คุณหนูใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า - ตอนที่ 1110 คำนวณแผนการฉลาดเกินไปแล้ว
ตอนที่ 1110 คำนวณแผนการฉลาดเกินไปแล้ว
………………..
หลังจากที่คาถาถูกทำลาย สายสัมพันธ์ระหว่างเซี่ยหว่านกับฟ่านหวยเผิงก็ถูกตัดขาดทันที และรู้สึกถึงความผ่อนคลายลงเล็กน้อยของดวงวิญญาณที่อ่อนแอ
ฟ่านหวยเผิงและมารดาถูกคนเอาตัวไปในทันที ผู้ที่เกี่ยวข้องกับตระกูลฟ่านถูกกุมตัวเข้าคุก
“ท่านอาจารย์ ตอนนี้น้องสาวของข้าไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับตระกูลฟ่านแล้วใช่หรือไม่” สะใภ้โจวเอ่ยถาม
ฉินหลิวซีพยักหน้า “ไม่มีแล้ว”
สะใภ้โจวมองดูขวดโหลใบนั้น “แล้วเถ้ากระดูกของนางล่ะ”
“เดิมทีขวดโหลนี้ก็ถูกจัดการไปแล้ว ไม่เป็นมงคล ไม่เอื้ออำนวยต่อดวงวิญญาณ เอาเถ้ากระดูกที่สะอาดออกมาใส่ลงไปในโกศใหม่ แล้วเลือกฤกษ์มงคลในการฝังสุสานก็พอแล้ว” ฉินหลิวซีกล่าวว่า “พวกเราจะไปที่หลุมศพตระกูลเซี่ยของพวกท่านอยู่แล้ว หากหลุมศพของบรรพบุรุษปลอดภัยก็สามารถฝังไว้ที่นั่นได้ เพียงแต่ข้าไม่รู้กฎของพวกท่านว่าสตรีที่แต่งออกไปแล้วเมื่อกลับคืนสู่ตระกูลเดิมจะสามารถฝังไว้ที่หลุมศพบรรพบุรุษได้หรือไม่”
นายหญิงเซี่ยผู้เฒ่ากล่าวขึ้นมาทันทีว่า “ได้” นางมองไปยังเซี่ยหว่าน กล่าวว่า “ฝังไว้ใกล้กับท่านพ่อและพี่ชายของเจ้า”
เซี่ยหว่านเผยให้เห็นรอยยิ้มสบายใจ คงจะดีไม่น้อยหากได้อยู่ด้วยกันกับท่านพ่อและท่านพี่
ซุ่นฟังได้ถามขึ้นมาในเวลานี้ว่า “คุณหนูเป็นหนึ่งศพสองชีวิต เด็กยังไม่ทันได้เกิดมา แต่ที่อยู่ภายใต้ชื่อของนาง จะไม่ถือเป็นบุตรนอกสมรสหรือเจ้าคะ”
“แม้ว่านางจะเสียชีวิตแล้ว แต่ก็ไม่ได้ตัดขาดจากฟ่านหวยเผิง เนื่องจากนางเป็นภรรยาเอกแต่เดิม ซ้ำยังอยู่ภายใต้ชื่อของนาง ย่อมนับว่าเป็นบุตรของนาง” ฉินหลิวซีเอ่ยต่อ “ในทำนองเดียวกัน บุตรบุญธรรมก็เป็นบุตร”
“เช่นนั้นตอนนี้ได้ตัดขาดแล้ว ก็ไม่ใช่แล้วกระมังเจ้าคะ” ซุ่นฟังถามด้วยความร้อนใจ หากยังใช่ เช่นนั้นก็น่าสะอิดสะเอียนน่าขยะแขยงเกินไปแล้ว
“แน่นอนว่าไม่ใช่”
ทุกคนต่างถอนหายใจด้วยความโล่งอก
“ฟ่านหวยเผิงตายไปก็ไม่น่าเสียดาย แต่พระสายมารที่ร่ายอาคมชั่วร้ายนั้นโหดเหี้ยมยิ่งกว่า ผู้ที่นับข้อนิ้วทำนายได้เช่นนี้จะรู้ล่วงหน้าว่าภัยพิบัติกำลังจะเกิดขึ้นแล้วหนีไปหรือไม่” นายหญิงเซี่ยผู้เฒ่ากังวลว่าคนสารเลวที่สมควรตายมากที่สุดจะหนีไป แต่ต่อให้เขาหนีไปจนสุดขอบฟ้า ตระกูลเซี่ยของนางก็จะไม่ตายไม่เลิกรากับเขา!
