คุณหนูใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า - ตอนที่ 1138 ตัวปัญหามาที่นี่เพื่อขโมยผู้ศรัทธา
ตอนที่ 1138 ตัวปัญหามาที่นี่เพื่อขโมยผู้ศรัทธา
คำพูดของฉินหลิวซีราวกับคำสาปแช่ง ทำเอาหลายคนรู้สึกขนลุกและหวาดกลัว
สาวกลัทธิผู้นั้นยิ่งมีสีหน้าซีดกว่าเดิม ในใจรู้สึกหวาดกลัว ตะโกนว่า “เจ้าหลอกลวงให้ชาวบ้านสับสน” เขารีบผลักฝูงชนออกเพื่อที่จะหลบหนี ไปได้ไม่ทันสองก้าว เขาก็ส่งเสียงร้อง มองมีดที่เสียบอยู่ที่ท้องด้วยความตกใจ
เขาเงยหน้าขึ้น เห็นชายผู้หนึ่งมีหนวดเครา เปลือกตาเข้ม ไม่มีสีสันใดๆ เขาดึงมีดในมือขึ้นมา แล้วแทงลงไปที่หน้าอกของเขาอีกครั้ง
“เอื้อ…” สาวกลัทธิเดินโซเซถอยหลังไปหนึ่งก้าว ทันทีที่ขยับ ความผิดปกติของเขาก็ถูกเปิดเผยต่อหน้าผู้อื่นในทันที
“อ๊ากก”
มีคนเห็นฉากนี้ ส่งเสียงกรีดร้อง “ฆ่าคนตาย”
ทุกคนต่างพากันหลีกหนี มีเพียงฉินหลิวซีที่ยังคงไม่ขยับไปไหน เพียงแต่มองไปยังบุรุษผู้ก่อเหตุร้าย
บุรุษผู้นั้นแสดงให้เห็นรอยยิ้มอันน่ากลัว พุ่งเข้าไปข้างหน้าอีกครั้ง ดันมีดที่แทงเข้าไปในหัวใจของชายคนนั้นอย่างแรง ดึงออกมาอีกครั้งแล้วแทงบนตัวเขาเรื่อยๆ
“ใครใช้ให้เจ้าเผยแพร่ลัทธิ ใครใช้ให้เจ้าเผยแพร่ลัทธิ” บุรุษผู้นั้นลงมือแทงสุดกำลังพลางตะโกนด่าสาปแช่ง “เจ้าทำลายครอบครัวของข้า คนบ้าอย่างพวกเจ้า กับลัทธิมารนี้เป็นผู้ที่ทำให้ครอบครัวของข้าถูกทำลาย”
“นี่มัน นี่มันเหล่าหวงหนิวในหมู่บ้านหวงเหลียง ภรรยาของเขาก็เป็นผู้ศรัทธาเหมือนกันไม่ใช่หรือ”
“ได้ยินมาว่าภรรยาของเขาไม่มีสติ ฆ่าบุตรตายไปสองคนแล้ว”
“หุบปาก!”
บุรุษนั้นตะโกนใส่ผู้วิพากษ์วิจารณ์ว่า “ที่นางไม่มีสติก็เพราะดื่มน้ำศักดิ์สิทธิ์อะไรก็ไม่รู้ จึงได้คิดว่าบุตรทั้งสองเป็นผีร้าย จับพวกเขากดน้ำในถัง ข้าเคยบอกกับนางแล้วว่าลัทธิสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์อะไรนั่นเป็นเรื่องโกหก นางเอาเงินของครอบครัวที่ต้องพาบุตรไปหาหมอเอาไปให้พวกเขาหมดแล้ว เรื่องนั้นก็แล้วไป ซ้ำนางยังฆ่าบุตรอีกด้วย ล้วนเป็นเพราะสิ่งที่เรียกว่าน้ำศักดิ์สิทธิ์อะไรนั่น นางดื่มจนโง่ พวกเจ้าก็จะเป็นเช่นนี้เหมือนกัน เป็นเหมือนกับข้า ไม่ช้าก็เร็วครอบครัวจะต้องพังพินาศ ดื่มต่อไปเถิด ดื่มให้เยอะๆ”
เขาพูดไปร้องไห้ไป ผลักฝูงชนออกแล้ววิ่งหนีไป
สาวกลัทธินอนกระตุกอยู่บนพื้น ขาทั้งสองข้างเตะไปมาอย่างดุเดือด ลำคอส่งเสียงอู้อี้ ฉินหลิวซีก้าวไปข้างหน้า เขายื่นมือออกมา “ช่วย ช่วยข้า…”
ฉินหลิวซีมาตรงหน้า มองเขาจากที่สูงพลางกล่าวว่า “ดูเหมือนว่า หากพูดเรื่องโหงวเฮ้ง ข้าจะเหนือกว่าเจ้า ทำนายดวงชะตาไม่เคยผิดพลาด!”
