คุณหนูใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า - ตอนที่ 1114 ท่านว่า ข้าขอขุดสุสานบรรพบุรุษของท่านได้หรือไม่
- Home
- คุณหนูใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า
- ตอนที่ 1114 ท่านว่า ข้าขอขุดสุสานบรรพบุรุษของท่านได้หรือไม่
ตอนที่ 1114 ท่านว่า ข้าขอขุดสุสานบรรพบุรุษของท่านได้หรือไม่
ฉินหลิวซีอยู่ในสุสานจนกระทั่งฟ้าสาง กระทั่งมีเสียงคนดังขึ้นในหุบเขา นางจึงได้ตื่นขึ้นมาจากการทำสมาธิ และได้เผาร่างของเสวียนหมิงไปด้วย เพียงแต่เมื่อนางมองไปยังไฟบงกชสีแดงบนร่างศพ เหม่อลอยอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็ได้ยินเสียงคนเรียก นางจึงได้ดึงสติกลับมาแล้วเดินออกไป
สุสานแห่งนี้อยู่ในตำแหน่งสูง เมื่อมองจากที่สูงจะเห็นเป็นกลุ่มสุสานหนาแน่น นี่คือสุสานบรรพบุรุษตระกูลเซี่ย สุสานเหล่านั้นล้วนเป็นบรรพบุรุษของตระกูลเซี่ย
เมื่อคืนได้ต่อสู้กับซื่อหลัว แม้ว่าจะกลืนยาลูกกลอนลงไปหลายเม็ด แต่สีหน้าของฉินหลิวซีก็ไม่ค่อยดีนัก ตอนนี้เมื่อเห็นสภาพหลุมศพของบรรพบุรุษตระกูลเซี่ย สีหน้าก็ยิ่งดูแย่กว่าเดิม
บริเวณสุดปลายภูเขาเป็นตำแหน่งถ้ำจริงๆ เช่นเดียวกับที่นางคาดไว้ สุสานบรรพบุรุษแห่งนี้ได้ถูกเลือกให้อยู่ในตำแหน่งฮวงจุ้ยที่มีเอกลักษณ์รุ่งเรือง
ด้านหลังที่นางยืนอยู่เป็นภูเขาสูงตระหง่า เงียบสงบตลอดปี เรียกว่าภูเขาหยาง และในภูเขาก็มีต้นไม้เขียวชอุ่มและแม่น้ำไหลผ่านทั้งกลางวันกลางคืน หุบเขาบริเวณที่ราบนั้นเป็นพื้นที่หยิน พื้นที่หยินในภูเขาหยาง บริเวณนี้เป็นภูเขาและแม่น้ำมาบรรจบกัน หยินหยางประสานกัน มีพลังชีวิตและความเจริญรุ่งเรืองซ่อนอยู่มากมาย ย่อมเป็นสถานที่ขุมทรัพย์แห่งถ้ำมังกรอันยอดเยี่ยม
บรรพบุรุษตระกูลเซี่ยถูกฝังอยู่ในดินแดนอันล้ำค่านี้ย่อมเต็มไปด้วยพลัง ความมีชีวิตชีวา ความเจริญรุ่งเรือง และจะคงอยู่ตลอดไปหากไม่มีเรื่องไม่คาดฝันใดๆ เกิดขึ้น ด้วยโชคลาภแห่งเกียรติยศเช่นนี้ จะต้องให้กำเนิดผู้มีเกียรติยศสูงส่งอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตามโชคลาภนี้ดีเกินไปจนทำให้ผู้ที่พบเห็นเกิดความโลภอยากได้
