คุณหนูใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า - ตอนที่ 1113 หากวันนี้ไม่จัดการเจ้า หัวใจเต๋าของข้าจะต้องพังทลาย
- Home
- คุณหนูใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า
- ตอนที่ 1113 หากวันนี้ไม่จัดการเจ้า หัวใจเต๋าของข้าจะต้องพังทลาย
ตอนที่ 1113 หากวันนี้ไม่จัดการเจ้า หัวใจเต๋าของข้าจะต้องพังทลาย
เสวียนหมิงตื่นตระหนกเป็นอย่างมาก เมื่อนึกถึงตอนที่ฉินหลิวซีเกือบจะฆ่าเขาตายก็รู้สึกหนาวสั่นไปทั้งตัว
ต้องหนี!
เขาไม่ใช่แมวเก้าชีวิต การที่หนีจากความตายมาได้หนึ่งครั้งนับว่าเป็นโชคชะตาของเขา แต่ครั้งที่สองกลับบอกได้ยาก เขาก็ไม่มีหน้าไปคิดว่าสวรรค์จะยืนอยู่ข้างเขา อย่างไรเสียเขาก็ขาดคุณธรรมอันยิ่งใหญ่
ดังนั้นจึงต้องหนี มิเช่นนั้นคงจะต้องพ่ายแพ้อยู่ที่นี่ตลอดไปจริงๆ แล้ว
เสวียนหมิงรีบไปที่สุสานร้างเพื่อเก็บข้าวของของตัวเอง ขณะที่กำลังจะวิ่งออกไปพลันตัวแข็งทื่อ
เขาเป็นคนเฝ้าค่ายอาคม ค่ายอาคมอยู่คนก็ยังอยู่ ค่ายอาคมแตกสลายคนก็ตาย
คำพูดอันเย็นชาก่อนหน้านี้ของท่านเทพดังทะลุราวกับลมหนาวที่กัดกร่อนเข้าไปในแก้วหูของเขา
หากเขาหนีไป เช่นนั้นก็ตายอย่างเดียว!
จบแล้ว ข้างหน้ามีหมาป่า ข้างหลังมีเสือ จะไปทางไหนก็ล้วนเป็นกับดัก!
เสวียนหมิงมองลงไปที่ด้านล่างภูเขาด้วยสายตาที่เฉียบคม หรือว่าจะลองดูสักตั้ง
เขาเป็นถึงคนของท่านเทพเชียวนะ
เสวียนหมิงหันหลังกลับเข้าไปในถ้ำ มาที่หน้าป้าย หยิบธูปขึ้นมา จุดธูปบูชาขอให้ท่านเทพลงมา
ในขณะเดียวกันฉินหลิวซีก็ลืมตาขึ้นแล้วลุกขึ้นมา นางเดินออกจากห้องมามองดูท้องฟ้ายามค่ำคืนอันมืดมิด ซึ่งเป็นทิศทางของภูเขาด้านหลัง
ความชั่วร้ายที่คุ้นเคย
มือของฉินหลิวซีนับข้อนิ้วทำนายอย่างรวดเร็ว ขณะที่กำลังจะเคลื่อนไหว สะใภ้โจวที่ได้ยินการเคลื่อนไหวก็ขยี้ตายืนอยู่ที่หน้าประตูแล้วถามว่า “ท่านอาจารย์ เกิดเรื่องใดขึ้นหรือ”
“มีคนอยู่ที่ภูเขาด้านหลัง ข้าจะไปที่นั่นก่อน พวกท่านค่อยตามขึ้นภูเขาไปตอนรุ่งสาง” ก่อนที่ฉินหลิวซีจะกล่าวจบก็ได้หายตัวไปแล้ว
สะใภ้โจวเห็นนางหายตัวไปราวกับผี ความง่วงงุนของนางก็หายไปในทันที หมายความว่าอย่างไร มีคนที่ภูเขาด้านหลัง นั่นคือสุสานบรรพบุรุษของพวกนาง หมายความว่ามีคนทำบางอย่างกับหลุมศพบรรพบุรุษตระกูลเซี่ยอย่างนั้นหรือ
เป็นเช่นนี้ได้อย่างไร
กลางคืนเยือกเย็นราวกับน้ำ
เสวียนหมิงร้อนใจเป็นอย่างมาก จุดธูปบูชาเสร็จแล้ว เหตุใดท่านเทพจึงไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ หากต้องการให้ม้าวิ่งก็ต้องให้ม้ากินหญ้าก่อน เขาไม่ช่วยแล้วตัวเองต้องเผชิญหน้ากับมือสังหารผู้นั้น เกรงว่าจะไม่มีโอกาสชนะแม้แต่นิด เมื่อถึงเวลานั้น ค่ายอาคมนี้ก็จะสูญสลายไป
หรือว่าจะหนีไปก่อนดีกว่า
หากรักษาเขาอันเขียวขจีไว้ก็ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีฟืนใช้ ล่วงเกินไม่ได้ก็ยังหลบหนีไม่ได้อีกหรือ
ไม่ได้ หากหนีไปแล้ว ท่านเทพก็จะไม่ปล่อยเขาไป
ในใจเสวียนหมิงทรมานเป็นอย่างมาก มีคนสองคนต่อสู้กันอยู่ในหัวของเขาอยู่ตลอดเวลา ทันใดนั้นร่างกายของเขาพลันแข็งทื่อ รีบซ่อนตัวโดยไม่ต้องคิด สายตาแฝงไว้ด้วยความหวาดกลัว
มือสังหารมาแล้ว
นางมาเร็วมาก คำทำนายไม่เคยหลอกข้า!
