คุณหนูใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า - ตอนที่ 1119 เว่ยเสีย เจ้าต้องเปลี่ยนที่พึ่งแล้ว
ตอนที่ 1119 เว่ยเสีย เจ้าต้องเปลี่ยนที่พึ่งแล้ว
………………..
หลังจากปัญหาทั้งหมดของตระกูลเซี่ยได้รับการแก้ไขแล้ว ฉินหลิวซียังอยู่ที่สุสานบรรพบุรุษตระกูลเซี่ยอีกสองวัน แต่ซื่อหลัวก็ไม่เคยปรากฏตัว ซึ่งทำให้นางรู้สึกแปลกเล็กน้อย
เพื่อโชคลาภของตระกูลเซี่ยแล้ว เขากระทั่งช่วยเสวียนหมิงไปจากเงื้อมมือของนางโดยไม่ลังเล เพื่อพามาเป็นคนเฝ้าค่ายอาคมให้เขาที่นี่ ดังนั้นตอนที่เสวียนหมิงถูกนางโจมตี เขาก็ยังได้ช่วยเสวียนหมิงต่อกรกับนาง
เมื่อเห็นว่าเขาใส่ใจเสวียนหมิงเช่นนี้ แน่นอนว่าไม่ใช่เพื่อคนผู้นี้ แต่เป็นค่ายอาคมในสุสานบรรพบุรุษตระกูลเซี่ย ในเมื่อเขาให้ความสำคัญกับที่นี่มากขนาดนี้ เหตุใดจึงไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ เมื่อนางฆ่าเสวียนหมิงกับเซี่ยกงหมิงไปทีละคน
เขากำลังคิดอะไรอยู่
หรือคิดว่าตระกูลเซี่ยไม่มีค่าที่จะใช้ประโยชน์แล้ว หากเป็นเช่นนี้ แล้วเหตุใดก่อนหน้านี้เขาจึงได้เสี่ยงที่จะมาช่วยเสวียนหมิง
นางนึกไม่ออกเลยว่าคนผู้นี้ต้องการจะทำอะไร
“แม้จะเป็นแค่หมากที่ถูกทิ้งในกระดานหมาก ก็สามารถส่งผลกระทบต่อภาพรวมซึ่งจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ไม่คาดคิดได้” ซื่อหลัวมองไปที่กระดานหมากรุกตรงหน้า นิ้วเรียวยาวคว่ำตัวหมากรุกของแม่ทัพ หันศีรษะเล็กน้อย มองเงามืดที่อยู่ข้างหลัง กล่าวว่า “เจ้าว่านางจะนำความประหลาดใจมาให้ข้ามากแค่ไหน”
เงามืดยังคงไม่ขยับ
“ไสหัวไป!” ซื่อหลัวสะบัดแขนเสื้อด้วยความรังเกียจ
เมื่อในห้องเหลือเขาเพียงคนเดียว เขาจึงได้นำรูปปั้นดินเหนียวเล็กที่เป็นของเซี่ยกงหมิงมาบดขยี้กลายเป็นผง ขยะก็คือขยะ ไม่มีประโยชน์ ช่วยค้ำจุนอะไรไม่ได้
หลังจากนั้นเขาก็วางรูปปั้นดินเหนียวเสมือนจริงไว้ด้านบนทันที รูปปั้นดินเหนียวนั้นท่าทางเกเร สายตาเหยียดหยาม สีหน้าเย็นชา นั่นคือใบหน้าของฉินหลิวซีไม่ใช่หรือ
ซื่อหลัวจิ้มศีรษะของนาง ย้ายนางไปไว้ที่ชั้นบนสุด หลังจากผ่านไปนานก็แสยะยิ้มขึ้นมา “ข้าก็อยากจะดูว่าเจ้าตัวคนเดียวจะสามารถขัดขวางไม่ให้ข้าขึ้นสู่สวรรค์ได้จริงๆ หรือ”
ฉินหลิวซีจามสองครั้ง หันไปมองสุสานบรรพบุรุษตระกูลเซี่ยอีกครั้ง ช่างเถิด เรื่องที่คิดไม่ออกก็ไม่ต้องไปคิด เมื่อเรือแล่นไปถึงหัวสะพานก็จะผ่านไปได้เอง เมื่อได้พบเขาข้าค่อยจัดการ!