เดิมทีก็เป็นดินแดนอันล้ำค่าแห่งถ้ำมังกร มีพลังชีวิตอันไร้ขอบเขต ประกอบกับพลังมงคลสีทองมากมายที่เจ้าของได้รับมาจากสุสานเหล่านี้ ซึ่งเป็นสิ่งยิ่งใหญ่ที่พวกมารทั้งชอบและกลัว
สิ่งที่ชอบคือบุญกุศลและโชคลาภของพื้นที่แห่งนี้ แต่สิ่งที่กลัวคือพลังชั่วร้ายที่ซ่อนอยู่ในโชคลาภนี้ เหมือนกับกองทัพทหารกำลังกักตุนอยู่ที่นี่ บรรยากาศที่น่าเกรงขามและการฆ่าฟันสามารถขับไล่วิญญาณชั่วร้ายทั้งหมดออกไปได้
และด้วยเหตุนี้ บริเวณนี้จึงไม่มีผีเร่ร่อนกล้าเข้าใกล้แม้แต่ตัวเดียว แต่โชคลาภเช่นนี้ ตระกูลเซี่ยรักษาไว้ไม่ได้
ฉินหลิวซีมองไปยังสุสานที่ถูกห้อมล้อมไว้ในค่ายอาคมใหญ่ พลังงานโชคลาภกำลังหลั่งไหลไปทางสุสานใหญ่ และเหนือสุสานใหญ่นั้นมีเสาสูงเสียดฟ้าซึ่งมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า ราวกับมีช่องทางกวาดเอาโชคลาภออกไป พุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า
ราวกับเรื่องนี้เคยเกิดขึ้นมาก่อน
นางจ้องมองโชคลาภที่หลุดลอยไป อดนึกถึงหลุมศพตระกูลอวี้ไม่ได้ สิ่งที่นางแก้ไขในตอนนั้นก็เป็นเช่นนี้ไม่ใช่หรือ
ไม่ เห็นได้ชัดว่าโชคลาภของตระกูลอวี้ถูกขโมยไปโดยนักพรตเฒ่า แต่ของที่นี่ต้องเป็นฝีมือของซื่อหลัวอย่างแน่นอน มิเช่นนั้นเขาคงไม่พาเสวียนหมิงมาไว้ที่นี่เพื่อเฝ้าแทนเขา
หรือว่าตระกูลอวี้ก็เป็นเพียงเรื่องบังเอิญ
หากไม่ใช่ล่ะ
ฉินหลิวซีก้มหน้าพลางคุ้นคิดอย่างลึกซึ้ง ตระกูลอวี้ ตระกูลเซี่ย ต่างก็เป็นตระกูลใหญ่อันดับหนึ่งและมีโชคลาภมหาศาล หากเป็นเช่นนั้นจริงๆ คนหนึ่งสามารถควบคุมเต่าดำผู้มีสติปัญญาได้ อีกคนหนึ่งก็สามารถควบคุมเสือขาวแห่งเทพเจ้าสงครามได้…
นางหยุดคิดไปครู่หนึ่ง แตะหลังมือเบาๆ หรี่ตาลง หรือว่า
สัตว์ศักดิ์สิทธิ์ทั้งสี่?
“ท่านอาจารย์” สะใภ้โจวหายใจหอบพลางโบกมือให้นาง
ฉินหลิวซีได้สติกลับมา เขย่งปลายเท้าเล็กน้อย กระโดดไปไม่กี่ก้าวก็มาอยู่ตรงหน้าพวกนาง
“ท่านอาจารย์ สีหน้าของท่านดูไม่ดีอยู่บ้าง เป็นอะไรหรือไม่” สะใภ้โจวถามด้วยความห่วงใย
นายหญิงเซี่ยผู้เฒ่าก็มองมาด้วยความเป็นกังวลเล็กน้อย
ฉินหลิวซียิ้มพลางกล่าวว่า “ไม่เป็นไร ข้าไปต่อสู้มา ชนะแล้ว”
