คุณหนูใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า - ตอนที่ 1072 ปริศนาการหายตัวไป
ตอนที่ 1072 ปริศนาการหายตัวไป
ฉินหมิงฉุนไม่ได้ออกไปเอง แต่เป็นอาจารย์ของเขาเจ้าสำนักศึกษาถังที่ส่งคนมารับ เนื่องจากมีสหายคนหนึ่งซึ่งมีความเชี่ยวชาญด้านคณิตศาสตร์แวะมาเยี่ยมเยียน เขาเป็นผู้รู้ที่มีชื่อเสียง เมื่อได้มาเยือน แน่นอนเจ้าสำนักศึกษาถังจึงไม่พลาดโอกาสที่จะได้แนะนำลูกศิษย์ของตน
ความหวังดีของอาจารย์ บวกกับฐานะของผู้รู้ ทำให้ฉินหมิงฉุนไม่กล้าปฏิเสธ เขาคิดว่าอย่างมากก็คงอยู่แต่ในบ้านของตระกูลถัง ไม่น่ามีปัญหาจึงพาเฉินผีขึ้นรถม้าที่เจ้าสำนักศึกษาถังส่งมา หลังจากมาถึงบ้านตระกูลถัง ฉินหมิงฉุนก็ไม่ได้ออกไปไหน
แต่ผู้ใดจะคาดคิดว่าเขาจะหายตัวไปจากบ้านตระกูลถัง
เมื่อรู้ว่าลูกศิษย์หายตัวไป เจ้าสำนักศึกษาถังก็ได้ทราบจากเฉินผีว่า ฉินหลิวซีเคยเตือนฉินหมิงฉุนว่าอย่าออกไปไหน เพราะอาจจะมีภัยถึงชีวิต
“ไม่สิ เสี่ยวซีกลับมาแล้ว ในเมื่อทำนายโหงวเฮ้งเอาไว้เช่นนี้ ไยเด็กคนนี้จึงไม่บอกข้า ยังจะมาอีก” เจ้าสำนักศึกษาถังหน้าตาตื่น เอ่ย “นี่เป็นดวงชะตาถึงตาย ตอนนี้เสี่ยวซีอยู่ที่ใด เจ้าตามนางได้หรือไม่”
ลู่สิงฟ่าน สหายของเจ้าสำนักศึกษาถังซึ่งอยู่ข้างๆ มองเขาด้วยความสงสัย จึงเอ่ย “จื่อสือ ท่านอาจจะกังวลเกินไปกระมัง เรื่องคำทำนายเช่นนี้จะเชื่อได้อย่างไร”
“ท่านไม่เข้าใจ” เจ้าสำนักศึกษาถังเอ่ย “คนอื่นอาจจะไม่แม่นยำ แต่นางแม่น”
ลู่สิงฟ่านเงียบไป เขารู้ดีว่าสหายไม่ใช่คนที่พูดสุ่มสี่สุ่มห้า ดังนั้นหากเขาเอ่ยเช่นนี้ แสดงว่ามันต้องมีมูลความจริง แม้ว่าเขาจะยังมีข้อสงสัยแต่ก็เลือกที่จะไม่พูดออกมาเพื่อไม่ให้ถูกต่อว่า
เฉินผีเอ่ยขึ้น “ข้าได้ส่งข่าวไปแล้ว อีกไม่นานนางก็จะมาถึง”
ไม่ทันขาดคำฉินหลิวซีก็ปรากฏตัวขึ้นอย่างกะทันหัน
ลู่สิงฟ่านตกใจจนต้องถอยหลัง “!”
