คุณหนูสี่ สตรีเปื้อนเลือด - ตอนที่ 377 วังวนทมิฬ
“ฮ่าๆๆ หานอวี้ ออกมาถูกเวลาพอดี”
มังกรอัสนีหัวเราะชอบใจก่อนหันมองกิ้งก่าทรราชตรงหน้าและกล่าวเย้ย “เจ้ากิ้งก่าทรราช เวลาตายของเจ้ามาถึงแล้ว!”
กิ้งก่าทรราชฟังคำพูดหยามเหยียดของมังกรอัสนีทว่าไม่มีท่าทีตอบโต้ใดๆ มันเพียงจ้องมองหานอวี้ก่อนที่ร่องรอยความหวาดหวั่นปรากฏในแววตาของมันชั่วขณะ
“เหอะ ก็แค่อสูรตัวน้อยที่ยโสโอหัง”
ผู้อาวุโสหลานแค่นเสียงเย็นชาและมองหานอวี้ด้วยแววตาดูถูก
“ชายแก่ เจ้าก็ชรามากแล้วทว่ากลับไม่ยอมอยู่นิ่งเฉยให้สมวัย อีกทั้งยังนำอสูรน่าเกลียดน่ากลัวตัวนี้ออกมาเพื่อสร้างความหวาดกลัวให้ผู้อื่น ดูพวกฝ่ายมารของเจ้าสิ พวกเขาล้วนปิดบังใบหน้าของตนเอง ไม่กล้าเปิดเผยใบหน้าที่แท้จริงด้วยซ้ำ ข้าคิดว่าพวกเขาคงจะมีหน้าตาที่น่าเกลียดอัปลักษณ์เกินไปจึงกลัวว่าอาจจะทำให้ผู้อื่นตกใจกลัวสินะ”
หานอวี้หันไปจ้องหน้าผู้อาวุโสหลานอย่างดูหมิ่นและเหยียดหยาม
เมื่อได้ยินคำพูดของ ‘เจ้าตัวน้อย’ สภาวะพลังจากร่างของผู้อาวุโสหลานก็ปะทุรุนแรงขึ้นทันทีราวกับเขากำลังเดือดดาลสุดขีด
“หลิวหยา ม่อเสีย เสี่ยวจิ่ว พวกเจ้าไปช่วยท่านแม่เถอะ หากพวกเจ้าทั้งหมดจัดการเจ้าชายแก่นั่นไม่ได้ หลังจากนี้คงจะต้องมีการอบรมสั่งสอนเป็นการส่วนตัวกันสักหน่อย”
หานอวี้เอ่ยขึ้นเบาๆเพื่อออกคำสั่ง
“ฮ่าๆๆ เสี่ยวอวี้ ไม่ต้องห่วง รอดูพวกเราอัดชายแก่นั่นจนน่วมได้เลย”
มังกรอัสนีและอสูรตัวอื่นๆยิ้มอย่างมั่นใจ จากนั้นพวกมันก็ไม่สนใจที่จะรุมล้อมกิ้งก่าทรราชอีกและหันกลับไปหาฉินอวี้โม่ขณะจ้องมองผู้อาวุโสหลานด้วยแววตาดุดัน
โร่วววว!
เมื่อเห็นมังกรอัสนีและอสูรอื่นๆถอยออกไป กิ้งก่าทรราชก็คำรามลั่นและเตรียมพร้อมโจมตี
“เจ้ามังกรชั่ว คู่ต่อสู้ของเจ้าคือข้าผู้นี้ ไม่คิดเลยว่าจะยังมีอสูรดุร้ายอย่างเจ้าหลงเหลือในเผ่ามังกรของเราอีก วันนี้เผ่ากิ้งก่าทรราชจะต้องหายสาบสูญไปจากโลกนี้!”
