คุณหนูใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า - ตอนที่ 1071 โหงวเฮ้งของฉินเสี่ยวอู่เปลี่ยนไป
ตอนที่ 1071 โหงวเฮ้งของฉินเสี่ยวอู่เปลี่ยนไป
ฉินหลิวซีไม่สนใจคำปฏิเสธของฮุ่ยเหนิง ยืนยันให้เขากินยารากฐานปราณหนึ่งเม็ด อีกทั้งยังฝังเข็มให้อีกรอบ จากนั้นจึงทิ้งใบสั่งยาปรับสภาพร่างกายไว้ให้ แล้วออกจากวัดอู๋เซียงไป
นางกลับเข้าเมืองมายังจวนของตนเอง คาดไม่ถึงว่าจะได้พบกับฉินเสี่ยวอู่
“พี่สาว” ฉินหมิงฉุนที่ตอนนี้เติบโตเป็นเด็กหนุ่มอายุสิบขวบ ร่างกายสูงขึ้น หน้าตาเริ่มจางจากความอ้วนแบบเด็กๆ สัดส่วนบนใบหน้านั้นงดงามอย่างมาก และยิ่งเหมือนอนุวั่นเข้าไปทุกที
เมื่อฉินหลิวซีเห็นเขาก็ขมวดคิ้ว เอ่ย “เจ้าเป็นอะไรไป”
ฉินหมิงฉุนร้องอาออกมาด้วยความน้อยใจ พี่หญิงหายไปหลายปี กว่าจะกลับมาได้ พี่ไม่เห็นจะสนใจเขาที่เป็นน้องชายเลย
แต่ว่าเขาอภัยให้พี่หญิงได้
ฉินหมิงฉุนวิ่งเข้ามาหา กางแขนออกโอบรอบเอวนาง มือหนึ่งยังตบหลังของนางเบาๆ สองที เอ่ย “ท่านอาจารย์เป็นคนดีเช่นนี้ เป็นถึงผู้บรรลุธรรม ท่านจากไปคงเพราะเบื่อหน่ายโลกมนุษย์ กลับไปเป็นเทพเซียนบนสวรรค์ ดังนั้นพี่หญิงอย่าเสียใจ อย่าหายตัวไปอีกเลย ยังมีพวกเราอยู่นะ”
ร่างของฉินหลิวซีชะงักไปเล็กน้อยแล้วผ่อนคลายลง หัวใจรู้สึกอ่อนโยนขึ้นมาชั่วครู่ ทว่าครู่ถัดมานางก็จับคอเสื้อของเขายกขึ้นแล้วดึงเขาออก เอ่ย “ฉินเสี่ยวอู่ เจ้าเก่งขึ้นมากแล้วหรือ ถึงกล้ามาทำตัวเป็นผู้ใหญ่ต่อหน้าข้า”
ฉินหมิงฉุนเม้มปาก มองนางด้วยความระมัดระวัง เอ่ย “ข้าโตแล้วนะ ตอนนี้ข้าเก่งมากแล้ว อีกหน่อยข้ากับพี่สามจะคอยหนุนหลังให้พี่หญิงเอง ท่านไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีผู้ใดอยู่ข้างหลังแล้ว”
ช่างไม่ธรรมดาเสียจริง เจ้าตัวน้อยนี้โตขึ้นแล้ว ปากก็เริ่มหวานแล้ว
ฉินหลิวซีเอ่ย “หากพวกเจ้าคิดจะหนุนหลังข้า ก็จงรับปากข้าเสียก่อน หากยังสอบไม่ผ่านจนได้ตำแหน่งขุนนาง ห้ามมาเจอหน้าข้า”
ฉินหมิงฉุนหน้าถอดสี
“ทำได้หรือไม่”
“ทำไมเล่า” ฉินหมิงฉุนหน้าซีดเผือด ถามด้วยความสงสัย “พี่หญิงไม่ต้องการพวกเราแล้วหรือ”
“เพราะพวกเจ้าจะกลายเป็นจุดอ่อนของข้า จะฉุดรั้งข้า” ฉินหลิวซีเอ่ย “ดังนั้นอย่ามาเจอข้า และอย่าอ้างว่าเป็นพี่น้องกับข้า”
ฉินหลิวซีหยิกแก้มของเขา “ห้ามร้อง ข้าถามเจ้า เครื่องรางหยกที่ข้าให้เจ้าเล่า”
ฉินหมิงฉุนลูบคอตัวเองโดยไม่รู้ตัว เอ่ยว่า “แตกแล้ว”
“แตกได้อย่างไร” ฉินหลิวซีหรี่ตาถาม
ฉินหมิงฉุนคิดอยู่ครู่หนึ่ง เอ่ย “ข้าไปเยี่ยมบ้านของสหาย เล่นกับเขาอยู่ๆ ก็ทำเครื่องรางหยกแตก”
“เล่นอะไรถึงทำให้เครื่องรางหยกแตกได้”
