คุณหนูใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า - ตอนที่ 1021 อย่าตายอย่างอัดอั้นเกินไป!
ตอนที่ 1021 อย่าตายอย่างอัดอั้นเกินไป!
………………..
เมื่อได้ฟังสิ่งที่นักพรตอี้หยางกล่าว ฉินหลิวซีและคนอื่นๆ ก็สีหน้าเคร่งขรึม นี่มันโหดร้ายเกินไปแล้ว
เลือดหล่อเลี้ยงหัวใจเด็กทั้งห้าธาตุ นั่นหมายความว่าได้ทำร้ายเด็กไปแล้วหลายคน เมื่อทารกในครรภ์ก่อตัวขึ้นมา ก็จะถูกผ่าเพื่อเอาเลือด เป็นการพรากชีวิตไป
เจ้าโสมน้อยตะโกนด้วยความโกรธว่า “เหตุใดต้องทำมากมายขนาดนี้ หากเป็นอย่างที่เจ้าพูด ล้วนเป็นห้าธาตุแล้ว ก็ดื่มเลือดของทารกแล้วตั้งครรภ์เองก็สิ้นเรื่อง ยังจะต้องฝังครรภ์หยินอะไรอีก ก็ต้องเอาเลือดมาดื่ม ไหนเลยยังต้องผ่าท้องเอาเลือดออกมาดื่มอีก นี่ไม่ใช่การทำเรื่องไร้ประโยชน์หรือ”
นักพรตอี้หยางมองสำรวจเจ้าโสมน้อย สัมผัสได้ถึงพลังวิญญาณที่มาจากเด็กที่โตได้เพียงครึ่งเดียวผู้นี้ อดเคลื่อนตัวเข้าหาเขาไม่ได้ หอมมาก อยากดูดซับ
เจ้าโสมน้อยระมัดระวังเป็นอย่างมาก หลบไปอยู่ข้างกายฉินหลิวซี “เจ้าคิดจะทำอะไร อย่ามาแตะต้องข้า!”
คนอัปลักษณ์ผู้นี้คงไม่ได้มีสายตาเฉียบแหลม ค้นพบว่าข้าเป็นปีศาจโสมพันปีหรอกกระมัง
นักพรตอี้หยางดวงตาเป็นประกาย กล่าวว่า “พวกเจ้าก็รู้ว่าวิธีนี้ชั่วร้าย และนับว่าฝ่าฝืนกฎสวรรค์ เช่นนั้นย่อมต้องปกปิด ทารกในครรภ์ที่เกิดจากเลือดของเด็กทั้งห้าธาตุในร่างกายนาง เมื่อกรรมตามสนอง ร่างกายของแม่ก็จะได้รับกรรมด้วย หลังจากที่ทารกในครรภ์หยินถูกผ่าออก เอาแก่นแท้ของเลือดและธาตุทั้งห้ามาดื่ม เช่นนั้นผู้ที่ให้กำเนิดบุตร ย่อมไม่ต้องรับผลกรรมมากเกินไป”
“ผิดแล้ว เมื่อนางดื่มเข้าไป ก็จะแบกรับผลกรรมในทันที” ฉินหลิวซีเอ่ยพลางแสยะยิ้ม
