คุณหนูสี่ สตรีเปื้อนเลือด - ตอนที่ 996 ไข่มุกศักดิ์สิทธิ์ทั้งเก้า
ภายในห้องพักของฮวาหรง ศิษย์ของนิกายหมื่นบุปผาทุกคนที่เดินทางมาที่ภูเขาจันทราล้วนรวมตัวกันอยู่ที่นี่ ทันทีที่ฉินอวี้โม่ก้าวเข้ามา ทุกสายตาก็บรรจบลงที่นาง
“มีอะไรรึ ? คนพวกนั้นกลับกันหมดแล้วรึ ?”
ฮวาหรงเอ่ยถามทันทีด้วยน้ำเสียงที่แสดงถึงความไม่พอใจอย่างชัดเจน ฉินอวี้โม่ผูกมิตรกับสำนักเมฆาคราม นิกายกระบี่สายฟ้าและนิกายหงส์แดงอย่างไม่เห็นผู้คุมกฎฝั่งขวาเช่นนางอยู่ในสายตาแม้แต่น้อยและนั่นทำให้ฮวาหรงฉุนเฉียวเป็นอย่างมาก
“เราจะกลับนิกายหมื่นบุปผากันเลยรึไม่เจ้าคะ ?”
ฉินอวี้โม่เพิกเฉยต่อสายตาไม่พอใจของฮวาหรงและเอ่ยถามเบา ๆ ในเมื่อสถานการณ์ที่นี่คลี่คลายแล้ว พวกนางก็ควรเดินทางกลับนิกายทันที อย่างไรก็ตาม นางสังหรณ์ใจว่าฮวาหรงจะเลือกอยู่ที่นี่ต่ออีกหลายวันและยังคาดเดาไม่ได้ว่าฮวาหรงมีจุดประสงค์ใดแอบแฝงอยู่
“ไม่ต้องรีบร้อนไปหรอก ถึงแม้มังกรกระดูกดำจะล่าถอยออกไปแล้ว เหตุผลที่เหลียนซวงและเหลียนอู้มาที่ภูเขาจันทราก็ยังไม่ได้รับการยืนยันและเรายังต้องหาทางสืบเรื่องนี้ให้ได้ก่อนเดินทางกลับ”
เป็นจริงดังที่คิดไว้ ฮวาหรงประกาศอย่างชัดเจนว่าไม่มีความคิดที่จะเดินทางกลับนิกายหมื่นบุปผาในตอนนี้
“อีกอย่าง…แม้ว่าจอมยุทธ์ปีศาจและมังกรกระดูกดำจะล่าถอยกลับไปแล้ว ทว่าพวกเขาก็อาจจะกลับมาอีกครั้ง การที่เรายังอยู่รวมตัวกันหลายคนเช่นนี้ หากพวกนั้นย้อนกลับมา เราก็ยังพอจะรับมือได้บ้าง”
เนื่องจากกลัวว่าฉินอวี้โม่จะนึกสงสัยสิ่งใด นางจึงกล่าวเสริมอีกประโยค
“ถ้าเช่นนั้นข้าก็ไม่มีอะไรคัดค้าน ภูเขาจันทราเต็มไปด้วยสภาวะพลังที่อุดมสมบูรณ์และข้าอาจจะพัฒนาความแข็งแกร่งหลังจากฝึกวิชาอยู่ที่นี่อีกสักพัก”
ฉินอวี้โม่กล่าวความคิดของตนออกไปและไม่คัดค้านข้อเสนอของฮวาหรง นางเองก็สงสัยใคร่รู้ยิ่งนักว่าฮวาหรงคิดทำสิ่งใดและสังหรณ์ใจว่าอีกฝ่ายจะต้องมีแผนการบางอย่างเตรียมไว้อย่างแน่นอน
“เราจะอยู่ที่นี่อีกเจ็ดวันเป็นอย่างมาก หากยังไม่ได้เรื่องอะไร เราจะเดินทางกลับนิกายหมื่นบุปผาทันที พวกเจ้าไม่ต้องกังวลล่ะ”
เมื่อเห็นสีหน้าเรียบเฉยของฉินอวี้โม่ ทว่าศิษย์คนอื่น ๆ แสดงแววตากังวลออกมา ฮวาหรงก็อดกล่าวออกไปไม่ได้
“ข้าก็หวังเช่นนั้น !”