เมื่อเห็นว่านางมีสีหน้าจริงจัง ฉินหมิงฉุนก็รีบถามด้วยความวิตก “มี มีอะไรหรือ”
“เครื่องรางหยกนี้คือเครื่องรางหยกคุ้มภัย สามารถปัดเป่าภัยอันตรายจากเคราะห์กรรมหนึ่งครั้ง ตอนนี้มันแตกแล้ว แปลว่าเจ้าผ่านประสบการณ์เฉียดตายมาแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น ขณะนี้ยังมีพลังหยินเกาะติดตัวเจ้าอยู่” ฉินหลิวซีถามอย่างเคร่งเครียด “ดังนั้นพวกเจ้าเล่นอะไรไปถึงเกือบจะเอาชีวิตไปทิ้งเสียแล้ว”
ฉินหมิงฉุนตกใจสุดขีด “ไม่ใช่กระมัง”
“เจ้าคิดว่าข้าล้อเล่นกับเจ้าหรือ”
ฉินหมิงฉุนรีบส่ายศีรษะ สีหน้าของพี่หญิงเคร่งขรึมถึงเพียงนี้ แม้แต่ผีก็รู้ว่าไม่ใช่เรื่องล้อเล่น แต่เขาก็ไม่ได้รู้สึกถึงอะไรเลยนี่นา
เขาเอียงคอน้อยๆ เอ่ย “พวกเราแค่ไปเล่นในศาลบรรพชนของเขานะ”
ใบหน้าของฉินหลิวซีเขียวปั้ด เอ่ย “ไปเล่นในศาลบรรพชนของคนอื่น เขาไม่ตีเจ้าให้ตายหรือ”
ฉินหมิงฉุนเอ่ยด้วยความละอายใจ “เขาพาข้าไปเอง พอท่านเอ่ยขึ้นมา ข้าก็นึกขึ้นได้ ตอนอยู่ในศาลบรรพชน ข้ารู้สึกว่าหน้าอกของข้าร้อนขึ้นมาก ข้าก็เลยดึงเครื่องรางหยกออกมา ตอนนั้นเองที่มันแตกดังเปรี้ยง”
ดังนั้น ในตอนนั้นเครื่องรางหยกคงช่วยเขารอดพ้นเคราะห์กรรมใช่หรือไม่
“พี่หญิง ข้าจะถูกผีหลอกหรือไม่” ฉินหมิงฉุนถามเสียงอ่อน
ฉินหลิวซีเอานิ้วจี้พลังหยินที่เกาะติดตัวเขาออก เอ่ย “เก้าในสิบเป็นเช่นนั้น เจ้ามีพลังหยินเกาะติด คงเกาะเจ้าไว้จากสถานที่แห่งนั้นแล้ว เพื่อนเจ้าคนนั้นเป็นผู้ใดกัน”
เมื่อรู้ว่าตนเองถูกผีหลอก ฉินหมิงฉุนยิ่งหวาดกลัวขึ้น เอ่ย “เป็นบุตรชายของท่านเจ้าเมืองเมิ่ง เขาอายุเท่ากับข้า เพิ่งมาเรียนที่สำนักศึกษาปีที่แล้ว”
ฉินหมิงฉุนเห็นพี่หญิงของเขานิ่งคิดจึงแอบดึงแขนเสื้อนางเบาๆ เอ่ยอย่างระมัดระวัง “พี่หญิงใหญ่ ท่านช่วยสงสารเสี่ยวอู่คนนี้บ้างเถิด”
สีหน้าของเขาดูเหมือนเด็กที่กำลังขอความช่วยเหลือจากผู้คุ้มครอง ทำให้ฉินหลิวซีหลุดหัวเราะออกมา
แต่ทันใดนั้น ในขณะที่นางกำลังจะเอ่ย ดวงตาของนางกลับมีประกายล้ำลึกขึ้น ความรู้สึกทั้งหมดในตัวนางแปรเปลี่ยนเป็นเย็นชาและน่ากลัว สายตาจับจ้องไปที่ใบหน้าของฉินหมิงฉุนโดยไม่ละสายตา
โหงวเฮ้งของเด็กคนนี้เปลี่ยนไปต่อหน้านาง มีหมอกควันแห่งความตายลอยขึ้นมาปกคลุม
ผู้ใดกัน ผู้ใดกันที่ต้องการชีวิตเขา
หากเมื่อครู่นางยังดูเล่นๆ ทำเป็นโกรธอยู่ ตอนนี้นางกลับโกรธจริงๆ อย่างไม่อาจปิดบังได้
ฉินหมิงฉุนที่เห็นพี่หญิงเปลี่ยนไปในทันใดก็ไม่กล้าส่งเสียงใดๆ คิดว่าตนคงเอ่ยผิดไปแล้วจึงทำให้นางโกรธ เขายืนหดคออย่างหวาดกลัวและประคองตัวด้วยความระมัดระวัง
