คุณหนูใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า - ตอนที่ 1120 เทพประจำเมือง ‘ข้าขอแนะนำ (ในทางที่ผิด) เจ้าสักสองสามประโยค!’
- Home
- คุณหนูใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า
- ตอนที่ 1120 เทพประจำเมือง ‘ข้าขอแนะนำ (ในทางที่ผิด) เจ้าสักสองสามประโยค!’
ตอนที่ 1120 เทพประจำเมือง ‘ข้าขอแนะนำ (ในทางที่ผิด) เจ้าสักสองสามประโยค!’
………………..
ดวงตาของเว่ยเสียว่างเปล่า เหตุใดเขาจึงได้ฟังคำหลอกลวงคำโตของฉินหลิวซีมาเป็นผู้ช่วยของเทพประจำเมือง ซ้ำยังเป็นองครักษ์หัววัวหัวม้า เขาไม่มีทางที่จะทนต่อรูปร่างอันน่าเกลียดเช่นนี้ได้!
เขา เว่ยเสียเป็นชายหนุ่มที่ทัดดอกไม้จนกระทั่งตาย!
“ถ้าเจ้าอยากทัดดอกไม้ จะปักไว้บนหัววัวสักดอกก็ย่อมได้” ฉินหลิวซีเอ่ยด้วยรอยยิ้ม
เว่ยเสียจ้องมองนาง
ฉินหลิวซีตบเขาเบาๆ กล่าวว่า “เอาล่ะ งานภายใต้การดูแลของเทพประจำเมือง อย่างไรเสียก็เป็นตำแหน่งเทพ แสงศักดิ์สิทธิ์เล็กๆ น้อยๆ ตกลงบนแท่นวิญญาณ ย่อมดีกว่าการฝึกบำเพ็ญอย่างยากลำบากอยู่มาก”
“ก่อนหน้านี้ท่านยังให้ข้าฝึกบำเพ็ญผี เหตุใดจึงได้เปลี่ยนไป ฝึกบำเพ็ญผีก็ไม่ได้มีอะไรไม่ดี”
ฉินหลิวซีจ้องมองเขา “เดิมทีข้าคิดว่า เจ้าไม่ไปเกิดใหม่ ฝึกบำเพ็ญเข้าสู่เส้นทางผีย่อมดีกว่าเร่ร่อนไปมาในโลกมนุษย์ อย่างไรเสียเมื่อเร่ร่อนอยู่เป็นเวลานาน หากไม่สูญเสียสติก็จะค่อยๆ จางหายไป หรือไม่ก็กลายเป็นยาชูกำลังของผีร้ายตนอื่น หรือตัวเองกลายเป็นผีร้ายเสียเอง ไม่มีตัวเลือกที่ดีสักอย่าง ฝึกบำเพ็ญเข้าสู่เส้นทางผีย่อมอยู่ในการควบคุมของตัวเอง เพียงแต่เว่ยเสีย ในเมื่อมีตัวเลือกที่ดีกว่า ย่อมต้องเลือกสิ่งที่ดี ตำแหน่งที่เทพประจำเมืองแต่งตั้ง ย่อมมีแสงศักดิ์สิทธิ์ ได้ตำแหน่งเทพไม่ดีกว่าเป็นผีธรรมดาทั่วไปหรือ”
เว่ยเสียกล่าวพึมพำ “ก่อนหน้านี้เฮยอู๋ฉังก็ต้องการรับข้าเข้าสู่ตำแหน่งทางการ”
ได้รับตำแหน่งทางการจากยมโลก ก็นับว่าเป็นยมทูตอย่างถูกต้อง ซ้ำยังไม่ต้องสอบ
ฉินหลิวซีกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “สิ่งนี้เจ้าคงไม่เข้าใจ ยมทูตในยมโลกนั้นมีมากมาย การแข่งขันสูง ไม่สู้ทำงานเป็นลูกน้องอยู่ภายใต้การดูแลเทพประจำเมืองจะดีกว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ เจ้าเป็นเทพที่มีตำแหน่งคอยรับใช้อยู่ข้างกายเทพประจำเมือง เมื่อมีราษฎรมาจุดธูปบูชา เจ้าก็จะมีผลพลอยได้ไปด้วย มีแต่ประโยชน์ แต่หากเป็นยมทูตอยู่ในยมโลก ใครจะไปจุดธูปบูชาให้เจ้ามากมายขนาดนั้น”
เว่ยเสียหัวเราะในลำคอ “ท่านพยายามล่อลวงข้าอยู่กระมัง”
“ข้าไม่มีทางทำร้ายเจ้า”
เว่ยเสียจ้องมองนางอยู่เป็นเวลานาน รู้สึกอึดอัดใจเล็กน้อย ถอนหายใจก่อนจะเอ่ย “ข้าเถียงท่านไม่ได้”
นับแต่นี้ไป มีเทวรูปหัววัวอยู่ใต้แท่นประทับของเทพประจำเมืองในศาลเจ้าประจำเมือง คอยรับธูปบูชา
เว่ยเสียอดทนต่อความปวดใจแล้วกลายร่างเป็นหัววัวที่น่าเกลียดจนทนมองไม่ได้ มือถือไม้ตรีเหล็ก เปล่งรัศมีอันสง่างามและดุร้าย ออกเดินทางไปด้วยความโกรธ