ทุกคนต่างพากันถอนหายใจด้วยความโล่งอก
นายหญิงเซี่ยผู้เฒ่าถามด้วยความกังวลว่า “แล้วสุสานบรรพบุรุษตระกูลเซี่ยของพวกเรามีบางอย่างผิดปกติอย่างที่ท่านคิดไว้หรือไม่”
ฉินหลิวซีหุบยิ้ม กล่าวตามความเป็นจริง “เป็นอย่างที่ข้าคิดไว้ โชคลาภตระกูลเซี่ยของพวกท่านถูกขโมยไปแล้ว”
แม้ว่านายหญิงเซี่ยผู้เฒ่าจะเตรียมใจไว้แล้วแต่ก็อดเปลี่ยนสีหน้าไม่ได้ เท้าเซเล็กน้อย แทบจะยืนไม่อยู่ ถามด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมว่า “การตายของคนตระกูลเซี่ยของพวกเรา เป็นเพราะสูญเสียโชคลาภหรือ”
“หากฮวงจุ้ยของสุสานบรรพบุรุษแข็งแกร่งพอ ก็จะเป็นร่มบารมีให้แก่ลูกหลาน แต่เมื่อโชคลาภถูกขโมยไป จึงไม่ได้ไปตกอยู่บนตัวของพวกท่าน…” ฉินหลิวซียังกล่าวไม่จบ แต่ทุกคนล้วนรู้ว่ามันเกี่ยวข้องกับโชคลาภ
นายหญิงเซี่ยผู้เฒ่าเวียนศีรษะ
ฉินหลิวซีเงียบไป “นั่นคือผู้ที่พวกท่านไม่อาจล่วงเกินได้”
“ท่านรู้ว่าเป็นใครหรือ” เมื่อนายหญิงเซี่ยผู้เฒ่าได้ฟังดังนั้นก็ปรากฏสายตาเฉียบคม
ฉินหลิวซีพยักหน้า “และเป็นคนที่ข้าเองก็ยากที่จะรับมือได้ด้วยเช่นกัน”
หลังจากที่ทุกคนได้ฟังดังนั้นก็รู้สึกหนักใจ
แม้แต่นางเองก็ยังรับมือได้ยาก เช่นนั้นตระกูลเซี่ยของพวกเขาก็ต้องจบเห่แล้ว?
สะใภ้โจวอ้าปาก นายหญิงเซี่ยผู้เฒ่าหยุดนางไว้ เอ่ย “หากท่านอาจารย์ไม่มีความมั่นใจว่าจะจัดการได้ เช่นนั้นก็ไม่จำเป็นต้องฝืน จะได้ไม่ต้องสูญเสียโดยไม่จำเป็น หากตระกูลเซี่ยของข้าถูกกำหนดไว้ว่าจะต้องพังพินาศ เช่นนั้นก็เป็นชะตาชีวิต”
เมื่อคนที่เหลือได้ฟังดังนั้นต่างก็รู้สึกเศร้าใจ ใบหน้าเผยให้เห็นถึงความเสียใจ
ใช่แล้ว คนมีความสามารถยอดเยี่ยมอย่างนางยังบอกว่ารับมือได้ยาก เห็นได้ชัดว่าผู้อยู่เบื้องหลังที่เป็นปฏิปักษ์กับตระกูลเซี่ยนั้นไม่ธรรมดา แล้วจะมีใครช่วยตระกูลเซี่ยได้
ฉินหลิวซีเอ่ย “หากไม่ใช่ของฝีมือของคนผู้นั้น ข้ายังพอทรยศหัวใจเต๋าเมินเฉยได้ แต่มันเกี่ยวข้องกับคนผู้นั้น ไม่ว่าจะยากเพียงใด ข้าก็จะทำลายแผนการของเขา”
ไม่ว่าซื่อหลัวจะต้องการโชคลาภเหล่านี้ไปทำอะไร ในเมื่อเขาเคลื่อนไหวแล้วนางพบเข้า เช่นนั้นก็ต้องจัดการเขา!