สวรรค์ นี่คือผู้ใด นี่มันวิชาอะไรกัน ไยจู่ๆ ก็โผล่มาได้
“เสี่ยวซี” เจ้าสำนักศึกษาถังที่ไม่ได้เจอนางหลายปี ทั้งดีใจและเป็นกังวล เอ่ย “ข้าไม่รู้เลยว่าหมิงฉุนจะมีดวงชะตาร้ายแรงถึงชีวิต พอดีวันนี้มีสหายมาเยี่ยม ข้าจึงอยากจะแนะนำให้เขาได้รู้จัก แต่ผู้ใดจะคิดว่าจู่ๆ เขาจะหายตัวไปจากบ้านเช่นนี้”
ฉินหลิวซีส่ายศีรษะ “หากเป็นเคราะห์ อย่างไรก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ ข้าได้เตรียมการทุกอย่างไว้แล้ว แต่เขายังมีเคราะห์เช่นนี้ เห็นได้ว่ามันเป็นเรื่องของโชคชะตา ไม่ใช่ความผิดของท่าน คนหายจากที่ใดหรือ”
เฉินผีเอ่ย “ที่ห้องสุขาขอรับ” เขาเดินนำหน้าอยู่ตลอด พร้อมเอ่ย “จากบ้านมาถึงตระกูลถัง ข้าอยู่ข้างกายเขาตลอด กระทั่งมายังห้องสุขา เขาไปนาน ข้าตามเข้าไปดูถึงได้รู้ว่าเขาหายไปแล้วขอรับ”
ฉินหลิวซีมีสีหน้าเคร่งขรึม
ลู่สิงฟ่านซึ่งเดินตามอยู่ข้างหลัง ดึงตัวเจ้าสำนักศึกษาถังที่กำลังจะเร่งฝีเท้า เอ่ยว่า “เมื่อครู่จู่ๆ นางก็ปรากฏตัวขึ้นมาใช่หรือไม่ นี่คือความสามารถที่ท่านบอก นี่เรียกว่าอะไรหรือ นางสามารถเหาะเหินเดินอากาศได้หรือ ย้ายภูเขาหรือถมทะเลได้หรือไม่ จริงสิ อีกอย่างนางดูยังสาวอยู่เลย แต่จริงๆ อาจเป็นคนอายุกว่าร้อยปีแล้วใช่หรือไม่ ข้าควรเรียกนางว่าท่านอาจารย์ย่าหรือท่านย่าเซียนดี”
เจ้าสำนักศึกษาถังกลั้นหายใจด้วยความลำบากใจ “นี่ไม่ใช่เวลามาถามอะไรเช่นนี้ เสี่ยวฉุนหายตัวไป ถ้าไม่ใช่เพราะข้าเรียกเขามาให้ท่านรู้จัก เรื่องนี้คงไม่เกิดขึ้น ถ้าเขาเป็นอะไรไป ข้าคงไม่มีวันสงบใจได้”
ฉินหมิงฉุนไม่ใช่เด็กที่เฉลียวฉลาดมากนัก แต่เขามีนิสัยซื่อสัตย์และขยัน แม้จะไม่ใช่คนที่เรียนเก่งมากแต่ก็เต็มใจเล่าเรียน เขาไม่อาจเทียบคนอื่นได้ แต่การคำนวณเขามีพรสวรรค์
อนาคตของเขาถูกวางแผนไว้อย่างดี หากเขาสอบจอหงวนได้ก็ดีไป แต่ถ้าสอบไม่ได้ก็ขอเพียงสอบได้เป็นจวี่เหรินก็ยังสามารถเข้ารับราชการได้ อีกทั้งเขายังเชี่ยวชาญในด้านคณิตศาสตร์ หากมุ่งเน้นเดินทางสายนี้ก็อาจจะสร้างชื่อเสียงได้เช่นกัน
แต่ตอนนี้เด็กหายตัวไปแล้ว เขาเพิ่งจะอายุสิบเอ็ดปีเอง
ยิ่งฉินหลิวซีทำนายไว้ว่าจะมีเคราะห์ชีวิต ทำให้เจ้าสำนักศึกษาถังยิ่งไม่อาจสงบใจได้
ลู่สิงฟ่านหันมาเก้อเขิน ลูบจมูกตัวเอง เอ่ย “ข้าก็แค่สงสัยเล็กน้อยเท่านั้น”
ฉินหลิวซีหันกลับมามองเขาอย่างเงียบๆ เห็นเขายิ้มแป้นโชว์เหงือกสีชมพูและฟันขาวที่ดูแปลกตาจึงหันกลับไป
ตระกูลถังเป็นตระกูลที่รักการศึกษา แม้แต่ห้องสุขาก็ยังตกแต่งอย่างมีรสนิยม ดูสะอาดสะอ้าน มีกลิ่นน้อยมาก หรือจริงๆ แล้วไม่มีกลิ่นเลย ไม่สิ มันมีกลิ่นอยู่บ้าง แต่ไม่ใช่กลิ่นจากห้องสุขา แต่เป็นกลิ่นอื่น
“เจ้ารู้สึกได้กลิ่นอะไรหรือไม่” ฉินหลิวซีถามเฉินผี พลางใช้มือปิดจมูก
เฉินผีดมฟุดฟิด กลิ่นคาวอ่อนๆ กลิ่นสาบหรือ
พวกเจ้าสำนักศึกษาถังเองก็ลองดมดู แต่ไม่ได้กลิ่นอะไรเลย
“น่าจะเป็นกลิ่นของจิ้งจอก” เฉินผีตอบ
ฉินหลิวซีสำรวจห้องอย่างละเอียด ก่อนจะหยิบขนสีทองสองเส้นจากข้างถังส้วม เอ่ยว่า “เป็นจิ้งจอก”
