คุณหนูสี่ สตรีเปื้อนเลือด - ตอนที่ 185 พบกันอีกครา
ณ พื้นที่เปิดโล่งแห่งหนึ่งในดินแดนต้องห้าม อสูรสวรรค์ขนาดใหญ่สองตัวกำลังยืนประจันหน้า จ้องตากันอย่างไม่ลดละ พวกมันจับจองพื้นที่โล่งกว้างอยู่คนละฟากฝั่งขณะที่กำลังยืนหยั่งเชิงดูท่าทีของอีกฝ่าย
ชัดเจนว่าที่นี่คือสังเวียนของอสูรทั้งสอง ดูเหมือนว่าพวกมันจะเพิ่งเปิดฉากปะทะกันไปเมื่อสักครู่
ร่างใหญ่โตของพวกมันสะบักสะบอมไม่น้อยแต่ทั้งสองฝ่ายก็ยังคงสาดสายตาห้ำหั่นเข้าใส่กัน ในขณะนี้ ไม่ว่าฝ่ายใดก็ไม่มีท่าทียอมจำนนให้เห็น แน่นอนว่าการต่อสู้นี้ยังไม่รู้ผลแน่ชัด และนั่นเป็นเหตุให้บรรยากาศโดยรอบทั้งคุกรุ่นและอึมครึมอย่างน่าประหลาด
แต่เดิมพื้นที่ส่วนนี้ไม่ได้เป็นที่ราบกว้างดังเช่นที่เห็น ทว่าด้วยพลังทำลายล้างอันรุนแรงจากการต่อสู้ของสองยักษ์ใหญ่เป็นผลให้เกิดสภาพแวดล้อมเช่นนี้ขึ้น ต้นไม้ทุกต้นในบริเวณนี้ถูกโค่นล้ม เศษซากก้อนหินและก้อนดินมหาศาลกระจัดกระจายไปทั่วบริเวณ ฝุ่นดินสีส้มแดงฟุ้งกระจายอยู่ในอากาศ
อสูรมายาที่กำลังเผชิญหน้ากันอยู่นั้น ตนหนึ่งมีสีแดงฉานราวกับเปลวเพลิง รูปลักษณ์งดงามคล้ายเฟิ่งหวง* เปลวไฟอันร้อนแรงปะทุออกมาจากร่างกายแทบทุกส่วนของมันอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามแม้ว่าจะคล้ายแต่มันกลับไม่ใช่เฟิ่งหวง อสูรตนนี้เป็นที่รู้จักกันดีในหมู่อสูรมายา มันคือจูเชวี่ย**(หงส์แดง) หนึ่งในสัตว์เทพประจำทิศทั้งสี่***
(*เฟิ่งหวง (凤凰) หมายถึงหงส์ซึ่งเป็นหนึ่งในสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ของจีน หรือที่ภาษาอังกฤษเรียกว่านกฟีนิกซ์
**จูเชวี่ย (朱雀) คือหนึ่งในสัตว์เทพทั้งสี่ที่ปกครองทิศทั้งสี่บนสวรรค์ และยังเป็นตัวแทนของธาตุตามตำราจีนอีกด้วย
***สัตว์เทพประจำทิศทั้งสี่ได้แก่
– ชิงหลง(青龍) หรือมังกรฟ้า เทพอสูรแห่งทิศตะวันออก ตัวแทนแห่งธาตุไม้
– จูเชวี่ย(朱雀) หรือหงส์แดง เทพอสูรแห่งทิศใต้ ตัวแทนแห่งธาตุไฟ
– ไป๋หู่ (白虎) หรือพยัคฆ์ขาว เทพอสูรแห่งทิศตะวันตก ตัวแทนแห่งธาตุทอง
– เสวียนอู่ (玄武) หรือเต่าดำ เทพอสูรแห่งทิศเหนือ ตัวแทนแห่งธาตุน้ำ)
ส่วนคู่ต่อสู้ของมันเป็นอสูรที่ฉินอวี้โม่คุ้นหน้าเป็นอย่างมาก
ร่างกายมโหฬารของมันห่อหุ้มไปด้วยน้ำแข็งวาววับ ไอเย็นแผ่ซ่านออกมาจากร่างนั้นตลอดเวลา ที่สำคัญมันมีรูปลักษณ์สง่างามทว่าน่าเกรงขามตามแบบฉบับของ ‘มังกร’
ฉินอวี้โม่จดจำได้ดี หนึ่งเดือนก่อนหน้านี้นางเพิ่งเผชิญหน้ากับมันในศึกประชันยุทธ์ อสูรจอมเขมือบผู้สร้างความปวดหัวให้กับเหล่านักเรียนแห่งโรงเรียนราชสำนักในครานั้น–มังกรเหมันต์ จอมวายร้ายแห่งป่าเหมันต์
“หึ เจ้าหงส์แดงตัวน้อย อย่านึกนะว่าแค่เป็นหนึ่งในสี่ ‘สัตว์อสูรในตำนาน’ แล้ว มังกรผู้ยิ่งใหญ่อย่างข้าจะต้องกลัวเจ้า”
มังกรเหมันต์ยังคงหยิ่งผยองไม่แปรเปลี่ยน แต่นั่นก็เพราะ ‘ตัวมันเป็นมังกร’ โดยทั่วไปแล้ว อสูรเผ่ามังกรมักคิดว่าเผ่าพันธุ์ของตัวเองสูงส่งและยิ่งใหญ่เหนืออสูรสายพันธุ์อื่น ๆ
“มังกรเหมันต์ เจ้าไม่ใช่อสูรในดินแดนนี้ เหตุใดต้องเข้ามาที่นี่แล้วบุกรุกอาณาเขตของข้าด้วย ?”
