คุณหนูใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า - ตอนที่ 1144 ความแข็งแกร่งของบางคนไม่ได้มาได้ง่ายๆ!
- Home
- คุณหนูใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า
- ตอนที่ 1144 ความแข็งแกร่งของบางคนไม่ได้มาได้ง่ายๆ!
ตอนที่ 1144 ความแข็งแกร่งของบางคนไม่ได้มาได้ง่ายๆ!
………………..
ฉินหลิวซีตามเหอหมิงไปที่ห้องเต๋าของเจ้าอาวาสชิงหลาน ไท่ชิงลูกศิษย์ของเขานั่งขัดสมาธิอยู่ข้างเตียงไม้ไผ่ หลับตาลง ท่องบทสวดพึมพำ
“อาจารย์ ท่านอาจารย์อาปู้ฉิวมาถึงแล้ว” เหอหมิงเดินไปข้างหน้า กล่าวเบาๆ
ไท่ชิงลืมตาขึ้น เห็นฉินหลิวซี ลุกขึ้นคำนับตามธรรมเนียมเต๋า “ศิษย์น้องปู้ฉิวมาเร็วมาก รบกวนเจ้าด้วย”
ฉินหลิวซีคำนับกลับ กล่าวว่า “เรื่องของอาจารย์ลุง ไม่อาจรอช้าได้”
นางเข้าไปดูเจ้าอาวาสชิงหลานที่อยู่บนเตียง เห็นว่าผมของเขาเปลี่ยนเป็นสีขาวเงินราวหิมะ ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยเหี่ยวย่น สีหน้าเทาขาว ริมฝีปากมีสีม่วงเล็กน้อย หน้าอกกระเพื่อมขึ้นลงเบาๆ อ่อนแรงเล็กน้อย
เมื่อเทียบกับความสง่างามเมื่อไม่กี่ปีก่อน เจ้าอาวาสชิงหลานในตอนนี้ราวกับกำลังจะละสังขารแล้ว
ทุกคนล้วนเป็นคนในลัทธิเต๋า แต่นางกลับไม่เห็นอายุขัยของเขา
ฉินหลิวซีสูดหายใจ หลับตาลงเล็กน้อย ลืมตาขึ้นอีกครั้ง ดวงตาชัดเจนขึ้นมา นั่งลงคุกเข่าอยู่ข้างเตียงไม้ไผ่ จับมือเขาขึ้นมา สองนิ้ววางลงไป ทันทีที่จับชีพจรก็ขมวดคิ้ว
ผิวหนังใต้นิ้วว่างเปล่าและเยือกเย็น ชีพจรไร้เรี่ยวแรง ชี่และเลือดไม่สม่ำเสมอ ชี่ไม่เพียงพอทำให้การไหลเวียนของเลือดนั้นเป็นเรื่องยาก และเมื่อเลือดไม่เพียงพอก็จะไม่สามารถเติมเต็มร่างกายได้ ทำให้ร่างกายของเขาเย็นยะเยือก จุดที่สำคัญที่สุดคืออวัยวะภายในทั้งหมดได้รับความเสียหาย ชี่ถูกปิดกั้นทำให้ลมปราณไหลเวียนไม่สะดวก หยินหยางไม่สมดุล สถานการณ์เช่นนี้ เมื่อเลือดไม่ไปหล่อเลี้ยงหัวใจก็จะง่ายต่อการเสียชีวิตด้วยโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ
“หยินหยางยุ่งเหยิง พลังชีวิตอ่อนแอ เนื่องจากร่ายวิชาจึงได้ถูกผลสะท้อนกลับทำให้ปอดในร่างกายเสียหาย” ฉินหลิวซีเปลี่ยนมาจับชีพจรมืออีกข้าง กล่าวว่า “ได้ยินเหอหมิงบอกว่าได้ต่อสู้อาคม เป็นใครหรือ”
“ท่านอาจารย์บอกว่าเป็นพระภิกษุรูปหนึ่ง” ไท่ชิงสีหน้าเศร้าเล็กน้อย
ฉินหลิวซีนึกถึงร่างพระพุทธรูปที่ตัวเองเห็นบนตัวของเสวียนหมิง หรือว่าจะเป็นร่างพระพุทธรูปของซื่อหลัวเช่นกัน
