คุณหนูใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า - ตอนที่ 1073 ต้องการเลือดของเขา
ตอนที่ 1073 ต้องการเลือดของเขา
ฉินหมิงฉุนไม่คาดคิดว่าเพียงเข้าไปถ่ายหนักครู่เดียว กลับถูกบางคนลักพาตัวมาเสียได้ แถมเขายังไม่ได้เช็ดก้นด้วยซ้ำ คนลักพาตัวไม่รังเกียจเลยหรือ
นอกจากนี้ พี่หญิงใหญ่บอกว่าอย่าออกจากบ้าน ไม่เช่นนั้นจะเป็นอันตรายถึงชีวิต ตอนนี้เขาออกมาแล้ว จะเป็นเครื่องพิสูจน์หรือไม่ว่าเขาจะตาย
ขอโทษขอรับพี่หญิงใหญ่ ข้าไม่เชื่อฟัง ข้าหาเรื่องใส่ตัวเอง
“พอได้แล้ว เจ้าจะร้องไห้ไปถึงเมื่อไร” สตรีที่จับตัวเขามาเอ่ยขึ้นเสียงแข็ง “ออกมานานเท่าไร ก็ร้องไห้เท่านั้น รำคาญชะมัด”
ฉินหมิงฉุนสะอึกไปชั่วขณะ ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงเคร่งขรึมกลบเกลื่อนความกลัว “พวกยายแก่อย่างเจ้า เจ้ารีบปล่อยข้าเดี๋ยวนี้ เจ้ารู้หรือไม่ว่าพี่หญิงใหญ่ข้าเป็นผู้ใด”
“พวกยายแก่หรือ” สตรีชี้นิ้วมาที่ตนเอง เบิกตากว้าง เอ่ย “ข้าคือผู้นำแห่งห้าตระกูลเทพทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เซียนหญิงจิ้งจอกผู้งดงามดั่งดอกไม้ เจ้าเรียกข้าว่ายายแก่อย่างนั้นหรือ”
“เจ้าคือ เจ้าก็คือ คือเซียนจิ้งจอกอย่างนั้นหรือ เฮ้ย ข้าเคยเห็นปีศาจจิ้งจอกที่งามกว่านี้ ยั่วยวนจับใจเสียยิ่งกว่ามาก นั่นต่างหากที่เรียกว่าเลอโฉม” ฉินหมิงฉุนเอ่ยขึ้น “ถ้าเจ้ามีสติอยู่บ้างก็รีบปล่อยข้าไปเถิด มิฉะนั้นข้าจะเรียกพี่ชายมาจัดการเซียนจิ้งจอกปลอมอย่างเจ้าให้ตาย”
เซียนจิ้งจอก “เหอะ ข้ากลัวจนสั่นแล้ว”
ฉินหมิงฉุนร้องไห้ขึ้นมาอีกครั้ง
เซียนจิ้งจอกยิ้มเหยียด โชคดีที่ถึงจุดหมายแล้ว นางเหวี่ยงตัวเขาลงต่อหน้าชายผู้หนึ่ง “ข้าพาเขามาแล้ว ต่อจากนี้ไป ข้ากับตระกูลเมิ่งของเจ้าไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีกแล้ว”
ฉินหมิงฉุนมึนงงไปชั่วขณะ มองไปยังชายผู้หนึ่งตรงหน้า “ใต้เท้าเมิ่งหรือ”
ชายตรงหน้าไม่ใช่ผู้อื่นใด นอกเสียจากเจ้าเมืองเมิ่ง บิดาของเมิ่งก่วง สหายร่วมชั้นของเขาเอง