หงส์แดงเอื้อนวาจาด้วยเสียงเล็กแหลม เสียงของมันไพเราะน่าฟังไม่น้อย และมันเป็นเสียงของสตรีเพศเด่นชัด
“เหอะ ! ในโลกใบนี้ความแข็งแกร่งถือเป็นทุกสิ่งทุกอย่าง ผู้ที่แข็งแกร่งกว่าย่อมได้รับความเคารพยำเกรง ไม่ว่าก่อนหน้านี้ข้าจะอยู่ที่ไหนก็ไร้ผล ในเมื่อตอนนี้ข้ามาถึงที่นี่และชื่นชอบผืนป่าแห่งนี้มาก ดังนั้นข้าก็จะอยู่ที่นี่ หากเจ้าไม่อยากเสียเลือดเนื้อก็ออกไปจากพื้นที่ตรงนี้ซะ”
มังกรเหมันต์ตอบโต้เสียงดุดัน วาจาของมันช่างโอหังและเอาแต่ใจยิ่งนัก เจ้ามังกรจองหองไม่คิดจะไว้หน้าอสูรเจ้าถิ่นอย่างอสูรสาวหงส์แดงเลยแม้แต่น้อย
ก่อนหน้านี้มังกรน้ำแข็งตนนี้เคยยึดพื้นที่ใจกลางป่าเหมันต์เป็นถิ่นอาศัย ทว่ากลับถูกยอดฝีมือมนุษย์ตัวจ้อยจากโรงเรียนราชสำนักบุกเข้ามาจนถึงอาณาเขตและเปิดฉากขับไล่จนทำให้มันต้องถอยร่นออกมา
ต้องบอกว่าในเรื่องนี้เจ้ามังกรนั้นไม่ทราบเหตุผลแท้จริง มันเข้าใจผิดคิดว่าคนกลุ่มนั้นคงจะเข้ามาปักหลักอย่างถาวรในแดนหิมะ อดีตมังกรขาใหญ่ในพื้นที่จึงระหกระเหเร่ร่อนย้ายถิ่นฐานออกมาจากป่าเหมันต์บ้านเก่า
แต่ก็คิดไม่ถึงเช่นกันว่ามันจะมาปรากฏตัวในดินแดนต้องห้ามเช่นนี้ได้
มังกรเหมันต์เป็นอสูรที่แข็งแกร่งและทรงพลังอย่างมาก อาจเรียกว่ามันเป็นอสูรผู้ไร้เทียมทานแห่งป่าเหมันต์ก็ว่าได้ ถึงแม้จะถูกนักเรียนหัวกะทิแห่งโรงเรียนราชสำนักระดมพลจำนวนมากรุมโจมตีแต่ก็ยังไม่สามารถเอาชนะมันได้ ซึ่งก็ด้วยความที่คิดว่าตัวเองแข็งแกร่งไร้ผู้ต้านเช่นนี้ อสูรโอหังจึงคิดจะแย่งชิงและยึดเอาเขตแดนของอสูรที่อยู่ในผืนป่าแห่งนี้เป็นที่อาศัย
อย่างไรก็ตาม ความแข็งแกร่งของเจ้าถิ่นในดินแดนต้องห้ามก็มิใช่อ่อนด้อย แต่เมื่อเปรียบเทียบกันทั้งหมดแล้ว หงส์แดงตนนี้ถือว่าแข็งแกร่งน้อยกว่าขาใหญ่ตัวอื่น ๆ หลังจากไตร่ตรองอย่างดี มังกรเหมันต์จึงเลือกมาที่อาณาเขตนี้แล้วเปิดศึกชิงพื้นที่
ทว่ามังกรอหังการก็คิดไม่ถึงเลยว่า นางอสูรตัวจ้อยนั่นจะดื้อด้านถึงเพียงนี้