“ลอบโจมตีท่าน ข้าคงรังเกียจว่าชีวิตผียืนยาวเกินไปแล้วกระมัง” เว่ยเสียปรากฏกลายขึ้น มานั่งอยู่ข้างนาง
เมื่อฉินหลิวซีเห็นว่าโซ่ตรวนวิญญาณกับใบเป็นตายบนตัวเขาไม่มีแล้ว ชะงักไปครู่หนึ่ง กล่าวว่า “เจ้าไม่เป็นยมทูตชั่วคราวแล้วหรือ”
“ไม่ทำแล้ว ไม่เห็นสนุกเลย” เว่ยเสียกล่าวว่า “ข้าอยากจะฝึกบำเพ็ญผี”
ฉินหลิวซีเลิกคิ้ว “เจ้าแน่ใจหรือ เหตุใดจู่ๆ จึงได้ตัดสินใจเช่นนี้”
“หลังจากเป็นยมทูตมาได้ระยะหนึ่ง ข้าก็ได้สั่งสมบุญกุศลมาบ้างแล้ว หากไปเกิดใหม่ ไปเป็นคนอีกครั้งมันก็แค่นั้น ความจริงแล้วก็เพียงแค่อดทนสู้ชีวิตไปวันๆ ไม่มีอะไรน่าสนใจ เข้าสู่เส้นทางผี ฝึกบำเพ็ญให้สมบูรณ์ กลายเป็นอมตะ ดีจะตายไป”
ฉินหลิวซีเงียบไป ผ่านไปพักใหญ่จึงกล่าวว่า “แต่ว่าการเป็นอมตะไปตลอดกาลนั้นโดดเดี่ยวเกินไปแล้ว”
“คนเรามาคนเดียวก็ไปคนเดียว เดิมทีก็โดดเดี่ยวอยู่แล้ว เหตุใดท่านจึงได้ดัดจริตขึ้นมา” เว่ยเสียหัวเราะ
ฉินหลิวซีหันไปมอง กล่าวว่า “หากเจ้าอยากจะฝึกบำเพ็ญผีเพื่อในภายภาคหน้าจะได้ช่วยต่อกรกับซื่อหลัว เช่นนั้นก็ไม่จำเป็น เป็นถึงบุรุษอกสามศอก ตอนมีชีวิตอยู่ก็ทำอะไรตามอำเภอใจ ตายไปก็ควรเป็นเช่นนี้ เป็นยมทูตต่อไป และเมื่อมองดูโลกใบนี้จนพอแล้ว เจ้าค่อยไปเกิดใหม่ในที่ที่ดี”
“ไม่ต้องมาทำตัวเป็นผู้ประเสริฐ ใครทำเพื่อท่านกัน ข้าเป็นผู้บำเพ็ญผี ก็จะได้มองดูโลกใบนี้ตลอดไปเช่นกัน” เว่ยเสียสบถในลำคอ
“ดูน้ำเสียงที่ไม่เป็นตัวเองของเจ้า ข้าเดาถูกแล้วกระมัง” ฉินหลิวซีหยิบเหรียญทงเม่ยออกมาสองสามเหรียญ กล่าวว่า “มีเงินติดตัวหรือไม่ ข้าจะทำนายให้เจ้า ถามถึงอนาคต”
“ข้าเป็นผี จะไปเอาเงินมาจากไหน รอก่อน ท่านนี่เรื่องมากจริงๆ” เขาหายแวบไป ไม่นานก็กลับมาพร้อมกับถือถุงหนังเก่าๆ ใบหนึ่ง ข้างหลังยังมีเสียงผีเฒ่าร้องไห้สะอึกสะอื้น
เว่ยเสียเอาถุงวางไว้ตรงหน้าฉินหลิวซี ชี้ไปยังผีเฒ่า กล่าวว่า “ผีเฒ่าตนนี้ เป็นผีเฝ้าสมบัติ ตายไปแล้วก็ยังเฝ้าศพกับเงินของตัวเอง อีกสักครู่ท่านไปช่วยเก็บศพให้เขาแล้วค่อยส่งเขาเข้าประตูวิญญาณเถิด นี่คือค่าตอบแทน และแน่นอนว่ามีส่วนหนึ่งเป็นค่าตอบแทนที่ข้านำพามาให้ ให้ท่านทั้งหมด ถือว่าเป็นเงินค่าทำนาย”
ผีเฒ่า ‘ข้าไม่เอา เป็นเจ้าที่บังคับข้า!’
