คุณหนูใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า - ตอนที่ 1022 เตรียมเมล็ดแตงโมไว้นั่งดูคนโชคร้าย
ตอนที่ 1022 เตรียมเมล็ดแตงโมไว้นั่งดูคนโชคร้าย
………………..
เมื่อกลับเมือง เจ้าโสมน้อยมีบางอย่างที่ไม่เข้าใจ สตรีผู้นี้จะคลอดบุตรก็คลอดไปสิ เหตุใดจึงต้องใช้วิธีผิดศีลธรรมร้อยแปดพันเก้าในการวางแผนที่จะมีบุตรชาย
เดิมทีเถิงเจาก็มาจากตระกูลชนชั้นสูง แม้ว่าก่อนที่เขาจะเข้าสู่ลัทธิเต๋าจะมีนิสัยปิดกั้นตัวเอง แต่กลับเป็นคนฉลาดมาก ซ้ำยังเคยอาศัยอยู่ในจวนใหญ่ เนื่องจากมีบุคลิกปิดตัวไม่สนใจใคร เวลาผู้อื่นพูดคุยกันจึงไม่ได้หลีกเลี่ยงเขามากนัก อย่างไรเสีย แม้ว่าเขาจะได้ยินก็จะไม่มีทางไปบอกใคร ทำให้บางเรื่องก็พอรู้อยู่บ้าง
หลังจากที่เข้าสู่ลัทธิเต๋าก็ได้เรียนรู้วิชาทุกประเภท รู้ว่าแปดอักษรเวลาตกฟากของคนคนหนึ่งจะกำหนดชะตากรรมของเขา บางคนสี่เสาแปดอักษรไม่ดี เกิดมาพร้อมกับความเสื่อมทรามหรือหายนะ โดดเดี่ยว คนเช่นนี้จะไม่เป็นที่พึงใจใคร ตัวเองก็จะมีชีวิตที่น่าสังเวช
แต่บางคนเกิดมาพร้อมกับชะตาชีวิตที่ดี ย่อมเป็นไปอย่างราบรื่น หากบรรพบุรุษสะสมบุญบารมีของบรรพบุรุษเก่า เช่นนั้นก็จะยิ่งเจริญรุ่งเรืองและราบรื่น ไม่มีเรื่องให้ต้องกังวล กระทั่งสามารถเปลี่ยนโชคร้ายให้เป็นโชคดี ไม่มีอะไรให้กังวลตลอดชีวิต
นอกจากนี้ยังมีคนที่มีชะตาชีวิตสูงส่งตั้งแต่เกิด หากสตรีเกิดมาพร้อมกับดวงหงส์ เช่นนั้นก็จะเป็นความสูงส่งที่ไม่อาจบรรยายได้อย่างที่นักบวชพากันกล่าว เป็นมารดาของใต้หล้า
และบุตรชายผู้สูงศักดิ์ อะไรคือคำว่าสูงศักดิ์ ย่อมเป็นความสูงศักดิ์ที่ล้ำค่าเหนือสิ่งอื่นใด
“…หากวิชานั้นเป็นไปได้จริงๆ ธาตุทั้งห้าในดวงชะตาสมบูรณ์ ส่งเสริมซึ่งกันและกัน พลังงานและโชคลาภที่เกิดขึ้นย่อมไม่มีที่สิ้นสุด ไม่ว่าจะกระทำการใด ย่อมราบรื่นดั่งหวัง” เถิงเจากล่าวอธิบายว่า “ค่ายอาคมรวบรวมวิญญาณที่อาจารย์วางไว้ในวันปกตินั้นจำเป็นต้องมีธาตุทั้งห้าจึงจะสามารถดึงดูดพลังวิญญาณมาได้ เมื่อไหลวนอยู่ในค่ายอาคมไม่กระจัดกระจายไปไหน เจ้าลองคิดดู การที่มีบุตรชายที่ชะตาชีวิตเช่นนี้นั้นยากแค่ไหน การปล่อยให้มีครรภ์ตามธรรมชาติ น้อยนักที่จะมีธาตุทั้งห้าที่สมบูรณ์ส่งเสริมซึ่งกันและกันเช่นนี้”