นางจับชีพจรต่อ เดิมทีเจ้าอาวาสชิงหลานก็เป็นผู้ที่ฝึกบำเพ็ญลัทธิเต๋า และคำสอนที่สืบทอดในอารามชิงหลานก็เป็นคำสอนของจางเทียนซือ มีความเข้าใจชัดเจนเกี่ยวกับการรักษาสุขภาพเป็นอย่างดี ยาลูกกลอนบำรุงร่างกายที่ปกติตัวเองได้หล่อหลอมในอารามก็ต้องทานไปไม่น้อย ดังนั้นศักยภาพของร่างกายพวกเขาจึงแข็งแกร่งกว่าคนทั่วไปอยู่มาก
ฉินหลิวซีดึงมือกลับ กล่าวกับไท่ชิงว่า “ปอดได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง ใช้ยาลูกกลอนอะไรหรือ”
ไท่ชิงตอบว่า “ท่านอาจารย์ล้มเหลวในการต่อสู้ เมื่อกลับมาก็ได้ทานยาจิ่วจ่วนต้าหวน[1]ไปแล้ว”
นี่ก็เป็นยาต่อชะตาชีวิต ซึ่งหาได้ยากเป็นอย่างมาก อารามชิงหลานของพวกเขาก็มีเพียงเม็ดเดียวเท่านั้น ตอนนี้ใช้ไปแล้วก็ไม่มีอีกแล้ว พวกเขามีสูตรยา แต่หากต้องหล่อหลอมยาลูกกลอนนี้กลับไม่ง่ายนัก
ฉินหลิวซีกล่าวอย่างประหลาดใจว่า “พวกเจ้ามีสมบัติล้ำค่าเช่นนี้ด้วยหรือ”
เหอหมิงกับไท่ชิงมุมปากกระตุก เจ้าไม่ควรแสดงท่าทีอยากได้เช่นนั้นไม่ใช่หรือ
“ข้าก็แค่ถามดู” ฉินหลิวซียิ้มอย่างลำบากใจ “ไม่ได้อยากได้สักเม็ดอย่างแน่นอน”
แน่นอนว่าหากให้นาง นางก็จะไม่เกรงใจ!
ไท่ชิงยิ้มอย่างขมขื่น “ที่เจ้ากล่าวมาก็ไม่ผิด ยาจิ่วจ่วนต้าหวนเป็นสมบัติล้ำค่าที่สุดในอารามชิงหลานของพวกเราจริงๆ ล้วนบอกว่าเป็นสมบัติล้ำค่าก้นหีบ ย่อมเป็นสิ่งที่หาได้ยาก ต่อให้เจ้าอยากได้ก็ไม่มีแล้ว เม็ดสุดท้ายก็ได้ใช้รักษาชีวิตอาจารย์แล้ว!”
ฉินหลิวซี ‘มาช้าไป!’
เหอหมิงทนดูไม่ได้ ถามว่า “อาจารย์อาปู้ฉิว แม้ว่าอาจารย์ปู่จะกินยาจิ่วจ่วนต้าหวน อาจารย์ก็ได้ฝังเข็มให้เขาแล้ว แต่นี่ก็สามวันแล้ว ก็ยังไม่ฟื้นเลย หรือว่าเขา…”
“ต้องโทษที่วิชาแพทย์ของข้าไม่ดีพอ” ไท่ชิงถอนหายใจ
ฉินหลิวซีจึงเอ่ยว่า “ผลสะท้อนกลับที่เขาประสบในครั้งนี้ร้ายแรงมาก จะต้องเป็นการใช้วิชาลับอันทรงพลังจึงได้เป็นเช่นนี้ การที่รักษาชีวิตหนีกลับมาได้ทันเวลาก็นับว่าดีมากแล้ว พลังชีวิตของเขาอ่อนแอ พลังชี่ถูกปิดกั้น ก่อนอื่นข้าจะใช้วิชาเก้าเข็มฟื้นพลังหยางฝังเข็มให้เขา ต่อพลังชีวิต ปรับสมดุลหยินหยาง จากนั้นก็ใช้เข็มเทพไท่อี่บำรุงพลังชี่ ปรับสมดุลชี่และเลือด นอกจากนี้จะเสริมด้วยการอาบยาสมุนไพรเพื่อกระตุ้นเส้นลมปราณ ค่อยๆ บำรุง เมื่ออาการดีขึ้นเจ็ดถึงแปดส่วน เขาค่อยกักตัวฝึกบำเพ็ญโดยไม่ถูกรบกวนจากภายนอก ก็จะฟื้นตัวในที่สุด”
เมื่อทั้งสองคนได้ฟังดังนั้นก็อดไม่ได้ที่จะดีใจออกนอกหน้า สามารถรักษาได้นั่นเป็นเรื่องน่ายินดียิ่งนัก