ฉินหลิวซีมองไปยังผีเฒ่า กล่าวว่า “ตายไปหลายปีแล้ว หากเจ้ายังวนเวียนอยู่ในโลกมนุษย์ ไม่นานก็จะวิญญาณแตกสลายไป ไปเกิดใหม่เถิด”
ฉินหลิวซีเปิดถุงหนังออก เห็นทองคำสีเหลืองทองอร่าม ปิดมันอีกครั้ง กล่าวว่า “เจ้ามีนามว่าอะไร ข้าจะเผาเงินกระดาษเป็นเครื่องเซ่นไหว้ให้เจ้าไปเกิดใหม่”
ผีเฒ่าดีใจมาก กล่าวว่า “ช่วยจัดงานแต่งงานให้ด้วยได้หรือไม่ ข้าเป็นผีโสด หาเงินอยากจะกลับบ้านเกิดไปสู่ขอภรรยา คิดไม่ถึงว่าจะเสียหลักตกหน้าผาตาย ข้าตายตาไม่หลับด้วย”
ฉินหลิวซีจ้องมอง “ตายตาไม่หลับ จะไปเกิดใหม่แล้วยังจะแต่งงานอะไรอีก ชาติหน้าค่อยแต่งเถิด เงินเหล่านี้จะใช้ทำความดีในนามของเจ้า ไปเกิดใหม่ในที่ที่พอเป็นไปได้ ในชาติหน้าจะได้แต่งภรรยาที่ดีสมดั่งปรารถนาแน่นอน”
เมื่อผีเฒ่าเห็นว่านางดุแค่ไหนก็หดคอ กล่าวอย่างขี้ขลาดว่า “เช่นนั้น เช่นนั้นก็รบกวนท่านอาจารย์ด้วย”
ฉินหลิวซีขอแปดอักษรเวลาตกฟากกับชื่อของเขา ก่อนจะเปิดประตูวิญญาณส่งเขาเข้าไป จากนั้นก็ตามเว่ยเสียไปช่วยเก็บศพให้ผีเฒ่าตนนั้น เมื่อเห็นว่าที่แห่งนี้นับว่าเป็นสถานที่มงคล จึงฝังไว้ ณ ที่แห่งนั้น ทำหลุมศพตั้งป้ายสุสาน
หลังจากไปจากที่นี่ นางก็เข้าไปในเมืองอีกครั้ง ซื้อของเซ่นไหว้ พับทองหยวนเป่าและตัดเสื้อกระดาษด้วยตัวเองแล้วเสกไปให้เขา จากนั้นก็ไปที่สถานสงเคราะห์ บริจาคทองจำนวนหนึ่งในนามของคนผู้นั้น
ในยมโลก ผีเฒ่าตนนั้นนามว่าสวี่ต้าลี่หลั่งน้ำตาด้วยความดีใจเมื่อเห็นเสื้อผ้าใหม่บนตัวของตัวเองและทองหยวนเป่าสีทองอร่าม
เขาได้พบกับไต้ซือผู้แสนดีเข้าแล้ว!
เว่ยเสียเห็นทุกการกระทำของฉินหลิวซี คนผู้นี้ช่างเป็นคนที่นุ่มนวลเสียจริง
ฉินหลิวซีถือทองคำสองสามแท่งอย่างมีความสุข ใส่ไว้ในถุงเฉียนคุน กล่าวกับเขาว่า “เอาล่ะ ข้าจะช่วยทำนายให้เจ้าเดี๋ยวนี้”
เว่ยเสียท่าทางสงบนิ่ง ในใจไม่มีความกังวลใดๆ จะทำนายหรือไม่นั้นความจริงแล้วไม่สำคัญ สิ่งที่สำคัญคือเขาจะต้องแข็งแกร่งขึ้น
ฉินหลิวซีมองคำทำนายที่ปรากฏขึ้น สีหน้าแปลกๆ เล็กน้อย
“มีอะไรหรือ” เว่ยเสียแสร้งทำท่าทางอวดเก่ง กล่าวว่า “เห็นว่าข้าได้เป็นผีผู้ยิ่งใหญ่ ชนะทุกการต่อสู้ใช่หรือไม่”
ฉินหลิวซีเคลื่อนย้ายเหรียญทำนาย กล่าวว่า “ไม่ใช่ เจ้าจะต้องเปลี่ยนที่พึ่งแล้ว”
เว่ยเสีย “?”
เปลี่ยนที่พึ่ง หมายความว่าอย่างไร
“ตามข้ามา” ฉินหลิวซีแหวกเส้นทางหยินแล้วลากเขาเดินเข้าไป จากนั้นก็รีบวิ่งไปตลอดทาง เมื่อออกมาอีกครั้งก็มาถึงอำเภอหนาน
“ถึงแล้ว”
เว่ยเสียมองไปยังศาลประจำเมืองที่ทำจากกระเบื้องเคลือบอยู่ตรงหน้า พลันมีความรู้สึกแปลกๆ ขึ้นมาอย่างไม่มีเหตุผล ทั้งเป็นลางร้ายและเป็นลางดี นี่มันอะไรกัน
เขตแดนของเทพประจำเมือง ผีไม่กล้าเข้าไป แต่เว่ยเสียกลับถูกฉินหลิวซีลากเข้าไป ราวกับซาหยวนจื่อสัมผัสได้ เขาพุ่งออกมา มองไปยังเว่ยเสีย ในมือกำแส้หางม้า สายตาแหลมคม
ฉินหลิวซีพาเว่ยเสียมาอยู่ตรงหน้าเทพประจำเมือง กล่าวว่า “กราบซะ ที่พึ่งใหม่ของเจ้า ซึ่งก็คือเทพประจำเมือง ติดตามเขา เขาจะมอบตำแหน่งเทพให้เจ้า ตำแหน่งเทพนั้นมีอนาคตกว่าการฝึกบำเพ็ญผี”
เทพประจำเมืองอยากรู้เป็นอย่างมาก “เอ๋ เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าข้าจะแต่งตั้งองครักษ์หัววัวหัวม้า”
เว่ยเสีย “?”
นี่มันอะไรกัน อนาคตที่ท่านพูดถึงก็คือให้ข้าเป็นองครักษ์หัววัวหัวม้าที่อัปลักษณ์ที่สุดอย่างนั้นหรือ
เว่ยเสียกระโจนเข้าใส่ฉินหลิวซี มาเลย ไม่ต้องมีชีวิตอยู่กันแล้ว!