คุณหนูใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า - ตอนที่ 1045 คนที่รู้จักใช้เล่ห์เหลี่ยมมีอยู่ทุกหนทุกแห่ง
- Home
- คุณหนูใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า
- ตอนที่ 1045 คนที่รู้จักใช้เล่ห์เหลี่ยมมีอยู่ทุกหนทุกแห่ง
ตอนที่ 1045 คนที่รู้จักใช้เล่ห์เหลี่ยมมีอยู่ทุกหนทุกแห่ง
………………..
ฉินหลิวซีเดินเข้าไปใกล้ มองไปยังกองเลือดดำบนพื้น คิ้วพลันกระตุกเล็กน้อย
บนพื้นมีหนอนตัวเล็กๆ กำลังไต่ตอมอยู่ในเลือดดำข้นหนืด ดูแล้วน่ารังเกียจและน่าหวาดกลัวอย่างยิ่ง
“อ๊ากกก นี่มันอะไรกัน” เจ้าโสมน้อยวิ่งกลับมา พอเห็นกองเลือดบนพื้น ใบหน้าพลันซีดลงหลายส่วน
“หนอนศพ[1]“ ฉินหลิวซีเดินไปที่ข้างเตียง แทนที่ตำแหน่งของเถิงเจา ใช้สองนิ้วแตะที่ข้อมือของเด็กอ้วน จากนั้นเปิดเปลือกตาออกดูเล็กน้อย เอ่ย “เลือดพร่องไปมากแถมยังโดนพิษอีก ดังเช่นที่หน้าตาเขาแสดงออก ดวงซวยไปทุกอย่างเสียจริง”
โสมน้อยเบิกตากว้าง “เขาอ้วนเพียงนี้ ยังเลือดพร่องอีกหรือ”
“นี่เป็นการอ้วนบวม บำรุงจนเป็นแบบนี้ อย่ามองว่าเขาอ้วน แต่ความจริงภายในของเขาอ่อนนุ่มมาก” ฉินหลิวซีเอ่ย “บางคนบำรุงแต่กลับไม่ได้รับการบำรุง ยิ่งบำรุงก็ยิ่งทำให้ภายในร่างกายเสื่อมถอย เกิดอาการม้ามพร่องและเลือดพร่อง อีกทั้งยังมีภาวะเหงื่อแตกตอนกลางคืนเนื่องจากหยินพร่อง”
“เช่นนั้นเขาก็ถือว่าโชคร้าย” โสมน้อยแสดงความเห็นอกเห็นใจ
เถิงเจาเอ่ยถาม “นี่คือพิษอะไรหรือขอรับ”
ฉินหลิวซีใช้ผ้าเช็ดเลือดที่มุมปากของเด็กอ้วนแตะด้วยสองนิ้ว มันหนืดและส่งกลิ่นเหม็นคาว นางกำลังจะนำมาใกล้จมูก แต่เฟิงซิวก็ตบลงมาทันที
“เจ้าคงจะไม่ชิมรสพิษนี้หรอกกระมัง” เฟิงซิวใบหน้ารังเกียจ เอ่ย “เจ้าดูหนอนศพนั่นสิ กินลงไปจริงๆ ข้าคงต้องยกย่องเจ้าเป็นเสินหนง[2]กลับชาติมาเกิดแน่”
ฉินหลิวซีเอ่ย “เพียงดมดูเท่านั้น”
“มีอะไรน่าดมกัน เจ้าเด็กนี่ก็ยังไม่ตาย เดิมก็เก็บมา แค่ถอนพิษให้เขา นับว่าสั่งสมความดีแล้ว” เฟิงซิวเอ่ย “ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน เรื่องแค่นี้ใช้ยาถอนพิษเม็ดเดียวก็แก้ได้แล้ว ไม่จำเป็นต้องทำตัวเองให้ลำบาก”