แม้ว่าความแข็งแกร่งของหงส์แดงจะด้อยกว่ามังกรเหมันต์อยู่บ้าง แต่ในฐานะเจ้าถิ่นมันก็ไม่คิดยอมแพ้โดยง่าย หงส์แดงยืนหยัดต่อสู้อย่างเด็ดเดี่ยวและดื้อรั้น นั่นทำให้ตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงตอนนี้ ศึกระหว่างอสูรทั้งสองกินเวลานานหลายวันแล้ว ทว่าก็ยังไม่สามารถหาตัวผู้ชนะได้ และไม่มีวี่แววว่าฝ่ายใดจะเพลี่ยงพล้ำ
อย่างไรก็ตาม มังกรเหมันต์ก็ยังเชื่อมั่นว่าขอเพียงมีเวลามากพอ มันจะสามารถเอาชนะหงส์แดงตัวนี้ได้อย่างแน่นอน
“หึ ! เจ้ามังกรละโมบ ข้าไม่เคยเห็นอสูรมายาตัวไหนที่หน้าด้านเหมือนเจ้ามาก่อนเลย ไม่เกรงกลัวเผ่าพันธุ์มังกรของเจ้าต้องอับอายบ้างหรือ แม้แต่ข้าที่เป็นอสูรมายาต่างสายพันธุ์ยังรู้สึกขายหน้ายิ่งนัก”
หงส์แดงแสยะยิ้มดูแคลน ในน้ำเสียงหวานแหลมเจือแววเหยียดหยามไม่ปิดบัง
มังกรเหมันต์ตัวนี้กล้ากล่าววาจายโสโอหัง ทว่าที่อีกฝ่ายคุมสถานการณ์ได้ในตอนนี้ก็เป็นเพราะว่ามันบุกเข้ามาในช่วงที่หงส์แดงกำลังเก็บตัว อสูรเจ้าถิ่นจึงเป็นฝ่ายที่ตกเป็นรองดังเช่นที่เป็นอยู่
เป็นที่ทราบกันดีว่าหงส์แดงเป็นอสูรในตำนานที่มีสายเลือดศักดิ์สิทธิ์และสูงส่ง แม้ว่ามันจะมีพลังมายาที่ด้อยกว่าอีกฝ่ายเล็กน้อย แต่ในด้านความสามารถและชั้นเชิงแห่งการต่อสู้มันไม่มีทางเป็นรอง นางอสูรผู้สูงส่งมั่นใจว่ามันสามารถเอาชนะมังกรเหมันต์ได้อย่างแน่นอน หากอยู่ในสถานการณ์ที่ทั้งสองฝ่ายเท่าเทียมกัน
“หงส์แดงน้อย หยุดกล่าววาจาเฉไฉไร้สาระได้แล้ว รีบบอกมาเสียทีว่าเจ้าจะออกไปจากที่นี่หรือไม่ออก ผู้ยิ่งใหญ่อย่างข้าไม่อยากจะทำร้ายสตรีหรอกนะ ข้าแนะนำให้เจ้ายอมแพ้แล้วออกแต่โดยดีจะดีกว่า ข้าผู้นี้มีเมตตา หากเจ้าทำเช่นนั้น ข้าสัญญาเจ้าจะไม่ต้องเจ็บตัวแม้แต่น้อย”
มังกรเหมันต์หยุดวาจาไปครู่หนึ่ง มันหรี่ตาลงพลางเผยรอยยิ้มมากเล่ห์แล้วกล่าว “อันที่จริง ข้ามีข้อเสนอที่ดีกว่าจะยื่นให้เจ้า มันจะดีกว่ามากหากเจ้ายอมมาเป็นผู้หญิงของข้าแล้วครอบครองอาณาเขตนี้ด้วยกัน ไม่เพียงเท่านั้นพวกเราจะเคียงคู่และบุกครอบครองทั้งผืนป่าลึกลับนี้ได้ ถ้าเราร่วมมือกันไม่ว่าจะเป็นอสูรตัวไหนเราก็เอาชนะมันได้ทั้งนั้น ที่ที่แสนกว้างขวางใหญ่โตและน่าอยู่แห่งนี้จะมีเราสองเป็นผู้ยิ่งใหญ่ที่สุด เจ้าคิดเห็นเช่นไร ?”
