คุณหนูใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า - ตอนที่ 1042 ตายแน่ ชีวิตผีของข้าจบสิ้นแล้ว!
ตอนที่ 1042 ตายแน่ ชีวิตผีของข้าจบสิ้นแล้ว!
………………..
เว่ยเสียรู้สึกว่าช่วงนี้ตัวเองโชคไม่ดีจริงๆ พึ่งจะพาผีหนึ่งขบวนส่งเข้าประตูวิญญาณไป ซ้ำหนึ่งในนั้นยังมีผีร้ายที่จับกลับมาอย่างลำบากลำบน โชคดีที่ความพยายามอย่างหนักได้รับผลตอบแทน เมื่อได้พบกับเฮยอู๋ฉัง อีกฝ่ายยังบอกอีกว่าจะให้ตัวเองเป็นยมทูตนำวิญญาณไปเกิดใหม่อย่างเป็นทางการ
หมายความว่าเขาสามารถเป็นเจ้าหน้าที่ประจำการในยมโลกได้อย่างเป็นทางการ นับว่ามีตำแหน่งแล้ว
ชีวิตผีถึงจุดสูงสุดแล้ว!
แต่เมื่อลงทะเบียนเป็นเจ้าหน้าที่อย่างเป็นทางการ ก็ไม่สามารถไปมายังโลกมนุษย์ได้อย่างเป็นอิสระแล้ว ยมทูตไม่สามารถใช้ชีวิตในโลกมนุษย์อย่างอิสระเหมือนกับคนเป็นได้ มิเช่นนั้นทุกตนก็จะเป็นเหมือนกับเขา โลกมนุษย์กับยมโลกจะไม่อยู่ในความวุ่นวายหรือ
เขาไม่ไปเกิดใหม่ ก็เพื่อเพลิดเพลินกับอิสรภาพในโลกมนุษย์นี้ไม่ใช่หรือ
เว่ยเสียกล่าวอย่างคลุมเครือว่าเขายังคงเป็นเถ้าแก่ใหญ่ของร้านฉินหลิวซี ไม่สามารถตัดสินใจไปไหนมาไหนเองได้ เพียงแค่รับเป็นงานเสริมก็นับว่าดีแล้ว
เขานึกว่าเฮยอู๋ฉังจะโกรธ อย่างไรเสียบรรดาผีที่ต้องการทำงานนี้ต่างก็คิดว่าเขาเป็นคนบ้าอำนาจ ในเมื่อใต้เท้าเฮยเห็นชอบแล้ว ซ้ำยังเสนอตำแหน่งให้เป็นพิเศษ แต่กลับยังกล้าปฏิเสธ นี่จะไม่เป็นการไม่ไว้หน้าหรือ
แม้แต่หมิงอวี้ที่เข้าสอบเป็นทหารผีมาเป็นเวลานานแล้วก็ยังรู้สึกว่าเขาสมควรโดนตี เล่นตัวให้ราคาสูง แสร้งทำเป็นเก่ง คิดจะเยาะเย้ยใครกัน
แต่เฮยอู๋ฉังกลับหัวเราะในลำคอ กล่าวว่า “ในเมื่อท่านปรมาจารย์เห็นความสามารถของเจ้าจริงๆ เช่นนั้นเจ้าก็ตั้งใจทำ อย่าบอกว่าข้าจะแย่งเจ้าไปเป็นอันขาด”
การแย่งคนไปจากฉินหลิวซี ไม่สิ แย่งผี ก็เหมือนกับการปล้นเงินในกระเป๋านางไม่ใช่หรือ
จะไม่เป็นการคิดจะเอาเปรียบแต่กลับกลายเป็นเสียเปรียบเองหรือ
ดังนั้นเว่ยเสียจึงได้เดินออกมาจากประตูวิญญาณท่ามกลางสายตาความอิจฉาริษยาและเกลียดชังของทุกคน กลับมายังโลกมนุษย์ จากนั้นก็เก็บผีอีกสองสามตน แต่กลับคิดไม่ถึงว่าจะพบกับปัญหาที่ยากลำบากอีกครั้ง
ปัญหาที่ยากลำบากนี้ ยังเป็นผู้แข็งแกร่งที่หล่อหลอมศพดูดกลืนแก่นแท้ของวิญญาณจนกลายเป็นราชาผี
ทุกผี (คน) มีใครเข้าใจบ้าง แม้ว่าเขาจะเป็นยมทูตที่ไม่ได้ลงทะเบียนอย่างเป็นทางการ แต่ก็มีอาวุธของยมทูตที่เป็นเจ้าหน้าที่ชั่วคราว แต่กลับสู้ผีเถื่อนตนนี้ไม่ได้ ซ้ำยังตกอยู่ในอันตรายที่จะถูกหล่อหลอมอีก
บัดซบ เจ้าผีบ้าตนนี้ไม่ได้เห็นแก่ใบหน้าอดงามของเขา แต่เป็นแก่นแท้ผี
รอก่อนเถอะ ข้าจะหากำลังเสริม!
