คุณหนูใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า - ตอนที่ 1019 จังหวะกัดกันเอง บาดเจ็บทั้งคู่!
ตอนที่ 1019 จังหวะกัดกันเอง บาดเจ็บทั้งคู่!
………………..
หลังจากลงจากรถม้าของแม่ทัพใหญ่เจิ้งแล้ว ฉินหลิวซีก็หยิบขวดหยกหล่อเลี้ยงวิญญาณออกมา เรียกทารกผีออกมา จากนั้นก็เสกคาถาไปที่ร่างของเขา
“ข้าได้ร่ายคาถาสายกรรมให้แก่เจ้า นำทางข้าไปหาศัตรูของเจ้า”
เจ้าโสมน้อยรู้สึกประหลาดใจ “ไม่ใช่ว่าช่วยตระกูลมั่วจัดการเรื่องทารกผี ทำให้พวกเขาสามารถตั้งครรภ์ได้ตามธรรมชาติก็จบเรื่องแล้ว เจ้ายังจะไปหารื่องโจรเต๋าผู้นั้นอีกหรือ ข้าคิดว่าเจ้าจะไม่สนใจแล้วเสียอีก”
เมื่อเห็นว่าฉินหลิวซีดูท่าทางไม่ถูกชะตากับมั่วเหวินเผยตอนที่อยู่ตระกูลมั่ว เขาคิดจริงๆ ว่าฉินหลิวซีขี้เกียจเกินที่จะสนใจว่าใครเป็นคนทำเรื่องไร้สาระนี้ แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าจะจัดการให้ถึงที่สุด
ฉินหลิวซีชี้ไปที่เสื้อผ้าของเถิงเจา เอ่ย “หากผู้ที่ขุดหลุมศพเป็นเจาเจา ผู้ที่ได้รับแรงกระแทกก็จะเป็นเขา หากเป็นเช่นนั้นไหนเลยจะเพียงแค่เสื้อผ้าฉีกขาด เรื่องนี้ยังไม่จบ” มีแค้นไม่ชำระไม่ใช่สุภาพบุรุษ แค้นที่ทิ้งไว้ชั่วข้ามคืนยิ่งยอมไม่ได้ ต้องชำระ
เอาล่ะ ทำการปกป้องอีกแล้ว!
เจ้าโสมน้อยเอ่ย “ท่านว่าเหตุใดคนผู้นี้จึงได้ทำเรื่องโหดเหี้ยมเช่นนี้ ไม่เพียงแต่ฆ่าเด็กทารก แม้แต่กักขังดวงวิญญาณ เพียงแค่ใช้ยันต์ก็ไม่เท่าไหร่ แต่กลับวางค่ายอาคมฝังยันต์ที่หลุมศพนั่นด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้คนทำลายหลุมศพ นี่มันความแค้นแบบใดกัน เจ้าแผนการเกินไปแล้วกระมัง”
“วางค่ายอาคมฝังยันต์ไว้ที่หลุมศพ เมื่อมีคนแตะต้องค่ายอาคม ประการแรกสามารถเตือนและสั่งสอนผู้ที่ขุดหลุมศพ ซ้ำยังทำลายหลุมศพได้ ประการที่สองยังเป็นการปกป้องสิ่งที่อยู่ในหลุมศพไม่ให้เปลี่ยนแปลง สามารถขังผีจองจำวิญญาณต่อไปได้ ประการที่สาม ย่อมเป็นการแจ้งข่าวสารอย่างหนึ่ง เมื่อมีคนแตะต้องสุสาน อาจหมายความว่าเรื่องชั่วร้ายได้ถูกเปิดเผยออกมาแล้ว จะได้เตรียมพร้อมแต่เนิ่นๆ” ฉินหลิวซีคาดเดาเจตนาของอีกฝ่าย
เจ้าโสมน้อยถอยหายใจด้วยความเวทนาพลางเอ่ย “เกรงว่าคนผู้นี้จะมีกลอุบายร้อยเล่มเกวียน”
มีความเยือกเย็นผ่านเข้ามาในดวงตาของฉินหลิวซี ไม่ว่าจะมีกลอุบายกี่เล่มเกวียน อาศัยจังหวะที่เขาอ่อนแอ เอาชีวิตเขา ทุบตีเขาให้ตาย!