ฉินหลิวซีเอ่ยอย่างไม่พอใจ “หากทุกคนทำเช่นเจ้า ในโลกนี้จะมีหมอเทวดาและหมอพิษอยู่ได้อย่างไร”
เฟิงซิวโดนสวนกลับจนพูดไม่ออก เอ่ยด้วยความหงุดหงิด “ใช่ๆๆ หมอเทวดาฉิน ให้ข้าน้อยเก็บหนอนศพสักกี่ตัวมาศึกษาหรือไม่”
ฉินหลิวซีเตะไปหนึ่งที นางได้กลิ่นพิษนั้นแล้ว เอ่ย “เป็นพิษสารหนู”
ไม่ใช่ดวงดีธรรมดาเลยจริงๆ
ฉินหลิวซีเอ่ย “สารหนูนั้นเดิมถูกตรวจพบได้ง่าย คนที่วางยาคงไม่กล้าใส่มากเกินไป กลัวว่าจะถูกพบเห็น จึงใส่เพียงปริมาณน้อย เขายังถูกฝังอยู่ในดิน คงอาเจียนตอนอยู่ในดินออกมาบ้างแล้ว อีกทั้งยังมีหนอนศพเดินอยู่ในปาก ทำให้เขาอาเจียนออกมาอีก ช่วยเขาอาเจียนเอาพิษออกมา ให้เขากินยาถอนพิษหนึ่งเม็ด จากนั้นให้เขาสวมเครื่องรางปัดป้องสิ่งชั่วร้าย อย่างไรหนอนศพก็เป็นสัตว์หยิน ไม่รู้ว่ามันเข้าไปในร่างกายเขามากเพียงใดแล้ว”
เฟิงซิวและเจ้าโสมน้อยก้าวถอยหลังไปโดยไม่รู้ตัว วาจานี้ทำให้คนฟังขนลุกซู่อย่างอดไม่ได้
เถิงเจากลับไม่สนใจ เขาหยิบยาถอนพิษจากยาที่พกติดตัวมาให้เด็กอ้วนกิน จากนั้นให้เขาดื่มน้ำตาม
บ่าวที่มาช่วยเตรียมน้ำไว้เรียบร้อยแล้ว ฉินหลิวซีสั่งให้เถิงเจาดูแลเด็กอ้วน ส่วนนางเดินออกไปพร้อมกับเฟิงซิว
ราตรีค่อยๆ ย่างกราย
ในโรงประมูลจิ่วเสียน ครึกครื้นไม่เบา
นี่เป็นการประมูลเพื่อการกุศลที่จัดโดยกรมคลัง แม้ว่าจุดประสงค์จะเป็นการหาเงิน แต่การประมูลครั้งนี้แตกต่างจากทั่วไป ของที่นำมาประมูลผู้มอบจะได้รับชื่อเสียง ผู้ประมูลก็จะได้รับเช่นกัน เรียกได้ว่าได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่าย
ดังนั้นเหล่าขุนนางผู้มีเกียรติในเมืองหลวงต่างแย่งชิงป้ายเข้าร่วมงานกันอย่างดุเดือด
ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาเริ่มการประมูล แต่ก็มีแขกผู้มีเกียรติในชุดหรูหราเดินทางมาถึงอย่างต่อเนื่อง ภายในจิ่วเสียน อุ่นราวกับต้นฤดูร้อน กลิ่นหอมของเครื่องหอมชนิดต่างๆ ปะปนกันจนกลิ่นคละเคล้า
เฟิงซิวมีห้องส่วนตัวที่ไม่เปิดให้คนนอกเข้า สามารถมองเห็นเวทีประมูลได้อย่างชัดเจน และยังมองเห็นคนที่เดินเข้าออกห้องส่วนตัวสองฝั่งได้ด้วย