พรสวรรค์และศักยภาพในการพัฒนาของหงส์แดงนั้นเหนือชั้นกว่ามังกรเหมันต์มาก หากทั้งสองร่วมมือและฝึกฝนร่วมกันก็จะช่วยเพิ่มศักยภาพของกันและกันได้อีกมหาศาล
…เมื่อถึงตอนนั้น คู่ของพวกมันก็จะร่วมมือกันเข้ารุกรานอาณาเขตของอสูรมายาตัวอื่น ๆ และยึดครองพงไพรอันกว้างใหญ่ทั้งหมด หลังจากนั้นหากสามารถออกลูกออกหลานขยายพันธุ์ได้ พวกมันก็อาจจะสร้างอาณาจักรที่มั่นคงของตัวเองได้ในอนาคต…
ภาพฝันอันแสนหวานช่างงดงามยิ่งนัก เพียงแค่นึกคิดความสุขก็ล้นทะลักเสียจนเจ้ามังกรเหมันต์กลั้นหัวเราะไว้ไม่อยู่
“ฮ่า ๆ ๆ ๆ” มังกรน้ำแข็งที่ถือตนว่ายิ่งใหญ่ยิ้มพลางหัวเราะพลางกับตัวเองคล้ายอสูรเสียสติ
เมื่อได้ยินข้อเสนอนั้นและยิ่งได้เห็นท่าทางของมังกรเหมันต์ หงส์แดงก็รู้สึกสมเพชเจ้ามังกรตัวนี้มาก อสูรสาวทรงสง่าเชิดหน้าขึ้นพลางจ้องมองอีกฝ่ายด้วยสายตาขุ่นเคือง
“มังกรเหมันต์ ไปส่องกระจกดูตัวเองเสียบ้างนะ ในหมู่เผ่าพันธุ์มังกร สายพันธุ์เหมันต์ของเจ้าก็อยู่ในระดับล่าง ๆ ต้องการให้หงส์แดงอย่างข้าไปเป็นสตรีของเจ้าอย่างนั้นหรือ หึ ฝันไปอีกร้อยชาติก็ไม่มีทางเป็นจริง ข้าขอแนะนำให้เจ้าไสหัวกลับไปทางที่เจ้ามา ถ้าเป็นไปได้ก็หาที่เหมาะ ๆ นอนซะ ถึงตอนนั้นอยากฝันอะไรก็เชิญตามสบายแต่อย่ามาทำให้ตัวเองอับอายที่นี่ ผู้ที่ถูกเรียกว่าอสูรเช่นเดียวกันจะได้ไม่ต้องเสื่อมเสียเกียรติเพราะอสูรอย่างเจ้าอีก”
ทั้งวาจาและน้ำเสียงของหงส์แสดงถึงความหยิ่งทะนงไม่ปกปิด อสูรสาวมีเจตนาด่าทอมังกรหน้าด้านตรงหน้าชัดเจน มันคืออสูรในตำนาน แม้ว่าในตอนนี้จะยังมีระดับไม่สูงมากและยังเติบโตไม่สมบูรณ์ ทว่าถ้าจะให้ไปเป็นสตรีข้างกายหรือให้ผสมพันธุ์กับมังกรเหมันต์ที่เห็นชัด ๆ ว่ามีความคิดชั่วร้ายเช่นนี้ มิสู้มันตายไปเสียตอนนี้ยังจะดีกว่า
“เหอะ หงส์แดง ข้าชักจะหมดความอดทนแล้วนะ !”
เมื่อได้ยินคำด่าทอของหงส์แดง ความฝันอันแสนหวานของมังกรคิดการณ์ไกลก็พลันสลายไปในทันที สีหน้าอสูรผู้ถูกสตรีหยามเปลี่ยนเป็นบูดบึ้ง มังกรเหมันต์กล่าวขึ้นมาอย่างเย็นชา
“มังกรเหมันต์ ถ้าจะสู้ก็รีบลงมือ อย่ามัวแต่กล่าววาจาเหลวไหล คิดว่าข้าผู้นี้หวาดกลัวบารมีของเจ้าหรือ ?”