เหอหมิงกล่าวว่า “เช่นนั้นจะเริ่มเมื่อไหร่ ต้องเตรียมอะไรบ้าง”
“เตรียมยาอาบสมุนไพร แล้วก็ต้องทำกำยานสงบดวงจิตด้วย”
ฉินหลิวซีเดินไปด้านข้าง หยิบกระดาษและพู่กัน จุ่มหมึก ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เริ่มเขียนใบสั่งยา หยุดเขียนเป็นพักๆ เดี๋ยวลดเดี๋ยวเพิ่ม สุดท้ายจึงได้เขียนใหม่อีกหนึ่งแผ่นแล้วยื่นให้ “นี่เป็นยาต้มปรับสภาพร่างกาย เอาไว้ใช้ปรับสภาพหลังจากที่ฝังเข็มสองสามวัน”
ใบสั่งยานี้ใช้ยาอย่างไม่มีความกลัวใดๆ แต่ส่วนผสมของยาทุกชนิดนั้นเหมาะสมกันเป็นอย่างยิ่ง รักษาบาดแผลภายใน ซ้ำยังบำรุงปอด บำรุงหยินและเลือด เสริมสร้างรากฐานให้แข็งแรง
ขณะที่เขากำลังชื่นชม ฉินหลิวซีก็ได้เริ่มเขียนใบสั่งยาสมุนไพรสำหรับอาบแล้วยื่นให้เหอหมิง นี่เป็นยาสมุนไพรที่ต้องแช่หลังจากฝังเข็มแล้ว
“วัสดุใช้ทำกำยาน ในอารามของพวกท่านก็คงจะมีกระมัง” ฉินหลิวซีกล่าว
ไท่ชิงรีบกล่าวว่า “หากเป็นกำยานสงบดวงจิต พวกเราก็มีอยู่เช่นกัน”
ฉินหลิวซีกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ก็ใช่ว่าจะดูถูกกำยานของพวกท่าน แต่สิ่งที่ข้าทำขึ้นมาเองนั้นจะดีกว่าอยู่บ้าง เป็นผลดีสำหรับการซ่อมแซมดวงจิตของเขา ตราบใดที่ดวงจิตของเขาแข็งแกร่งพอ เขาก็จะฟื้นฟูร่างกายได้เอง”
ไท่ชิงพยักหน้า กล่าวกับเหอหมิงว่า “เช่นนั้นเจ้าพาอาจารย์อาของเจ้าไปที่ห้องโถงกำยาน ต้องการเครื่องหอมอะไรก็เอามาให้นาง เจ้าคอยอยู่เป็นลูกมือ ห้ามขี้เกียจเด็ดขาด”
เหอหมิงรีบตอบรับทันที
ฉินหลิวซีให้เหอหมิงไปเตรียมของอีกสองสามอย่าง จากนั้นก็ตามเหอหมิงไปสถานที่เก็บเครื่องหอมในอาราม
ผู้แสวงบุญที่มาอารามเต๋า แม้ว่าจะเตรียมธูปมาจุดบูชาเอง แต่ในอารามก็จะเตรียมวางไว้ให้ อย่างไรเสียหน้าเทพเจ้าไม่ควรขาดธูป และผู้แสวงบุญก็ไม่สามารถจุดธูปได้ทั้งวัน ดังนั้นจึงได้จัดเตรียมไว้ กระทั่งทำธูปขึ้นมาเอง เนื่องจากธูปที่ทำขึ้นมาเองนั้นจะดีกว่า
แม้แต่ธูปที่ถวายในอารามชิงผิง ก็ยังทำโดยศิษย์ในอารามทั้งหมด
ห้องโถงกำยานในอารามชิงหลานก็มีกำยานและเครื่องหอมที่เตรียมไว้วางกองกันอยู่มากมายหลายชนิด กลิ่นหอมอบอวล
“อาจารย์อาดูว่าต้องการเครื่องหอมอะไรบ้าง”
ฉินหลิวซีเลือกเครื่องหอมหลายอย่าง ทำกำยานนั้นไม่ยาก แต่หากทำกำยานอย่างดีนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เปลืองแรงใจ เปลืองสมาธิ และเปลืองเวลา
