คุณหนูใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า - ตอนที่ 1056 ตระกูลลี่ถูกลงทัณฑ์ไม่ใช่เรื่องเกินกว่าเหตุ
- Home
- คุณหนูใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า
- ตอนที่ 1056 ตระกูลลี่ถูกลงทัณฑ์ไม่ใช่เรื่องเกินกว่าเหตุ
ตอนที่ 1056 ตระกูลลี่ถูกลงทัณฑ์ไม่ใช่เรื่องเกินกว่าเหตุ
………………..
ต้นชาเก่าแก่หยกหมอกถูกถอนออกมาพร้อมกับหัวกะโหลกมนุษย์ ทำให้คนงานที่ลี่เสวียฟู่พามาหวาดกลัวอย่างหนัก ถ้าลี่เสวียฟู่ไม่ห้ามไว้ คงจะพากันวิ่งลงจากภูเขาไปหมดแล้ว
รากต้นชามีกะโหลกศีรษะ พร้อมกับปล่อยกลิ่นอายของความอาฆาตพวยพุ่งขึ้นมาอีกครั้ง จนฉินหลิวซีต้องจัดการเขียนยันต์ปราบสิ่งชั่วร้ายอีกใบ แล้วจึงหันไปบอกลี่เสวียฟู่ “ขุดเถิด ระวังสักหน่อย”
ลี่เสวียฟู่หันมองไปยังคนงานของตนที่ยืนสั่นเทา
คนงาน “…”
พวกเขาไม่อยากทำงานนี้แล้วได้หรือไม่
แต่ถึงไม่อยากทำก็คงได้แค่คิด ลงนามสัญญาตายไปแล้ว ไม่อยากก็ต้องทำ พวกเขายอมรับชะตากรรม หยิบจอบขึ้นมาขุดหลุมต่อไปด้วยมือที่สั่นเทา
“ระวังหน่อย อย่าขุดจนกระดูกแตกหัก มิฉะนั้นคนตายจะอาฆาตและมาเยือนเจ้าในยามค่ำคืน” ฉินหลิวซีเอ่ยขึ้นหนึ่งประโยค
คนงาน “!”
ฮือๆ พวกเขาไม่อยากทำงานนี้จริงๆ
ทุกครั้งที่ขุดลงไป ความลึกเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เฟิงซิวเริ่มหมดความอดทน ไม่รู้ว่าศพนี้ถูกฝังลึกเพียงใด คนงานแต่ละคนตัวสั่นเหมือนลูกนก ขุดมาตลอดทั้งวัน จนฟ้ามืดก็ยังไม่สามารถขุดให้เสร็จสิ้นได้
เฟิงซิวใช้พลังปีศาจของตนอีกครั้ง พัดดินให้ปลิวกระจายไปทีละน้อย จนกระทั่งหลุมกว้างใหญ่ถูกเปิดเต็มที่
เมื่อเห็นภาพที่ก้นหลุม ทุกคนต่างหน้าซีดเผือดด้วยความหวาดกลัว ความเย็นเยียบกระจายไปทั่วร่าง
ภายในหลุมมีโครงกระดูกนั่งเรียงรายอยู่ หนึ่ง สอง สาม สี่…เก้าชิ้น โครงกระดูกเหล่านี้เป็นโครงกระดูกของเด็กที่อายุไม่เกินสิบห้าปี นั่นแสดงว่าโครงกระดูกทั้งหมดเป็นของเด็ก
ฉินหลิวซีมองดูทิศทางของโครงกระดูก รวมทั้งตำแหน่งตรงกลางที่ไม่มีศีรษะอยู่ จากนั้นนางยกมือขึ้นคำนวณ เอ่ย “นี่คือค่ายอาคมห้าธาตุเสริมพลังชีวิต”