ดูจากสภาพของขนจิ้งจอกนี้ น่าจะมีพลังบำเพ็ญไม่น้อย อีกทั้งยังสามารถลักพาตัวฉินหมิงฉุนได้โดยไม่มีเสียง นางคาดว่าคงเป็นจิ้งจอกที่บำเพ็ญจนสำเร็จเป็นปีศาจ ไม่เช่นนั้นมันคงไม่สามารถพาตัวไปได้
มีเพียงผู้ที่มีพลังฝีมือสูงพอเท่านั้นที่จะพาตัวคนไปโดยไม่มีผู้ใดรู้
“นี่เป็นฝีมือของปีศาจจิ้งจอกหรือ” ลู่สิงฟ่านทนไม่ไหว รีบเข้ามาเอ่ยถาม
เจ้าสำนักศึกษาถังรีบลากเขากลับไป อย่ารู้มากเกินไปดีกว่า สหายคนสุดท้ายที่รู้เรื่องนี้ ตอนนี้กลายเป็นกระดูกไปแล้ว
พี่เหยียน หวังว่าเจ้าได้ไปเกิดใหม่แล้ว
ฉินหลิวซีพยักหน้า เอ่ย “น่าจะใช่ แต่ยังไม่แน่ว่าเป็นปีศาจหรือเซียน”
เจ้าสำนักศึกษาถังมองขนจิ้งจอกสีทอง เอ่ย “แล้วจะทำอย่างไรต่อไป มันพาเด็กไปที่ใด แล้วต้องการอะไร”
“อย่าเพิ่งกังวล ข้าจะลองหาดู” นางหยิบขนจิ้งจอกขึ้นมาและเริ่มร่ายคาถา พร้อมกับคำนวณอย่างรวดเร็วด้วยมือ หลังจากนั้นครู่หนึ่ง นางจึงบอกเจ้าสำนักศึกษาถังว่า “เจอแล้ว ข้าจะพาเขากลับมา”
เจ้าสำนักศึกษาถังร้องอ้าว แต่ก่อนจะได้ถามอะไร นางก็เดินออกจากห้องน้ำไปแล้ว ร่างของนางหายวับไปในทันที เขาถอนหายใจอย่างจนใจ “อย่างน้อยบอกข้าหน่อยเถอะว่าคนถูกพาไปที่ใด”
ลู่สิงฟ่านตื่นเต้นจนน้ำเสียงสั่นเครือ เขาดึงเฉินผีมาถามด้วยความตื่นเต้น “เทพเจ้าท่านนี้มาจากสำนักใดกัน นางยังรับศิษย์หรือไม่ เจ้าคิดว่าข้าเข้าข่ายเป็นศิษย์ได้หรือไม่”
เฉินผีมองเขาเหมือนเจอผี ใบหน้ายังคงแปลกใจพลางเอ่ย “ท่านไม่ใช่นักปราชญ์หรือ คนอ่านหนังสือไม่ใช่ว่าไม่นิยมเอ่ยถึงเรื่องอำนาจเร้นลับหรืออย่างไร”
อีกอย่าง เทพเจ้าคืออะไรกัน
ลู่สิงฟ่านกระแอมไอเบาๆ “การเรียนรู้ไม่มีที่สิ้นสุด ข้าตั้งใจแน่วแน่ที่จะบำเพ็ญเพียรทางเต๋า”
เฉินผีกะพริบตา เอ่ยถาม “ท่านมีเงินหรือไม่”
“กราบอาจารย์ยังต้องเสียเงินอีกหรือ แต่ก็จริง ข้าก็เก็บเงินจากศิษย์ที่มาหาข้าเหมือนกัน เจ้าคิดว่าต้องใช้เงินเท่าใดถึงจะกราบนางเป็นอาจารย์ได้” ลู่สิงฟ่านถาม “แล้วต้องเรียนนานเพียงใด ข้าถึงจะสามารถทำได้แบบนาง หายตัวไปแบบแว๊บๆ”
เฉินผี “ท่านล้มเลิกความคิดเถิด ต่อให้ท่านตายก็ไม่มีวันทำได้ อีกอย่างผู้ใดบอกท่านว่าจ่ายเงินแล้วจะเป็นศิษย์เจ้าอาวาสข้าได้ นางเลิกรับศิษย์นานแล้ว ถ้าท่านต้องการบำเพ็ญเพียร ท่านสามารถเป็นศิษย์ของอารามชิงผิงได้ เพียงแต่ท่านต้องบริจาคเงินทำบุญสักหมื่นสองหมื่น ข้ามีคัมภีร์หนึ่งเล่มที่เจ้าอาวาสเขียนด้วยตนเอง หากท่านฝึกฝนตามวิธีการในหนังสือทุกวัน รับรองว่าท่านจะแข็งแรงและมีอายุยืนถึงร้อยปี”
ลู่สิงฟ่าน “…”
เขาหันกลับไปหาเจ้าสำนักศึกษาถัง เอ่ย “เมื่อครู่เราพูดถึงเรื่องใดแล้ว กลับไปคุยต่อหรือไม่”
หมื่นสองหมื่น เขาไม่ใช่คนโง่ที่จะถูกหลอกได้นะ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเขายังไม่ได้กราบเทพเจ้าท่านนั้นด้วย
เจ้าสำนักศึกษาถังเต็มไปด้วยความทุกข์ใจ ข้ากำลังเป็นห่วงความปลอดภัยของศิษย์ ขณะที่เจ้านี่กลับเล่นสนุกเช่นนี้ เหมาะสมหรือ