เหอหมิงบอกว่ามาเป็นลูกมือ ก็ได้ช่วยหยิบเครื่องหอม ใช้วัตถุดิบยาหล่อหลอมเป็นแก่นเครื่องหอม ส่วนกระบวนการทำกำยานที่เหลือ เขาก็มีส่วนร่วมในการปรุงเครื่องหอม ส่วนวิธีการต่างๆ ในกระบวนการอื่นๆ ล้วนเป็นฉินหลิวซีที่ทำด้วยตัวเอง ตามคำพูดของนาง การทำเครื่องหอมก็ต้องให้ความสำคัญกับไฟและเวลา กำยานจะดีหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับสิ่งนี้ หากพลาดไปเพียงนิดเดียวก็จะสร้างความแตกต่างอย่างมหาศาล
สิ่งเหล่านี้ยังพอสามารถควบคุมได้ แต่เมื่อเวลาผ่านไป เมื่อในที่สุดก็กลายเป็นกำยาน นางก็ได้ใส่พลังวิญญาณของนางลงไปในกำยานแล้วเสกคาถาสงบดวงจิต เมื่อเห็นลายกำยานที่ราวกับมีคาถาอาคมเพิ่มขึ้นมาในทันที ทำให้กำยานนั้นมีความพิเศษ เหอหมิงรูม่านตาสั่น
กำยานเช่นนี้ เมื่อถูกจุด กลิ่นกำยานจะแฝงไว้ด้วยพลังวิญญาณ ทำให้ดวงจิตสงบลง
เหอหมิงอยากได้เป็นอย่างมาก กำยานเช่นนี้ เพียงแท่งเดียวคุ้มเงินเป็นอย่างมาก และนางทำได้ถึงยี่สิบแท่ง
กำยานชั้นยอด เขาก็อยากได้!
เมื่อฉินหลิวซีเห็นว่าเขาท่าทางอยากได้ ยื่นไปให้หนึ่งแท่ง “มอบให้เจ้า”
เหอหมิงถูมือ กล่าวอย่างตื่นเต้นว่า “ให้ข้าได้ด้วยหรือ”
“มากกว่านี้ไม่มีให้” ฉินหลิวซีหยิบกล่องออกมาแล้วใส่กำยานลงไป
“ครึ่งแท่งก็นับว่าเป็นวาสนาของเหอหมิงแล้ว ขอบคุณอาจารย์อามาก!” เหอหมิงเอามือถูเสื้อเช็ดน้ำมันในมือ รับกำยานมา จากนั้นก็เอากล่องใบเล็กจากในห้องโถงกำยานมาใส่ไว้ ท่าทางทะนุถนอมราวกับเป็นสมบัติล้ำค่า
ทั้งสองคนออกมาจากห้องโถงกำยานก็เป็นเวลาอีกวันแล้ว เหอหมิงมองไปยังฉินหลิวซีจึงได้เห็นว่าสีหน้านางซีดเล็กน้อย นึกขึ้นได้ว่านางได้เสกคาถาใส่กำยาน ต้องเป็นคาถาที่เปลืองพลังวิญญาณเป็นอย่างมาก จึงอดรู้สึกประทับใจและนับถือไม่ได้
“อาจารย์อา ข้าจะไปเอาอาหารเช้ามาให้ท่านกินก่อน ท่านพักผ่อนแล้วค่อยไปฝังเข็มให้อาจารย์ปู่ดีหรือไม่”
ฉินหลิวซีก็รู้สึกเหนื่อยล้าเล็กน้อย สาเหตุหลักคือคาถาที่นางเสกลงบนกำยาน นอกจากพลังวิญญาณแล้วยังแฝงไว้ด้วยจิตวิญญาณเต๋า การทำกำยานก็ยุ่งยากและซับซ้อน นางก็เหนื่อยเป็น
“ไม่ต้องกินอาหารเช้าแล้ว ข้าแค่กินยาปี้กู่ก็พอ สถานที่ที่มีพลังวิญญาณมากที่สุดในอารามชิงหลานอยู่ที่ไหน ข้าจะไปนั่งขัดสมาธิโคจรมหาจักรวาล จากนั้นค่อยไปฝังเข็มให้ท่านอาจารย์ลุงชิงหลาน”
เหอหมิงได้ฟังดังนั้นจึงกล่าวว่า “เช่นนั้นข้าจะนำทางท่านไป”
อารามชิงหลานอยู่ครึ่งทางขึ้นไปบนภูเขา มีเสาหินขนาดใหญ่คล้ายกับดาบ ด้านบนได้แกะสลักพระสูตรมากมาย หากได้ปฏิบัติเต๋า ณ ที่แห่งนี้ เมื่อเข้าสู่สมาธิ อาจจะสามารถตระหนักถึงจิตวิญญาณเต๋าที่อยู่ในดาบหินนี้ได้
