คุณหนูสี่ สตรีเปื้อนเลือด - ตอนที่ 1248 เหตุการณ์ในหอชั้นนอก
ภายในคฤหาสน์เฟิงหัว หลังจากได้ฟังเรื่องราวชีวิตของฉินอวี้โม่ เถาเซี่ยวเซี่ยวและทุกคนก็นิ่งเงียบไปเล็กน้อย
แม้เคยคาดเดาไว้แล้วว่าฉินอวี้โม่ผู้นี้คงจะมีเบื้องหลังชีวิตที่ซับซ้อน พวกนางก็คิดไม่ถึงเลยว่าจะเกิดเรื่องราวกับนางมากมายเช่นนี้
ทั้งบิดามารดาที่พลัดพรากหายตัวไป อีกทั้งยังต้องแยกจากสามีและบุตรทั้งสองโดยไม่สามารถคาดเดาได้เลยว่าจะพบกันเมื่อใด ชีวิตของนางช่างน่าเศร้าอย่างแท้จริง
“คนที่จับตัวมารดาของพี่อวี้โม่ช่างมีจิตใจที่ต่ำช้าจริง ๆ หากข้าทราบว่าคนพวกนั้นเป็นใคร ข้าจะฆ่าล้างพวกเขาไม่ให้เหลือแม้แต่คนเดียว !”
เถาเซี่ยวเซี่ยวกล่าวด้วยน้ำเสียงที่โกรธแค้นและจับมือฉินอวี้โม่ไว้แน่นเพื่อปลอบประโลมนาง
เพียงนึกถึงผู้ที่เป็นสาเหตุทำให้ครอบครัวของฉินอวี้โม่ต้องพลัดพรากจากกันและทำให้ครอบครัวของนางต้องตกระกำลำบาก เด็กสาวก็มิอาจใจเย็นได้อีกต่อไป คนเหล่านั้นล้ำเส้นเกินไปจริง ๆ
“ข้าอยากจะพบกับหานโม่ฉือ เสี่ยวอ้ายฉือและเสี่ยวอ้ายโม่จริง ๆ”
เถียนซินและสวีเยว่ก็รู้สึกประทับใจในความรักระหว่างฉินอวี้โม่และหานโม่ฉือซึ่งไม่เคยทอดทิ้งกันไม่ว่าจะเผชิญกับอุปสรรคใด ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองเป็นสิ่งที่อยู่เหนือกว่าที่พวกนางจะจินตนาการได้ หากได้พบกับบุรุษเช่นนั้น ชีวิตนี้ที่เกิดมาก็คงจะคุ้มค่าแล้ว
ยิ่งไปกว่านั้น เด็กน้อยที่ชาญฉลาดและมีไหวพริบทั้งสองก็ทำให้พวกนางรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา หากมีบุตรที่น่ารักน่าชังเช่นนั้น ชีวิตของพวกนางก็คงจะมีสีสันไม่น้อย
“ศิษย์น้องอวี้โม่ วางใจได้เลย ครอบครัวของเจ้าจะได้อยู่กันอย่างพร้อมหน้าในไม่ช้า หากต้องการความช่วยเหลือใดในอนาคต บอกพวกเราได้ทุกเมื่อ แม้พลังของเราจะยังอ่อนแออยู่สักหน่อย เราก็สามารถช่วยเจ้าได้ สักวันคนพวกนั้นจะต้องชดใช้ในสิ่งที่ทำลงไป !”