นี่มัน นี่หมายความว่าดวงชะตาของข้าถูกกำหนดไปสู่ความตายหรือ
สาวกลัทธิจ้องตาโต หายใจไม่ออก ก่อนจะหมดลมไป
ผู้คนที่ห้อมล้อมมองไปยังฉินหลิวซีราวกับเห็นผี น่ากลัวมาก
หรือว่าปากของนางจะศักดิ์สิทธิ์
ฉินหลิวซีมองไปยังผู้คนที่อยู่โดยรอบ กล่าวว่า “บุรุษผู้นั้นกล่าวถูกแล้ว เดิมทีน้ำศักดิ์สิทธิ์ก็ทำมาจากหญ้าสมุนไพรที่จะทำให้คนเกิดอาการประสาทหลอน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าทำเกิดการเสพติด เมื่อมีอาการประสาทหลอนก็จะเสียสติ ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ทำได้ทั้งนั้น ถวายเงินเป็นเครื่องบูชา ฆ่าลูก ฆ่าพ่อ ฆ่าแม่ กระทั่งฆ่าตัวตาย”
ทุกคนสีหน้าหวาดกลัวเล็กน้อย
ฉินหลิวซีกล่าวเสริมว่า “ลัทธิสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ ก็เป็นเพียงลัทธิมารที่หลอกให้พวกเจ้าบูชาก็เท่านั้น”
“เจ้าบอกว่าเป็นลัทธิมารก็เป็นลัทธิมารหรือ ใต้หล้ามีอารามชิงผิงของเจ้าที่เป็นลัทธิคุณธรรมอย่างเดียวหรือ” มีคนตะโกนเสียงดัง
ฉินหลิวซีสายตามองไปอย่างแม่นยำ เป็นชายร่างทรงสามเหลี่ยมคว่ำ กล่าวว่า “หากไม่ใช่ลัทธิมาร แล้วใครจะหลอกลวงให้เจ้าส่งภรรยาของตัวเองไปให้คนทารุณ ภรรยาของเจ้าผู้นั้นจะต้องตาย และเจ้าก็จะเป็นเพชฌฆาตที่น่าขยะแขยงที่สุด!”
อะไรนะ
ทุกคนมองไปยังชายผู้นั้น เขาตกตะลึงเป็นอย่างมาก “ข้าเปล่านะ เจ้ากล่าวเหลวไหล!”