จิ่วเสียนสูงห้าชั้น ไม่ว่าจะเป็นในห้องโถงหรือห้องส่วนตัวก็เต็มไปด้วยผู้คน ดูครึกครื้นยิ่งนัก
“ชื่อเสียงนี่มันของดีจริงๆ จิ่วเสียนเคยคึกคักแบบนี้เสียเมื่อไร” เฟิงซิวนั่งพิงเสาเฉลียงที่ยื่นออกไปนอกห้องส่วนตัวอย่างเกียจคร้าน ในมือมีไหสุราเล็กๆ พลางเหลือบมองคนในห้องโถงและห้องส่วนตัวข้างเคียง หัวเราะเบาๆ อย่างดูถูก
เฉลียงนี้ไม่มีสิ่งใดกั้นขวาง หากมีใครแหงนหน้าขึ้นมองก็จะเห็นเพียงเฉลียงที่ว่างเปล่า ไม่เห็นภาพใดๆ บนเฉลียง เพราะเฟิงซิวร่ายมนตร์บังตาไว้ ข้างนอกมองเข้ามาไม่เห็น แต่ด้านในกลับสามารถมองเห็นทุกอย่างข้างนอกได้อย่างชัดเจน
ฉินหลิวซีเอ่ย “คนเราย่อมแสวงหาชื่อเสียงและผลประโยชน์ นี่เป็นเรื่องธรรมดา”
นางเปิดดูรายชื่อของที่นำมาประมูลในครั้งนี้ รวมถึงรายชื่อแขกบางคน ในอดีตรายชื่อผู้เข้าร่วมประมูลจะไม่ถูกเผยแพร่ แต่ครั้งนี้กลับแตกต่างออกไป มีการจัดพิมพ์เป็นสมุดเล่มเล็กๆ ให้คนดูได้
อย่างไรก็ใช้เงินทำบุญ ไหนเลยจะให้ผู้อื่นรู้ไม่ได้
แต่ก็มีบางคนที่ชอบความเงียบและไม่อนุญาตให้ลงรายชื่อในทะเบียน เพียงขอให้เก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ
ฉินหลิวซีพบรายชื่อของคนคุ้นเคยหลายคน เมื่อไล่ความคิดความทรงจำในหัวแล้ว ก็ล้วนเป็นผู้มีฐานะทั้งสิ้น
“เผ่าหวงเซียนไยจึงเข้ามาร่วมในงานนี้ด้วยเล่า” ฉินหลิวซีเห็นชื่อของท่านปู่ทวดหวงรอง
เฟิงซิวเอ่ย “พวกเขามีคนรุ่นหลังในตระกูลที่ใกล้จะได้รับตำแหน่งแล้ว ยังขาดโอกาสอยู่เล็กน้อย คิดจะหาชื่อเสียงและกุศลเพื่อเพิ่มโชค จึงส่งโสมอายุร้อยปีและเหอโส่วอู[3]มาประมูล ของเหล่านี้คุณภาพดีมาก”
อันที่จริงการทำบุญเช่นนี้มีความเสแสร้งเจือปนอยู่บ้าง แต่ตราบใดที่ผู้รับคือผู้ยากไร้จริงๆ แล้วจะเป็นอะไรไปเล่า
สิ่งที่ต้องกลัวไม่ใช่คนดีที่หวังชื่อเสียง แต่กลัวพวกที่ต้องการชื่อเสียงแต่ไม่ยอมเสียสักแดงเดียวจนผู้ยากไร้ไม่ได้รับความช่วยเหลือ
ฉินหลิวซีเอ่ย “ดูเหมือนว่าตระกูลหวงเซียนจะให้ความสำคัญกับคนรุ่นหลังผู้นี้มาก เจ้าเคยเห็นหรือไม่”
“เคยเห็น เป็นหวงเซียนสาวที่ขนสวยบริสุทธิ์และดูดีมาก นางหมั่นบำเพ็ญเพียร มีพลังมากกว่าคนอื่นๆ ตระกูลหวงเซียนคงจะเล็งให้นางเป็นผู้อาวุโสปกป้องตระกูลในอนาคต” เฟิงซิวหรี่ตามองฉินหลิวซี “ข้าว่าเจ้าน่าจะชอบนางนะ”