การให้กำเนิดชีวิต เดิมทีก็เป็นเรื่องที่ปล่อยไปตามธรรมชาติ แม้ว่าบางคนก็มองหาไต้ซือหรือผู้ที่รู้วิชาโหราศาสตร์ธาตุทั้งห้าให้ทำนายฤกษ์คลอดบุตร แต่ก็ไม่สามารถให้กำเนิดบุตรที่เกิดมาพร้อมกับโชคชะตาที่ดีตามการคำนวณทุกอย่างได้อย่างแม่นยำ อย่างไรเสียชะตาชีวิตอันสูงส่งสามารถคำนวณได้ตามฤกษ์ในการคลอดบุตร แต่ในกระบวนการคลอด คนเราย่อมไม่สามารถควบคุมได้เสมอไป หากร่างกายของคนเป็นแม่มีอุปสรรค คลอดบุตรยากจนทำให้เสียฤกษ์ยามขึ้นมาล่ะ
ดังนั้นการคลอดตามกำหนดการทำนายว่าจะมีชะตาชีวิตที่ธาตุทั้งห้าครบสมบูรณ์และส่งเสริมซึ่งกันและกันนั้นมีความเป็นไปได้เพียงหนึ่งในหมื่นเท่านั้น นอกจากว่าจะทำอย่างที่นักพรตอี้หยางกล่าว ใช้วิชามาร
แต่การใช้วิชามารเช่นนี้ จะสามารถให้กำเนิดบุตรชายผู้สูงศักดิ์ได้จริงๆ หรือ
เถิงเจาเองก็เรียนวิชาเต๋าเช่นกัน ก็ยังไม่กล้าแน่ใจ โบราณได้กล่าวไว้ว่าแม้ว่าจะวางแผนการมาอย่างดี แต่แผนการก็ไม่สามารถตามทันการเปลี่ยนแปลงได้
ฉินหลิวซีพยักหน้าด้วยความชื่นชม “เจาเจาพูดถูก หลายปีมานี้อาจารย์ไม่อยู่ เจ้าเองก็ไม่ได้แอบขี้เกียจ ดีมาก”
เถิงเจารู้สึกมีความสุขเล็กน้อยในใจ แต่ใบหน้ายังคงเก็บอาการไว้ เอ่ย “ไม่เท่ากับอาจารย์หรอกขอรับ”
เจ้าโสมน้อยขมวดคิ้วพลางกล่าวว่า “เช่นนั้นจวิ้นจู่ผู้นี้ตั้งใจวางแผนที่จะมีบุตรชายเพียงนี้ พวกเขาคิดจะทำอะไรกันหรือ”
ฉินหลิวซีเอนกายพิงพนังรถด้วยความเกียจคร้าน กล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “จะเป็นอะไรไปได้อีก กลัวว่าใต้หล้านี้จะสงบสุขกระมัง”
ซิ่นหยางอ๋องเป็นอ๋องต่างแซ่ โลกนี้กว้างใหญ่ไพศาล คิดที่จะแอบก่อเรื่องในพื้นที่ประจำการของตัวเอง ก็ใช่ว่าจะไม่ได้
ให้กำเนิดบุตรชายผู้สูงศักดิ์ที่มีโชคลาภไม่ขาดสาย หรือว่าคิดที่จะยืมกระแสลมนี้มาชักธงให้เกิดเรื่อง หาคนมาเป็นฮ่องเต้งั้นหรือ
ฉินหลิวซีคิดว่าเศษตำราชั่วร้ายเกี่ยวกับการให้กำเนิดบุตรชายผู้สูงศักดิ์ในจวนซิ่นหยางอ๋องนั้นมาจากไหนกัน ใครเป็นคนให้ ใครเป็นคนยุยง มิเช่นนั้นสงบสุขมาตั้งหลายปี เหตุใดจึงได้คิดที่จะก่อเรื่องขึ้นมา