กิ้งก่าทรราชเป็นมังกรสายพันธุ์ดุร้ายและชั่วช้าที่สุดในเผ่าพันธุ์มังกร พวกมันไม่เพียงแต่รักตัวกลัวตายเท่านั้น ทว่ายังเป็นอสูรประเภทมังกรที่น่ารำคาญที่สุดในเผ่าพันธุ์
พวกมันโปรดปรานการรังแกอสูรร่วมเผ่าพันธุ์ชนิดอื่นและถึงขั้นกัดกินร่างกายของอสูรเหล่านั้น พวกมันจึงเป็นสิ่งมีชีวิตที่อสูรเครือมังกรส่วนใหญ่ไม่ชอบขี้หน้า
ในอดีต เป็นเพราะกิ้งก่าทรราชยโสโอหังและทำอะไรล้ำเส้นเกินไป ผู้นำของเผ่าพันธุ์มังกรอย่างมังกรทองเก้าเล็บจึงได้ขับไล่กิ้งก่าทรราชทั้งหมดออกจากเผ่าพันธุ์มังกรด้วยตัวเอง
แต่ทว่า.. กิ้งก่าทรราชไม่เต็มใจยอมรับเรื่องนี้และได้บุกโจมตีเผ่าพันธุ์มังกรโดยตรง
ในสถานการณ์ที่ไร้ทางออกอื่น ผู้นำของเผ่าพันธุ์มังกรก็ได้ตัดสินใจนำยอดฝีมือจำนวนมากออกไปต่อสู้ตอบโต้กับพวกกิ้งก่าทรราชและกำจัดพวกมันทั้งหมดไป
อย่างไรก็ตาม ไม่คิดเลยว่าบัดนี้จะยังมีสิ่งมีชีวิตสายพันธุ์ชั่วร้ายนี้หลงเหลืออยู่
ตู้ม!
กิ้งก่าทรราชไม่ลังเลอีกต่อไปและสะบัดหางตรงไปยังหานอวี้อย่างรุนแรง
อย่างไรก็ตาม หานอวี้หลบหลีกการโจมตีของคู่ต่อสู้ไปอย่างง่ายดายก่อนปรากฏกายอีกครั้งข้างหลังกิ้งก่าทรราช
“เหอะ!”
หานอวี้แค่นเสียงและไม่ปิดบังตัวตนที่แท้จริงอีกต่อไป ด้วยแสงสว่างวาบ ร่างที่แท้จริงของมันก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าทุกคน
“มังกรทองห้าเล็บ!”
เมื่อเห็นร่างที่แท้จริงของเจ้าตัวเล็ก ผู้อาวุโสหลานก็โพล่งออกมาด้วยน้ำเสียงตื่นตระหนกอย่างชัดเจน
แม้ว่ากิ้งก่าทรราชของเขาจะทรงพลังอย่างยิ่งและมีพลังอยู่ในระดับเซียน ส่วนมังกรทองห้าเล็บเป็นอสูรระดับสุริยะขั้นสูงสุดเท่านั้น
ทว่าบารมีมังกรซึ่งเป็นแรงกดดันในเผ่าพันธุ์ของมันข่มขวัญจนลดพลังในการต่อสู้ของกิ้งก่าทรราชได้เป็นอย่างมาก ยิ่งไปกว่านั้น มังกรทองห้าเล็บก็เป็นอสูรที่แทบจะอยู่ในจุดสูงสุดของเผ่าพันธุ์มังกร เมื่อประจันหน้ากับอสูรร่วมเครือ แน่นอนว่ามันจะมีข้อได้เปรียบที่มหาศาล
“เฮ้ ไม่ต้องห่วงกิ้งก่าทรราชของเจ้าหรอก มาลองลิ้มรสพลังของพวกเราดูเถอะ!”
เต่ามังกรมองผู้อาวุโสหลานพร้อมรอยยิ้มและเอ่ยขึ้นด้วยความมั่นใจ
ฉินอวี้โม่เองก็ยกยิ้มมุมปากเช่นกัน ครานี้ที่หานอวี้ออกมาจากสภาวะเก็บตัว มันก็ได้พัฒนาขึ้นกลายเป็นอสูรระดับสุริยะขั้นสูงสุดแล้ว ในฐานะนายหญิงของหานอวี้ นางก็ได้รับประโยชน์มากพอสมควร
จากขอบเขตจ้าวพิภพขั้นสูงสุด พลังของนางทะลวงก็เข้าสู่ขอบเขตจ้าวสุริยะได้โดยตรงและความแข็งแกร่งก็เพิ่มมากขึ้นอีกขั้น
ความแข็งแกร่งของอสูรมายาหลายชีวิตของนางก็พัฒนาขึ้นเช่นกัน สิ่งสำคัญที่สุดคือสภาวะพลังทั้งหมดที่พวกมันสูญเสียหรือถูกใช้ไปได้ฟื้นคืนกลับมาในทันที บัดนี้ความสามารถในการต่อสู้ของพวกมันกลับสู่ระดับเต็มที่และยังบรรลุระดับที่สูงขึ้นเช่นกัน
“เหอะ!”