เจ้าเมืองเมิ่งหันไปมองเซียนจิ้งจอก เอ่ย “เซียนจิ้งจอก ท่านช่วยปกปักคุ้มครองตระกูลเมิ่งของข้ามานาน หากท่านยังประสงค์จะอยู่ต่อ พวกเราพร้อมจะถวายเครื่องบูชาที่มากกว่าเดิม”
เซียนจิ้งจอกหัวเราะเยาะ “ถ้าไม่ใช่เพราะยายทวดของเจ้าเคยช่วยชีวิตข้า ข้าคงไม่มาที่ตระกูลเมิ่งแห่งนี้เพื่อเป็นเทพพิทักษ์ ปกป้องพวกเจ้ามาจนถึงบัดนี้ นับเป็นการตอบแทนบุญคุณในอดีตแล้ว ข้าขอเตือนเจ้าสักอย่าง การกระทำที่ผิดศีลธรรมย่อมนำมาซึ่งหายนะ การทำบาปย่อมได้รับโทษทัณฑ์จากสวรรค์”
แม้นางรู้ว่าตระกูลเมิ่งแอบทำสิ่งผิดบาป แต่นางไม่รู้ว่าพวกเขากำลังทำอะไรอย่างแน่ชัด มีใครบางคนคอยปกปิดความลับให้อยู่ นางไม่อยากจมปลักอยู่ในหล่มโคลนเช่นนี้จึงตัดสินใจตัดขาดความสัมพันธ์กับตระกูลเมิ่ง
เจ้าเมืองเมิ่งเอ่ย “เช่นนี้แปลว่าเซียนจิ้งจอกไม่ประสงค์จะอยู่ในตระกูลเมิ่งต่อไปแล้วหรือ”
เซียนจิ้งจอกตอบด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น “ตระกูลเมิ่งไม่ต้องการข้าอีกแล้วไม่ใช่หรือ”
เจ้าเมืองเมิ่งยิ้ม “จะเป็นไปได้อย่างไร พวกเรากล่าวเสมอว่า ตราบใดที่ท่านยังอยู่ พวกเราจะบูชาท่านไปตลอดชีวิต ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง ดังนั้นท่านควรจะอยู่เพื่อเป็นกำลังให้แก่ตระกูลเมิ่งต่อไป ส่งมอบพลังไปจนถึงแสงสุดท้าย”
“เจ้าหมายความว่าอย่างไร…” เซียนจิ้งจอกเอ่ยขึ้น พลันรู้สึกถึงบางสิ่งผิดปกติ นางหรี่ตามองเห็นกรงที่วาดด้วยเครื่องรางเลือดพุ่งตรงมาทางตน
เส้นขนบนตัวของเซียนจิ้งจอกลุกชันไปทั่ว ตระกูลเมิ่งชั่วช้า คำพูดของพวกเจ้าไม่น่าเชื่อถือ มนุษย์ช่างเลวทรามนัก
นางกระโจนไปทางฉินหมิงฉุนอย่างรวดเร็ว ดึงเส้นขนสามเส้นจากหน้าผากตนเองมอบให้เขา “รีบหนี”
นางคว้าตัวเขาขึ้นแล้วพยายามพาเขาหนี หากตระกูลเมิ่งไร้ซึ่งคุณธรรม นางย่อมไม่อาจปล่อยให้เขาตกอยู่ในมือของตระกูลเมิ่งได้
แต่กรงนั้นราวกับมีชีวิต ตามติดนางไม่ปล่อย เซียนจิ้งจอกสัมผัสได้ถึงอันตรายยิ่งกว่าที่เคยเจอ นางแปลงร่างเป็นจิ้งจอกสีทอง ส่งเสียงร้องแหลม กระโดดถีบกรงนั้นอย่างแรง ก่อนจะหันไปตะโกนใส่ฉินหมิงฉุน “วิ่งสิ”
