คุณหนูใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า - ตอนที่ 1085 เอาอาจารย์เจ้าเป็นเยี่ยงอย่าง ทำตัวไร้คุณธรรม
- Home
- คุณหนูใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า
- ตอนที่ 1085 เอาอาจารย์เจ้าเป็นเยี่ยงอย่าง ทำตัวไร้คุณธรรม
ตอนที่ 1085 เอาอาจารย์เจ้าเป็นเยี่ยงอย่าง ทำตัวไร้คุณธรรม
ประตูใหญ่ของตระกูลศักดินา ไม่สามารถเปิดตามอำเภอใจได้ จะต้องเป็นแขกที่สูงศักดิ์มาเยี่ยมเยียน ถึงจะเปิดประตูนี้ได้
ทว่าฉินหลิวซีมาถึงก็ให้อีกฝ่ายเปิดประตูใหญ่เลย แถมยังจะให้องค์หญิงอี๋เล่อออกมาส่งคนด้วยตนเองอีกด้วย เหิมเกริม เหิมเกริมเกินไปแล้ว!
เฟิงซิวมองดูนางยืนกอดอกรออยู่ที่หน้าประตูใหญ่ ทว่าก็ไม่ได้ไปถามว่าเป็นอย่างที่นางเอ่ยไว้หรือไม่ องค์หญิงอี๋เล่อจะออกมาส่งคนด้วยตนเอง
เพราะคำถามนี้ไม่มีความจำเป็นที่ต้องถามเลย!
ฉินหลิวซีบอกแล้ว คนที่อยู่ข้างในต้องทำตามคำสั่งเท่านั้น แม้ว่าจะไม่เต็มใจก็ตาม ไม่มีสิทธิ์ตัดสินใจใดๆ ทั้งสิ้น เช่นเดียวกับบ่าวรับใช้ชายที่เฝ้าประตู ทั้งๆ ที่เขาเตรียมจะไล่ตะเพิด แต่ร่างกายกลับรีบไปทูลองค์หญิงอย่างเชื่อฟัง
องค์หญิงอี๋เล่อเองก็เชื่อฟังเหมือนบ่าวรับใช้ชายคนนั้นไม่มีผิด
ฉินหลิวซีไม่เคยคิดจะเสียเวลาเล่นกับองค์หญิงเลยแม้แต่น้อย เพราะนางยุ่งมาก
ทั้งสองยืนโดดเด่นอยู่ที่หน้าประตูใหญ่ ผู้คนที่สัญจรไปมาเห็นแล้วก็รู้สึกแปลกใจไม่น้อย ไม่รู้ว่าทั้งสองไปยืนอยู่หน้าประตูจวนคนอื่นทำไมกัน
เมื่อเกิดความสงสัยและก็ว่างอยู่ไม่มีอะไรทำ จึงคิดหาวิธีทำให้ตนเองพึงพอใจ เห็นได้ชัดว่าเป็นการซุบซิบนินทา คนที่สอดรู้สอดเห็นเรื่องชาวบ้านต้องขัดเกลาตนเองบ้าง!
ดังนั้นคนที่มารอมุงดูความครึกครื้นยิ่งอยู่นานก็ยิ่งเพิ่มขึ้น
ภายในจวนองค์หญิง องค์หญิงอี๋เล่อแทบจะอกแตกตายอยู่แล้ว
นางไม่รู้ว่าตนเองเป็นอะไรไป หลังจากที่คนเฝ้าประตูมาแจ้งข่าวแล้ว นางแทบจะหัวเราะจนสุดเสียง อะไรกัน ให้นางส่งคนออกไปภายในหนึ่งเค่อ แถมต้องใช้ประตูใหญ่เท่านั้น
ช่างอวดดีเสียจริง!
ในเมืองเซิ่งจิงยังมีคนอวดดีกว่าองค์หญิงอี๋เล่ออีกหรือ!