ผู้อาวุโสหลานแค่นเสียงในลำคอก่อนที่ร่างของเขาหายวับไปและเข้าสู่สภาวะล่องหนอีกครา
“โผล่หัวออกมาเดี๋ยวนี้!”
นักฆ่าสาวตะโกนกร้าวและวิชาสามพันเพลิงคำรามของนางก็ก่อตัวเป็นรูปเป็นร่างอย่างรวดเร็วและพุ่งกระจายไปยังพื้นที่รอบตัวของนางซึ่งไม่มีทางที่ผู้อาวุโสหลานจะหลบหลีกได้
ตู้ม!
ด้วยเสียงดังสนั่น ร่างของผู้อาวุโสฝ่ายมารก็พุ่งตรงออกมาโดยเพลิงโหมกระหน่ำและปรากฏตัวกลางอากาศ
“วังวนน้ำแข็ง!”
“พายุอัสนี!”
“พันธนาการมรณะ!”
“…”
เต่ามังกรและสหายอสูรไม่รอช้าและใช้ทักษะการโจมตีที่ทรงพลังที่สุดของตนเองเพื่อโจมตีผู้อาวุโสหลานทันที
ผู้อาวุโสหลานยังคงตกใจกับวิชาสามพันเพลิงคำรามของฉินอวี้โม่ ก่อนที่เขาจะเรียกสติกลับคืนมาได้ เขาก็พบว่ามีทักษะการโจมตีทรงพลังอีกหลายอย่างที่จู่โจมเข้าหาตนเอง
ร่างของผู้อาวุโสหลานกำลังกะพริบและเหมือนจะต้องการพุ่งตัวเพื่อหลบหลีกออกไปทันที
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่เขาจะเคลื่อนตัวออกไป เขาก็เห็นบางสิ่งบางอย่างขนาดมหึมาปรากฏอยู่รอบทิศทางทั้งหกไม่ว่าจะเป็นซ้ายขวา หน้าหลังและบนล่างเพื่อขวางทางหลบหนีของเขา
เมื่อเห็นเช่นนี้ ผู้อาวุโสหลานก็ล้มเลิกความคิดที่จะหลบหนีทันที ร่างของเขาแผ่สภาวะพลังออกมาและโล่ป้องกันขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้นรอบตัว
อย่างไรก็ตาม การโจมตีที่คาดคิดไว้กลับไม่มาถึง อสูรมหึมาทั้งหกทิศทางอันตรธานหายไปอย่างไร้ร่องรอยต่อหน้าต่อตาของเขา
ในทางกลับกันกลับมีวังวนน้ำแข็งปรากฏไล่ขึ้นจากเท้าของผู้อาวุโสหลานและครอบงำเขาไว้ทันทีจนเขารู้สึกตื่นตระหนกขึ้นมา
จากนั้นสิ่งที่ดูเหมือนหางของบางสิ่งบางอย่างจำนวนนับไม่ถ้วนก็พันเกี่ยวทั่วร่างของเขา แม้ว่ามันไม่สามารถทะลุผ่านโล่ป้องกันของเขาได้ เขาก็เสียการทรงตัวและขยับเขยื้อนไม่ได้
จากนั้นกลุ่มเมฆทะมึนขนาดใหญ่ก็ปรากฏเหนือศีรษะของผู้อาวุโสหลานซึ่งมีแสงส่องประกายเจิดจ้าอยู่ในกลุ่มเมฆมืดเหล่านั้นและดูน่าสะพรึงกลัวอย่างยิ่ง จากนั้นสายฟ้าเส้นหนาก็ปรากฏเหนือศีรษะของเขา
ราวกับว่าสายฟ้าเหล่านี้กำลังจะพุ่งตรงลงมาที่ศีรษะของเขา
“สวรรค์ ช่างเป็นพลังที่น่าสะพรึงกลัวยิ่งนัก!”
บรรดาผู้คนที่กำลังต่อสู้กันอย่างดุเดือดอยู่รอบๆถูกดึงดูดความสนใจโดยภาพการโจมตีที่งดงามจนน่าทึ่งและทรงพลังเป็นที่สุดของฉินอวี้โม่ พวกเขาหยุดเคลื่อนไหวไปชั่วขณะและจับจ้องไปในทิศทางของนาง
ตู้ม!