“วางใจเถิด ข้าจะไม่ปล่อยให้เขาหนีไป” ฉินหลิวซียิ้มอย่างมั่นใจ เมื่อก่อนนางต้องไปตามหาคนเพื่อฆ่า แต่ตอนนี้ตบะของนางเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก คาถานี้ก็ทำลายได้ไม่ยาก หากนางต้องการจัดการคนผู้นั้น เพียงแต่ต้องเพิ่มคาถาตอบโต้กลับเมื่อทำลายคาถานั้น หากคนผู้นั้นมีตบะต่ำก็จะตายอย่างอนาถ
เป็นอย่างที่คิด หลังจากที่นางกล่าวจบ หยางชื่อสื่อ[1]ผู้นั้นก็เดินเข้ามา กล่าวว่า “คนของพวกเราไปที่วัดหลิงหยางแห่งนั้น โจวอวิ๋นผู้นั้นล้มลงอยู่ในห้องเซนของตัวเอง เสียชีวิตอย่างกะทันหัน สภาพการตายน่าสังเวชเป็นอย่างยิ่ง!”
ขณะที่พูดเขาก็มองไปยังฉินหลิวซี ได้ยินเจ้าหน้าที่บอกว่าตอนที่ไปถึง โจวอวิ๋นผู้นั้นไม่เพียงแต่เลือดไหลออกจากทวารทั้งเจ็ด ซ้ำราวกับถูกคนผ่าท้อง ลำไส้เละเทะ และในเวลานั้นก็มีหมาป่าน้อยตัวหนึ่งวิ่งลงมาจากภูเขากำลังกัดกินอวัยวะภายใน ภาพนั้นน่าสยดสยองเป็นอย่างมาก
ฉินหลิวซี “อย่ามองข้า ข้าไม่ได้ทำ ล้วนเป็นผลสะท้อนกลับ เป็นกรรมตามสนอง!”
หยางชื่อสื่อกระตุกมุมปาก เจ้าพูดถูก แต่คดีนี้ข้าควรจะสรุปอย่างไร
“สะใภ้เหมียวผู้นั้นก็ถูกจับแล้ว พวกท่านอยากพบหรือไม่”
ความจริงเกี่ยวกับการตายของเซี่ยหว่านได้รับการเปิดเผยแล้ว ผู้ที่สำคัญที่สุดก็จะตายแล้ว บุคคลอื่นจะพบหรือไม่นั้นไม่สำคัญ
คนตระกูลเซี่ยไม่ได้ไปพบ เพียงแต่ให้ทหารผ่านศึกที่ติดตามมาด้วยผู้หนึ่งตามผู้ดูแลไปจัดการเรื่องนี้ ตระกูลฟ่านล้มลงแล้ว สินสอดของเซี่ยหว่านก็ต้องคืน เรื่องจุกจิกเหล่านี้ต้องมีคนจัดการ
ฉินหลิวซีและคนอื่นๆ ก็ไม่ได้รีบร้อนที่จะจากไป เซี่ยหว่านรู้สึกขุ่นเคืองนายหญิงเซี่ยผู้เฒ่า ความขุ่นเคืองนี้ไม่ถูกคลี่คลาย เมื่อนางไปเกิดใหม่ก็จะนำพลังขุ่นเคืองไปด้วย ซึ่งไม่เหมาะสม
ตอนที่สองคนแม่ลูกคุยกันตามลำพัง ฉินหลิวซีก็ได้เลือกโกศ เทเถ้ากระดูกของเซี่ยหว่านออกมาทั้งหมด พบว่าเถ้ากระดูกเหล่านั้นมีสีดำเล็กน้อย ล้วนเป็นความขุ่นเคือง