ฉินอวี้โม่ยกยิ้มมุมปากและหันหลังเดินออกไป ถึงอย่างไรนางก็ต้องอยู่ที่นี่ไปอีกสักระยะและไม่มีความจำเป็นต้องเสียเวลาพูดคุยกับฮวาหรงต่อไป ไม่ว่าอีกฝ่ายคิดจะทำสิ่งใด นางก็ไม่รู้สึกเกรงกลัวแม้แต่น้อย
“พวกเจ้าแยกย้ายกันกลับไปพักผ่อนก่อนเถอะ”
ฮวาหรงกล่าวกับศิษย์คนอื่น ๆ ขณะสายตาเพ่งมองไปที่แผ่นหลังของฉินอวี้โม่ที่กำลังเดินจากไปพร้อมกับจิตสังหารที่ฉายวาบในแววตา
“นายหญิง ยายแก่นั่นคิดจะทำอะไรกันแน่ ?”
ภายในห้องพัก ฉินอวี้โม่วางข่ายอาคมป้องกันไว้รอบห้องและมุ่งหน้าเข้าไปในคฤหาสน์เฟิงหัวทันที
ทันทีที่นางปรากฏตัว ซิวและอสูรอื่น ๆ ก็เข้ามารายล้อมนางและซิวก็อดเอ่ยถามออกไปไม่ได้
มันไม่อาจคาดเดาความคิดของฮวาหรงได้เลย จอมยุทธ์ปีศาจและมังกรกระดูกดำกลับไปแล้วและพวกเขาไม่น่าจะกลับมาในเร็ว ๆ นี้ การที่พวกนางอยู่ที่นี่ต่อไปคงมิใช่เพียงเพราะจุดประสงค์ในการสืบหาความจริงเกี่ยวกับเหลียนซวงและเหลียนอู้อย่างแน่นอน เกรงว่าฮวาหรงจะต้องมีแผนการสมคบคิดบางอย่างซ่อนไว้
“ไม่ว่านางคิดจะทำสิ่งใด หากยายแก่นั่นต้องการจะทำร้ายนายหญิงละก็ พวกเราไม่มีทางยอมแน่ ในเมื่อตอนนี้พี่ซิวก็ออกมาจากการจำศีลแล้ว ในทั่วทั้งดินแดนนี้ก็คงจะมีจอมยุทธ์เพียงน้อยนิดเท่านั้นที่จะคุกคามนายหญิงได้”
เสี่ยวเฮยกล่าวด้วยน้ำเสียงมั่นอกมั่นใจและเชื่อมั่นในความสามารถของซิวอย่างเต็มเปี่ยม
“ข้าจะไม่ยอมให้ผู้ใดทำร้ายนายหญิงได้แน่”
ซิวพยักศีรษะและกล่าวเพียงสั้น ๆ ไม่ว่าอย่างไรมันจะไม่ยอมให้ฉินอวี้โม่ตกอยู่ในอันตรายอย่างแน่นอน ไม่ว่าฮวาหรงคิดทำสิ่งใด มันก็ไม่มีทางยอมให้นางทำสำเร็จดังหวัง
ฉินชิงเฉวียนก็เพียงนั่งอยู่ถัดจากฉินอวี้โม่อย่างเงียบ ๆ และยิ้มให้กับนางด้วยแววตาเป็นประกาย
“นายหญิง ตอนนี้ไข่มุกวิญญาณศักดิ์สิทธิ์และไข่มุกเลี่ยงวารีอยู่ในมือท่านแล้ว ตราบใดที่ตามหาไข่มุกวิญญาณสายฟ้าได้พบ ท่านจะสามารถใช้พลังของไข่มุกทั้งสามเพื่อรักษาให้เขากลับกลายเป็นปกติได้”
ดูเหมือนว่าซิวและฉินชิงเฉวียนจะรู้จักกันมาก่อน และฉินอวี้โม่รับรู้ได้ว่าตั้งแต่ซิวตื่นจากการจำศีล มันมักใช้เวลาอยู่กับบุรุษใบ้เสมอ ต่อให้จะไม่สามารถสื่อสารกันด้วยวาจาได้ แต่ก็เห็นได้ชัดว่าทั้งสองมีความเข้าใจที่ตรงกันโดยไม่ต้องใช้คำพูด