สะใภ้โจวถามหยั่งเชิงว่า “พวกท่านมีความแค้นอันใหญ่หลวงต่อกันหรือ”
“เขาจะนำภัยพิบัติมาสู่ใต้หล้า ทำให้สิ่งมีชีวิตในใต้หล้ามอดม้วย” ฉินหลิวซีเอ่ยต่อไปว่า “คนในเสวียนเหมิน เมื่ออยู่ในยุครุ่งเรืองก็จะปิดภูเขาฝึกบำเพ็ญตบะ เมื่อใต้หล้าวุ่นวายก็จะลงจากภูเขาเพื่อช่วยเหลือคนตกทุกข์ได้ยาก เมื่อเจอเรื่องเช่นนี้ พวกเราก็ต้องช่วยเหลือใต้หล้า ดังนั้นจึงไม่อาจเพิกเฉยได้”
ทุกคนตกตะลึง
ดูเหมือนว่าพวกเขาจะได้ยินเรื่องใหญ่อะไรบางอย่าง
ฉินหลิวซีมุ่งหน้าไปทางสุสานใหญ่ เอ่ยขึ้น “สุสานทั้งหมดแห่งนี้อยู่ในค่ายอาคมใหญ่ห้าธาตุแปดทิศ ค่ายอาคมนี้ไม่เพียงแต่รวบรวมโชคลาภทั้งหมดของตระกูลเซี่ย ซ้ำยังสามารถดำรงอยู่ไม่ดับไป ดูดพลังชีวิตทั้งหมดที่อยู่บริเวณรอบๆ เข้ามา จากนั้นก็ใช้สุสานใหญ่แห่งนั้นเป็นพาหะเพื่อเคลื่อนย้ายโชคลาภเหล่านี้ออกไป เมื่อโชคลาภทั้งหมดของตระกูลเซี่ยสูญสิ้น เช่นนั้นตระกูลเซี่ยของพวกท่านก็จะจบลง”
นางเดินอย่างช้าๆ ไปยังสุสานใหญ่ จนเห็นเจ้าของสุสานใหญ่ ซึ่งก็คือบรรพบุรุษผู้ก่อตั้งตระกูลเซี่ย หมิงกงตระกูลเซี่ย
“แล้วจะต้องทำลายอย่างไร” สะใภ้โจวรีบถามซักไซ้ด้วยความร้อนใจ
ฉินหลิวซีมองไปยังสุสานใหญ่ หยิบเข็มทิศเล็กๆ ออกมาจากถุงเฉียนคุน เริ่มวนไปรอบๆ สุสานใหญ่ มองดูเข็มทิศพลางนับข้อนิ้วคำนวณ ในหัวก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้อย่างรวดเร็ว
เนื่องจากสุสานแห่งนี้เป็นพาหะ จึงเป็นดังถุงเลือด ด้านบนท้องฟ้านั้นก็คือตัวดูดเลือด หากไม่อยากถูกดูดก็จะต้องตัดการเชื่อมต่อกับพาหะะนี้ ดังนั้นจึงต้องทำลายใจกลางค่ายอาคมของสุสานใหญ่แห่งนี้ก่อน
แล้วจะทำลายค่ายอาคมนี้อย่างไร ใจกลางค่ายอาคมคืออะไร
ตอนนั้นวิชาของตระกูลอวี้นั้นทำอย่างไร ธาตุทั้งห้าเป็นตัวเสริม ใช้หุ่นเชิดเป็นใจกลางของการสืบทอดบูชาและโชคลาภ แล้วตระกูลเซี่ยล่ะ
นางไม่พบสิ่งของที่เป็นธาตุทั้งห้าในสุสานใหญ่แห่งนี้
ฉินหลิวซีมาที่ด้านหน้าของสุสานใหญ่อีกครั้ง มองดูป้ายสุสานของเซี่ยกงหมิง กัดเล็บเบาๆ สีหน้าครุ่นคิด
หากสุนัขต่ำช้าซื่อหลัวได้วางแผนไว้นานแล้ว เขาจะเริ่มวางแผนตั้งแต่ตอนที่เซี่ยกงหมิงตายหรือไม่
ทุกคนเห็นว่านางเงียบไป แม้ว่าในใจจะเป็นกังวล แต่ก็ไม่กล้าขัดจังหวะความคิดของนาง
ทันใดนั้นฉินหลิวซีก็หันกลับมามองนายหญิงเซี่ยผู้เฒ่า เอ่ยถามว่า “ท่านว่า ข้าขอขุดสุสานบรรพบุรุษของท่านได้หรือไม่”
นายหญิงเซี่ยผู้เฒ่า “?”
เดี๋ยวนะ ท่านว่าอะไร