานการณ์อย่างเงียบ ๆ ต่อไป
เมื่อเวลาผ่านไป พลังน้ำแข็งก็แทรกซึมเข้าไปใกล้จุดตันเถียนของฉินอวี้โม่แล้ว ทว่าพลังลึกลับในร่างของนางก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะแสดงตัวออกมา
มารยาและซิวกังวลมากขึ้นเรื่อย ๆ จนถึงขั้นที่ซิวส่งกระแสจิตหาฉินอวี้โม่เพื่อยืนยันว่าพร้อมจะเข้าไปช่วยเหลือได้ทุกเมื่อ
เวลานี้ ในที่สุดพลังนั้นก็ปรากฏตัว
ภายในชั่วพริบตา พลังงานเยือกเย็นทั่วร่างของฉินอวี้โม่ก็ถูกพลังลึกลับนั้นขจัดปัดเป่าออกไปทั้งหมดและทำให้ร่างกายของนางกลับคืนสู่สภาวะปกติทันที