นางกระโดดลงไปในหลุมเบาๆ เดินไปยังตำแหน่งตรงกลาง มองสำรวจอย่างละเอียด ดูโครงกระดูกที่มีร่องรอยบิดเบี้ยวที่มือและเท้า และหัวที่ไม่หล่นลงมา แต่แหงนขึ้นเล็กน้อย ซึ่งเป็นร่องรอยของการต่อสู้ขัดขืน
ที่ก้นหลุมยังมียันต์หลงเหลืออยู่บ้าง อีกทั้งที่ตำแหน่งธาตุดินธาตุทอง[1]ยังมีวัตถุที่ฝังอยู่ ซึ่งอาจเป็นทอง หยก หรือไม้มะเกลือที่ไม่ผุพัง
ตรงจุดศูนย์กลางของค่ายอาคมยังมีค่ายอาคมหมุนเวียนชีวิตที่ไม่มีที่สิ้นสุด
ฉินหลิวซีหยิบยันต์ที่เกือบจะไม่เหลือร่องรอยของตัวอักษรขึ้นมา เห็นเงาลางๆ ของอักษรสองสามตัวซึ่งเกี่ยวกับวันเดือนปีเกิด คาดการณ์เอ่ย “คนเหล่านี้วันเดือนปีเกิดน่าจะตรงกับธาตุทั้งห้า คือทอง ไม้ น้ำ ไฟ ดิน พวกเขาถูกฝังทั้งเป็นเพื่อเซ่นไหว้ฟ้าดิน จัดตั้งค่ายอาคมห้าธาตุ พลังฮวงจุ้ยแห่งห้าธาตุถูกหมุนเวียนผ่านค่ายอาคมย่อยกลางค่ายอาคม พลังชีวิตและโชคลาภหลั่งไหลอย่างไม่ขาดสาย ทั้งเป็นอาหารและเป็นพลังวิญญาณ ต้นชาบนพื้นดินได้รับประโยชน์ก่อนผู้ใด จากนั้นพลังวิญญาณจะกระจายไปทั่วไร่ชา ซึ่งอาจได้รับน้อยลงหน่อย แต่ก็ไม่น้อยเกินไป”
ลี่เสวียฟู่ยืนเหม่อ
ไร่ชาผืนนี้ ชาหยกหมอกเป็นเครื่องบรรณาการ แต่ชาในไร่ที่ปลูกที่นี่แม้จะไม่ได้ดีเท่าหยกหมอก แต่ก็ยังมีคุณภาพสูงกว่าชาจากไร่ชาอื่นๆ ดังนั้นจึงเรียกว่าชาเมฆหมอกเขาสูง และยังเป็นชาที่มีขายมากที่สุดในตลาด ราคาก็แพงอีกด้วย
แต่สิ่งเหล่านี้เป็นผลจากความทุกข์ทรมานของคนอื่นหรอกหรือ
การฝังทั้งเป็นเช่นนี้ ผู้ใดก็ตามที่ถูกฝังทั้งเป็น จะไม่รู้สึกอาฆาตได้อย่างไร
ลี่เสวียฟู่รู้สึกว่าความอาฆาตนั้นซัดสาดเข้าหาตัวเขาเป็นระลอกๆ ทำให้เขารู้สึกราวกับอยู่ในหลุมฝังศพที่หนาวเย็น ตัวสั่นฟันกระทบกัน
เฟิงซิวมองไปที่เขา เอ่ย “บรรพบุรุษของเจ้าคงจะมีสติไม่สมบูรณ์ ไปหาผู้ตั้งค่ายอาคมเพื่อปลูกชาเช่นนี้ โง่งมหลงใหลในชาเกินไปหรือไม่ เขาไม่คิดที่จะฝังตัวเองที่นี่เพื่อเสริมโชคลาภและความมั่งคั่งให้ลูกหลานไปเป็นขุนนางหรือผู้ยิ่งใหญ่ กลับอยากเป็นเพียงราชาแห่งชาเท่านั้น ข้าไม่รู้ว่าควรจะบอกว่าสมองของเขาดีหรือไม่ดี”