ตลอดเวลาที่ผ่านมา ฉินอวี้โม่ก็พยายามคิดหาทางหลากหลายวิธี ทว่าไม่พบวิธีรักษาอาการบาดเจ็บของฉินชิงเฉวียนหรือช่วยให้เขาฝึกวิชาได้เลย ตอนนี้การที่ซิวกล่าวออกมาเช่นนี้ก็ทำให้นางพบความหวังใหม่ขึ้นมา
“นายหญิง ในความเป็นจริงสมบัติพลังฟ้าดินอย่างพวกเรามีอยู่ทั้งหมดเก้าชนิดด้วยกันซึ่งกระจายตัวกันออกไปในดินแดนต่าง ๆ หากรวบรวมทั้งหมดมาได้ ท่านจะกลายเป็นผู้ที่กุมอำนาจอันยิ่งใหญ่ ต่อให้เป็นแดนสวรรค์เบื้องบนก็ยังต้องหวาดหวั่นต่อท่าน อย่างไรก็ตาม เมื่อนับหมื่นปีก่อน มันก็เกิดความเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ขึ้นและเราทั้งหมดก็ได้รับผลกระทบจากมัน ไข่มุกส่วนใหญ่ก็เก็บซ่อนตัวโดยที่ไม่ออกมาให้ผู้ใดพบเห็นมาเป็นเวลานาน แม้แต่สหายของเราบางส่วนก็อาจหายสาบสูญไปแล้วตลอดกาล เราไม่สามารถยืนยันสิ่งใดได้เลย”
เนื่องจากยังมีเศษเสี้ยวความทรงจำหลงเหลืออยู่ ไข่มุกเลี่ยงวารีจึงกล่าวเพียงเท่าที่ทราบอย่างไม่ปิดบัง
แรกเริ่มเดิมที ยอดฝีมือผู้แกร่งกล้าผู้หนึ่งได้ทำการหลอมไข่มุกทั้งเก้าขึ้นมา ได้แก่ ไข่มุกประกายทอง ไข่มุกวิญญาณไม้ ไข่มุกเลี่ยงวารี ไข่มุกธุลีเพลิง ไข่มุกวิญญาณปฐพี ซึ่งเป็นตัวแทนของธาตุทั้งห้า นอกจากนี้ก็ยังมีไข่มุกวิญญาณสายฟ้า ไข่มุกวิญญาณวายุ ไข่มุกวิญญาณศักดิ์สิทธิ์และไข่มุกวิญญาณทมิฬ
ไข่มุกศักดิ์สิทธิ์ทั้งเก้ามีพลังที่แตกต่างกันออกไป หากได้ครอบครองหนึ่งในไข่มุกซึ่งมีพลังอยู่ในระดับสูงสุด คนผู้นั้นก็จะกลายเป็นผู้มีอำนาจสูงสุดในพลังด้านนั้นไป
หากรวบรวมไข่มุกได้ครบทั้งเก้าเม็ด คนผู้นั้นก็จะถือครองพลังอำนาจที่ไร้เทียมทาน อย่างไรก็ตาม นอกจากผู้ที่หลอมพวกมันในอดีตก็ยังไม่มีผู้ใดที่สามารถรวบรวมพวกมันได้สำเร็จ ผู้ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดเมื่อนับหมื่นปีก่อนก็สามารถรวบรวมไข่มุกได้เพียงหกเม็ดเท่านั้น เพียงแต่ในครานั้นเกิดสงครามครั้งใหญ่และไข่มุกทั้งหกก็หายสาบสูญไปอีกครั้ง จนกระทั่งปัจจุบันนี้ก็มีเพียงไข่มุกเลี่ยงวารีและไข่มุกวิญญาณศักดิ์สิทธิ์เท่านั้นที่ปรากฏออกมา คาดการณ์ได้ว่าไข่มุกอื่น ๆ ก็อาจจะปรากฏขึ้นหลังจากนี้เช่นกัน