นักพรตอี้หยางเงียบเป็นเวลานาน กล่าวว่า “เป็นเช่นนั้นไม่ผิด แต่ก็จะไม่มากไปกว่าแม่ที่ตั้งครรภ์หยิน อย่างไรเสีย เลือดหล่อเลี้ยงหัวใจของเด็กทั้งห้าธาตุ เป็นการเอาแก่นแท้ของเลือดและใช้ชีวิตทั้งห้า ล้วนเป็นแม่ที่ตั้งครรภ์หยินเป็นคนแบกรับ และเมื่อเอาเลือดจากครรภ์หยิน แม้ว่าจะต้องรับผลกรรม ก็เป็นเพียงดวงวิญญาณเด็กที่ไม่เป็นรูปเป็นร่างเท่านั้น ไหนเลยจะถึงแก่ชีวิต นอกจากนี้ การปลูกฝังครรภ์หยินก็เหมือนการปลูกเมล็ดพืช เมื่อปลูกฝังสำเร็จ ก็จะสามารถให้กำเนิดบุตรชายผู้สูงศักดิ์ได้”
ทุกคนต่างพากันเงียบ
เถิงเจาเอ่ยอย่างเย็นชาว่า “ในเมื่อเจ้ามีตบะ เส้นทางคุณธรรมมีไม่เดิน กลับเดินตามเส้นทางที่ชั่วร้าย สิ่งที่ทำล้วนเป็นอันตรายต่อธรรมชาติ เจ้าฝึกบำเพ็ญไปโดยเปล่าประโยชน์”
นักพรตอี้หยางยิ้มเย้ยหยัน “สหายเต๋าน้อย เจ้าคิดว่าในโลกนี้มีเพียงขาวดำหรือ สีเทาก็มีเช่นกัน”
ฉินหลิวซีกลับนึกบางเรื่องขึ้นมาได้ ถามว่า “นางรู้วิธีการชั่วร้ายเช่นนี้ได้อย่างไร”
“นี่เป็นชิ้นส่วนตำราที่ได้รับมาจากจวนซิ่นหยางอ๋อง ข้าก็ไม่รู้ว่าพวกเขาไปเอามาจากไหน” นักพรตอี้หยางเอ่ยต่อไปว่า “การที่อาจารย์และลูกศิษย์อย่างพวกเราได้อาศัยอยู่ในจวนจวิ้นจู่ ก็เป็นเพียงเพราะว่าพวกเขาใช้เงินจำนวนมากมาจ้างให้พวกเราทำสิ่งต่างๆ ก็เท่านั้น”
“ก็แค่สิ่งยั่วยวนภายนอกเท่านั้น เจ้าก็เชื่อฟังแล้ว? ซ้ำยังทำครรภ์หยินเพื่อให้กำเนิดบุตรชายผู้สูงศักดิ์อะไรนั่นอีก ถุ้ย สมควรแล้วที่นักพรตเฒ่าต่ำช้าอย่างเจ้าได้รับกรรมตามสนอง! ทำอะไรไม่ทำ ดันไปทำวิชามารที่โหดเหี้ยมเช่นนี้ โชคดีที่เจ้าไม่มีทายาทลูกหลานสืบทอด มิเช่นนั้นจะนำหายนะไปสู่พวกเขา” ปีศาจโสมน้อยถ่มน้ำลาย
นักพรตอี้หยางกล่าวด้วยใบหน้าเย็นชาว่า “ผู้ที่บำเพ็ญเต๋าก็อยู่ในโลกมนุษย์เช่นกัน หากต้องการชาดแดงและกระดาษสีเหลืองดีๆ เหล่านั้น มีสิ่งไหนบ้างที่ไม่ต้องใช้เงินซื้อ ไหนเลยจะตกลงมาจากบนฟ้า ชาดแดงชั้นดีต้องใช้เงินจำนวนเท่าไหร่ พวกเจ้าไม่รู้หรือ อีกอย่าง หากต้องการหาวัตถุดิบยาชั้นยอดเพื่อปรุงยาลูกกลอน นอกเหนือจากได้รับโอกาสอันดีในการค้นหาสมบัติในภูเขาและป่าไม้แล้ว ก็มีเพียงซื้อได้ด้วยเงินเท่านั้น ข้าไม่เชื่อว่าพวกเจ้านั้นสูงส่ง ปัดเป่าภัยพิบัติทำนายดวงชะตาชีวิตให้คนโดยไม่เอาเงิน!”