“จริงหรือไม่ เจ้าก็ไปโต้เถียงกับผู้พิพากษาในยมโลกจะดีกว่า หรือไม่ก็ไปโต้เถียงกับภรรยาของเจ้า วางใจเถิด ดื่มน้ำศักดิ์สิทธิ์อีกสักสองสามอึก เจ้าก็จะได้เห็นนางบ่อยขึ้นเรื่อยๆ!” ฉินหลิวซียิ้มเยาะ
ชายผู้นั้นรูม่านตาหดลง ไม่กล้ากล่าวอะไรอีก วิ่งหนีฝุ่นตลบไปในทันที
เมื่อเห็นคนผู้นั้นหนีไปอย่างรวดเร็ว ทุกคนก็ล้วนมองหน้ากัน หนีไปเร็วยิ่งกว่าสุนัขเสียอีก นี่ก็พูดถูกอีกแล้วหรือ
ปากนางศักดิ์สิทธิ์จริงๆ ด้วย
ไม่สิ ที่นางกล่าวมาเป็นความจริง เช่นนั้นน้ำศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้ก็เป็นของปลอมอย่างนั้นหรือ หลังจากที่ดื่มแล้วก็จะทำเรื่องที่ปกติพวกเขาไม่ทำอย่างนั้นหรือ
“ข้า ข้าก็รู้สึกผิดปกติ บางครั้งเมื่อข้าดื่มน้ำศักดิ์สิทธิ์ก็รู้สึกอยากจะทุบตีแม่ เบื่อที่นางขี้บ่น รังเกียจว่านางน่ารำคาญ แต่แม่ของข้าเป็นแม่ม่ายที่เลี้ยงดูข้ามาจนโต ซ้ำยังไปสู่ขอภรรยาให้ข้า ให้กำเนิดบุตรชายอ้วนท้วนสมบูรณ์สองคน เหตุใดข้าจึงได้อกตัญญู ซ้ำยังทุบตีนาง ข้ามันไม่ใช่คน!” ชายร่างผอมตบหน้าตัวเองเสียงดังหลายครั้ง
มีคนร้องไห้เสียงดัง “ข้าเองก็เช่นกัน ข้าอายุสี่สิบปีแล้ว ไม่ง่ายเลยกว่าจะมีบุตรชาย แต่หลังจากที่ศรัทธาลัทธิ ข้าก็เห็นว่าเขาขัดหูขัดตา คิดว่าเขามาเพื่อทวงหนี้ เดิมทีบุตรชายของข้าเชื่อฟังและกตัญญูเป็นอย่างมาก ตอนนี้เห็นข้าราวกับเห็นผี ข้าถูกทำให้หลงงมงายแล้ว!”
“ข้าก็เหมือนกัน…”
“ข้าก็ด้วย…”
ที่แห่งนี้เต็มไปด้วยเสียงร้องไห้ด้วยความรู้สึกผิด
ทันใดนั้นก็มีชายชุดขาวหลายคนวิ่งมาทางนี้อย่างรวดเร็ว ในมือถือไม้จินกัง เข้าล้อมฉินหลิวซีไว้
ชายสูงอายุที่มีใบหน้าชั่วร้ายจ้องมองไปยังฉินหลิวซี กล่าวว่า “เจ้าเป็นใครกัน กล้ามารบกวนจิตใจของผู้คนในลัทธิสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ของข้า ซ้ำยังยุยงให้คนมาฆ่าสาวกของข้า มีเจตนาอะไรกันแน่”
ฉินหลิวซีสะบัดแส้หางม้า กล่าวว่า “ข้าเป็นใครน่ะหรือ แน่นอนว่าเป็นนักพรตที่มาเพื่อโค้นล้มลัทธิสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ของเจ้า!”
นางยกเท้าขึ้น ไม่รู้ว่านางเดินอย่างไรจึงได้ออกไปจากวงล้อมแล้ว มองไปยังวิหารศักดิ์สิทธิ์อันงดงามแล้วปีนขึ้นบันได
สาวกชุดขาวเหล่านั้นสีหน้าเปลี่ยนไปในทันที สายตามีความหวาดกลัวเล็กน้อย มองหน้ากัน
ครั้งนี้ลัทธิสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ของพวกเขาได้เจอกับตัวปัญหาใหญ่แล้ว!
“หยุดนะ!” มีคนผิวปาก เป็นการเรียกกำลังเสริม
ฉินหลิวซีกลับไม่ได้ตกใจกลัวเลยแม้แต่น้อย มองดูยอดแหลมทองแวววาวภายใต้แสงอาทิตย์ สีหน้าเย็นชา
ได้ยินมาว่าสร้างด้วยเงินบริจาคของพระสนมหรูเฟย เงินจำนวนมากมายเสียจนทำให้รู้สึกคันไม้คันมือ
มีราษฎรกี่คนที่ต้องพลัดถิ่นเนื่องจากภัยพิบัติทางธรรมชาติ กินก็กินไม่อิ่ม แต่นางกลับบริจาคเงินจำนวนนี้ให้กับลัทธิสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์นี่ ตั้งอยู่ในสถานที่ประจำการเดิมของหนิงอ๋องเมื่อก่อนหน้านี้ ก็ไม่รู้ว่าในหัวของนางกำลังคิดอะไรอยู่
ไม่รู้จะพูดอะไรเลยจริงๆ!