กรงเครื่องรางเลือดเด้งขึ้นไปในอากาศเล็กน้อย แล้วหมุนตัวลงมาครอบนางไว้ เซียนจิ้งจอกถูกขังไว้ในกรง
เซียนจิ้งจอกรู้ว่าชะตาของนางถึงคราวจบสิ้นแล้ว
ฉินหมิงฉุนวิ่งออกจากลานบ้าน พลันพบกับเมิ่งก่วงสหายของตนยืนอยู่ข้างหน้า เมิ่งก่วงรีบฉุดเขาไว้ “ตามข้ามา ข้าจะพาเจ้าหนีไป”
ฉินหมิงฉุนวิ่งตามไปได้ไม่กี่ก้าว จากนั้นร้องขึ้น “อากวง”
เมิ่งก่วงหันกลับมา “หืม”
“ตายซะเถิด” ฉินหมิงฉุนใช้ค้อนเงินทุบไปที่ศีรษะของเมิ่งก่วง
ค้อนนี้เป็นของขวัญที่ลู่สิงฟ่านให้ไว้เป็นของขวัญพบหน้า เป็นค้อนเงินแกะสลักลายกิเลน เป็นค้อนตันๆ ใช้ทุบเปลือกวอลนัท หนักประมาณสองเฉียน
ฉินหมิงฉุนทุบเข้ากลางหน้าผากของเมิ่งก่วง เมิ่งก่วงเบิกตาโต มองตาค้างพูดไม่ออก “เจ้า…”
ตึง
เสียงดังขึ้นเมื่อเขาล้มลงกับพื้น เลือดเริ่มซึมออกจากหน้าผากของเขา
ฉินหมิงฉุนเตะเขาอีกครั้ง “พ่อหมาชั่วของเจ้าลักพาตัวข้า เจ้าคิดว่าข้าจะเชื่อเจ้าหรือ”
ทันใดนั้นเสียงฝีเท้าก็ดังขึ้นจากด้านหลัง เขารีบวิ่งไปทางซ้ายอย่างรวดเร็ว จำได้ว่าเคยเล่นกับเมิ่งก่วงตรงนั้น และรู้ว่ามีรูสำหรับหมาอยู่ตรงนั้น
ทันทีที่เห็นรูเขาก็ยิ้มดีใจ รีบพุ่งไปข้างหน้า หมายจะมุดเข้าไปในนั้น แต่พอร่างมุดเข้าไปได้ครึ่งตัว สายเข็มขัดก็ถูกใครบางคนดึงไว้ยกขึ้นจากพื้น
“อ๊ากกกก ปล่อยข้านะ” ฉินหมิงฉุนดิ้นรนร้องเสียงดัง
เมื่อเขาเห็นคนที่จับเขา ชายคนนั้นใส่เสื้อคลุมดำมิดชิดจนไม่เห็นใบหน้า จนกระทั่งเงยหน้าให้เห็นเต็มตา
“อ๊ากกก ปีศาจเฒ่า” ฉินหมิงฉุนเตะไปที่อกของเขา
ชายในชุดคลุมดำมีใบหน้าที่เต็มไปด้วยหลุมบ่อ นัยน์ตาจมลึกเผยให้เห็นกระดูกผิวสีคล้ำและนิ้วที่มีเล็บดำยาว แสยะยิ้มเผยเขี้ยวแหลมสองซี่
ถึงแม้จะถูกเตะ แต่ชายในชุดคลุมดำไม่โกรธ เขาใช้มือบีบคอฉินหมิงฉุนและก้มลงเพื่อกัดคอ
เลือด เลือดบริสุทธิ์รสเลิศ เป็นเลือดเด็กที่มีพลังล้ำค่า
เพียงได้ดื่ม เขาจะกลับมามีชีวิตอมตะ
แต่ทันใดนั้นเมื่อเขาใกล้จะกัด ก็มีแสงสีทองแผ่ออกมาจากร่างฉินหมิงฉุน ร้อนแรงราวกับถูกไฟเผา