ถุ้ย คิดว่าตัวเองไม่ได้มีข้อบกพร่องเช่นเดียวกับผู้อื่นหรือ เขาไม่เชื่อหรอกว่าพวกเขาไปที่จวนจงฉินปั๋วโดยมีจุดประสงค์ปราบสิ่งชั่วร้ายปกป้องเต๋าทำความดีโดยไม่รับเงิน
ดีจริงๆ พวกเขาถูกโจมตีเข้าเสียแล้ว!
เจ้าโสมน้อยสีหน้าไม่พอใจ “พวกเราไม่ได้เหมือนกับเจ้า พวกเราเป็นแสงสว่างแห่งเส้นทางอันชอบธรรม! ดำรงอยู่เพื่อปราบปีศาจอย่างเจ้าโดยเฉพาะ!”
ฉินหลิวซีกับเถิงเจา “…”
แม้ว่าพวกเขาจะชมตัวเองเป็น แต่ในสถานการณ์เช่นนี้ อย่าชมเลยจะดีกว่า!
นักพรตอี้หยางหัวเราะด้วยความโกรธ ก่อนจะเอ่ยขึ้น “สิ่งที่ข้าควรพูดก็พูดไปแล้ว ขอถามแสงสว่างแห่งเส้นทางคุณธรรมสักหน่อยว่าข้าไปได้แล้วกระมัง ผู้ชอบธรรมอย่างพวกเจ้าคงไม่กลับคำ บอกว่าจะปล่อยข้าไปแล้วผิดคำพูดหรอกกระมัง”
“บุตรชายผู้สูงศักดิ์ในครรภ์หยินผู้นั้นอยู่ในท้องของนางสนมในจวนของจวิ้นจู่หรือ” ฉินหลิวซีกล่าวว่า “ราชบุตรเขยผู้นั้นได้รับความโปรดปรานจากจวิ้นจู่ขนาดนี้ แต่กลับใช้สายเลือดของเขามาปลูกฝังบุตรผู้สูงศักดิ์?”
นักพรตอี้หยางยิ้มใบหน้านิ่งพลางเอ่ย “คนอย่างเขาฝันไปเถอะ สายเลือดของบุตรชายผู้สูงศักดิ์ คนอย่างเขาก็คู่ควรด้วยหรือ”
ฉินหลิวซีหรี่ตาลงครึ่งหนึ่ง
“ในเมื่อเป็นชิ้นส่วนตำราจากจวนซิ่นหยางอ๋อง เจ้าคิดว่ามีเพียงจวิ้นจู่ผู้นั้นคนเดียวที่รู้เรื่องนี้หรือ” นักพรตอี้หยางเอ่ยเสียงเรียบว่า “จวนซิ่นหยางอ๋องใช่ว่าจะไม่มีลูกสะใภ้ แต่ที่จวิ้นจู่ได้ให้กำเนิดบุตรชายผู้สูงศักดิ์คนนี้ด้วยตัวเอง เป็นเพราะว่าเดิมทีตัวนางเองมีชะตาชีวิตที่สูงส่งเป็นอย่างมาก”
ฉินหลิวซีกล่าวอย่างเย็นชาว่า “เสียดายที่เป็นคนเลว สุดท้ายก็จะแบกรับชะตากรรมนี้ไม่ไหวจนต้องรับผลของมัน”
นักพรตอี้หยางมองไปที่นาง ในใจคิดว่าที่ซืออี๋จวิ้นจู่จะต้องโชคร้ายในไม่ช้า หรือว่าจะเกี่ยวข้องกับคนผู้นี้?
“ข้าไปได้แล้วกระมัง”
ฉินหลิวซีถอยหลังไปสองสามก้าว เอ่ย “ตามแต่เจ้า” ก่อนที่นักพรตอี้หยางจะตะเกียดตะกายลุกขึ้น นางก็เอ่ยอีกว่า “บุญคุณต้องทดแทน แค้นต้องชำระ เจ้าลงมือด้วยตัวเอง อย่าให้ติดค้างใดๆ”
นักพรตอี้หยางตกตะลึงเล็กน้อย ไม่ค่อยเข้าใจว่านางกำลังพูดอยู่กับใคร จนกระทั่งทารกผีปรากฎตัว สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความตกใจกลัว เอ่ยด้วยโมโหว่า “เจ้ากลับคำ!”