หากไม่ใช่เพราะนางไปเข้าฝันนายหญิงเซี่ยผู้เฒ่าแล้วนายหญิงเซี่ยผู้เฒ่าไม่ไปจุดธูปก็จะไม่ได้พบกับฉินหลิวซี และนางก็จะดวงวิญญาณแตกสลาย จะไม่มีใครได้รู้ความจริงเกี่ยวกับการตายของนางเลย
นี่คือหลักเหตุและผลของสวรรค์
หลังจากที่ฉินหลิวซีชำระเถ้ากระดูกของเซี่ยหว่านให้สะอาดแล้ว จากนั้นก็ให้สะใภ้โจวและคนอื่นๆ เก็บรวบรวมอีกครั้ง ท่องพระสูตรการไปเกิดใหม่สองครั้ง
ฉินหลิวซีกล่าวว่า “คนฝึกบำเพ็ญเต๋าอย่างพวกเรา สวดส่งดวงวิญญาณเป็นเรื่องที่ข้าสมควรทำอยู่แล้ว เจ้า วางความแค้นทั้งหมดลงได้แล้วกระมัง”
เซี่ยหว่านมองไปยังนายหญิงเซี่ยผู้เฒ่าที่แก่ชรามากขึ้น กล่าวว่า “เดิมทีข้าก็ควรปล่อยวางอยู่แล้ว”
ฉินหลิวซีพยักหน้า “เดิมทีดวงวิญญาณของเจ้าได้รับความเสียหาย ไม่ควรอยู่ในโลกมนุษย์เป็นเวลานาน ข้าจะส่งเจ้าเข้าสู่ประตูวิญญาณ เมื่อไปถึงยมโลก เจ้าไปหาบรรดาพี่ชายของเจ้า รักษาดวงวิญญาณพลางต่อแถวรอไปเกิดใหม่”
“เจ้าค่ะ” เซี่ยหว่านคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วกล่าวว่า “ท่านอาจารย์ ลูกของข้า เขายังไม่ทันได้เกิดมา หลังจากที่ข้าตายไปก็ไม่เคยได้เห็นดวงวิญญาณของเขา เขาไปเกิดใหม่แล้วหรือ”
“ทารกตายในครรภ์ ดวงวิญญาณได้กลับคืนสู่ยมโลกแล้ว นอกเสียจากว่าเขาจะมีความแค้นไม่ยอมไปไหนจึงจะติดตามเจ้า” ฉินหลิวซีกล่าวว่า “ตอนนี้ไม่มี เช่นนั้นก็ได้ไปเกิดใหม่อีกครั้งแล้ว”
เซี่ยหว่านถอนหายใจด้วยความโล่งอก “เช่นนี้ก็ดี”
หลังจากรวบรวมเถ้ากระดูกแล้ว ฉินหลิวซีก็วาดยันต์ผนึกไว้ ซึ่งทำให้ดวงวิญญาณของเซี่ยหว่านสงบมากขึ้น
คืนนั้นหลังจากที่เซี่ยหว่านได้ยินว่าฟ่านหวยเผิงเสียชีวิต ฮูหยินฟ่านผู้เฒ่าก็ตามเขาไปด้วยแล้ว จึงคำนับกล่าวลานายหญิงเซี่ยผู้เฒ่าและคนอื่นๆ และถูกฉินหลิวซีส่งเข้าสู่ประตูวิญญาณด้วยตัวเอง
หากได้ไปเจอกันที่ทางไปสู่ยมโลก เหอะๆ รอดูละกัน!