นางเป็นธิดาที่ฮ่องเต้มีตอนที่อายุมากแล้ว ได้รับความโปรดปรานเป็นอย่างมาก พี่ชายมารดาเดียวกันของนางก็เป็นถึงองค์รัชทายาท กำลังรุ่งโรจน์โชติช่วง แม้แต่องค์หญิงองค์โตเชื้อสายหลักก็ยังต้องหลบเลี่ยงนาง
แต่ตอนนี้กลับมีคนมาหาเรื่องถึงจวนของนาง กล้าดีเสียจริง!
นางเองก็อยากจะดูให้เห็นกับตาว่าท่านอาจารย์ของนักพรตน้อยศักดิ์สิทธิ์มาจากไหน เหตุใดถึงได้โอหังเช่นนี้
เดิมทีองค์หญิงอี๋เล่อกำลังจะสั่งให้บ่าวรับใช้ไปพาคนเข้ามาให้นางดูหน่อย ทว่าคำพูดที่พูดออกไปนั้น กลับกลายเป็นสั่งให้เปิดประตูใหญ่แทน จากนั้นก็เชิญให้นักพรตหนุ่มและคนอื่นๆ ออกมา
ทุกคน “?”
องค์หญิงอี๋เล่อเองก็รู้สึกอึ้งเป็นอย่างมาก นัยน์ตาของนางสั่นไหว รีบใช้มือปิดปาก ไม่ นางไม่ได้หมายความเช่นนี้!
นางจะสั่งว่าห้ามเปิดประตู แต่คำพูดที่พูดออกมานั้น กลับกลายเป็นว่า “พวกเจ้ามัวรออะไรกันอยู่ ยังไม่รีบไปเชิญเหล่านักพรตออกมาอีก”
หญิงรับใช้รีบทำตามคำสั่งด้วยความเร่งรีบ
องค์หญิงอี๋เล่อตกใจกลัวเป็นอย่างมาก รีบสั่งหยุดบ่าวรับใช้ว่าไม่ใช่ นางไม่ได้ต้องการเช่นนี้
ทำไมกัน เหตุใดคำพูดที่พูดออกมาถึงกลายเป็นเช่นนี้ไปได้ ปากไม่ตรงกับใจหรือ
เกิดอะไรขึ้น เหตุใดปากของนางถึงเป็นเช่นนี้ไปได้
ผี มีผีหรือ
องค์หญิงอี๋เล่อกรีดร้องจนสุดเสียง ทว่าจู่ๆ นางก็รู้สึกเหมือนถูกบีบคอขึ้นมาทันควัน ส่งเสียงไม่ได้เลยแม้แต่น้อย
เมื่อเหล่าบรรดาบ่าวรับใช้และหมัวหมัวเห็นสีหน้าเหยเกของนางแล้ว ต่างก็พากันสบตาด้วยความงุนงง รู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างแปลกไป จึงจะเข้าไปถาม ทว่าองค์หญิงอี๋เล่อกลับวิ่งพุ่งออกไปด้านนอกก่อน
ทุกคน “?”
ภายในใจขององค์หญิงอี๋เล่อกำลังกรีดร้องโวยวาย ดึงข้าไว้ ใครก็ได้ดึงข้าที ข้าไม่ได้อยากออกไป
ไม่นานนางก็ได้เห็นนักพรตหนุ่มที่นางหลงใหล เขาหล่อเหลาคมคายเป็นอย่างมาก คนที่โดดเด่นเช่นนี้ ประหนึ่งเทพเซียน เป็นสิ่งที่มีค่าเลิศเลอให้นางได้ลิ้มลองชิมก่อน
องค์หญิงอี๋เล่ออยากจะเอ่ยเหมือนเช่นก่อนหน้านี้ นักพรตหนุ่ม ยอมเป็นของข้าเถิด!
ทว่าคำพูดที่พูดออกมานั้น กลับกลายเป็นว่า “นักพรตอาวุโสมาถึงแล้ว ข้าจะส่งท่านออกจากจวนด้วยตนเอง”
เฮยซายืนกอดอก หากเถิงเจาไม่ห้ามไว้ เขาคงลงมือฆ่าจนหมดเกลี้ยงไปแล้ว!