ชายในชุดคลุมดำร้องเสียงดังด้วยความเจ็บปวด ปล่อยมือและถอยออกไป มองมือตัวเองที่เริ่มละลายเพราะถูกเผา
เขาทั้งโกรธและหวาดกลัว
ส่วนฉินหมิงฉุนที่ตกลงบนพื้นอย่างแรงนั้น กระอักเลือดออกมา รู้สึกเหมือนอวัยวะภายในเคลื่อนย้ายไปหมด หน้าซีดขาว แต่ถึงแม้จะมึนงง เขาก็ควักเครื่องรางหยกที่ใส่ไว้ขึ้นมา พยายามคลานหนีไปทางรูหมาโดยไม่สนใจความเจ็บปวด
เขาต้องหนีไปจากปีศาจนี้ให้ได้ มิฉะนั้นเขาจะต้องตายแน่ๆ
ชายในชุดคลุมดำมองไปยังฉินหมิงฉุนด้วยความหิวกระหาย และจับดินที่ผสมเลือดของเขาขึ้นมากิน แม้ดินจะรสชาติแย่ แต่เลือดที่เปล่งกลิ่นของพลังวิเศษทำให้มือที่ถูกเผานั้นฟื้นตัวได้ทันที
เขาตาลุกวาว เมื่อเห็นฉินหมิงฉุนกำลังจะหนี จึงยื่นมือออกไปจับอีกครั้ง
เขาเป็นอาหารชั้นยอดของข้า จะปล่อยให้หนีไปไม่ได้
มือของเขาคว้าขาฉินหมิงฉุนได้ ฉินหมิงฉุนจึงใช้เครื่องรางหยกในมือฟาดกลับไป
ทันใดนั้น สายฟ้าสีม่วงทองก็พุ่งออกมาจากเครื่องรางกระแทกเข้าที่ชายชุดคลุมดำ เสียงดังสนั่น
ชายในชุดคลุมดำถูกฟ้าผ่าจนเกิดควันดำ ความเจ็บปวดจากการเผาไหม้ทำให้เขาคำรามอย่างเกรี้ยวกราด
ทันใดนั้นเจ้าเมืองเมิ่งก็ปรากฏตัวขึ้น ชายในชุดคลุมดำจึงตะโกนเสียงแหบแห้ง “จับเขาไว้”
ฉินหมิงฉุนถูกเจ้าเมืองเมิ่งลากกลับมา
“ทำลายหยกนั่นซะ”
เจ้าเมืองเมิ่งรีบคว้าเครื่องรางหยกจากมือของเขา
แต่ฉินหมิงฉุนกำไว้แน่น และขว้างขนจิ้งจอกสามเส้นที่จิ้งจอกสวรรค์มอบให้ใส่ใบหน้าเจ้าเมืองเมิ่ง ทันทีที่ขนสัมผัสใบหน้า เจ้าเมืองเมิ่งร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด
ขนจิ้งจอกนั้นกลายเป็นน้ำกรดที่กัดใบหน้าของเขาจนเป็นแผลเหวอะหวะ
“ไร้ประโยชน์” ชายในชุดคลุมดำตะโกนอย่างโกรธจัด เขาหยิบไข่มุกสีดำสนิทออกมาจากอกเสื้อและขว้างใส่ฉินหมิงฉุน
ฉินหมิงฉุนยกเครื่องรางหยกขึ้นบัง “พี่หญิงใหญ่ ช่วยข้าด้วย”
ปึง
เสียงดังสนั่น ไข่มุกถูกกระแทกกระเด็นออกไป ฉินหมิงฉุนถูกคนดึงตัวขึ้นแล้วโยนไปข้างหลัง ขณะที่เขาได้กลิ่นที่คุ้นเคย เขาก็ทิ้งศีรษะลง ข้าหมดสติได้แล้ว
ฉินหลิวซีมองดูหนึ่งคนหนึ่งศพตรงหน้า ดวงตาเย็นชา “พวกเจ้านี่รนหาที่ตายจริงๆ”