คุณหนูใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า - ตอนที่ 1093 เข็มหยินซาเข้าสมอง
ตอนที่ 1093 เข็มหยินซาเข้าสมอง
………………..
หากอยากตรวจร่างกาย ย่อมต้องปลดเสื้อผ้าออก แต่ฮองเฮามู่เคยชินกับการถูกปรนนิบัติ ต่อให้เปลื้องจนเปลือยเปล่าก็ไม่เป็นไร แต่กระนั้นคนที่ตรวจร่างกายให้นางตรงหน้ากลับมิใช่คนที่ตนใช้งานในยามปกติ ชั่วขณะนั้นจึงรู้สึกกระอักกระอ่วนใจอยู่บ้าง
ฉินหลิวซีเห็นนางทำตัวไม่เป็นธรรมชาติจึงเอ่ย “ฮองเฮามองหม่อมฉันเหมือนคนไร้ตัวตนก็พอเพคะ”
ครั้นฮองเฮามู่เห็นนางไร้ซึ่งความกระอักกระอ่วนใจก็อดเย้ยหยันตัวเองไม่ได้ นางอายุปูนนี้แล้วแต่กลับใจกว้างสู้เด็กสาวคนหนึ่งไม่ได้เลย จึงตรัสขึ้นว่า “ปกติเจ้าวินิจฉัยอาการผู้ป่วยเช่นนี้หรือ”
“เปล่าเพคะ แต่โรคสตรีบางโรคต้องมีการตรวจร่างกาย อืม บุรุษเองก็เช่นกัน”
ฮองเฮามู่แววตาตกตะลึง
ชุ่ยจู๋หายใจเร็วถี่แล้วเอ่ยว่า “บุรุษก็ต้องตรวจร่างกายเช่นกันหรือ”
ฉินหลิวซียิ้มเอ่ย “หากเจออาการประหลาดซับซ้อน ย่อมต้องตรวจดูอย่างละเอียด หม่อมฉันเรียนหมอมาตั้งแต่เด็กๆ แถมผ่าศพมาก็ไม่น้อย”
ทุกคน “…”
เหตุใดหัวข้อสนทนาถึงลามมาถึงเรื่องเหนือธรรมชาติได้เล่า
ฉินหลิวซีเอ่ยต่อ “หมอก็เปรียบเสมือนบุพการีของผู้ป่วย สำหรับหม่อมฉันแล้ว ความจริงร่างกายของชายหญิงมีเพียงโครงสร้างบางอย่างที่ต่างกันเท่านั้น ส่วนที่เหลือก็เหมือนกันหมด”
แค่กๆ
แต่ละคนต่างหน้าแดงซ่าน โครงสร้างอะไรกัน หมายถึงโครงสร้างนั้นหรือ
ฉินหลิวซีบอกให้ฮองเฮามู่เอนกายลง ก่อนเรียกแมลงกู่ไหมทองออกมาแล้วเอ่ยว่า “พระองค์ไม่ต้องกลัว นี่คือราชินีแมลงกู่ ไม่ทำอันตรายต่อพระองค์ เพียงแต่จะช่วยให้หม่อมฉันตรวจหาความผิดปกติได้เร็วขึ้น หากในร่างกายของพระองค์มีแมลงกู่ ย่อมรอดพ้นสายตาของมันไปไม่ได้”