ด้วยเสียงดังสนั่น สายฟ้าก็ฟาดตรงลงที่ผู้อาวุโสหลานจนดูเหมือนเขาจะไหม้เกรียมสลายเป็นถ่านซึ่งเป็นภาพที่น่าสยดสยองอย่างที่สุด
ผู้อาวุโสหลานก็สะดุ้งตกใจจนใบหน้าถอดสี ทว่าครานี้เขาถูกเกี่ยวพันด้วยกระบวนท่าทั้งหลายและขยับเขยื้อนไม่ได้ในชั่วเวลาหนึ่ง เขาจึงทำได้เพียงรวบรวมพลังทั้งหมดที่มีไปรวมกันที่เหนือศีรษะของเขาเพื่อพยายามขัดขวางสายฟ้าเกรี้ยวกราดที่ผ่าลงมา
เมื่อเห็นการตอบโต้ของผู้อาวุโสหลาน ฉินอวี้โม่ก็ยกยิ้มมุมปากเล็กน้อย
ทันใดนั้น ในมือของนางก็ปรากฏกระบี่เล่มยาวที่อาบไล้ไปด้วยเพลิงและแสงสีทอง หลังจากนั้น ฉินอวี้โม่ก็ควบแน่นมันอย่างรวดเร็วจนมันมีขนาดเพียงเข็มเล่มเล็กเท่านั้น
“ทะลวงไป!”
เมื่อสิ้นเสียงเอ่ยเบาๆ เข็มเล่มเล็กก็พุ่งตรงไปยังหัวใจของผู้อาวุโสหลาน
ครานี้พลังทั้งหมดของผู้อาวุโสหลานถูกใช้ไปกับการต้านทานกระบวนท่าเหล่านั้นจนลืมไปเสียสนิทว่าฉินอวี้โม่คือคู่ต่อสู้ที่อันตรายที่สุด
ตู้ม!
สายฟ้ากระทบลงบนโล่ป้องกันของผู้อาวุโสฝ่ายมารจนเกิดเป็นเสียงดังสนั่น พลังงานที่ปะทุออกมาอย่างรุนแรงก็ทำให้ทุกๆคนต้องเกิดอาการตกใจ
เมื่อแสงสว่างจ้าสลายไป ทุกคนก็เห็นว่าการโจมตีทั้งหมดรอบตัวของผู้อาวุโสหลานได้หายไปอย่างไร้ร่องรอยแล้วและเขาก็ยืนแน่นิ่งอยู่กับที่ราวกับไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ
เพียงแต่ใครบางคนสัมผัสได้ถึงบางอย่างในทันที
“โอ้ เป็นไปได้อย่างไรกัน?!”
คนผู้นั้นอดทอดถอนหายใจด้วยความตกใจไม่ได้ เขาไม่เห็นบาดแผลใดปรากฏบนร่างของผู้อาวุโสหลานทว่าสัมผัสได้ว่าผู้อาวุโสหลานไม่หลงเหลือลมหายใจอีกต่อไป
“ดูเหมือนว่าเข็มเล่มเล็กในมือของฉินอวี้โม่เมื่อครู่จะแทงทะลุหัวใจของผู้อาวุโสหลาน!”
แน่นอนว่ามีบางคนสังเกตเห็นการเคลื่อนไหวของฉินอวี้โม่เมื่อครู่และเมื่อไตร่ตรองในตอนนี้ พวกเขาเชื่อว่ามันคือกระบวนท่าสังหารที่แข็งแกร่งที่สุด
ทันใดนั้น ทุกคนตระหนักได้ว่าพายุอัสนี วังวนน้ำแข็งและพันธนาการมรณะเมื่อครู่เป็นเพียงตัวหลอกเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของผู้อาวุโสหลานเท่านั้น
กระบวนท่าสังหารที่แท้จริงคือเข็มเล่มเล็กในมือของฉินอวี้โม่
ต้องกล่าวเลยว่าชุดกระบวนท่าอย่างต่อเนื่องของฉินอวี้โม่เป็นสิ่งที่น่าสะพรึงกลัวจริงๆ นางสามารถทำให้บุรุษผู้แข็งแกร่งอย่างผู้อาวุโสหลานตกหลุมพรางที่นางวางไว้ทีละก้าวและท้ายที่สุดก็ต้องตายด้วยน้ำมือของผู้ที่อ่อนแอกว่าเขามาก
ตุบ!
ทันใดนั้น ร่างของผู้อาวุโสหลานก็ร่วงลงพื้นก่อนกลายเป็นกองสิ่งปฏิกูลและอันตรธานหายไปท่ามกลางสายตาของทุกคน
“เหม็นชะมัด!”