อัดเจ้าให้เละ!
ผีร้ายนามว่าอู๋ทงเทียนเห็นร่างเว่ยเสียสลายลงก็ขมวดคิ้ว มองดู ‘ร่างกาย’ กลายเป็นขี้เถ้ากระดาษ จากนั้นก็มองดูเขา เป็นใครกันที่ทำ ‘ร่างกาย’ ให้เขา ราวกับร่างที่แท้จริง
แต่ไม่ว่าจะเป็นอะไร แก่นผีที่มีพลังแห่งบุญกุศลของเขานี้ต้องเป็นของอู๋ทงเทียน
เว่ยเสียเห็นว่าดวงตาของอู๋ทงเทียนมีความโลภและพร้อมที่จะลงมือ แก่นผีขดตัวลง กล่าวว่า “เจ้าก็เป็นเพียงผีธรรมดา ฝึกบำเพ็ญเป็นผีร้ายนั้นมีจุดประสงค์อะไรกันแน่”
“ข้าสนิทกับเจ้าหรือ เหตุใดต้องบอกเจ้าด้วย” อู๋ทงเทียนยิ้มอย่างน่ากลัว “อย่าถ่วงเวลาเลย ใครมาก็ช่วยเจ้าไม่ได้”
สุนัขต่ำช้า ไม่ตกหลุมพรางจริงๆ ด้วย!
เว่ยเสียแสยะยิ้ม “เจ้าคิดว่าเจ้าจะทำอะไรข้าได้จริงๆ หรือ ตำแหน่งยมทูตทุกตนล้วนมีการลงทะเบียน มีจำนวนที่แน่นอน เจ้าเอาของของข้าไป คิดว่าทางด้านยมโลกจะไม่ตรวจสอบจริงๆ หรือ”
อู๋ทงเทียนมองโซ่ตรวนและกุญแจมือที่เอวพลางเอ่ย “กลัวอะไร เมื่อข้าหล่อหลอมแก่นผีของเจ้าแล้ว ข้าย่อมสามารถกลายร่างเป็นเจ้าได้ จับดวงวิญญาณหล่อหลอมผีได้อย่างเปิดเผย”
เขาจับโซ่ตรวนวิญญาณ รู้สึกพึงพอใจ
คิดไม่ถึงเลยจริงๆ ว่าจะมีการเก็บเกี่ยวครั้งใหญ่ในวันนี้ ได้พบกับยมทูตที่ขาดความแข็งแกร่งแต่มีบุญกุศล เมื่อเขาได้เครื่องมือจับดวงวิญญาณนี้แล้ว หล่อหลอมแก่นผีของเว่ยเสีย ตัวเขาเองก็จะกลายร่างเป็นยมทูต ยังจะมีดวงวิญญาณไหนที่จับไม่ได้อีก
ตั้งใจจับดวงวิญญาณดีที่มีบุญกุศลติดตัวเหล่านั้นเป็นพิเศษ เป็นยาบำรุงชั้นยอด!
ดวงตาทั้งสองข้างของอู๋ทงเทียนสีแดงก่ำ เลียมุมปาก น่ากลัวน่าขนลุกเป็นอย่างมาก
เว่ยเสียเห็นว่าผมของเขายุ่งเหยิง ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยแผลเป็น เมื่อคิดว่าใบหน้าผีเช่นนี้กลายเป็นตัวเองเดินจีบสาวไปทั่ว เอ๊ยไม่ใช่ เดินจับวิญญาณไปทั่ว เขาก็รู้สึกขยะแขยง ถ่มน้ำลายด้วยความรังเกียจ
“เจ้ามีความสามารถขนาดนี้ เหตุใดไม่ไปแทนที่เทพเฟิงตูที่ยมโลกเสียเลย คิดจะกลายร่างเป็นข้า ผีอัปลักษณ์อย่างเจ้าคู่ควรด้วยหรือ!”