เพียงแต่ว่าเมื่อทารกผีพาพวกนางสองสามคนไปที่จวนหลังใหญ่แห่งหนึ่ง ฉินหลิวซีก็เลิกคิ้ว
ดีจริงๆ นักพรตมารที่อยู่เบื้องหลังกลับอยู่ที่จวนของซืออี๋จวิ้นจู่อย่างนั้นหรือ
ซืออี๋จวิ้นจู่ผู้นั้น รอบตัวมีผู้ทำมนต์ดำ และตอนนี้ยังมีผู้ที่เห็นได้ชัดว่าเป็นนักพรตมารอยู่ในจวนของนาง นางคิดจะทำอะไร
ทันใดนั้นฉินหลิวซีก็นึกถึงคนผู้หนึ่ง คนแซ่ซ่งผู้นั้นที่มุ่งเป้าไปที่ถงเมี่ยวเอ๋อร์ทุกเรื่อง ครรภ์หายนะในท้องของนาง เกรงว่านักพรตมารผู้นี้เตรียมที่จะเอาไว้ใช้ประโยชน์
นี่คือจังหวะกัดกันเอง บาดเจ็บทั้งคู่!
ในลานที่มีกำแพงสูง นักพรตเต๋าวัยกลางคนนั่งขัดสมาธิกำหนดลมหายใจอยู่บนเบาะ จากนั้นดวงจิตของเขาที่ดูไม่มั่นคงนัก ยิ่งระดมปราณแท้ในร่างกายมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งรู้สึกแน่นหน้าอกมากขึ้นเท่านั้น ชี่[1]และเลือดพุ่งกระฉูด ใบหน้าแดงก่ำ
มีความรู้สึกถึงลางร้าย
ในขณะเดียวกัน คำถามที่มาอย่างกะทันหันด้วยน้ำเสียงคมชัดดังขึ้นที่หน้าประตูทำให้พลังภายในร่างกายของเขาหยุดชะงักและไหลย้อนกลับ หัวใจเจ็บปวดอย่างรุนแรง เลือดสีดำไหลออกจากมุมปากอีกครั้ง ลมหายใจของเขาซบเซาลงเรื่อยๆ
นักพรตอี้หยางลืมตาขึ้น มองดูสตรีที่หน้าประตูที่สวมชุดสง่างามปักปิ่นสีแดง ใบหน้างดงามดูโดดเด่น มีร่องรอยความหงุดหงิดผ่านเข้ามาในดวงตา
“ท่านนักพรต ท่านเป็นอะไรหรือ” ซืออี๋จวิ้นจู่มองนักพรตอี้หยางที่ดูแก่ขึ้นมากกว่าสิบปีด้วยความตกใจ นี่เกรงว่าคงใกล้ตายแล้วกระมัง
นักพรตอี้หยางกล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “ข้าเพียงแค่ถูกผลสะท้อนกลับ จวิ้นจู่มาที่นี่ด้วยเหตุใด”
“ผลสะท้อนกลับ ฝีมือใครกัน” ซืออี๋จวิ้นจู่ถามด้วยสีหน้ามืดครึ้มว่า “คงไม่ได้เกิดเรื่องขึ้นกับเจ้าหรอกกระมัง ลูกศิษย์ของเจ้าผู้นั้นตายไปแล้ว เจ้าคงไม่ได้ไร้ประโยชน์เหมือนนางหรอกกระมัง เรื่องที่นางช่วยข้าก่อนหน้านี้ จะปล่อยให้พังกลางคันไม่ได้นะ”
สีหน้าของนักพรตอี้หยางไม่น่าดูเล็กน้อย กล่าวด้วยใบหน้าบูดบึ้งว่า “หากจวิ้นจู่ไม่เชื่อใจข้า ก็สามารถไปเลือกจ้างผู้อื่นได้”
เขาทำท่าจะลุกขึ้นยืน