หงส์แดงเองก็หมดความอดทนแล้วเช่นกัน ทันทีที่เอ่ยจบมันก็ปลดปล่อยลูกเพลิงพุ่งเข้าใส่มังกรเหมันต์ไม่รอช้า
“จุ๊ ๆ ๆ น้องหงส์แดง ไม่คิดเลยว่าเจ้าจะอารมณ์รุนแรงขนาดนี้ ช่างถูกใจข้าจริง ๆ ”
จริงอยู่ที่วาจาเผ็ดร้อนนั้นน่าโมโหยิ่งนัก แต่ยิ่งได้มองและได้เห็นท่วงท่าลีลาของอสูรสาว เจ้ามังกรช่างฝันก็ยิ่งถูกใจ มังกรเหมันต์ยิ้มโดยไม่โกรธแม้แต่น้อยพร้อมกันนั้นก็ปลดปล่อยพลังไอเย็นออกไปปะทะเข้ากับลูกเพลิงของฝ่ายตรงข้าม
หงส์แดงไม่กล่าววาจาไร้สาระโต้ตอบอสูรน่ารำคาญอีก มันปลดปล่อยการโจมตีต่อไปเพื่อเล่นงานคู่ต่อสู้
ลูกเพลิงร้อนแรงพุ่งออกมาจากปากลูกแล้วลูกเล่าราวกับกระสุนปืนใหญ่ที่ยิงเข้าใส่ฝ่ายตรงข้ามด้วยความเร็วสูง
มังกรเหมันต์เองก็ไม่กล้าประมาท มันปลดปล่อยก้อนน้ำแข็งที่อัดแน่นไปด้วยพลังไอเย็นเข้าสู้กับลูกเพลิงนั้นอย่างต่อเนื่อง
— ตูม ! ตูม ! ตูม ! —
เสียงระเบิดดังสนั่นเกิดขึ้นแทบไม่เว้นช่วง ทั้งสะเก็ดไฟและเกล็ดน้ำแข็งกระจัดกระจายไปในอากาศไม่หยุดยั้ง พื้นดินสั่นสะเทือนเลื่อนลั่น ต้นไม้ใบหญ้าถูกกระแสลมจากการปะทะซัดเข้าใส่จนขาดสะบั้นปลิดปลิวกระจัดกระจายไม่ต่างจากถูกลมพายุ การต่อสู้อันดุเดือดนี้ทำให้ผู้ที่เฝ้ามองอยู่รู้ราวกับว่าโลกรอบตัวกำลังจะล่มสลาย
“ช่างเป็นพลังที่น่ากลัวอะไรอย่างนี้ !”
ฉินอวี้โม่อุทานเบา ๆ ขณะนี้นางและอสูรในสังกัดทั้งสองกำลังซ่อนตัวอยู่ในมุมมืด ฉากการปะทะกันของอสูรยิ่งใหญ่ตรงหน้าทำให้ทั้งหนึ่งคนและสองตนตกตะลึงจนอดอ้าปากค้างไม่ได้
การต่อสู้ระหว่างมังกรเหมันต์กับหงส์แดงนั้นรุนแรงเหนือจินตนาการ ความน่าสะพรึงที่เกิดขึ้นนั้นสั่นสะเทือนเข้าไปถึงหัวใจดวงน้อยของฉินอวี้โม่จนเริ่มเต้นไม่เป็นจังหวะ
หลังเปิดศึกปะทะกันอีกหนึ่งวันเต็ม สภาพของหงส์แดงก็เริ่มอ่อนล้าลงมาจนสังเกตได้ ดูเหมือนว่าพลังมายาของมันเริ่มเหลือน้อยแล้ว
— ฟุบ —
เมื่อเห็นว่าหงส์แดงเริ่มมีอาการแปลกเปลี่ยน มังกรเหมันต์ก็ปลดปล่อยก้อนน้ำแข็งขนาดใหญ่อัดเข้าใส่มันด้วยความเร็วที่เหนือชั้นยิ่งยวด มังกรผู้รุกรานหมายใจจะปิดฉากการต่อสู้ในครานี้
“แกว๊กกกกกกกก !”
หงส์แดงไม่สามารถหลบการโจมตีนั้นได้ทัน มันถูกก้อนน้ำแข็งของมังกรเหมันต์ซัดเข้าใส่ร่างอย่างจัง อสูรสาวที่มีร่างกายเป็นเปลวเพลิงกรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด
“น้องหงส์แดง สภาพในตอนนี้ของเจ้าไม่มีทางเป็นคู่ต่อสู้ของข้าได้”
มังกรเหมันต์ยิ้มอย่างจองหอง ด้วยสภาพในตอนนี้ของหงส์แดงถือว่าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของมันอย่างแท้จริง
“มังกรเหมันต์ เจ้าคิดว่ามีปัญญาฆ่าข้าได้อย่างนั้นรึ ?”