หากซิ่นหยางอ๋องก็ยื่นมือเข้าไปแทรกแซง ในภายภาคหน้าแม่น้ำแห่งนี้เกรงว่าจะยิ่งขุ่นและวุ่นวายมากขึ้น…
ฉินหลิวซียืดตัวตรงเล็กน้อย ดูเหมือนว่าผู้ที่แอบคิดจะแย่งชิงบัลลังก์อันมีค่านี้ ไม่ได้มีเพียงท่านอ๋องในราชสำนักเท่านั้น ยังรวมถึงอ๋องคนอื่นๆ อีกด้วย
เช่นนั้นซิ่นหยางอ๋อง รอบตัวมีคนมีความสามารถอย่างนั้นหรือ
เถิงเจาทำลายความคิดของฉินหลิวซีด้วยการเอ่ยว่า “อาจารย์ เช่นนั้นเรื่องในจวนของจวิ้นจู่ ครรภ์หยินอะไรนั่น จะทำอย่างไร”
ฉินหลิวซีเอนกายอีกครั้ง “สุนัขกัดกันเอง เจ็บทั้งคู่ ในจวนนั้นไม่มีคนดีสักคน ปล่อยให้พวกเขาตีกันเองเถิด ให้กำเนิดบุตรชายผู้สูงศักดิ์ ไหนเลยจะง่ายเช่นนั้น ซืออี๋จวิ้นจู่กล้าทำสิ่งชั่วร้ายเช่นนี้ เท่ากับเดินเข้าไปในกับดัก รนหาที่ตายเอง”
เช่นนั้นครรภ์หยินนั้นทำขึ้นมาได้อย่างไร ตามที่นักพรตอี้หยางกล่าวคือ ใช้เลือดของเด็กทั้งห้าคน นั่นล้วนเป็นบาปชีวิต ตอนนี้พวกเขาไม่ได้รับความช่วยเหลือจากนักพรตที่เชี่ยวชาญทางด้านนี้ เมื่อผลกรรมสะท้อนกลับ เกรงว่าพวกนางจะไม่รอด
ในความเป็นจริง ก่อนหน้านี้นางได้มองดูรอบนอกจวนจวิ้นจู่มาแล้ว ที่นั่นมีพลังงานโชคร้ายปกคลุมเรือนหลัก จะเกิดโชคร้ายในเร็วๆ นี้ ทุกอย่างติดขัด
ดังนั้น จะให้เข้าไปยุ่งคงไม่สามารถทำได้ นางทำได้เพียงเตรียมเมล็ดแตงโมไว้ชมละคร
เมื่อเถิงเจาได้ฟังดังนั้นก็รู้ว่านางไม่คิดสนใจ จึงไม่ได้กล่าวอะไรอีก เพียงแค่นั่งขัดสมาธิทำสมาธิอยู่ในรถ
ซืออี๋จวิ้นจู่ในเวลานี้กำลังโกรธจัด เนื่องจากคนขับรถที่นางส่งออกไปกลับมารายงานว่านักพรตอี้หยางหายตัวไป ตอนนี้หาตัวไม่พบ แล้วก็ไม่รู้ว่าไปที่ไหน
ซืออี๋จวิ้นจู่โมโหเป็นอย่างมาก ในใจนางพอเข้าใจอยู่บ้าง เกรงว่าคนต่ำช้าผู้นั้นจะแทงข้างหลังนาง หนีไปแล้ว
“ไม่แปลกใจเลยที่เห็นว่าเขาพูดจาดูหลบเลี่ยง มีพิรุธเป็นอย่างมาก ที่แท้ก็ต้องการจะหนี ถุ้ย เสียแรงที่ข้าคิดว่าเขาวิชาเต๋าล้ำเลิศ พฤติกรรมเช่นนี้กลับเหมือนหนูในรางน้ำ หลบๆ ซ่อนๆ ช่างไร้ประโยชน์สิ้นดี”