เขาไม่ได้ดูถูกพ่อค้า แต่ผู้ใดก็รู้ว่าในลำดับของศักดินา นักปราชญ์ ชาวนา ช่างฝีมือ และพ่อค้า พ่อค้าถือเป็นชนชั้นต่ำที่สุด ในเมื่อคิดจะใช้วิธีอันวิปลาสเพื่อทำให้ตระกูลมั่งคั่ง เหตุใดจึงไม่เลือกสิ่งที่สูงส่งเล่า กลับต้องหมกมุ่นอยู่กับการเป็นพ่อค้า ร่ำรวยแล้ว แต่ความสูงศักดิ์เล่า
ตอนนี้เป็นอย่างไรเล่า ร่ำรวยมาได้หลายสิบปีแต่กลับถูกกรรมตามสนอง เห็นได้ชัดว่าแผนการนี้ล้มเหลว กลับกลายเป็นได้ไม่คุ้มเสีย
ช่างโง่เง่าเสียจริง
ลี่เสวียฟู่เองก็คิดเช่นกันว่าเหตุใดบรรพบุรุษของตนจึงสร้างค่ายอาคมนี้ขึ้นมา ที่สำคัญคือตลอดหลายปีที่ผ่านมาเขาดื่มชาหยกหมอกไปเท่าไหร่แล้ว ชาที่เขาดื่มนั้นล้วนเกิดจากสารอาหารของศพเหล่านี้ น้ำชาและกลิ่นหอมที่ลิ้มรสล้วนมาจากเลือดเนื้อและกระดูกของคนตายทั้งสิ้น
พรึบ
ทันใดนั้น ลี่เสวียฟู่รู้สึกคลื่นไส้ ท้องไส้ปั่นป่วนจนต้องหันไปคุกเข่าอาเจียนออกมาบนพื้น
ฉินหลิวซีมองดูโครงกระดูกที่อยู่กลางค่ายอาคม หยิบกระดูกนิ้วที่บิดเบี้ยวขึ้นมา รวมทั้งหัวกะโหลกบางอันที่อ้าปาก โครงกระดูกนั้นดำคล้ำเพราะเต็มไปด้วยพลังแค้น จากนั้นเอ่ย “พวกเขาใช้คนเป็นๆ เซ่นไหว้ฟ้าดินเพื่อสร้างค่ายอาคมเหล่านี้ คนเหล่านั้นย่อมเกิดความอาฆาต ในเมื่อฝ่ายตรงข้ามสามารถใช้ชีวิตตนเพื่อเซ่นไหว้ฟ้า คนตายย่อมต้องมีความแค้นที่ไม่อาจสลายได้ เหตุใดพวกเขาจะไม่ใช้จิตวิญญาณของตนเองสาปแช่งเล่า”
ก่อนหน้านี้นางลองใช้กระดูกเพื่ออัญเชิญวิญญาณกลับมา แต่ไม่สำเร็จ หากวิญญาณไม่ได้ไปเกิดใหม่ ก็แสดงว่ามันหายไปแล้ว แต่ความเป็นไปได้ที่วิญญาณจะหายไปนั้นแทบเป็นไปไม่ได้ เมื่อมีพลังแค้นมากมายเพียงนี้ วิญญาณย่อมยังคงหลงเหลือความแค้นอยู่ ไม่สามารถไปเกิดใหม่ได้
จึงมีความเป็นไปได้เดียว วิญญาณถูกใช้เป็นเครื่องบูชา
ลี่เสวียฟู่ที่เริ่มสงบสติอารมณ์ได้แล้ว ฟังคำพูดนี้ด้วยความตกตะลึง ก่อนจะเอ่ย “ท่านหมายความว่าตระกูลลี่ของเราถูกสาปแช่งหรือ”
“ทั้งสาปแช่งและถูกกรรมตามสนอง เพราะพวกเขาถูกฝังทั้งเป็น และยังเป็นเด็กอีกด้วย” ฉินหลิวซีชี้ไปยังโครงกระดูกของเด็กๆ เหล่านั้น “การฆ่าคนย่อมเป็นบาปหนักยิ่ง แต่นี่คือการฝังทั้งเป็นเพื่อเซ่นไหว้ฟ้าดิน จะไม่อาฆาตได้อย่างไร”