แม้ว่าหงส์แดงจะได้รับบาดเจ็บ ทว่ามันก็ไม่ยอมก้มศีรษะอันมีเกียรติของตนเองให้ฝ่ายตรงข้าม ทั้งมังกรฟ้า หงส์แดง พยัคฆ์ขาว เต่าดำ อสูรทั้งสี่เปรียบเสมือนเทพเซียนในหมู่มวลอสูรทั้งหลาย ว่ากันว่าอสูรในตำนานเหล่านี้มีชีวิตเป็นอมตะ แม้จะถูกสังหารแต่ก็จะไม่สิ้นชีวิต เพราะพวกมันจะกลับกลายเป็นไข่และหายไปปรากฏตัวยังอีกจุดหนึ่ง ในการต่อสู้ที่จะก่ออันตรายถึงชีวิตแก่อสูรหลายตัวได้นั้น ความสูญเสียที่เหล่าอสูรสูงส่งได้รับจะมีเพียงการสูญเสียพลังในระดับที่เคยมีอยู่แลัวต้องเริ่มต้นฝึกฝนใหม่เท่านั้น
“ฮ่า ๆ ๆ เรื่องนั้นข้ารู้ดี แน่นอนว่าการฆ่าเจ้าเป็นไปไม่ได้ และข้าก็ไม่ได้ต้องการฆ่าเจ้าด้วย”
มังกรเหมันต์ยิ้ม ในฐานะที่เป็นอสูรระดับสูงอีกทั้งยังมีชีวิตอยู่มานับพันปี มังกรอาวุโสย่อมทราบถึงความพิเศษของอสูรในตำนานทั้งสี่เป็นอย่างดียิ่ง
“ข้าแค่อยากจะให้เจ้ายอมมาเป็นสตรีของข้าเท่านั้น ในเมื่อเจ้าไม่ยอมแต่โดยดี ก็จำเป็นต้องใช้ความรุนแรงกันบ้าง อย่ากล่าวโทษข้าเลย ข้าเชื่อว่ามันจะเป็นผลดีกับเราทั้งสอง อย่างไรเรื่องนี้ในท้ายที่สุดเจ้าก็ต้องขอบคุณข้า”
มังกรเหมันต์ยิ้มอย่างชั่วร้ายพลางกล่าววาจาหน้าไม่อายได้อย่างไม่กระดากปาก ฉับพลันนั้นเองมันก็ปลดปล่อยไอเย็นแสนรุนแรงออกมา
“ผนึกเยือกแข็ง !”
ไอเย็นนั้นทรงพลังอย่างยิ่งยวด อานุภาพของมันกระจายออกไปทั่วบริเวณ แม้แต่ฉินอวี้โม่ที่อยู่ไกลออกไปไม่น้อยยังรู้สึกได้ถึงความหนาวเหน็บไร้ปรานี
ในชั่วพริบตา ไอเย็นทั้งหมดก็เข้าโอบล้อมหงส์แดงก่อนจะจับตัวกันเป็นก้อนน้ำแข็ง เสี้ยวลมหายใจถัดมาหงส์แดงสาวก็แข็งค้างกลายเป็นนกแช่แข็งไปเสียแล้ว
“น่าเจ็บใจนัก ! ไม่คิดเลยว่าเจ้ามังกรวายร้ายจะได้รับสุดยอดสมบัติจากปราสาทเหมันต์ !”
มารยาเปล่งเสียงด้วยความปวดร้าว อสูรสาวจ้าวอาคมรู้จัก ‘ผนึกเยือกแข็ง’ เป็นอย่างดี
‘ผนึกเยือกแข็ง’ คือหนึ่งในทักษะยุทธ์ที่ทรงพลังที่สุดของราชินีเหมันต์ การจะใช้มันได้จะต้องมีพลังธาตุน้ำแข็งที่บริสุทธิ์และมหาศาลเท่านั้น ผนึกเยือกแข็งคือหนึ่งในวิธีผนึกการเคลื่อนไหวที่สามารถแช่แข็งเป้าหมายได้โดยสมบูรณ์ ซึ่งหลังจากนั้นพลังไอเย็นก็จะยังคงแทรกซึมเข้าไปในร่างกายของผู้เป็นเป้าหมายทีละน้อยทว่าต่อเนื่อง
เดิมทีมันคือหนึ่งในทักษะวิชาประจำกายของราชินีเหมันต์ ที่สำคัญวิชานี้นับเป็นหนึ่งในเหตุที่ทำให้ราชินีเหมันต์ไร้เทียมทาน
