คุณหนูใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า - ตอนที่ 1123 คือว่า ข้าขอยืมสายฟ้าใช้หน่อยนะ
ตอนที่ 1123 คือว่า ข้าขอยืมสายฟ้าใช้หน่อยนะ
………………..
เรื่องที่ตัดสินใจแล้วก็ไม่จำเป็นต้องพูดให้มากความ ในเมื่อเฟิงซิวไม่กลัวเสียใจภายหลัง เช่นนั้นก็ลงมือ
ฉินหลิวซีช่วยสร้างม่านอาคมให้เขา ดึงวิญญาณปีศาจทั้งหมดออกจากแผนภาพร้อยปีศาจพร้อมกับปราณปีศาจ ให้เฟิงซิวหล่อหลอมและดูดซับ ส่วนนางก็คอยปกป้องม่านอาคมอยู่ข้างนอก เพื่อไม่ให้มีภูตผีปีศาจหรือไต้ซือมารบกวนในขณะที่เขากำลังกักตัว
เพียงแต่ทั้งสองคนกลับคิดไม่ถึงว่า การหล่อหลอมนี้จะกินเวลานานถึงสองเดือน และคิดไม่ถึงว่าเฟิงซิวจะไปดึงดูดด่านเคราะห์สวรรค์มา
ด่านเคราะห์สวรรค์จะปรากฏเมื่อเลื่อนขั้น
ฉินหลิวซีมองดูชั้นเมฆสีดำมืด สายฟ้าสีม่วงหนาเท่าแขน ส่องแสงสว่างวาบอยู่ในชั้นเมฆ เปลือกตากระตุกอย่างแรง
ไม่มีเวลามาคิดมาก นางรีบหยิบสมบัติที่เก็บไว้ในถุงเฉียนคุนของตัวเองออกมา วาดยันต์ฝังหินหยกอย่างต่อเนื่อง วางค่ายอาคมไว้ในม่านอาคมอีกหนึ่งชั้น ส่วนตัวเองก็นั่งขัดสมาธิอยู่ด้านนอกม่านอาคม จ้องมองเฟิงซิวที่กลับคืนสู่ร่างเดิม สีหน้าดูกังวลเล็กน้อย
นางมองออกว่าด่านเคราะห์สวรรค์นี้รุนแรงกว่าตอนที่เขาเลื่อนขั้นตอนนั้น หากรับไม่ไหว…
“เจ้าบอกเองว่าต่อสู้กับสวรรค์นั้นมีแต่ความสนุกไม่รู้จบ เจ้าห้ามตายเป็นอันขาด!” ฉินหลิวซีเค้นคำพูดที่โหดเหี้ยมออกมาจากไรฟัน ทะลุเข้าไปในม่านอาคม ส่งผ่านไปยังจิตสำนึกทางวิญญาณของเฟิงซิว “ด่านเคราะห์สวรรค์นี้ ต่อให้ทนไม่ได้เจ้าก็ต้องฝืนทนให้ได้ หากเจ้ารับไม่ไหว ต่อให้ข้าต้องตามไปไกลสุดลูกหูลูกตาก็จะลากศพเจ้ามาโบย!”
เฟิงซิวฉีกยิ้ม ใช่แล้ว นี่จึงจะเป็นจอมมารน้อยที่หยิ่งผยองและเผด็จการเป็นปกติผู้นั้นที่เขารู้จัก
ผู้หญิงอ่อนแอกลัวนั้นกลัวนี่ ไม่เหมือนนางเลยแม้แต่นิด!
ท้องฟ้าเริ่มมืดขึ้นเรื่อยๆ สีดำทมิฬราวกับจะหล่นลงมาได้ทุกเมื่อ สิ่งมีชีวิตในป่าแห่งนี้สั่นสะท้านด้วยความกลัว รีบหนีไปจากที่แห่งนี้อย่างรวดเร็ว แต่ก็มีสัตว์ประหลาดบางตัวที่มีจิตวิญญาณรู้แจ้งได้ยินเสียงความเคลื่อนไหวนี้ จึงมองดูอยู่ไกลๆ อยากจะหาโอกาสรับแสงไปด้วย
สายฟ้าสีม่วงเงินม้วนตัวอยู่ในก้อนเมฆราวกับมังกร ความกดอากาศหนักแน่นจนทำให้คนหายใจไม่ออก
ฉินหลิวซีเฝ้าค่ายอาคมอย่างเข้มงวด ถือไม้จินกังไว้ข้างกายเพื่อป้องกันเหตุฉุกเฉิน ซ้ำยังมีตาข่ายเชียนจีที่พึ่งได้มาใหม่ นอกจากนี้ยังมีเครื่องรางหยกอีกไม่น้อย ถูกนางหยิบออกมาทีละอย่าง
นางอยากจะใช้โอกาสฝ่าด่านเคราะห์สวรรค์นี้มาหล่อหลอมสิ่งเหล่านี้ให้มีจิตวิญญาณของสายฟ้า
จิตสำนึกทางวิญญาณของเฟิงซิวถูกปลดปล่อยออกมา เมื่อเห็นสิ่งของเหล่านี้ก็อดหัวเราะไม่ได้ นางเป็นคนที่เก็บทุกเม็ดจริงๆ อะไรก็ยอมได้แต่จะไม่ยอมเสียเปรียบ
แต่ว่าเขาไม่มีเวลามาคิดมาก รู้สึกว่าขนบนร่างกายเริ่มไหม้แล้วจึงรีบรวบรวมสติ ใช้พลังปีศาจอันเบาบางปกป้องร่างกายไว้ รอให้สายฟ้าฟาดลงมา
เปรี้ยง
สายฟ้าหนาพอๆ กับแขนฟาดตรงลงมาที่เขาเต็มๆ
มือทั้งสองข้างของฉินหลิวซีร่ายคาถา บุกเข้าไปในม่านอาคม นำของของตัวเองเข้ามาด้วย การฝ่าด่านเคราะห์ทั่วไป สายฟ้าในตอนแรกไม่นับว่ารุนแรง สามารถนำมาใช้หล่อหลอมเครื่องรางได้
สายฟ้า ‘ข้าโกรธมาก อยากจะผ่านาง แต่ไม่กล้า!’