ลี่เสวียฟู่นิ่งอึ้ง มองดูโครงกระดูกของเด็กๆ เหล่านั้น เขารู้สึกละอายจนไม่กล้าจะมองหน้าผู้ใด
ตระกูลลี่สมควรได้รับการลงทัณฑ์เช่นนี้แล้ว
ฉินหลิวซีมองไปยังค่ายอาคมห้าธาตุอย่างครุ่นคิด
“มีอะไรผิดปกติหรือ” เฟิงซิวเดินเข้ามาเอ่ยถาม
ฉินหลิวซีพยักหน้า พร้อมชี้ไปที่โครงกระดูกเหล่านั้น เอ่ย “ห้าธาตุและวันเดือนปีเกิด ค่ายอาคมห้าธาตุเสริมพลังชีวิต เจ้ารู้สึกว่ามันคุ้นหรือไม่”
เฟิงซิวไม่เข้าใจ
ฉินหลิวซีเอ่ยเสียงเบา “จวนซิ่นหยางอ๋อง”
เฟิงซิวเข้าใจทันที เอ่ย “เจ้าหมายความว่าค่ายอาคมนี้ถูกสร้างโดยคนจากฝั่งนั้นหรือ เป็นไปไม่ได้ นี่ก็ผ่านมาหลายสิบปีแล้วนะ”
ฉินหลิวซีเอ่ย “แค่รู้สึกว่ามันแปลก ค่ายอาคมห้าธาตุนี้แม้จะโหดร้าย แต่ไม่อาจปฏิเสธว่ามันสำเร็จ แต่ในเมื่อคนที่วางค่ายอาคมนี้เข้าใจห้าธาตุอย่างละเอียด ทำไมถึงเลือกใช้วิธีที่โหดร้ายเช่นนี้ หากใช้วัสดุจากห้าธาตุที่ดีพอก็สามารถสร้างค่ายอาคมนี้ได้โดยไม่ต้องกังวลว่าค่ายอาคมจะแตกสลายและถูกย้อนกลับมา แต่เขากลับเลือกใช้คนที่มีวันเดือนปีเกิดตามห้าธาตุมาทำค่ายอาคมนี้ หรือว่าเขาจะบ้า ไม่อยากมีอายุยืนยาวหรือ”
เฟิงซิวนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง แล้วเอ่ย “เป็นไปได้หรือไม่ว่านี่เป็นเพียงการทดลอง”
“หมายความว่าอย่างไร” ฉินหลิวซีรีบหันมามองเขา
เฟิงซิวชี้ไปที่ค่ายอาคมแล้วเอ่ย “วิธีนี้โหดร้ายก็จริง แต่ค่ายอาคมห้าธาตุและแปดทิศนั้นมีความหลากหลาย หากใช้วัสดุแตกต่างกัน ผลลัพธ์ย่อมแตกต่างออกไป พวกที่ชอบศึกษาเรื่องพวกนี้ย่อมไม่รู้จักขีดจำกัด เช่นการฝังคนเป็นเพื่อสร้างค่ายอาคมห้าธาตุ หากสำเร็จแล้วเขาก็จะใช้วิธีนี้ทำเรื่องอื่นได้อีกมากมาย ส่วนการถูกสะท้อนกลับ ซีซี เจ้าก็รู้ดีว่าบางครั้งการช่วยคนอาจทำให้เจ้าได้รับห้าโทษสามวิบัติ แต่เจ้าก็ยังกล้าทำ ทำไมเล่า เพราะเจ้าไม่กลัว พวกนั้นก็เช่นกัน ทำไปก่อน หากถูกสะท้อนกลับค่อยว่ากันอีกที”
[1] ธาตุดิน ในทางศาสตร์ฮวงจุ้ยและปรัชญาจีน หมายถึง ทิศตะวันตกเฉียงใต้ ส่วน ธาตุทอง หมายถึง ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