คาดว่าก่อนจะออกไปจากปราสาทเหมันต์ราชินีเหมันต์คงจะทิ้งคัมภีร์ของทักษะวิชาผนึกเยือกแข็งนี้เอาไว้ เป็นเพราะมังกรเหมันต์เป็นผู้แรกที่บุกเข้าไปในปราสาทจึงได้พบเจอมันก่อนผู้ใด เจ้ามังกรตนนี้มีธาตุน้ำแข็งที่ทรงพลังเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แน่นอนว่ามันสามารถสำเร็จวิชานี้ได้อย่างไม่ยากเย็น
“แต่ว่าผนึกเยือกแข็งของมังกรเหมันต์ในครั้งนี้ไม่ได้เป็นผลในวงกว้างสักเท่าไหร่ เท่าที่ข้าจำได้ หากว่าราชินีเหมันต์เป็นผู้ใช้วิชานี้เอง อย่างน้อย ๆ นางสามารถทำให้พื้นที่ในรัศมีร้อยลี้กลายเป็นน้ำแข็งได้ นั่นเป็นอะไรที่น่ากลัวจนข้าเองยังตัวสั่น”
มารยากล่าวเสริม โชคยังดีที่ผนึกเยือกแข็งของมังกรเหมันต์ยังไม่ทรงพลังเทียบเท่ากับผู้ที่สรรค์สร้างมันขึ้นมา มิฉะนั้นแล้วฉินอวี้โม่และอสูรทั้งสองที่อยู่เคียงข้างก็คงจะถูกแช่แข็งไปด้วยแล้ว
“นายหญิง ดูเหมือนว่าหงส์แดงจะย่ำแย่จริง ๆ แล้วนะ พวกเราควรจะเข้าไปช่วยดีหรือไม่ ?”
ยักษาวานรในร่างมนุษย์เอ่ยถามฉินอวี้โม่
ถึงแม้หงส์แดงจะถูกแช่แข็งไปแล้ว ทว่าในตอนนี้เมันก็ยังมีชีวิต เห็นได้ชัดว่าร่างกายของมันกำลังสั่นสะท้านอยู่ภายในผลึกน้ำแข็งแวววาวและดูอ่อนแอมาก
ฉินอวี้โม่ครุ่นคิดชั่วครู่ แม้จะลังเลในคราแรก แต่ในที่สุดนางก็พยักหน้า
หากว่าเป็นศึกของอสูรมายาที่แข็งแกร่งตัวอื่น ๆ นางอาจจะไม่ขอเข้าไปข้องเกี่ยว ทว่าในเมื่ออีกฝ่ายเป็นศัตรูคู่แค้นอย่างมังกรเหมันต์ อีกทั้งยังดูเหมือนมันเป็นฝ่ายมารุกรานอาณาเขตของอสูรอีกตนก่อน คุณหนูผู้มีวิญญาณเป็นนักฆ่าจึงอยากจะเข้าไปขัดขวางไม่ให้มันได้สมหวัง
“ท่านแม่ไม่ต้องห่วง พวกเราแค่รอดูอย่างเดียวก็พอ”
จู่ ๆ หานอวี้ก็ปรากฏตัวขึ้นข้างกายฉินอวี้โม่ เจ้ามังกรในร่างเด็กชายเอ่ยวาจาออกมาด้วยน้ำเสียงมั่นใจ
ฉินอวี้โม่ชะงักไปเล็กน้อยก่อนจะพยักหน้า ในเมื่ออสูรผู้มีสายเลือดมังกรอันสูงส่งบอกเช่นนั้น นางก็จะขอรอดูสถานการณ์ไปก่อน สตรีโฉมงามเชื่อว่าในเมื่อหงส์แดงเป็นอสูรในตำนานที่เทียบชั้นได้กับมังกรทองห้าเล็บ มันก็น่าจะไม่ธรรมดาและน่าจะหาทางเอาตัวรอดจากวิกฤตนี้ได้
และก็เป็นเช่นนั้นจริง ๆ เพียงไม่กี่ลมหายใจหงส์แดงที่ถูกผนึกอยู่ในก้อนน้ำแข็งก็ปลดปล่อยแสงสีแดงออกมารอบตัวก่อนที่เปลวไฟจะลุกโชนขึ้นห่อหุ้มทั่วทั้งร่างสง่างามของอสูรสาว พริบตาต่อมาน้ำแข็งที่ผนึกมันอยู่ก็ถูกละลายหายไปจนหมดสิ้น
หงส์แดงเป็นอสูรธาตุไฟ อีกทั้งยังเป็นอสูรชั้นสูง เปลวไฟของมันทั้งบริสุทธิ์และทรงพลัง เพียงผลึกน้ำแข็งระดับนี้ยังไม่พอจะจำกัดอิสรภาพของมันได้
“โอ้ น้องหงส์ ไม่คิดเลยว่าเจ้าจะยังเหลือพลังพอจะต่อต้านข้าได้อีก !”