ภายใต้ความรู้สึกไม่กล้า จึงทำได้เพียงออกแรงผ่าลงไปที่จิ้งจอกตัวนั้น
เฟิงซิวที่ถูกทำให้เดือดร้อนเกือบจะกระอักเลือดออกมา แต่กลับต้องเผชิญหน้า รอดมาได้ก็จะเป็นความสมบูรณ์แบบ หากผ่านไปไม่ได้ก็จะต้องตาย หากเขารอดไปได้ก็จะคุ้มกันนางไปสนามรบที่ยิ่งใหญ่ที่สุด
สายฟ้าฟาดลงมาทีละเส้น ทำให้ผิวหนังและเนื้อของเฟิงซิวฉีกขาด ดวงวิญญาณแทบจะหลุดออกจากร่าง และปราณปีศาจของเขาก็ลอยอยู่เหนือศีรษะของเขา รับการหล่อหลอมจากสายฟ้า
อย่างไรก็ตาม เมื่อปีศาจได้รับการเลื่อนขั้น ด่านเคราะห์สวรรค์ที่ต้องเผชิญนั้นย่อมรุนแรงกว่านักพรต และได้รับการพิสูจน์มากกว่า
เฟิงซิวรู้สึกว่าปราณปีศาจกำลังจะแตกร้าว วิญญาณปีศาจถูกฉีกออก
ฉินหลิวซีนั่งห่างจากเขาสี่ศอกคอยเฝ้าค่ายอาคม แม้ว่าจะมีสายฟ้าตกใส่นาง แต่ก็เพียงทำให้นางขนลุก บนร่างกายราวกับมีสะเก็ดสายฟ้า
เมื่อเห็นว่าปราณปีศาจของเฟิงซิวราวกับจะฉีกขาด ทันใดนั้นนางรู้สึกว่าเป็นช่วงเวลาที่ดี มือทั้งสองข้างร่ายคาถา จิตวิญญาณเต๋าอันแรงกล้าแผ่กระจายออกมาจากร่างกาย ตกลงบนร่างของเฟิงซิว สกัดกั้นร่องรอยของพลังสายฟ้า หล่อหลอมตนเอง
ดึงสายฟ้ามาใช้ให้แข็งแกร่งขึ้นไปด้วยกัน
เฟิงซิว “…”
เคยเห็นหรือไม่ มีคนขโมยสายฟ้าไปต่อหน้าต่อตา!
เขาไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี แต่ก็ยังใช้พื้นที่หายใจที่นางยื่นให้มา ใช้พลังปีศาจฟื้นฟูปราณปีศาจของตัวเอง ทำให้ปราณปีศาจแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ
ข้าไม่สามารถทำงานนี้ต่อไปได้แล้ว!
สายฟ้าเก้าชุดทั้งหมดแปดสิบเอ็ดเส้น เฟิงซิวรับไปเจ็ดส่วน ฉินหลิวซีรับไปสามส่วน เมื่อสายฟ้าเส้นสุดท้ายซึ่งหนาพอๆ กับต้นขาผ่าลงมา เสื้อผ้าของทั้งสองไม่เหลือชิ้นดี มีเพียงสะเก็ดไฟติดประกายอยู่
หลังจากที่สายฟ้าเส้นสุดท้ายผ่าลงมาก็ต้องเอามือกุมหน้าแล้วหนีไป ไม่มีหน้าไปพบใครแล้ว
ทันทีที่เมฆดำกระจายไป แสงสีทองห้าสีก็สาดส่องลงมา เหล่าภูตผีปีศาจที่รอคอยโอกาสต่างพากันดีใจ วิ่งไปอาบแสง ดูดซับแสงสีทองนั้น
ฉินหลิวซีลืมตาขึ้น มีแสงสว่างวาบในดวงตาราวกับมีแสงสีม่วงแดงส่องผ่าน แม้แต่ปลายนิ้วก็ราวกับมีกระแสไฟ รู้สึกชาเล็กน้อย
นางก้มหน้าดูตัวเอง รีบหยิบเสื้อผ้าจากถุงเฉียนคุนออกมาเปลี่ยน
ด้านหลังมีเสียงหัวเราะที่วอนโดนตีดังขึ้น “จะรีบใส่ทำไม ให้ข้าได้เห็นเป็นบุญตาสักหน่อย!”