เมื่อเทพประจำเมืองเห็นเขาไปแล้ว จึงได้มองไปยังฉินหลิวซี “แม่หนู เจ้าต้องการจะทำสิ่งใดกันแน่ เหตุใดจึงได้ส่งผีตนนี้มาให้ข้า”
“อยู่กับท่านมีอนาคต”
เทพประจำเมืองสบถเบาๆ “ดูแสร้งทำเข้า ข้าว่าเจ้ากำลังปูทางให้เขาอยู่ต่างหาก”
ฉินหลิวซีเอ่ยเสียงเรียบว่า “ในฐานะเทพประจำเมือง จะต้องมีความมั่นใจในตัวเอง เชื่อว่าตัวเองสามารถยิ่งใหญ่และแข็งแกร่งขึ้นได้ สร้างบารมี เช่นนี้ผู้ที่อยู่ใต้บังคับบัญชาท่านก็จะได้รับแสงไปด้วย”
เทพประจำเมืองเห็นว่านางกล่าวเช่นนี้จึงถามว่า “เจ้าไปสร้างปัญหาใหญ่มาหรือ”
ดูทำเข้า ราวกับกำลังสั่งเสีย เอาคนสำคัญของตัวเองมาไว้ในตำแหน่งที่ได้รับการปกป้องคุ้มครอง
ถุยๆๆ อัปมงคล วันนี้ปากของข้าไม่ศักดิ์สิทธิ์
ฉินหลิวซีถามกลับว่า “ท่านเป็นเทพประจำเมือง แม้ว่าจะเป็นเทพประจำเมืองที่ดูแลเมืองเล็กๆ แต่อย่างไรเสียก็เป็นเทพ สายตามองเห็นได้ ท่านสามารถดูได้หรือไม่ว่าข้ามาจากไหน”
“หืม?”
ฉินหลิวซีหรี่ตาลง “ข้าเคยเห็นทะเลเพลิง ในค่ายอาคมจิตมาร มีสิ่งมีชีวิตนับไม่ถ้วนตายในทะเลเพลิง ที่นั่นมีคนบอกว่าเป็นความผิดข้า ท่านรู้หรือไม่ว่านั่นเป็นความทรงจำในอดีตของข้า หรือเป็นลางบอกเหตุในอนาคต ทะเลเพลิงนั่นเป็นฝีมือข้าหรือ”
หากเป็นเช่นนั้น นางทำร้ายไปกี่ชีวิตแล้ว แล้วจะต่างอะไรกันกับซื่อหลัว
เทพประจำเมืองคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วกล่าวว่า “หากเป็นความทรงจำในอดีต แสดงว่ามันได้เกิดขึ้นแล้ว สิ่งที่เกิดขึ้นแล้วไม่สามารถย้อนกลับไปได้ ทำได้เพียงชดใช้ความผิดเท่านั้น หากเป็นลางบอกเหตุถึงอนาคต เช่นนั้นก็ยิ่งไม่จำเป็นต้องกังวลมากเกินไป อย่างไรเสียมันก็ยังมาไม่ถึง กระทั่งอาจเปิดโอกาสให้เจ้าเปลี่ยนแปลงมันได้ ดังนั้นเหตุใดจึงต้องเป็นกังวลในเรื่องนี้ หาเรื่องใส่ตัว ไม่พึงปรารถนา”
ฉินหลิวซีครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง โค้งคำนับเขา “ข้าเข้าใจแล้ว”
เทพประจำเมืองกล่าวอีกว่า “เหมือนว่าความคิดของเจ้าจะจริงจังกว่าครั้งที่แล้ว ให้ข้าช่วยแนะนำเจ้าสักสองสามประโยคหรือไม่”
“เช่นนั้นก็รบกวนด้วย”
“เคารพความตั้งใจเดิม คล้อยไปตามสถานการณ์ หากรู้สึกไม่สบายใจก็สู้ไปเลย อย่าทนเก็บไว้ มิเช่นนั้นหัวใจเต๋าจะไม่มั่นคง เป็นอุปสรรคต่อการฝึกบำเพ็ญ” อายุยังน้อย คิดหมกมุ่นมากเกินไปย่อมไม่ใช่เรื่องดี ในเมื่อเป็นเช่นนี้ไม่สู้ทำบางอย่างที่มีแต่คนบ้าบิ่นในวัยนี้เท่านั้นที่จะทำ อย่างเช่นการต่อสู้โดยไม่เจรจา ระบายความโกรธออกมาก่อนค่อยว่ากัน
ฉินหลิวซี “…”
“สรุปก็คือ เจ้าอย่าไปเรียนคำสอนของพุทธศาสนา เอะอะก็บอกว่าสัตว์ทั้งหลายเท่าเทียมกันไม่ควรฆ่าสัตว์ตัดชีวิต เมื่อตายไปก็บอกว่าหากข้าไม่ลงนรกแล้วใครจะลงนรก เจ้าจำไว้ว่าหัวใจสำคัญของลัทธิเต๋าคือหากตายก็ให้คนอื่นตาย จะเสียสละตัวเองไม่ได้!” เทพประจำเมืองให้คำชี้แนะ กล่าวอีกว่า “ลัทธิเต๋าเป็นเส้นทางที่โดดเดี่ยว ลัทธินี้เป็นเส้นทางแห่งการฆ่า ดังนั้นหากไม่พอใจเจ้าก็จัดการ!”