ใบหน้าขององค์หญิงอี๋เล่อกระตุกเล็กน้อย ในใจกลัดกลุ้มเป็นอย่างมาก ห้ามไป เจ้าเป็นของข้า!
สิ่งที่น่าแปลกคือขาทั้งสองข้างราวกับไม่ใช่ของนางอย่างไรอย่างนั้น เดินตรงไปยังประตูใหญ่ประหนึ่งมีความคิดเป็นของตนเอง
เถิงเจาและคนอื่นๆ มองดูท่าเดินที่บิดงอและแปลกประหลาดของนางแล้วก็พากันงุนงงไปตามๆ กัน องค์หญิงถูกผีสิงหรืออย่างไรกัน
เดินได้ไม่กี่ก้าว ทุกคนต่างก็พากันอึ้งไปหมด เพียงครู่เดียวสีหน้าดีใจก็ปรากฏขึ้นมาแทน
“ท่านอาจารย์ (ซีซี) มาแล้ว”
องค์หญิงอี๋เล่อมองดูคนคุ้มกันเปิดประตูใหญ่ตามคำสั่งของนางด้วยใบหน้าที่ซีดเผือด “…”
ไร้ประโยชน์ เจ้าพวกไร้ประโยชน์ นางจะฟันพวกเขาให้หมด!
นางจ้องมองราชบุตรเขยที่นางประคบประหงมมาอย่างดีกำลังจะกลับรังประหนึ่งนกกระจอกก็ไม่ปาน เขาสาวเท้าไปยังทิศทางประตูใหญ่อย่างรวดเร็ว นางก็น้ำตาคลอเบ้าขึ้นมาทันที
น่าโมโหสิ้นดี!
เถิงเจาได้เห็นหน้าอาจารย์แล้ว ดวงตาก็เป็นประกายขึ้นมาทันที ทว่าก็เดินไปหาด้วยความรู้สึกผิด พร้อมกับก้มหน้าลงต่ำ “ศิษย์อกตัญญู ทำให้อาจารย์เป็นห่วงแล้ว”
เจ้าโสมน้อยและเฮยซากระวนกระวายใจเป็นอย่างมาก แม้จะเห็นว่าอสูรกำลังฉีกยิ้มอยู่ ทว่าพวกเขากลับรู้สึกว่าผิวหนังของตนเองเกร็งไปหมด
ฉินหลิวซีลูบศีรษะของเขาเบาๆ “พลาดหนึ่งครั้งก็จะฉลาดขึ้นมาอีกหนึ่งขั้น คนบางคนก็ไม่สมควรที่จะเป็นคน เผชิญหน้ากับคนเหล่านี้ เจ้าไม่จำเป็นต้องมีคุณธรรม ผู้อื่นก็จะไม่สามารถใช้คุณธรรมมาบีบบังคับเจ้าได้ เข้าใจหรือไม่”
สุดยอด เจ้าสอนลูกศิษย์เช่นนี้ได้อย่างไรกัน
แน่ใจหรือว่าไม่ได้สอนไปเรื่อย?
เฟิงซิวคอยพูดเหน็บแนมอยู่ข้างๆ “ถูกต้อง ต่อไปเจ้าต้องเอาอาจารย์เจ้าเป็นเยี่ยงอย่าง ไร้คุณธรรม…เอ๊ย ไม่ใช่ พิชิตผู้อื่นด้วยคุณธรรม!”
ทุกคน พวกข้ารู้ว่าไร้คุณธรรม!