ฉินหลิวซียืนอยู่หน้าหลุมศพ มองดูป้ายสุสานถูกทิ้งไว้ข้างๆ ประตูถ้ำเปิดอยู่ ข้างในมีลมพัดออกมาพร้อมกับกลิ่นหอมของดอกไม้จันทน์
ผีน้อยที่หลุดตาข่าย อยู่ที่นี่!
นางเดินเข้าไปพลางสร้างม่านอาคมขึ้นมาด้วย
ทางเดินในสุสานมืดมาก ฉินหลิวซีหลับตาลงครู่หนึ่ง หลังจากที่ลืมตาขึ้นอีกครั้งก็มองเห็นได้ในความมืด หลังจากที่เดินผ่านอุโมงค์สุสาน นางก็มาถึงกลางสุสาน มองไปทางด้านซ้าย เห็นว่ามีเทวรูปวางอยู่บนแท่นผนังที่เดิมทีควรวางตะเกียง มีดอกไม้จันทน์กำลังลุกไหม้อยู่หน้าเทวรูป
ไม่รอให้นางก้าวไปข้างหน้า ทิวทัศน์ของสุสานก็เปลี่ยนไปในทันที นางกำลังอยู่ในนรกบนดิน
ทะเลเพลิงที่ไร้ขอบเขตเผาไหม้ไปไกลสุดลูกตา มีสิ่งมีชีวิตนับไม่ถ้วนพยายามดิ้นรนเพื่อหลบหนีในทะเลเพลิง แต่ก็แตกสลายกลายเป็นเถ้าถ่านในทันที ไม่มีใครรอด
เสียงกรีดร้องโหยหวนด้วยความหวาดกลัวดังก้องไปทั่วท้องฟ้า
ฉินหลิวซีได้ยินเสียงประนามว่าเทพเจ้าไม่มีตา ภัยพิบัติธรรมชาติไร้ความปรานี ได้ยินเสียงคำอธิษฐานและขอความเมตตาของผู้คน จากนั้นก็ถูกทำลายอย่างรวดเร็วในทะเลเพลิง
เป็นความผิดของเจ้า
มีเสียงดังมาจากขอบฟ้า
ทั้งหมดเป็นความผิดของเจ้า คำตำหนิเบาๆ มาจากทุกทิศทาง ราวกับเสียงปีศาจเข้ามาในหู โจมตีจิตวิญญาณของนาง
ฉินหลิวซีสีหน้าซีด คุกเข่าข้างเดียวลงบนพื้น ดวงตาทั้งสองข้างแดงก่ำ ส่งเสียงคำรามเบาๆ มีลูกไฟสองดวงผุดขึ้นมาในดวงตาของนาง พลังที่รุนแรงแพร่กระจายไปทั่วร่างกาย
นางอยากจะเผาทุกอย่างให้หมดสิ้น
ศิษย์ทรพี อย่าเล่นกับไฟ
ไม่รู้ว่าเสียงที่ละเอียดอ่อนดังมาจากไหน ฉินหลิวซีตัวแข็งทื่อ มือทั้งสองข้างร่ายคาถา กดลงไปบนแท่นวิญญาณของตัวเองโดยไม่ลังเล
พรวด
นางกระอักเลือดออกมาเต็มปาก
ทันทีที่ลืมตาขึ้นก็เห็นแส้หางม้าโจมตีมาที่ตัวเอง
ฉินหลิวซีไม่หลบซ้ำยังโจมตีกลับ มือราวกับกรงเล็บคว้าแส้หางม้านั้นไว้ก่อนจะบิดแล้วสะบัด
เสวียนหมิงตกใจ นางออกจากค่ายอาคมจิตมารเร็วมาก เมื่อครู่เห็นได้ชัดว่านางไม่สามารถหลุดพ้นได้แล้ว และเป็นโอกาสอันยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับเขา
ตอนนี้ไม่เหลือแล้ว
ฉินหลิวซีสีหน้าเย็นชา ยึดแส้หางม้ามา ไฟก็พุ่งออกมาจากมือของนาง ห่อหุ้มแส้หางม้านั้นไว้ทั้งหมด
เสวียนหมิงเห็นท่าทางที่ไร้ความเป็นคนและเย็นชาของนาง ราวกับถูกบีบคอไว้ ไม่สามารถหายใจได้
นางมีจิตมาร คืออะไรที่ทำให้นางหมดความเป็นคน
มือของฉินหลิวซีคว้าไปที่แท่นวิญญาณของเขา พลังเต๋าอันทรงพลังพุ่งออกมาจากร่างกายของนาง กระชากดวงวิญญาณของเขาออกจากแท่นวิญญาณอย่างแรง