เสิ่นเสี่ยวไห่กล่าวแสดงจุดยืนอย่างหนักแน่น
คนอื่น ๆ ก็แสดงจุดยืนของตนเช่นกันและบ่งบอกว่าจะคอยอยู่เคียงข้างฉินอวี้โม่ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม พวกเขาจะชิงชังในสิ่งเดียวกันและต่อสู้กับศัตรูเคียงข้างฉินอวี้โม่ ในตอนนี้กล่าวได้ว่าทุกคนสนิทสนมและแน่นแฟ้นกันยิ่งกว่าเดิม
“ถ้าเช่นนั้นข้าก็ต้องขอบคุณทุกคนเป็นการล่วงหน้า”
ฉินอวี้โม่ประกบกำปั้นไปทางทุกคนและไม่คิดปิดบังสิ่งใดจากพวกเขา เพราะถึงอย่างไร คนเหล่านี้ก็คือมิตรที่ดีและเป็นสหายร่วมทางกลุ่มแรกของนางนับตั้งแต่ที่เดินทางมายังโลกแห่งเทพ
“พี่อวี้โม่ ข้าจะหาทางช่วยสืบข่าวดูว่าจะตามหาเสี่ยวอ้ายฉือและเสี่ยวอ้ายโม่ได้รึไม่ รวมถึงท่านลุง พี่ใหญ่และสหายคนอื่น ๆ ของท่านด้วยเจ้าค่ะ ท่านไม่ต้องกังวลเลย ข้าเชื่อว่าพวกเขาล้วนมีพรสวรรค์และสามารถเอาตัวรอดเองได้ ต่อให้เผชิญเรื่องใด พวกเขาก็จะพลิกเรื่องร้ายให้กลายเป็นดีได้แน่และจะไม่ตกอยู่ในอันตรายใด”
เถาเซี่ยวเซี่ยวไตร่ตรองครู่หนึ่งและกล่าวออกไป
“พวกเราก็เช่นกัน”
เถียนซินและคนอื่น ๆ ก็เห็นพ้องกับวาจาของเถาเซี่ยวเซี่ยวเช่นกัน หลังจากนี้พวกนางจะพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อช่วยสืบข่าวให้กับฉินอวี้โม่
“ขอบคุณทุกคนมากจริง ๆ”
ฉินอวี้โม่กล่าวขอบคุณทุกคนอย่างจริงใจอีกคราในขณะที่นึกสงสัยเกี่ยวกับตัวตนของเถาเซี่ยวเซี่ยวมากยิ่งขึ้น การที่เด็กสาวช่างจ้อกล่าวออกมาเช่นนี้ทำให้คาดเดาได้ไม่ยากว่าตัวตนที่แท้จริงของนางจะต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน
“ฮี่ ๆ ๆ ข้ารู้ว่าทุกคนสงสัยในสถานะของข้าใช่รึไม่ ? ไม่ต้องห่วง หลังจากผ่านการประเมินเลื่อนชั้นเป็นศิษย์ใน ทุกคนจะได้รู้เอง แต่ข้าขอบอกไว้ก่อนเลยว่ามันจะทำให้ทุกคนตกใจอย่างแน่นอน !”
เถาเซี่ยวเซี่ยวมองเห็นสายตาที่สงสัยใคร่รู้ของทุกคนและจงใจราดน้ำมันลงกองไฟเพื่อทำให้พวกนางสงสัยกันมากยิ่งขึ้น
“ถ้าเช่นนั้นเราจะรอดู”
ทุกคนกล่าวอย่างพร้อมเพรียงกันและบางคนก็พอจะคาดเดาตัวตนของเถาเซี่ยวเซี่ยวได้แล้ว เพียงแต่ยังไม่มั่นใจนัก
จากนั้นทุกคนก็อยู่ในคฤหาสน์เฟิงหัวและพูดคุยหัวเราะกันอย่างมีความสุขระหว่างเดินทางกลับนิกายหมื่นกระบี่ ทว่าในเวลาเดียวกัน ตอนนี้ภายในนิกายหมื่นกระบี่ก็กำลังเกิดเรื่องราววุ่นวายบางอย่าง
ณ หอชั้นนอกของนิกายหมื่นกระบี่ เฉินหว่านเอ๋อร์กลับมาถึงตั้งแต่เมื่อหลายวันก่อน
แน่นอนว่าเมื่อกลับมาถึง นางก็เข้าไปพบกับผู้อาวุโสและผู้ดูแลคนอื่น ๆ ของหอชั้นนอกโดยตรง
“ท่านผู้อาวุโส ท่าไม่ดีแล้วเจ้าค่ะ เกิดเรื่องกับศิษย์พี่เสิ่นเสี่ยวไห่และคนอื่น ๆ”
ท่าทางของเฉินหว่านเอ๋อร์ดูอ่อนแอเล็กน้อยและมีอาการบาดเจ็บปรากฏอยู่ทั่วร่างกายจนดูน่าเห็นใจ เมื่อได้พบกับผู้อาวุโสและคนอื่น ๆ นางก็คุกเข่าลงทันทีและเสแสร้งแสดงท่าทีเสียใจก่อนร่ำไห้สะอึกสะอื้น
“เกิดอะไรขึ้น ?”