ฉินหลิวซีสะบัดแส้หางม้า นิ้วมือร่ายคาถา ปากกล่าวพึมพำ เสกคาถาไปที่ยอดแหลมนั้น
ดังนั้นทุกคนจึงได้มองเห็นว่าภายใต้ท้องฟ้าสว่างสดใส ได้มีสายฟ้าฟาดลงมาที่ยอดแหลมจนพังทลายลง และเมื่อยอดแหลมกำลังจะถล่ม ดูเหมือนจะมีคลื่นลมม้วนเอายอดแหลมที่ตกลงมานั้น ทำให้ยอดแหลมสีทองแวววาวหายไป
ล้านอย่างเดียวไม่พอ ซ้ำมันยังหายไปกลางอากาศ!
ชายชุดขาวหลายคนมองดูฉากนี้ด้วยความตกใจกลัว คุกเข่าลงบนพื้นอย่างแรง มองไปยังฉินหลิวซีซึ่งยืนอยู่บนขั้นบันไดที่ปูด้วยกระเบื้องหินสีเขียวตามสัญชาตญาณด้วยสายตาหวาดกลัว
เป็นฝีมือนาง ต้องใช่แน่ๆ!
หลังจากที่นางปรากฏตัว หอคอยศักดิ์สิทธิ์ก็กลายเป็นเช่นนี้ ต้องเป็นฝีมือนางแน่ๆ!
มีลมพัดมา พัดเอาเสื้อคลุมสีเขียวของนางโบกสะบัด อักขระซับซ้อนที่ปักอยู่ชายเสื้อของเสื้อคลุมได้กลายเป็นอักขระสีทองภายใต้การหักเหของแสงอาทิตย์ ดูศักดิ์สิทธิ์เป็นอย่างยิ่ง
นางกอดแส้หางม้าแล้วหันศีรษะมาเล็กน้อย มองไปยังคนเหล่านั้น ยกริมฝีปาก ฝีมือข้าเป็นอย่างไร
นี่ยังเป็นเพียงแค่อาหารเรียกน้ำย่อย!
เมื่อผู้คนที่ยืนอยู่ด้านล่างเห็นคนที่ดูเหมือนถูกห่อหุ้มด้วยอักขระสีทอง ไม่รู้ว่าใครตะโกนขึ้นมาว่า “เทพเจ้าลงมาแล้ว มีเทพเจ้าแสดงอภินิหาร!”
ตุบ
ผู้คนด้านล่างพากันคุกเข่าลงบนพื้น มองฉินหลิวซีด้วยสายตากระตือรือร้น
ฉินหลิวซีที่รู้สึกถึงพลังศรัทธาโบยบินอยู่รอบตัวเอง “…”
การแสดงความสง่างามมีประโยชน์เช่นนี้นี่เอง ก่อนหน้านี้ข้าถ่อมตนเกินไปแล้ว!
ช่างเถิด พลังแห่งศรัทธานี้ก็ไม่ได้ขโมยมาโดยเสียเปล่า นางเอากระดิ่งสามบริสุทธิ์ออกมา มือข้างหนึ่งถือแส้หางม้า อีกข้างหนึ่งสั่นกระดิ่ง ปากท่องคาถาชำระจิตใจ จิตวิญญาณเต๋าแพร่กระจายออกมาจากกระดิ่ง บรรเทาทุกความรู้สึกผิดไม่สบายใจและจิตวิญญาณทั้งหมด ทำให้อารมณ์ที่สับสนวุ่นวายของผู้คนจางหายไป
“ท่านเจ้าอาวาสปู้ฉิว สวรรค์จงประทานพรไม่มีที่สิ้นสุด!”
เสียงนี้ได้ดังก้องไปทั่วทุกมุม
ฉินหลิวซีดีใจเป็นอย่างมาก เป็นพลังแห่งความศรัทธาเชียวนะ ไม่แปลกใจเลยที่ซื่อหลัวพยายามอย่างหนักเพื่อให้ได้มันมา!
และชายชุดขาวเหล่านั้น เมื่อเห็นผู้ศรัทธาของพวกเขาแปรพรรคอย่างกะทันหันก็อดหน้าเขียวไม่ได้!
เจ้าตัวปัญหานี้ไม่เพียงแต่มาสร้างปัญหา ซ้ำยังมาขโมยผู้ศรัทธาของพวกเขาไปอีกด้วย!