ซืออี๋จวิ้นจู่ด่าไม่หยุด สั่งให้คนไปค้นหาถ้ำที่เขาเคยอยู่เมื่อก่อนหน้านี้
ตอนนี้บุตรชายผู้สูงศักดิ์ในครรภ์ของนางแพศยาซ่งอายุครรภ์ได้สองเดือนกว่าแล้ว นางจะพลาดฤกษ์มงคลนี้ไม่ได้เด็ดขาด แต่นักพรตอี้หยางมาหนีไปตอนนี้ แล้วนางต้องทำอย่างไร
ซืออี๋จวิ้นจู่เดินไปมาด้วยความร้อนใจ และในเวลานี้ก็ได้มีคนมาจากลานหล่งเยียน บอกว่าอนุซ่งปวดท้อง ต้องการเชิญหมอหลวง
“ไร้ประโยชน์สิ้นดี คนอื่นตั้งครรภ์ไม่เห็นจะเหมือนนาง เรื่องเยอะเสียจริง!” ซืออี๋จวิ้นจู่โมโหจัด คว้าแก้วชาที่อยู่ใกล้มือขว้างใส่คนรับใช้ “มัวเหม่อทำอะไรอยู่ ยังไม่รีบไปเอาป้ายไปเชิญหมอหลวงมาอีก หากเกิดอะไรขึ้นกับเด็ก ข้าจะเอาชีวิตพวกเจ้า ไร้ประโยชน์กันทั้งนั้น!”
บ่าวรับใช้รีบโค้งคำนับแล้วจากไป
ซืออี๋จวิ้นจู่ยิ่งคิดก็ยิ่งโมโห ดูเหมือนว่าหลังจากที่หญิงผู้ใช้พิษเสียชีวิต นางก็ทำอะไรไม่ราบรื่น ไม่เพียงแต่ภรรยาตัวดีของจั่วจงจวิ้นยังอยู่ดี แต่แผนของตัวเองกลับล้มเหลว ที่สำคัญที่สุดคือทางด้านของสะใภ้ซ่งก็เริ่มเกิดปัญหาแล้ว นางแพศยาผู้นั้น หากปล่อยให้ภาคภูมิใจไปอีกสองสามเดือน เมื่ออายุครรภ์หยินครบสามเดือน ก็เป็นช่วงเวลาที่นางต้องชำระหนี้ แต่สิ่งเหล่านี้ไม่นับว่าเป็นเรื่องใหญ่ การที่นักพรตอี้หยางหนีไปจึงจะเป็นปัญหาใหญ่ เมื่อถึงเวลานั้นใครจะมาทำพิธีให้นาง
หลังจากครุ่นคิดเรื่องนี้ ซืออี๋จวิ้นจู่ก็ให้คนไปเอากระดาษกับพู่กันมา นางจะต้องบอกกับท่านพ่อสักหน่อย จะต้องส่งคนอื่นมาดูแล
ให้คนไปนำนกพิราบสื่อสารที่เลี้ยงไว้มาแล้วส่งจดหมายออกไป แต่ก็กลัวว่าทางด้านสะใภ้ซ่งจะเกิดเรื่อง จึงคิดที่จะไปดูสถานการณ์ว่าเกิดอะไรขึ้น กลับคิดไม่ถึงว่าพึ่งจะออกมาจากห้อง นางก็ลื่นล้ม กระดูกสันหลังเจ็บปวดอย่างรุนแรง ส่งเสียงกรีดร้องทันที
ซืออี๋จวิ้นจู่หัวสมองว่างเปล่า จบแล้ว นางไม่กล้าขยับ ได้แต่ร้องเรียกคนด้วยสีหน้าซีด “เร็ว รีบไปเชิญหมอหลวงเร็วเข้า”
นางเป็นคนที่ต้องให้กำเนิดบุตรชาย จะเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายนี้ไม่ได้ มิเช่นนั้นแผนการที่วางไว้ทั้งหมดจะสูญเปล่า
มีเรื่องวุ่นวายเกิดขึ้นไม่หยุดหย่อนเลย