เมื่อบรรดาผู้อาวุโสเห็นท่าทางของเฉินหว่านเอ๋อร์ สีหน้าของพวกเขาก็เปลี่ยนไปอย่างมากและเอ่ยถามอย่างเป็นกังวล
“ในหมู่บ้านกล้วยไม้เมฆามียอดฝีมือที่ทรงพลังมาก ศิษย์พี่เสิ่นและคนอื่น ๆ คงจะตายอยู่ที่นั่นแล้ว แม้แต่ข้าก็ยังต้องพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อหลบหนีเอาตัวรอดออกมา”
เฉินหว่านเอ๋อร์รายงานเรื่องที่เกิดขึ้นออกไปโดยตรง แม้นางจะไม่ทราบถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในหมู่บ้านกล้วยไม้เมฆา อย่างไรก็ตาม ในเมื่อมีคู่อสูรวายุทมิฬที่ถูกส่งไปสังหาร และยังมีคนของประตูเร้นลับที่ดักรออยู่นอกหมู่บ้าน ต่อให้ฉินอวี้โม่และคนอื่น ๆ จะมีฝีมือมากเพียงใด เชื่อว่าพวกนางก็ไม่มีทางรอดชีวิตกลับมาได้อย่างแน่นอน
เพราะเหตุนั้น เฉินหว่านเอ๋อร์จึงเสแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่องรู้ราวได้และจะไม่มีผู้ใดที่สามารถโต้แย้งวาจาของนาง
สิ่งที่สำคัญคือนางสามารถฉวยโอกาสนี้เพื่อหลอกลวงผู้อาวุโสของหอชั้นนอกและเข้าร่วมกับหอชั้นในได้โดยตรง ซึ่งหลังจากนี้ก็ไม่มีความจำเป็นที่นางจะต้องเข้าร่วมการประเมินอีกต่อไป
ยิ่งไปกว่านั้น ต่อให้ต้องเข้าร่วมการประเมินอีกครั้ง มันก็มิใช่เรื่องใหญ่สำหรับเฉินหว่านเอ๋อร์ เสิ่นเสี่ยวไห่และหลายคนที่ถูกส่งไปทำภารกิจที่หมู่บ้านกล้วยไม้เมฆาถือเป็นคู่แข่งคนสำคัญของนาง ในเมื่อพวกเขาตายในหมู่บ้านนั้นไปแล้วก็ถือว่าเฉินหว่านเอ๋อร์ตัดคู่แข่งไปได้มาก
“ไม่มีใครเหลือรอดเลยอย่างนั้นหรือ ?”