“เจ้าสงสัยว่าข้าโดนกู่หรือ”
“ก็ไม่แน่ แต่ลองดูก่อนก็ไม่เสียหายอะไร พวกเราเริ่มกันเถิดเพคะ”
“เหตุใดถึงเริ่มตรวจจากนิ้วเท้าหรือ” ฮูหยินมู่ประหลาดใจไม่น้อย
ฉินหลิวซีจับจ้องซอกเล็บนิ้วเท้าอย่างละเอียด เอ่ยโดยไม่ละสายตา “มีคำกล่าวที่ว่าสิบนิ้วเชื่อมถึงหัวใจ หากคิดใช้ศาสตร์อาคมร้ายกาจ เลือดจากปลายนิ้วดุจเลือดจากหัวใจ ฉะนั้นเริ่มตรวจจากจุดนี้ย่อมเชื่อมถึงเส้นเลือดของหัวใจได้”
พลันพวกเขาก็เข้าใจในทันที มีหลักการเช่นนี้ด้วยหรือ
ไม่นานฉินหลิวซีก็ตรวจดูฝ่าเท้าเสร็จ ระหว่างไล่ขึ้นไปด้านบน มือทั้งสองข้างก็ไล่ตรวจร่างกายของฮองเฮามู่ตามไปด้วย นอกจากความเย็นแล้วก็ไม่เจอสิ่งผิดปกติใด พระองค์ทรงดูแลตัวเองดีมาก แม้จะอายุใกล้ห้าสิบชันษา แต่กลับดูแลร่างกายได้เป็นอย่างดี กระทั่งไม่มีไขมันส่วนเกินหรือรอยแผลเป็นผิดปกติใดบนร่างกาย
นางยกมือของฮองเฮาขึ้นมา แต่ก็ค้นไม่เจอสิ่งใด
นางคาดเดาผิดอย่างนั้นหรือ
นางปิดตาลงเล็กน้อยพลางครุ่นคิด มือสองข้างประสานทำมือ ใช้ลมปราณที่แท้จริงสำรวจตามเส้นทางไขข้อกระดูกภายในของนาง
จิ๊ๆ
ทันใดนั้น ทางฝั่งแมลงกู่ไหมทองก็มีความเคลื่อนไหว
ฉินหลิวซีสองดวงตาเบิกโพลง พอมองไปก็เห็นแมลงกู่ไหมทองกำลังไต่อยู่บนเส้นผมของฮองเฮามู่
นางนึกถึงอาการปวดศีรษะที่ฮองเฮามู่ทรงบ่นถึง นางจึงเดินไปหาก่อนจะปลดผ้าคาดตรงหน้าผากออก ปอยผมข้างหูจึงถูกดึงลงมาด้วย จากนั้นนางก็เริ่มบรรจงคลำหนังศีรษะทุกอณูขน ไล่ไปจนถึงจุดที่แมลงกู่ไหมทองกำลังไต่อยู่
มือของนางชะงักไปก่อนจะบอกให้ฮองเฮามู่ลุกขึ้นนั่ง จากนั้นนางก็แหวกผมออกแล้วค้นพบว่าบริเวณใกล้จุดไป่ฮุ่ย[1]ปรากฏรูขนาดเท่าเข็มเล็กๆ จุดหนึ่ง นางจึงกดลงไป
ฮองเฮามู่ส่งเสียงร้องโอดครวญ “เจ็บเหลือเกิน!”