ทันทีที่ร่างของเขาหายไป ทุกคนก็ได้กลิ่นเหม็นคลุ้งทิ่มแทงจมูก
“ทันทีที่เขาหมดลมหายใจ พลังแห่งความมืดและพลังกัดกร่อนที่เขาฝึกฝนจะกลายเป็นกองสิ่งปฏิกูลเหม็นคลุ้ง”
เสียงของหานอวี้ดังขึ้นในหูของฉินอวี้โม่และในขณะเดียวกันร่างของมันก็ปรากฏกายถัดจากนาง
เมื่อผู้อาวุโสหลานตายไป กิ้งก่าทรราชที่เป็นอสูรมายาของเขาก็อันตรธานหายไปเช่นกัน หานอวี้ยังไม่ได้มีโอกาสแสดงพลังอย่างเต็มที่ทว่าคู่ต่อสู้ก็หายไปเสียก่อนแล้ว
“พลังกัดกร่อนช่างเป็นพลังที่ประหลาดจริงๆ แม้หลังจากจอมยุทธ์ที่ฝึกมันตายไป ก็ยังไม่หลงเหลือแม้แต่ร่างกาย”
ฉินอวี้โม่อดถอนหายใจไม่ได้ บัดนี้นางเข้าใจแน่ชัดแล้วว่าเหตุใดทุกคนจึงเกรงกลัวขุมกำลังมารร้ายเหล่านี้นัก
“บัดซบ!”
อีกฟากหนึ่ง เมื่อได้เห็นการตายของผู้อาวุโสหลานต่อหน้าต่อตา ยอดฝีมือขอบเขตเซียนอีกสองคนของฝ่ายมารก็เดือดดาลทันที
พวกเขาไม่คิดเลยว่าผู้อาวุโสผู้แกร่งกล้าจะต้องตายด้วยน้ำมือของคนรุ่นเยาว์อย่างฉินอวี้โม่และการต่อสู้จะสิ้นสุดลงอย่างรวดเร็วเช่นนี้
“เหอะ อย่ามัวสนใจสิ่งอื่น คู่ต่อสู้ของพวกเจ้าก็คือพวกข้า!”
หานโม่ฉือและหยินหึนแค่นเสียงเย็นชาและโจมตีคู่ต่อสู้ทั้งสองอย่างไม่ลังเล
ตู้ม! ตู้ม!
เสียงการโจมตีของหานโม่ฉือและหยินหึนกับคู่ต่อสู้ทั้งสองดังสนั่นขึ้นมา
ฉินอวี้โม่ก็หยุดพักครู่หนึ่งก่อนพุ่งออกไปโจมตีคนอื่นๆเพื่อช่วยรักษาระดับสถานการณ์และบรรเทาแรงกดดันให้กับทุกคน
เมื่อเห็นฉินอวี้โม่โจมตีด้วยตัวเอง พวกเขาเหล่านั้นจะกล้าประมาทได้อย่างไร?
พวกเขาเพิ่งประจักษ์ต่อพลังความแข็งแกร่งของฉินอวี้โม่ และเมื่อเผชิญหน้ากับนาง แรงกดดันที่พวกเขารู้สึกก็ทวีคูณขึ้นและไม่กล้ารับมือกับนางอย่างซึ่งหน้า
ด้วยเหตุนั้น ไม่ว่าฉินอวี้โม่จะย่างกรายผ่านไปที่ใด คนจากฝ่ายมารในบริเวณนั้นก็จะหลีกหนีไปอย่างรวดเร็วและไม่มีใครกล้าก้าวเข้าไปใกล้
“เหอะ ดูเหมือนว่าเราต้องใช้ไพ่ตายแล้ว!”
กลางอากาศ ผู้ที่กำลังสู้กับหยินหึนล่าถอยออกไปและบินออกไปหยุดลงตรงกลางเกาะไร้จุดจบ
ผู้อาวุโสอีกคนที่สู้กับหานโม่ฉือก็ผละออกไปรวมตัวกับอีกคนเช่นกัน
“พวกเจ้าจะได้เห็นไพ่ตายที่แท้จริงของพวกข้า!”
ทั้งสองตะโกนบางอย่างออกมาพร้อมกัน จากนั้นวังวนทมิฬก็ก่อตัวอย่างรวดเร็วราวกับพายุหมุนขนาดใหญ่ พลังแห่งความมืดอันทรงพลังจากมันทำให้ทุกคนแทบสั่นสะท้าน.. .
.