ฉินหลิวซีพยายามควบคุมมุมปากที่กระตุกไม่หยุด กล่าวว่า “ท่านเป็นถึงเทพประจำเมือง เหตุใดจึงทำตัวเหมือนพวกอันธพาล”
เทพประจำเมืองจ้องนาง “ข้ากับเจ้าถูกชะตากันจึงได้สอนเจ้า หากเป็นคนอื่น อย่าว่าแต่ให้ข้าสอนเลย แม้แต่จะเชิญให้ข้าลงมาก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เจ้าจงภูมิใจเถิด”
ฉินหลิวซียกริมฝีปาก กล่าวว่า “เช่นนั้นก็เป็นเกียรติของข้าจริงๆ”
“ใช่แล้ว” เทพประจำเมืองภาคภูมิใจเป็นอย่างมาก กล่าวว่า “คิดมากเกินไปจะทำให้จิตใจมืดบอดได้ง่าย หัวใจเต๋าถูกปิดกั้น การฝึกบำเพ็ญก็จะก้าวหน้าได้ยาก ดังนั้นเจ้าจะต้องผ่อนคลาย”
แทนที่จะทำให้ตัวเองอารมณ์เสีย ไม่สู้ไปทำให้คนอื่นอารมณ์เสีย
ฉินหลิวซีก้าวไปข้างหน้า กล่าวว่า “ตกลง เช่นนั้นข้าจะขอรับแสงจากท่าน”
นางนอนลงข้างเขา ศีรษะแตะขาที่นั่งขัดสมาธิของเขา ขยับเข้าไปเล็กน้อย หลับตาลง ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
นางเหนื่อยมาก!
เทพประจำเมืองหน้าเขียว ได้คืบจะเอาศอก
อยากจะด่าว่าบังอาจ แต่เมื่อเห็นท่าทางเหนื่อยล้าของนาง เขาก็จิ้มแก้มนางด้วยความหมั่นเขี้ยว ถอนหายใจเบาๆ ในสายตาของเขามีความเอ็นดูอย่างที่เขาไม่เคยรู้สึกมาก่อน
หลังจากที่ฉินหลิวซีนอนหลับก็ล่วงเลยมาเป็นเวลาสองวัน
เมื่อตื่นขึ้นมาอีกครั้ง กลับถูกปลุกให้ตื่นโดยเสียงเรียกขอความช่วยเหลือจากเฟิงซิวจิ้งจอกไม่เอาไหน
ต้องบอกว่าเมื่อได้รับการคุ้มครองจากธูป เมื่ออยู่ข้างกายเทพประจำเมือง ได้อาบพลังของเทพเจ้า การหลับครั้งนี้ทำให้นางรู้สึกสบายตัวกว่าการกักตัวฝึกบำเพ็ญเป็นเวลาสองวันเสียอีก
ฉินหลิวซียิ้มพลางกล่าวกับเทพประจำเมืองว่า “คราวหน้าข้าจะมาฟังคำแนะนำของท่านอีก”
เทพประจำเมืองกล่าวด้วยใบหน้ามืดครึ้มว่า “ไม่ต้อง!”
เจ้ามาขโมยควันธูปของข้าชัดๆ ตอนที่เจ้านอนหลับได้ดึงพลังศรัทธาทั้งหมดให้กับตัวเอง หากเป็นคนอื่นข้าคงไล่นางไปนานแล้ว
“ต้องมา ข้าชอบฟังคำสั่งสอนของผู้อาวุโสเป็นที่สุด ข้าขอตัวก่อน” ฉินหลิวซียกมือขึ้นคำนับ เดินเข้าไปในเส้นทางหยิน
เว่ยหัววัวที่พึ่งกลับมาเห็นเข้าก็รู้สึกน้อยใจเป็นอย่างมาก เด็กสาวใจดำผู้นี้ทิ้งเขาไว้ที่นี่แล้วก็ไม่สนใจ ใจร้ายจริงๆ
“หัววัว” เทพประจำเมืองเหลือบมองเขาจากด้านบน
เว่ยเสียรีบตอบกลับว่า “ขอรับ เทพประจำเมืองมีอะไรจะกำชับหรือ”
เทพประจำเมืองเอ่ย “ตั้งใจทำงาน อย่าผิดต่อเส้นทางที่นางปูไว้ให้เจ้า”
เว่ยเสียตกตะลึง คุกเข่าลง “ขอรับ”