ฉินหลิวซีเผยหน้าขรึม เอ่ยกับชุ่ยจู๋ว่า “มีหินแม่เหล็กหรือไม่ เอามาให้ข้าที แต่ถ้าไม่มีก็ไปขอจากหมอหลวง”
ชุ่ยจู๋ขบคิดครู่หนึ่งแล้วเอ่ย “มีเจ้าค่ะ”
นางเดินออกจากห้องบรรทมไปแล้วกลับมาอย่างรวดเร็วพร้อมกับวัตถุทรงกลมในมือ ซึ่งเป็นของทรงเหลี่ยมที่พันด้วยด้ายหลากสี นางแกะชิ้นส่วนหนึ่งออกอย่างไม่ใส่ใจแล้วยื่นส่งให้ฉินหลิวซี “นี่เป็นของเล่นของท่านอ๋องน้อย เป็นของที่ฮองเฮาทรงสั่งทำขึ้นเอง ด้ายที่พันไว้ห่อหินแม่เหล็กไว้อยู่ ใช้ได้หรือไม่เจ้าคะ”
ฉินหลิวซีดึงเข็มเล่มนั้นออกมาอย่างระวังมือ ฮองเฮามู่ร่างสั่นไหวอย่างรุนแรง กรีดร้องโหยหวน รู้สึกเจ็บปวดเหมือนศีรษะของนางมีเข็มนับพันทิ่มแทงอยู่ในกระดูก บัดนี้พอขยับก็ยิ่งปวดร้าวจนเหงื่อไหลชุ่มอาบร่าง
ฉินหลิวซีเผยสีหน้าขรึมลง ขณะที่ใช้หินแม่เหล็กดึงก็ปรากฏหัวเข็มโผล่ออกมา นางจึงรีบดึงเข็มออกมาด้วยความว่องไว
ฮองเฮามู่หน้ามืด ร่างอ่อนยวบร่วงลงพื้น ชุ่ยจู๋โผเข้าไปประคองร่างไว้อย่างรวดเร็ว
ฮูหยินมู่มองเข็มยาวขนาดเท่านิ้วมือที่เรียวยาวดุจเส้นผมสีดำวาวในมือของฉินหลิวซีอย่างตกใจ นางเอามือปิดปากด้วยความหวาดกลัว ช่างน่ากลัวเหลือเกิน
ชุ่ยจู๋เองก็ร่างสั่นเทา เหตุใดถึงกลายเป็นเช่นนี้ไปได้ เหตุใดศีรษะของพระองค์ถึงมีเข็มยาวหนึ่งเล่มทิ่มเข้าไปได้
มิน่า มิน่าพระองค์ถึงครวญครางร้องปวดศีรษะ เดิมทีเป็นเพราะฤทธิ์ของเจ้าสิ่งนี้นี่เอง
อีกอย่างเข็มยาวสีดำเล่มนั้น ต่อให้อยู่ห่างกันตั้งไกล แต่ก็ยังสัมผัสได้ถึงไอเย็นยะเยือก
ฮองเฮามู่หายใจหอบถี่พลางมองมือของฉินหลิวซี รูม่านตาหดลง เอ่ยเสียงตะกุกตะกักว่า “นี่ดึงออกมาจากหัวของข้าอย่างนั้นหรือ”
“เพคะ”
ด้วยแรงจู่โจมที่ปะทะใส่อย่างต่อเนื่อง ในที่สุดฮองเฮามู่ก็ทนไม่ไหวจนกระอักเลือดออกมา
ฮูหยินมู่และชุ่ยจู๋กรีดร้องด้วยความตกใจ
ฉินหลิวซีจับเส้นชีพจรของฮองเฮามู่แล้วเอ่ย “ไม่เป็นไร เลือดสกปรกแฝงด้วยพิษ กระอักออกมากลับเป็นเรื่องดี หากสะสมไว้บวกกับจิตใจที่หดหู่ คงดูแลรักษาร่างกายได้ยากกว่า”
ขณะที่พูดนางก็ควานหาขวดยาในกระเป๋าเฉียนคุน หยิบยาแก้พิษใส่ปากของฮองเฮามู่
ฮองเฮามู่อ้าปากกว้างโดยไม่คิดลังเลใจก่อนจะกลืนลงคอ ฮูหยินมู่รีบส่งน้ำอุ่นป้อนตาม