ซืออี๋จวิ้นจู่รีบกล่าวขอโทษด้วยรอยยิ้ม “ข้าไม่ได้หมายความเช่นนั้น ข้าหมายถึง ไม่ง่ายเลยกว่าเจ้าจะมีลูกศิษย์ที่มีความสามารถในการใช้พิษได้ ตอนนี้นางตายแล้ว อย่างไรเสียเจ้าก็ต้องแก้แค้นให้นางกระมัง ข้าได้ยินมาว่าบ้านรองของตระกูลจั่วกลับมาแล้ว ก่อนหน้านี้ข้าได้ยินมาว่าพวกเขาต้องการลงไปทางใต้ไปที่อารามชิงผิงเพื่อรักษาบุตรสาวที่แต่งออกไปแล้วผู้นั้น ตอนนี้ไปได้ครึ่งทางก็กลับมาแล้ว คงเป็นเพราะพวกเขาได้พบกับไต้ซือผู้มีความสามารถเก่งกาจ จึงได้ทำลายกู่ดูดวิญญาณนั่นแล้ว”
เมื่อพูดถึงตรงนี้ ดวงตาของนางก็ดูน่ากลัว สีหน้าดูน่าเกลียดเป็นอย่างมาก
บุตรของจั่วจงจวิ้นกับนางแพศยาลิ่นผู้นั้น เป็นนางที่ให้คนทำพิษใส่ เดิมทีกำลังรอข่าวดีว่าแม่หนูน้อยผู้นั้นจะเสียชีวิตก่อนวัยอันควร แต่กลับคิดไม่ถึงว่าผู้ที่เสียชีวิตจะเป็นหญิงผู้ใช้พิษที่ถูกผลสะท้อนกลับอย่างรุนแรง
ทันทีที่หญิงผู้ใช้พิษผู้นั้นเสียชีวิต ทางด้านของนางก็ได้ส่งคนไปเชิญอาจารย์ของหญิงผู้ใช้พิษผู้นั้น ซึ่งก็คือนักพรตอี้หยางที่อยู่ตรงหน้านี้ และได้สืบข่าวทางด้านครอบครัวของจั่วจงจวิ้น แม้ว่าพวกเขาจะเก็บเป็นความลับมิดชิด แต่นางก็ได้สืบทุกวิถีทางจนรู้ว่าผู้ที่ช่วยพวกเขาก็เป็นไต้ซือท่านหนึ่ง เพียงแต่คนผู้นั้นใช่คนของอารามชิงผิงที่พวกเขาตามหาหรือไม่ก็ยังไม่รู้
เรื่องนี้ก็ไม่โทษซืออี๋จวิ้นจู่ที่ไม่สามารถไปสืบมาได้ทั้งหมด ประการแรกเป็นเพราะตระกูลจั่วปิดเป็นความลับอย่างแน่นหนา และไม่ได้เผยแพร่ข่าวที่ฉินหลิวซีมาเมืองหลวง ประการที่สอง ฉินหลิวซีเองก็เก็บตัว ยังคงมีคนไม่รู้ว่านางมาแล้ว
แต่เรื่องวันนี้ที่นางตอบโต้กลับจ้าวอ๋อง เกรงว่าจะมีผู้ที่สอดรู้สอดเห็นแพร่กระจายข่าวออกไปแล้ว
เมื่อแผนการล้มเหลว ซืออี๋จวิ้นจู่ย่อมไม่พอใจ จึงได้ใช้เงินจำนวนมาก ซ้ำยังหลอกล่อว่าเพื่อเป็นการแก้แค้นให้กับหญิงผู้ใช้พิษผู้นั้น ให้นักพรตอี้หยางจึงจัดการกับคนแซ่จั่วอีกครั้ง
คิดไม่ถึงว่าบ่าวรับใช้จะมารายงานว่าดูเหมือนนักพรตอี้หยางจะมีปัญหาใหญ่ นางจึงได้รีบมาด้วยความร้อนใจ ทันทีที่เห็นก็รู้สึกหวั่นใจเป็นอย่างมาก
ท่าทางกำลังจะตายเช่นนี้ ไม่ต้องพูดถึงเรื่องการต่อกรกับคนที่จั่วจงจวิ้นไปขอร้องให้ช่วย เรื่องของตัวเอง เขายังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะแก้ไขได้หรือไม่ ในเมื่อได้ปูทางทุกอย่างไว้แล้ว อย่าทำให้นางต้องเสียเรื่องเมื่อใกล้จะประสบความสำเร็จ!