เสวียนหมิงสีหน้าเกรี้ยวกราดแต่กลับไม่สามารถขยับได้แม้แต่นิด ดวงตาของเขาเบิกกว้างด้วยความหวาดกลัว รู้สึกว่าดวงวิญญาณถูกดึงออกจากร่าง ราวกับถูกถลกหนังเลาะกระดูก รู้สึกชาจนไม่รู้ถึงความเจ็บปวด
ทันใดนั้นก็มีพระพุทธรูปปรากฏอยู่ด้านหลังเขา ดวงตาอันเรียวยาวปิดอยู่ แต่ทั้งใบหน้ากลับดูเหมือนมีผ้าคลุมปิดบังไว้ ทั้งๆ ที่อยู่ใกล้มาก แต่กลับไม่อาจมองเห็นลักษณะที่แท้จริงของเขาได้ชัดเจน
พระพุทธรูปลืมตาขึ้น
ภาษาสันสกฤตมากมายปรากฏขึ้นจากดวงตาคู่นั้น ราวกับตาข่ายยักษ์ ทำให้คนไม่มีที่ให้หลบหนี เมื่อตาข่ายลอยมาปกคลุม ภาษาสันสกฤตก็กลายเป็นบทสวดสันสกฤต ทำให้คนราวกับถูกครอบในภาชนะที่ปิดสนิท บทสวดสันสกฤตโจมตีจิตใจและดวงวิญญาณ ทำให้คนเกิดความคิดชั่วร้ายในใจอย่างรุนแรง
ทันใดนั้นฉินหลิวซีก็หัวเราะพลางเอ่ย “ซ่อนหัวเห็นหาง หากวันนี้ไม่จัดการเจ้า หัวใจเต๋าของข้าจะต้องพังทลาย!”
บทสวดสันสกฤตราวกับมีดที่กรีดเฉือนดวงวิญญาณ นางไม่สนใจว่าดวงวิญญาณจะสั่นสะท้านและเจ็บปวดเพียงใด ยังคงฝืนดึงดวงวิญญาณของเสวียนหมิงที่ขดกลับไปออกมาอีกครั้ง ในขณะเดียวกันนางก็ได้ใส่จิตวิญญาณเต๋าเข้าไปในไม้จินกัง โจมตีไปที่พระพุทธรูปองค์นั้น
ไม่ว่าเจ้าจะเป็นเทพหรือเป็นพระพุทธเจ้า นางเจอเทพสังหารเทพ เจอพระพุทธเจ้าก็สังหารพระพุทธเจ้า!
พระพุทธรูปราวกับดูหมิ่นการกระทำนี้ของนาง ทันทีที่อ้าปากราวกับจะกล่าวอะไรบางอย่าง แต่กลับคิดไม่ถึงว่าไม้จินกังที่ฟาดมาจะกลายเป็นไม้ไฟ เปลวไฟร้อนระอุได้ห่อหุ้มอยู่รอบองค์พระพุทธรูปของเขา ทันใดนั้นก็ดับไป
แค่กๆ
ซื่อหลัวลืมตาขึ้น กระอักเลือดออกมาสองครั้ง เขามองดูเลือดที่กระอักออกมา ในที่สุดสีหน้าเย่อหยิ่งตามปกติของเขาก็เปลี่ยนไป กลายเป็นเคร่งเครียดไม่พอใจ
ด้วยกลิ่นอายวิญญาณเพียงเล็กน้อยที่เหลือไว้ในร่างของเสวียนหมิงคนไร้ประโยชน์ผู้นั้น ทำให้นางทำร้ายเขาได้
เหอะๆ โลกใบนี้ที่แทบจะไร้พลังวิญญาณ แต่กลับมีคนเช่นนี้ปรากฏตัวขึ้น เขามองนางไม่ผิดไปจริงๆ
ซื่อหลัวเลียเลือดที่มุมปาก แววตาเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและความมุ่งมั่น
เส้นทางสู่สวรรค์สายนี้ น่าสนุกจริงๆ!
ในสุสาน ฉินหลิวซีจับดวงวิญญาณของเสวียนหมิงที่ต้องการจะหลบหนีไว้ในมือ ไฟนรกผุดขึ้นกลางฝ่ามือ เขาไม่ทันแม้แต่จะได้เปล่งเสียงกรีดร้องก็ถูกทำลายในเปลวไฟไปแล้ว
เช่นเดียวกันกับนรกบนดินที่ฉินหลิวซีเห็นในค่ายอาคมจิตมาร
ฉินหลิวซีนอนอยู่บนพื้นในสุสาน กุมหัวใจอันเจ็บปวดอย่างรุนแรง ก่อนจะหลับตาลง
หลังจากผ่านไปนาน ในสุสานก็มีเสียงก่นด่าของนางดังขึ้น “แม่งเอ๊ย เจ็บจะตายอยู่แล้ว!”
โหมดอ่านต่อเนื่อง
เมื่อเข้าสู่หน้านิยายที่ถูกล็อกด้วยเหรียญระบบจะใช้เหรียญปลดล็อกตอนต่อไปโดยอัตโนมัติ