บรรดาผู้อาวุโสของหอชั้นนอกไม่คาดคิดว่าเรื่องราวประหลาดในหมู่บ้านกล้วยไม้เมฆาจะร้ายแรงถึงเพียงนี้และสีหน้าของพวกเขาก็เริ่มแสดงความตึงเครียดมากขึ้นเรื่อย ๆ อย่างไรก็ตาม บางคนยังคงคลางแคลงใจในวาจาของเฉินหว่านเอ๋อร์และต้องการทราบถึงสถานการณ์อย่างละเอียด
“ข้าเองก็ไม่แน่ใจเจ้าค่ะ ตอนนั้นเกิดเรื่องประหลาดมากมายในหมู่บ้านและข้าหมดสติไป เมื่อฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง ข้าก็อยู่นอกหมู่บ้านแล้ว หมู่บ้านกล้วยไม้เมฆาถูกปกคลุมไปด้วยหมอกหนาทึบและข้าเข้าไปไม่ได้อีก ยอดฝีมือที่ปรากฏตัวขึ้นมาในหมู่บ้านนั้นก็ทรงพลังกว่าท่านผู้อาวุโสเสียอีก คาดว่าศิษย์พี่เสิ่นและคนอื่น ๆ คงจะเผชิญกับเคราะห์ร้ายมากกว่าเคราะห์ดี”
เฉินหว่านเอ๋อร์จงใจยั้งปากและกล่าวออกไปโดยไม่แสดงถึงความมั่นใจมากนัก แม้นางจะมั่นใจว่าเสิ่นเสี่ยวไห่และคนเหล่านั้นจะไม่มีวันรอดชีวิตกลับมาได้ ทว่าหากกล่าวออกไปเช่นนั้น มันก็จะทำให้ผู้อาวุโสหลายคนนึกสงสัยในตัวนาง ทว่าด้วยวาจาที่คลุมเครือและไม่มั่นใจเช่นนี้ เฉินหว่านเอ๋อร์เชื่อว่าบรรดาผู้อาวุโสจะไม่นึกสงสัยในตัวนางอีกต่อไป
“เข้าใจแล้ว เจ้ากลับไปพักก่อนเถอะ”
เหล่าผู้อาวุโสมองหน้ากันและไม่เอ่ยถามสิ่งใดมากนัก สำหรับสถานการณ์ที่เฉพาะเจาะจง พวกเขาจะต้องเดินทางไปที่นั่นเพื่อสืบสวนด้วยตนเอง
อย่างไรก็ตาม ผู้อาวุโสบางคนหลงเชื่อวาจาของเฉินหว่านเอ๋อร์แล้ว ถึงอย่างไร ในสายตาของศิษย์นอกและผู้อาวุโสหลายคน เฉินหว่านเอ๋อร์ก็เป็นคนดีมาเสมอและไม่มีทางแต่งเรื่องขึ้นมาโกหกพวกเขาอย่างแน่นอน
แต่ทว่า ยังมีหลายคนเช่นกันที่ไม่ปักใจเชื่อวาจาของนาง
มันจะบังเอิญถึงขั้นที่เฉินหว่านเอ๋อร์เป็นเพียงคนเดียวที่รอดชีวิตกลับมาหลังจากที่ทุกคนถูกฆ่าตายได้อย่างไรกัน ? เหตุใดยอดฝีมือผู้นั้นจึงต้องการสังหารเสิ่นเสี่ยวไห่และทุกคน ทว่ากลับปล่อยเฉินหว่านเอ๋อร์ให้รอดกลับมาได้ ? ด้วยประเด็นที่น่าสงสัยเหล่านี้ พวกเขาก็คิดหาคำตอบกันไม่ได้แม้แต่น้อย
พวกเขาจะทราบถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในหมู่บ้านกล้วยไม้เมฆาได้อย่างชัดเจนก็ต่อเมื่อเดินทางไปที่นั่น และตอนนี้พวกเขาทำได้เพียงเก็บงำความสงสัยที่มีต่อเฉินหว่านเอ๋อร์ไว้ในใจ
“เราจะทำอย่างไรกันดี ?”
ผู้อาวุโสและผู้ดูแลของหอชั้นนอกหลายคนรวมตัวกันเพื่อหารือถึงแผนการที่จะต้องทำต่อไป หากสิ่งที่เฉินหว่านเอ๋อร์กล่าวมาเป็นความจริง ไม่ว่าจะส่งผู้ใดไปที่หมู่บ้านกล้วยไม้เมฆา คนผู้นั้นก็อาจเผชิญกับภยันตราย
“ข้าจำได้ว่าเถาเซี่ยวเซี่ยวก็ออกไปทำภารกิจนี้เช่นกัน”
หนึ่งในนั้นกล่าวขึ้น ทว่าทำให้สีหน้าของผู้อาวุโสหลายคนเปลี่ยนแปลงไปทันที
“อยู่ดูแลความเรียบร้อยที่นี่สักคนและเราที่เหลือจะออกไปตรวจสอบความจริงด้วยกัน”
ผู้อาวุโสของหอชั้นนอกตัดสินใจในทันที เรื่องราวที่ใหญ่โตเช่นนี้เป็นเรื่องที่พวกเขาจะต้องออกไปสำรวจด้วยตัวเองเท่านั้น