เซี่ยหว่านไปเกิดใหม่แล้ว นายหญิงเซี่ยผู้เฒ่าก็เป็นลมไป โชคดีที่มีฉินหลิวซีอยู่ จึงไม่ได้มีอะไรร้ายแรงเกิดขึ้น เพียงแต่ใบหน้าเย็นชาและโดดเดี่ยวมากขึ้น
แม้ว่าแม่ลูกจะยุติความแค้นกันแล้ว แต่ความรู้สึกผิดของนายหญิงเซี่ยผู้เฒ่าที่มีต่อเซี่ยหว่านคงไม่สามารถปล่อยวางได้ตลอดชีวิตนี้
เรื่องของเซี่ยหว่านได้รับการแก้ไขแล้ว นายหญิงเซี่ยผู้เฒ่าเหลือญาติไว้สองคนเพื่อรวบรวมสินสอดและดูแลงานศพ จากนั้นจึงได้ตามฉินหลิวซีไปที่หลุมศพบรรพบุรุษตระกูลเซี่ย
ระหว่างทาง สะใภ้โจวเอ่ยว่า “คิดไม่ถึงว่าสะใภ้เหมียวกับพระสายมารผู้นั้นจะมีความสัมพันธ์กัน เด็กทั้งสองคนนั้นเป็นของเขา นี่นับว่าตระกูลฟ่านชักศึกเข้าบ้านหรือไม่”
ซุ่นฟังสบถอย่างเย็นชา “ไหนเลยจะไม่ใช่ นี่เรียกว่ากรรมตามทันเจ้าค่ะ”
นายหญิงเซี่ยผู้เฒ่ากลับครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง กล่าวว่า “พระสายมารผู้นั้นมีความสัมพันธ์กับสะใภ้เหมียว แล้วเหตุใดเขาจึงได้ยอมเสี่ยงเพื่อช่วยฟ่านหวยเผิงทำวิชาเช่นนั้น มองดูเขาตายไปไม่ดีกว่าหรือ”
ฉินหลิวซีลืมตาขึ้น กล่าวว่า “เขาต้องการให้เด็กมาแทนที่อย่างถูกกฎหมาย หากไม่มีใครค้นพบวิชานี้ เซี่ยหว่านดวงวิญญาณแตกสลาย ฟ่านหวยเผิงก็จะตาย พวกท่านลืมตะเกียงเป่าเหลียนไปแล้วหรือ เครื่องรางร้ายแรงนั้นวางอยู่ในห้องโถงบรรพบุรุษ ซึ่งจะพิฆาตบุรุษในตระกูลฟ่าน เมื่อถึงเวลานั้น คนตระกูลฟ่านเสียชีวิตจนหมด ผู้ที่เป็นคนตัดสินใจก็จะเป็นสะใภ้เหมียวกับลูกของพวกเขา และสินสอดของเซี่ยหว่านก็เพียงพอที่พวกเขาจะได้กินดีมีสุข ไม่ต้องกังวลเรื่องความมั่งคั่ง! เมื่อเด็กโตขึ้น หากอยากจะมานับญาติกับตระกูลเซี่ย เช่นนั้นเส้นสายของพวกท่านก็จะถูกเขาใช้เช่นกัน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงตระกูลที่เป็นสหายกับตระกูลฟ่าน หากไม่มีชื่ออย่างถูกกฎหมายแล้วเด็กคนนั้นจะไปมีประโยชน์อะไร”
ทุกคนสูดหายใจเข้า วางแผนได้ดีมาก
ใช่แล้ว หากเรื่องนี้ไม่ได้ถูกทำลาย เช่นนั้นก็จะเป็นไปตามที่ฉินหลิวซีกล่าวมาจริงๆ พวกเขาไหนเลยจะรู้ว่าเด็กคนนั้นเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขที่แท้จริงของเซี่ยหว่านหรือไม่
“การคำนวณแผนการนี้ฉลาดเกินไปแล้ว แต่กลับต้องสูญเสียชีวิต นี่เป็นวัฏจักรของเวรกรรม บาปกรรมตามสนอง!” ฉินหลิวซีหลับตาลงอีกครั้ง “เป็นคน อย่าทำชั่วจะดีกว่า หากทำชั่ว สุดท้ายก็จะถูกความชั่วสะท้อนกลับ!”
แม้ว่าวิถีของสวรรค์จะเฮงซวย แต่มันก็ยังมีอยู่!
[1] ชื่อสื่อ หรือ ผู้ตรวจการมณฑล