ฉินหลิวซีเห็นดังนั้นจึงบอกให้เขาไปฝึกเขียนอักษรก่อน “ข้าจะทำเครื่องรางใหม่ให้เจ้าอีกสักพัก”
“อ้อ”
เมื่อกลับเข้าบ้าน ฉินหลิวซีรีบเรียกฉีหวงมาช่วย และหาของสำหรับการทำนายโดยใช้วันเดือนปีเกิดของฉินหมิงฉุน
แต่ทว่าไม่สามารถทำนายได้
ตำรากล่าวว่าไม่ควรทำนายดวงของคนใกล้ชิด แม้นางจะเห็นชัดเจนว่ามีควันแห่งความตายปกคลุมอยู่บนใบหน้าของฉินหมิงฉุน แต่ก็ไม่อาจบอกได้ว่าเคราะห์นั้นจะเกิดขึ้นเมื่อใด
น่ารำคาญนัก
ฉีหวงมองเห็นสีหน้าเคร่งขรึมของนาง เอ่ยถาม “เกิดอะไรขึ้นหรือเจ้าคะ”
ฉินหลิวซีเอ่ยเรื่องที่โหงวเฮ้งของฉินหมิงฉุนเปลี่ยนไป ฉีหวงสีหน้าเปลี่ยนสีในทันใดเช่นกัน “ข้าได้ยินมาว่าเจ้าเมืองเมิ่งเองก็เป็นคนเมืองหนิงโจวเช่นกัน เพิ่งถูกย้ายกลับมาเมื่อสองปีก่อน บ้านเก่าของเขาอยู่ที่หมู่บ้านเจี่ยหยวน ห่างจากเมืองหลีร้อยลี้ พอเป็นไปได้หรือไม่ว่าคุณชายห้าไปเจอสิ่งอัปมงคลที่บ้านเก่าของเจ้าเมืองเข้า ครั้งที่แล้วไม่สำเร็จ ครั้งนี้จึงคิดลงมืออีกครั้ง”
“บอกได้ยาก เจ้าส่งเฉินผีกลับมา ให้ไปอยู่ข้างๆ เขาในช่วงนี้ ข้าจะลองทำนายอีกครั้ง”
ฉีหวงเอ่ย “ท่านจะใช้อาคมต้าเหยี่ยนทำนายหรือ”
แต่นางไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว
ฉีหวงเห็นว่านางตัดสินใจแล้ว จึงรู้ว่าเมื่อนางได้รู้เรื่องนี้แล้วคงไม่สามารถปล่อยผ่านไปได้
ฉินหลิวซีหยิบก้านหญ้ามาทำนายอย่างรวดเร็ว จนได้คำทำนายว่ามันจะเกิดขึ้นในเวลาเย็นพรุ่งนี้
นางหยิบเครื่องรางหยกออกมา เป็นเครื่องรางที่ก่อนหน้านี้ได้ใช้โอกาสตอนที่ถูกฟ้าผ่าเสริมพลังไว้ มีจำนวนไม่มาก เครื่องรางหยกได้ถูกสลักคาถาเอาไว้แล้ว นางยังคงไม่วางใจ หยิบมีดสลักมาแกะเสริมอีกชั้น จากนั้นลงคาถาใส่ไปด้วย
เมื่อแสงสีม่วงทองส่องผ่าน นางพึงพอใจและนำเชือกแดงซึ่งผ่านการเสกขณะบูชาบรรพบุรุษมาร้อยกับยันต์ จากนั้นจึงนำไปให้ฉินหมิงฉุนด้วยตัวเองพร้อมกับสวมให้เขาที่คอ เอ่ยกำชับ “ตอนนี้สำนักศึกษากำลังปิดใช่หรือไม่ พรุ่งนี้ห้ามออกจากจวน ไม่กี่วันจากนี้ ข้าจะให้เฉินผีตามเจ้าไปเพื่อปกป้องเจ้า”
“ทำไมหรือ”
“เพราะเจ้าจะตาย”
ฉินหมิงฉุน “…”
พี่หญิงท่านไม่รักน้องชายผู้นี้แล้วหรือ ถึงกับสาปข้าเช่นนี้
แต่ท่ามกลางสายตาดุดันของพี่หญิง เขาก็ยอมตกลง
แม้ฉินหลิวซีจะทำทุกอย่างอย่างรอบคอบแล้ว แต่นางก็ยังไม่วางใจ จึงร่ายคาถาเสริมเวทมนตร์ที่หลังของเขา และเมื่อทุกอย่างเสร็จสิ้น ไม่เกินคาด นางทรุดลงกับพื้นอย่างจัง ขาเกือบใช้การไม่ได้
มารดามันเถิด โทษจากฟ้าดินไม่เคยมาช้าเลยจริงๆ
ถึงกระนั้นแม้ฉินหลิวซีจะทำทุกอย่างอย่างเต็มที่แล้ว วันถัดมาฉินหมิงฉุนก็ยังแอบออกจากบ้านไปจนได้