แน่นอนว่าเมื่อได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้น มังกรเหมันต์ก็ลอบตื่นตระหนกไม่น้อย ทว่าเจ้ามังกรมากประสบการณ์ยังสามารถคงรอยยิ้มเย็นชาไว้บนใบหน้าได้ดังเดิม ขณะเดียวกันสภาวะพลังของเจ้ามังกรก็ไต่ระดับสูงขึ้น ไอเย็นมหาศาลลอยออกมาจากร่างของมันอย่างไม่อาจปกปิด
“เพลิงของเจ้าทรงพลังมาก แต่ไม่ว่าอย่างไรวันนี้เจ้าก็ไม่มีโอกาสหนีได้อยู่ดี”
น้ำแข็งที่เพิ่งจะถูกละลายกลายเป็นน้ำด้วยเปลวไฟของหงส์แดง จู่ ๆ ก็หลอมรวมกันอย่างรวดเร็ว และพุ่งเข้าปกคลุมร่างของหงส์แดงอีกครั้ง อีกทั้งในครั้งนี้ชั้นน้ำแข็งยังหนากว่าเดิมหลายเท่า
“นายหญิง พลังธาตุน้ำแข็งของมังกรเหมันต์น่ากลัวจริง ๆ ตอนนี้หงส์แดงก็บาดเจ็บอยู่ด้วย เปลวเพลิงของนางคงต้านทานน้ำแข็งนั่นไม่ได้แน่ ข้าว่าครั้งนี้คงหมดหนทางแล้วจริง ๆ”
มารยามีท่าทีตื่นตระหนกมาก ดูเหมือนว่าอสูรสาวจ้าวมารยาจะไม่อยากให้มังกรเหมันต์เป็นฝ่ายชนะ
โดยปกติแล้วเปลวเพลิงบริสุทธิ์ของหงส์แดงถือว่ามีพลังเพียงพอจะต่อต้านน้ำแข็งนั้นได้ไม่ยากเย็นนัก ทว่าด้วยสภาพร่างกายที่บอบช้ำทั้งภายนอกและภายในยิ่งสิ่งผลให้พลังมายาที่เหลืออยู่น้อยนิดของหงส์แดงอ่อนแอมากกว่าเดิม ในตอนนี้ กล่าวได้ว่าพลังเพลิงของมันด้อยกว่าพลังน้ำแข็งของมังกรเหมันต์อยู่พอสมควร
มังกรเหมันต์เป็นมังกรที่อยู่มานานนับพันปี มันอยู่ในจุดที่เติบโตเต็มที่และทรงพลังเต็มศักยภาพ เมื่อต่อกรกับหงส์แดงที่ยังไม่อยู่ในขีดสูงสุดของการพัฒนาและมีพลังที่ยังไม่สมบูรณ์มากนัก แน่นอนว่ามังกรเหมันต์จึงเป็นฝ่ายที่เหนือกว่า
“เช่นนั้นเราต้องเข้าไปช่วย”
ฉินอวี้โม่พยักหน้า ครั้งนี้ดูเหมือนว่าหงส์จะต้านไม่ไหวแล้วจริง ๆ
— ฉ่า~ —
ฉับพลันเปลวเพลิงสว่างเจิดจ้าก็ปรากฏขึ้นในมือฉินอวี้โม่ คุณหนูสี่ตระกูลฉินส่งมันพุ่งเข้าใส่น้ำแข็งที่กำลังห่อหุ้มร่างของหงส์แดงอยู่ในทันที
“โอหัง ! ใครกันกล้าสอดมือเข้ามายุ่งเรื่องของผู้อื่น ? โผล่หัวออกมาเดี๋ยวนี้นะ !”
มังกรเหมันต์สัมผัสได้ถึงการมีตัวตนอยู่ของฉินอวี้โม่และอสูรทั้งสามของนางได้ในพริบตา มันคำรามออกมาด้วยความแค้นเคืองพร้อม ๆ กับปล่อยก้อนน้ำแข็งพุ่งไปในทิศทางที่สตรีผู้ครองกายเทพมายาอยู่อย่างรวดเร็ว
“หึ ๆ ๆ มังกรเหมันต์ ช่างบังเอิญเสียจริง เราได้พบกันอีกแล้วนะ”
ฉินอวี้โม่ที่พุ่งตัวหลบก้อนน้ำแข็งได้อย่างหวุดหวิดเผยตัวตนต่อหน้าอสูรคู่อริก่อนจะกล่าวทักทายด้วยรอยยิ้มเย็นเยียบ