ฉินหลิวซีกางมือออก “ข้าเปล่านะ อย่าพูดจาเหลวไหล! ข้าบอกแล้วว่าจะปล่อยเจ้าไป แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะปล่อยเจ้าไปด้วยเช่นกัน!”
นักพรตอี้หยาง “…”
นี่มันต่างกันตรงไหน นางกำลังเล่นลิ้น!
เจ้าโสมน้อยมองไปยังฉินหลิวซี หากพูดถึงเรื่องความต่ำช้า เช่นนั้นเจ้าก็ต่ำช้า!
ทารกผีกระโจนเข้าใส่นักพรตอี้หยาง เขาส่งเสียงร้องโหยหวน ลมหายใจค่อยๆ อ่อนแรงลง เมื่อเหลือเพียงสองลมหายใจสุดท้าย ฉินหลิวซีจึงให้ทารกผีหยุดลงมือ
“แม้ว่านี่จะเป็นผลกรรม แต่ก็อย่าสร้างบาปฆ่าสัตว์ตัดชีวิต อย่างไรเสียอากาศหนาวเย็นขนาดนี้ อีกทั้งเขาก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสเป็นอย่างมาก จะต้องแข็งตายไม่ช้าก็เร็ว พวกเรารอเขาหมดลมหายใจก็พอ!” ฉินหลิวซีนั่งยองๆ อยู่ข้างหลุม กล่าวกับนักพรตจี้หยางว่า “เจ้าวางใจเถิด เมื่อเจ้าตายแล้ว พวกเราจะขุดดินฝังเจ้า ไม่ถึงขั้นต้องปล่อยทิ้งไว้ในที่ทุรกันดาร ดวงวิญญาณของเจ้า ข้าจะให้ยมทูตที่รู้จักพาเจ้าเข้าสู่ประตูวิญญาณ”
เจ้าโสมน้อยส่ายหน้าด้วยความเวทนา “เจ้าได้สั่งสมคุณธรรมอันยิ่งใหญ่ไว้เมื่อชาติที่แล้ว ก่อนตายยังมีพวกเราคอยอยู่กับเจ้า”
เถิงเจา “เขาได้เปรียบแล้ว!”
นักพรตอี้หยางโมโห ข้าต้องขอบคุณพวกเจ้าเป็นอย่างมาก!
รังแกกันมาเกินไป รังแกกันมากเกินไปแล้ว!
เขาถูกพวกเขาทำให้โกรธจนหายใจไม่ออก ดวงตาเบิกกว้าง ขาทั้งสองข้างกระตุก หมดลมหายใจสิ้นชีวิตลง
ดวงวิญญาณของนักพรตอี้หยางลอยออกมาจากร่างอย่างรวดเร็ว มองดูร่างของตัวเองอย่างเหม่อลอย เกรงว่าในบรรดาลัทธิเต๋าทั้งหมด เขาจะเป็นนักพรตที่ตายอย่างอัดอั้นตันใจมากที่สุดกระมัง
ถูกทำให้โกรธจนตาย นี่มันน่าโมโหเกินไปแล้ว!
“ข้าขอสู้ตายกับพวกเจ้า!” นักพรตอี้หยางพุ่งเข้าใส่ฉินหลิวซี
ฉินหลิวซีเอาขวดหยกเก็บวิญญาณอีกขวดออกมาใส่ดวงวิญญาณของเขาเข้าไป จากนั้นก็เอ่ยกับทั้งสองคนว่า “เอาล่ะ ฝังได้เลย!”