ฉินหลิวซีได้ยินความหมายแฝงจากคำพูดของเขา จึงยิ้มเล็กน้อย แต่ไม่ได้ตอบอันใด นางเดินไปที่ริมเฉลียง มองดูคนที่เดินเข้ามาไม่ขาดสาย บางคนพาคนที่ไม่มีป้ายเข้ามาด้วย ทำได้เพียงเข้ามาดูโลกในฐานะสหาย
ในห้องโถงยังมีคนอยู่ในชุดบัณฑิตอีกหลายคนยืนอยู่ที่มุมห้อง มองแขกผู้มีเกียรติที่เดินผ่านไปมาด้วยสายตาที่แตกต่างกัน บางคนแสดงออกถึงความอิจฉา บ้างก็มีความริษยา และบางคนดูมีแผนการ
ฉินหลิวซีกวาดตามอง เอ่ย “พวกที่รู้จักใช้เล่ห์เหลี่ยม ไม่ใช่แค่หวงเซียน ยังมีพวกบัณฑิตนั่นอีก”
เฟิงซิวมองไปแล้วเอ่ย “งานที่เต็มไปด้วยชื่อเสียงและผลประโยชน์เช่นนี้ ขาดอะไรไปก็ไม่ขาดพวกที่มาหาประโยชน์หรอก”
งานประมูลเพื่อการกุศลเช่นนี้ คนที่มาไม่รวยก็ต้องมีเกียรติ ไม่ต้องเอ่ยถึงบัณฑิตและขุนนางผู้น้อยที่กระเป๋าเบา แม้แต่ขุนนางทั่วไปก็ยังอยากมาลองเสี่ยงโชค หวังว่าจะมีขุนนางผู้มีอำนาจสักคนหันมาสนใจแล้วส่งเสริมให้ตนเจริญก้าวหน้า
ส่วนขุนนางผู้มีอำนาจจริงๆ ก็ย่อมมองหาคนที่สามารถดึงมาร่วมพรรคพวก เช่นพวกกลุ่มองค์รัชทายาทและอ๋องต่างๆ จะส่งคนไปเฝ้าทางเข้า ไม่ว่าจะเป็นทางเข้าหลักหรือทางด้านหลังเพื่อตรวจดูคนที่เข้ามาในงาน
นี่คือโลกมนุษย์ การแสวงหาชื่อเสียงและผลประโยชน์เป็นเรื่องธรรมดาที่สุด
พ่อบ้านหลิ่วเดินเข้ามา รายงานกับฉินหลิวซีด้วยท่าทีนอบน้อม “เสนาบดีลิ่นมาแล้วขอรับ”
นี่คือแขกคนสำคัญของนาง
[1] แมลงที่เกิดขึ้นจากซากศพ หรือ แมลงที่กินซากศพ ในบริบทของภาษาจีน คำนี้มักใช้ในความหมายเกี่ยวกับแมลงที่ปรากฏในซากศพ หรือใช้ในบริบทที่เกี่ยวข้องกับการสลายตัวและการเน่าเปื่อยของร่างกายหลังความตาย
[2] เทพเจ้าแห่งการเกษตร ในตำนานจีนโบราณ เป็นหนึ่งในสามกษัตริย์หรือปราชญ์ มีบทบาทสำคัญในการสอนมนุษย์ให้รู้จักการเกษตรและการใช้พืชสมุนไพรในการรักษาโรค ตามตำนานเล่าว่าเขาเป็นผู้ค้นพบพืชสมุนไพรหลายชนิดและทดลองพืชเหล่านั้นด้วยตนเอง เพื่อแยกแยะพืชที่มีพิษและพืชที่มีประโยชน์ต่อมนุษย์
[3] จัดอยู่ในกลุ่มสมุนไพรบำรุงเลือด