ฉินหลิวซีหันกลับมา เห็นใครบางคนนั่งอยู่โดยมีหางใหญ่เก้าหางส่ายไปมาอยู่ข้างหลังเบาๆ สีแดงไฟแกมม่วง แวววาวจนดึงดูสายตา เมื่อมองดูเขา ขนเงางามนั้นราวกับมีร่องรอยของสายฟ้า ดวงตาเล็กเรียวของจิ้งจอกยิ่งน่าหลงใหล หากเหลือบมองเพียงพริบตาเดียวก็จะจมอยู่ในนั้น เต็มใจที่จะมอบทุกอย่างให้เขา
จิ้งจอกบ้านี่งดงามมากจริงๆ อยากได้
แย่แล้ว นางลุ่มหลงเข้าแล้ว!
เฟิงซิวกะพริบตา สายตาเย้ายวน “คนเรามาตัวเปล่าก็ไปตัวเปล่า จะใส่เสื้อผ้าหรือไม่ก็เหมือนกัน ไม่สู้…โอ๊ย!”
เขาพลิกตัวกระโดดขึ้นอย่างว่องไว หลบลูกไฟของฉินหลิวซีได้ กล่าวว่า “พูดกันดีๆ ก็ได้ อย่าเอาแต่เล่นไฟ ท่านไม่มีจรรยาบรรณในการต่อสู้เอาเสียเลย”
“เดี๋ยวนี้ชักเหิมเกริม คิดจะยั่วยวนข้า ไม่สู้ให้ข้าดูสักหน่อยว่าตบะเจ้าถึงขั้นไหนแล้ว” ฉินหลิวซีโยนตาข่ายเชียนจีออกไป ปากท่องคาถา ราวกับตาข่ายนั้นมีจิตสำนึกทางวิญญาณ ไล่ตามปกคลุมเขาไว้
เฟิงซิวยกมุมปาก ไม่ได้หลบแต่อย่างไร กลับยื่นมือออกไปคว้าตาข่ายยักษ์นั้นไว้ ไม่กลัวการกดทับอันทรงพลังที่มาจากตาข่ายเชียนจีแม้แต่นิด
เขาโยนตาข่ายเชียนจีกลับไป จากนั้นก็สร้างกลุ่มพลังปีศาจโยนขึ้นไปข้างบน พลังปีศาจที่มองไม่เห็นกลายเป็นแสงหลากสีกระจายออกไป
ทันใดนั้นลมและเมฆก็เปลี่ยนไป เมฆครึ้มรวมตัวกัน มีเสียงกรอบแกรบดังอยู่ในป่า เสียงกระจายมาจากทุกทิศทาง ราวกับเสียงร้องของสัตว์ ความสุขของพืชพันธุ์ พลังแปลกๆ บางอย่างราวกับพุ่งมาทางนี้อย่างรวดเร็ว
นั่นคือพลังปีศาจ
ฉินหลิวซีประหลาดใจ
เฟิงซิวเคลื่อนไหวไปตามที่ใจสั่ง เก็บพลังอาคมกลับคืนมาก่อนจะส่งเสียงร้อง พลังที่ผสมปนเปกันกระจายออกไป เขาเดินไปหาฉินหลิวซี ยิ้มพลางกล่าวว่า “ในสมัยโบราณมีธงเรียกปีศาจ เมื่อธงนี้ออกมาจะสามารถเรียกกลุ่มปีศาจได้ แต่ข้าไม่ต้องใช้ เพียงแค่ยกแขนเรียก กลุ่มปีศาจทั่วทั้งใต้หล้าก็จะมาพบและรอฟังคำสั่ง”
ฉินหลิวซีใจเต้น
ราชาปีศาจ
ซื่อหลัวนั่งอยู่หน้ากระดานหมากรุก ดูการเปลี่ยนแปลงของหมากรุก มือทั้งสองข้างเดินหมากในกระดานอย่างรวดเร็ว จากนั้นดวงตาของเขาก็แสดงให้เห็นถึงแสงแห่งความตื่นเต้น
ราชาปีศาจปรากฏกาย
เขาลุกขึ้นยืน บีบรูปปั้นดินเหนียวคนแคระกลายเป็นผง จากนั้นก็วางรูปเหมือนของจิ้งจอกที่ราวกับมีชีวิตไว้บนชั้นวาง มีรอยยิ้มปรากฏในดวงตา ราวกับว่าเขาควบคุมทุกสิ่งได้