ซืออี๋จวิ้นจู่มีแผนการ ไหนเลยนักพรตอี้หยางจะไม่มี
เขาลงมาจากภูเขาเข้าสู่เมืองก็เพื่อลูกศิษย์ แต่ก่อนที่จะหาตัวคนที่ทำร้ายลูกศิษย์พบ เขาก็ถูกผลสะท้อนกลับ และผลสะท้อนกลับนี้ ยังเป็นผลมาจากอาคมที่ร่ายไว้เมื่อหลายปีก่อนถูกทำลาย
ผู้ที่ต่อสู้อาคมกับเขามีสองคน แต่กลับเป็นสายเดียวกัน หากไม่ใช่ลูกศิษย์สำนักเดียวกัน ก็เป็นอาจารย์กับศิษย์คู่หนึ่ง
ยิ่งไปกว่านั้น วิชาเต๋าของทั้งสองคนก็ไม่เลวเลย!
นักพรตอี้หยางแอบรู้สึกถึงลางร้าย เมื่อเห็นท่าทางสงสัยและจอมแผนการของซืออี๋จวิ้นจู่ผู้นั้นก็ยิ่งรู้สึกไม่พอใจ ในใจคิดว่าสตรีชั่วร้ายโง่เขลาผู้นี้มีบาปทั้งตัว พลังความชั่วร้ายสีดำไหลทะลักออกมา ก็ยังกล้ามาสงสัยเขาอีกหรือ หากยังอยู่ที่นี่ต่อไป ทำสิ่งสกปรกแทนนาง เกรงว่าตัวเองจะชะตาขาดอยู่ที่นี่ มีจุดจบเช่นเดียวกันกับหญิงผู้ใช้พิษผู้นั้น
สิ่งที่สำคัญก็คือ ลางสังหรณ์ที่ไม่ดีในใจ ทำให้เขารู้สึกไม่สบายเล็กน้อย
ราวกับมีบางอย่างกำลังมุ่งมาที่เขา ต้องการบดขยี้เขาให้ตาย
ตราบใดที่พื้นฐานยังคงอยู่ก็ไม่กลัวว่าในอนาคตจะล้มเหลว ตอนนี้ถูกผลสะท้อนกลับอย่างรุนแรง เขาต้องกลับไปพักฟื้นที่ถ้ำก่อนจะดีกว่า ส่วนเรื่องเงิน ตราบใดที่เขายังมีความสามารถอยู่ ไหนเลยจะหาไม่ได้ แต่หากไม่มีชีวิตแล้ว เช่นนั้นก็จบสิ้นแล้ว
เมื่อคิดถึงสิ่งนี้ นักพรตอี้หยางก็ลุกขึ้นอย่างแน่วแน่ เอ่ยว่า “ความแค้นของลูกศิษย์ข้า ข้าได้เบาะแสแล้ว กำลังจะเตรียมออกไปคิดบัญชีกับเขา จวิ้นจู่เชิญตามสบาย”
“ไปตอนนี้หรือ ท่าทางของเจ้าในตอนนี้ไม่ค่อยเหมาะสมกระมัง” ซืออี๋จวิ้นจู่ไม่ได้สังเกตเห็นเลยแม้แต่นิดว่านักพรตอี้หยางต้องการแทงข้างหลังนางแล้วหนีไป เพียงแต่ขมวดคิ้วแน่น ท่าทางเช่นนี้จะไปแก้แค้นหรือ
จะไปตายเสียมากกว่า!
[1] ชี่ หรือลมปราณ หมายถึง ไหลเวียนอยู่ในร่างกายเราทุกคน เสมือนเป็นพลังงาน ของชีวิตที่ใช้ขับเคลื่อนในชีวิตประจาวัน สารขนาดเล็กในร่างกายที่มีการเคลื่อนไหวตลอดเวลา