ตอนนั้นท่านแม่ของเขาก็คิดว่าเขาน่าเกลียดจึงได้ดุด่าทุบตีเขา ซ้ำยังเอาคบเพลิงมาจี้หน้าเขา ต่อมา นางได้เสียชีวิตด้วยมือของตัวเขาเอง เขาทำให้นางกลายเป็นศพเดินได้ ซ้ำยังหล่อหลอมดวงวิญญาณของนาง นางไม่สามารถบอกว่าตัวเองน่าเกลียดได้อีกต่อไป ต่อมาเขาก็เสียชีวิตลงและได้กลายเป็นผีร้าย
แต่ยมทูตท่าทางอ้อนแอ้นผู้นี้กลับกล้าบอกว่าเขาอัปลักษณ์!
อู๋ทงเทียนกางกรงเล็บ ตวัดไปยังเว่ยเสีย มือคู่นั้นราวกับกรงเล็บไก่ เล็บแหลมคม พลังชั่วร้ายแผ่กระจาย
“เจ้าอย่าเข้ามานะ” เว่ยเสียถูกศพผีจับไว้ พยายามดิ้นรน เมื่อเห็นว่ากรงเล็บผีของอู๋ทงเทียนพุ่งมาที่แท่นวิญญาณของตัวเอง เขาแทบจะเป็นบ้า ร้องตะโกนเสียงดัง “ฉินปู้ฉิว จอมมารร้าย หากยังไม่มาอีก ข้าจะตายแล้ววว!”
กรงเล็บผีแตะที่หัวของตัวเอง
เว่ยเสีย ‘ตายแน่ ชีวิตผีของข้าจบลงแล้ว!’
ในความว่างเปล่า มีลวดลายน้ำเป็นวงกลม จากนั้นก็มีคาถาโจมตีไปที่ร่างของอู๋ทงเทียน
สายฟ้าอันแข็งแกร่ง
อู๋ทงเทียนกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด ดึงมือกลับในทันที ก่อนจะหันหลังลอยออกไป
เว่ยเสียรู้สึกถึงพลังของสายฟ้าที่ถ่ายทอดมา ตัวสั่นเทาในทันที จ้องมองไปยังฉินหลิวซี อย่าทำร้ายพวกเดียวกันได้หรือไม่
อู๋ทงเทียนกระโดดถอยออกไปหลางจั้ง[1] ร่างกายเต็มไปด้วยพลังชั่วร้ายพวยพุ่งออกมา ดวงตาสีแดงคู่หนึ่งจ้องมองไปยังฉินหลิวซีที่ปรากฏตัวจากกลางอากาศ
ทันทีที่เห็นเขาก็รู้สึกไม่ดี
อันตราย!
นี่เป็นไต้ซือ ซ้ำยังเป็นชนิดที่รับมือได้ยาก!
ต้องหนี!
อู๋ทงเทียนไม่ได้เหมือนผู้ร้ายคนอื่นๆ ที่พูดมากแล้วก็ยังคิดว่าตัวเองจะมีชีวิตอยู่รอดได้ เขาโตมาจากการสังเกตสีหน้าของผู้อื่น รู้ว่าใครล่วงเกินได้ใครไม่ควรล่วงเกิน แม้ว่าเขาจะตายอย่างอนาถ แต่ดวงตาของเขาก็ชัดเจนพอที่จะมองออก แม้ว่าเขาจะตายแล้วแต่ก็ไม่ได้ตาบอด
แม้ว่าเขาใกล้จะกลายเป็นราชาผีที่คนหรือผีต่างก็หวาดกลัว!
หนี รีบหนีโดยเร็ว
เพียงแต่เสียดายแก่นผีที่มีบุญกุศลนี้เล็กน้อย
ขณะอู๋ทงเทียนกำลังจะหายตัวหนีไป