“ดังนั้นเหตุที่ข้าปวดหัวและมีอาการหนาวเย็น เดิมทีไม่ใช่เพราะร่างกายอ่อนแอจากการเป็นหวัด แต่เป็นเพราะฤทธิ์ของเจ้าเข็มเล่มนี้หรือ” ฮองเฮามู่จับจ้องเข็มด้ามยาวที่แผ่ไอเย็นยะเยือก “นี่คือสิ่งใดหรือ”
“เข็มหยินซา” ฉินหลิวซีเอ่ยต่อ “เข็มประเภทนี้หล่อเลี้ยงด้วยศพ ยิ่งศพนั้นมีความอาฆาตแค้นมากเพียงใด มันก็จะยิ่งหล่อเลี้ยงจนมีพลังหยินชั่วร้ายมากขึ้นเท่านั้น รังสีสังหารก็ยิ่งรุนแรง นานวันเข้ายิ่งอานุภาพร้ายกาจ นี่ถือเป็นวัตถุอาคมชั่วร้ายชั้นยอด เมื่อไม่กี่วันก่อนหม่อมฉันเพิ่งเจอคนใช้เข็มหยินซาปิดผนึกเจ็ดทวารของหญิงสาวและกดข่มวิญญาณของนางไว้”
ฮองเฮามู่ร่างสั่นเทาเล็กน้อย
ฮูหยินมู่เอ่ยเสียงสั่นเครือ “เหตุใดของแบบนี้ถึงมาอยู่บนตัวของฮองเฮาได้ เป็นฝีมือใครกัน อีกอย่างฝังเข็มไว้บนหัวเช่นนี้ยังมีชีวิตได้อยู่อีกหรือ”
“เข็มเรียวเล็กดุจเส้นผมเช่นนี้ ความจริงตรวจหาเจอยาก หากอยู่บนหัว ขอแค่ไม่ใช่จุดตายหรือเส้นเลือดใหญ่ ย่อมมีชีวิตอยู่ต่อได้ไม่ยาก แต่ว่าในเมื่อมีวัตถุแปลกปลอมเข้ามาในสมอง ย่อมรู้สึกไม่สบายตัวเป็นธรรมดา จึงมีอาการหน้ามืดและปวดหัวเป็นปกติ บวกกับแฝงพลังหยินไว้ด้วย พอเข้าสู่ร่างกายจึงจะทำให้รู้สึกหนาวเหน็บ” ฉินหลิวซีมองเข็มแล้วเอ่ยต่อ “ขนาดมันไม่ได้ฝังเข้าไปในศีรษะของพระองค์อย่างสมบูรณ์ ปลายโผล่ออกมาเพียงเล็กน้อย หม่อมฉันก็สามารถมองเห็นพลังหยินได้แล้ว”
นางจับแมลงกู่ไหมทองขึ้นมาก่อนชี้ไปที่มัน “ครั้งนี้เจ้าสร้างคุณงามความดีครั้งใหญ่แล้ว”
แมลงกู่ไหมทองไต่วนไปมาบนฝ่ามือของนางอย่างชอบใจ ไม่นานก็มุดกลับเข้าข้อมือในแขนเสื้อไป
ฮองเฮามู่หัวเราะคิกคัก ทว่าเป็นเสียงหัวเราะอันเย็นยะเยือก ตรัสว่า “หมายความว่าข้าถูกวางอุบายปองร้าย แต่กลับไม่รู้เรื่องใดเลย หากไม่ได้ท่านปรมาจารย์ ข้าจะตายอย่างไรกัน เกรงว่าคงเป็นเพราะร่างกายอ่อนแอจากหวัดแค่นั้นกระมัง”
ดี ช่างแสบดีจริงๆ ฝังเข็มลงบนศีรษะในตำแหน่งที่สำคัญ อีกทั้งทำการต่างๆ ภายใต้สายตาของนาง ตำหนักเฟิ่งหยางของนางมีรอยรั่วอยู่นานแล้ว!
ฮองเฮามู่จับจ้องเข็มเล่มนั้นอย่างเอาเป็นเอาตาย พร้อมแววตาที่แผ่ไอสังหารอันเย็นยะเยือก!
[1] จุดไป่ฮุ่ย จุดกึ่งกลางของศีรษะ ตรงจุดตัดระหว่างเส้นตรงที่ลากผ่านใบหูทั้งสองข้างและเส้นกึ่งกลางของศีรษะ