ปรมาจารย์ของนักพรตน้อยเป็นสตรีหรอกหรือ มิน่าเล่านางถึงได้หยิ่งยโสขนาดนี้
ฉินหลิวซีเห็นองค์หญิงอี๋เล่อแล้ว ก็ค่อยๆ สาวเท้าเดินเข้าไปหานางอย่างช้าๆ สาวใช้ที่ประคององค์หญิงถอยหลังกรูดอย่างไม่รู้ตัว แต่ไม่รู้เป็นเพราะอะไร พวกนางกลับไม่กล้าที่จะถอย
ร่างกายของพวกนางเย็นเยียบเสียยิ่งกว่าหิมะบนหลังคาก็ว่าได้
ฉินหลิวซีจ้องมององค์หญิงอี๋เล่อพลางเอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้ม “หลายวันมานี้ องค์หญิงเชิญลูกศิษย์ของผู้น้อยมากเทศนาถึงในจวน ขอบคุณที่ต้อนรับเป็นอย่างดี ผู้น้อยรู้สึกว่าองค์หญิงมีวาสนาต่อกันไม่น้อย ไม่ว่าจะปลงผมหรือฝึกฝนบำเพ็ญธรรมก็ล้วนเป็นเรื่องที่ดียิ่ง องค์หญิงเห็นควรอย่างไร”
องค์หญิงอี๋เล่อได้ยินแล้วก็โมโหเป็นอย่างมาก ใครจะอยากไปฝึกฝนบำเพ็ญธรรมกัน นางอ้าปากจะโต้แย้ง ทว่าเมื่อพูดออกไปแล้ว กลับกลายเป็นคำพูดที่ยำเกรงแทน “ท่านอาจารย์พูดถูก ข้ามีวาสนากับลัทธิเต๋า ข้าจะเจริญรอยตามเสด็จพ่อ มีชีวิตยืนยาวเฉกเช่นพระองค์”
ช่วยด้วย ที่นี่มีผี!
เหล่าบรรดาบ่าวรับใช้ต่างก็อึ้งไปตามๆ กัน องค์หญิงท่านบ้าไปแล้ว ก่อนหน้านี้นางพึ่งพูดไปหยกๆ ว่าจะใช้ชีวิตไร้ยางอายเฉกเช่นทารกแรกเกิดอย่างมีความสุขอยู่เลย!
ฝึกฝนบำเพ็ญธรรมอะไรกัน?
องค์หญิงอี๋เล่อจะเป็นลมอยู่รอมร่อ ข้าเปล่า ข้าไม่ได้พูดเอง ข้าโดนบังคับให้พูด ไม่ใช่ความคิดของข้า!
นางจ้องมองดวงตาของฉินหลิวซี รู้สึกเพียงว่านัยน์ตาของอีกฝ่ายเป็นประกายแวววาวประหนึ่งดาราบนฟากฟ้าก็ไม่ปาน แลดูน่าหลงใหล เหมือนจะจมดิ่งลงไปอย่างไรอย่างนั้น
ไม่ ดวงตาคู่นั้นมีอะไรบางอย่างผิดปกติ!
องค์หญิงอี๋เล่อเบิกตากว้าง รู้สึกปวดจนมีน้ำตาเอ่อล้นออกมา
ฉินหลิวซีฉีกยิ้มพร้อมกับพูดขึ้น “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เช่นนั้นผู้น้อยก็ขออวยพรให้องค์หญิงฝึกฝนบำเพ็ญธรรมจนบรรลุเส้นทางแห่งอมตะได้สำเร็จ!”
จากนั้นนางก็พาเถิงเจาและคนอื่นๆ เดินจากไป
องค์หญิงอี๋เล่อตะโกนโหยหวนในใจ ห้ามไปนะ อย่าให้พวกเขาไปเด็ดขาด จับตัวพวกเขาไว้!
ทว่าคำพูดที่พูดออกมานั้นกลับเป็นคำพูดที่น่าขยะแขยงเป็นอย่างมาก “ผู้น้อยน้อมส่งเซียนซือ”
องค์หญิงอี๋เล่อหวาดกลัวเป็นอย่างมาก เมื่อเห็นว่าพวกเขาห่างออกไปเรื่อยๆ นางก็กรอกตาขาว ค่อยๆ เป็นลมหมดสติไป
เหล่าบรรดาบ่าวรับใช้ก็พากันชุลมุนวุ่นวายกันไปหมด