ฉินอวี้โม่พยักศีรษะแสดงความเข้าใจและไม่รู้สึกแปลกใจเท่าใดนัก ยิ่งมีความแข็งแกร่งมากเพียงใด นางก็จะได้ทราบข้อมูลของสิ่งต่าง ๆ มากขึ้นเพียงนั้น ในแต่ละดินแดนยังมีสิ่งที่ทรงพลังอีกมากมายที่นางยังไม่รู้จัก และไข่มุกศักดิ์สิทธิ์ทั้งเก้าก็เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น
“นายหญิง ไข่มุกศักดิ์สิทธิ์ทั้งเก้าล้วนมีข้อจำกัดของมันเอง นอกจากข้าที่ถูกโยนทิ้งไว้ที่นิกายหมื่นบุปผาตั้งแต่ต้น ไข่มุกอื่น ๆ จะปรากฏในสภาพแวดล้อมที่เฉพาะเจาะจงของพวกมันเอง เช่นเดียวกับไข่มุกเลี่ยงวารีที่ปรากฏในน่านน้ำทางเหนือ ไข่มุกอื่น ๆ จะปรากฏในที่ที่มีพลังธาตุเดียวกับพวกมัน ยกตัวอย่างเช่น ไข่มุกธาตุไฟอย่างไข่มุกธุลีเพลิง หากมันยังไม่ยอมรับผู้ใดเป็นนาย มันก็จะปรากฏตัวอยู่ในภูเขาไฟที่มีคุณสมบัติธาตุไฟหนาแน่นที่สุด”
ไข่มุกวิญญาณศักดิ์สิทธิ์กล่าวเสริม ตัวมันเองเป็นกรณีพิเศษที่แตกต่างไปจากไข่มุกอื่น ๆ ซึ่งถูกโยนทิ้งไว้ในเขตต้องห้ามของนิกายหมื่นบุปผา อย่างไรก็ตาม ไข่มุกเม็ดอื่น ๆ จะไม่ได้อยู่ในสถานการณ์เดียวกับมัน
ไข่มุกเหล่านั้นจะปรากฏเพียงในสถานที่ที่สอดคล้องกับธาตุพลังของพวกมันและมีสภาวะพลังที่หนาแน่น อย่างเช่นไข่มุกวิญญาณสายฟ้า สถานที่ที่มันน่าจะปรากฏมากที่สุดคือสถานที่ที่เต็มไปด้วยพลังงานสายฟ้าและไข่มุกอื่น ๆ ก็เป็นเช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตาม หากมันจำไม่ผิด ไข่มุกวิญญาณทมิฬเป็นไข่มุกที่มีความพิเศษพอสมควรและดูเหมือนว่ามันจะปรากฏตัวอยู่ในโลกปีศาจเท่านั้น
เพียงแต่มันยังไม่ได้บอกเรื่องนี้กับฉินอวี้โม่ในตอนนี้ ถึงอย่างไรนางก็ยังไม่จำเป็นต้องใช้ไข่มุกวิญญาณทมิฬในอนาคตอันใกล้ นอกจากนี้ ไข่มุกดังกล่าวก็แปลกประหลาดและอารมณ์ร้อนยิ่งนักซึ่งการสยบมันมิใช่เรื่องง่ายเลย
ฉินอวี้โม่พยักศีรษะแสดงความเข้าใจ ดูเหมือนว่าการตามหาไข่มุกวิญญาณสายฟ้าจะไม่ง่ายเลย
ตอนนี้นางยังไม่ทราบด้วยซ้ำว่ามันอยู่ในดินแดนมหาเทพหรือไม่ นับประสาอะไรกับการตามหามันให้พบ
อย่างไรก็ตาม การที่มีประกายความหวังย่อมเป็นเรื่องที่ดี ไข่มุกศักดิ์สิทธิ์มีความสามารถในการรับรู้ถึงกันได้ ตราบใดที่ไข่มุกวิญญาณสายฟ้าปรากฏขึ้นมา ไข่มุกวิญญาณศักดิ์สิทธิ์และไข่มุกเลี่ยงวารีจะต้องรับรู้ถึงตัวตนของมันได้อย่างแน่นอนและการตามหามันในตอนนั้นก็จะไม่สายเกินไป