“ดาบหินนี้ เป็นพระสูตรที่เจ้าอาวาสอารามแต่ละสมัยเคยแกะสลักไว้ในอดีต และเป็นสถานที่ที่ลูกศิษย์มากมายชอบมาเป็นที่สุด ตอนนี้ข้างนอกมีภัยพิบัติทางธรรมชาติอยู่บ่อยครั้ง ลูกศิษย์ในอารามก็ได้รับคำสั่งจากอาจารย์ปู่ลงจากเขาเข้าสู่ทางโลก ช่วยคนทุกข์ยากและเผยแพร่เต๋า ตอนนี้ที่แห่งนี้นั้นเงียบสงบ”
ฉินหลิวซีมองไปยังดาบหิน กล่าวว่า “เป็นสถานที่ที่พลังวิญญาณเพียงพอมากที่สุดจริงๆ คนนอกอย่างข้ามาบำเพ็ญเต๋าที่นี่ก็คงไม่มีปัญหาอะไรหรอกกระมัง”
เหอหมิงหัวเราะอย่างสดใส “อาจารย์อาเรียกตัวเองว่าคนนอก ช่างห่างเหินกับพวกเราเสียจริง ลัทธิเต๋าในใต้หล้านี้เป็นครอบครัวเดียวกัน ท่านและข้าเป็นคนเส้นทางเดียวกัน เหตุใดจะปฏิบัติเต๋าที่นี่ไม่ได้ เดิมทีก็เหมาะสมสำหรับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นผู้ฝึกบำเพ็ญ หรือเป็นผู้แสวงบุญทั่วไป การที่สามารถเข้าใจจิตวิญญาณเต๋าได้นั้นล้วนเป็นการเผยแพร่เต๋า เป็นเรื่องที่น่ายินดี ”
ไม่เห็นแก่ตัว ไม่กลัวผู้อื่นจะแข็งแกร่งกว่า นี่คือเสวียนเหมินที่มีเส้นทางอันชอบธรรมในหัวใจ
“ที่เจ้ากล่าวมาก็ถูก” ฉินหลิวซีนั่งลงบนดาบหิน ผนึกนิ้วมือทั้งสองข้างวางลงบนหัวเข่า ตามองไปยังพระสูตรบนดาบหิน นำทางพลังวิญญาณในบริเวณใกล้เคียงเข้าสู่ร่างกาย ในไม่ช้าก็เข้าสู่สมาธิ
เหอหมิงเห็นดังนั้นก็ประหลาดใจเล็กน้อย ยิ่งรู้สึกนับถือมากขึ้นเรื่อยๆ ลงจากภูเขาอย่างเงียบๆ กลับไปที่ห้องเต๋าของอาจารย์ปู่
เมื่อไท่ชิงเห็นว่าเขากลับมาจึงถามว่า “อาจารย์อาปู้ฉิวของเจ้าล่ะ”
“พวกเราเข้าไปในห้องโถงกำยานตั้งแต่เมื่อวานจนถึงตอนนี้พึ่งจะทำกำยานเสร็จ อาจารย์อาปู้ฉิวไม่ค่อยมีชีวิตชีวา จึงไปนั่งสมาธิก่อนแล้วค่อยมาฝังเข็มให้อาจารย์ปู่ ข้าพานางไปที่ดาบหิน ท่านอาจารย์ แม้ว่าอาจารย์อาปู้ฉิวจะอายุน้อย แต่กลับมีพรสวรรค์ในการบำเพ็ญเต๋าเป็นอย่างมาก เข้าสู่สมาธิอย่างรวดเร็ว ศิษย์ยังสัมผัสได้ว่าพลังวิญญาณได้มุ่งตรงไปที่นาง” เหอหมิงถอนหายใจพลางกล่าวชม
“อาจารย์ปู่ของเจ้าเคยบอกแล้วว่าศิษย์น้องปู้ฉิวเป็นนักพรตในเสวียนเหมินที่หายากในรอบพันปี นางเรียนรู้อย่างรวดเร็ว และยังรู้จักพลิกแพลงต่อยอด มีสมาธิและแยบยลมาก นางเกิดมาเพื่อเสวียนเหมิน”
“อาจารย์อาอายุเพียงยี่สิบปีก็ประสบความสำเร็จในการฝึกบำเพ็ญระดับนี้แล้ว ไม่เพียงแต่มีพรสวรรค์ที่แข็งแกร่งเท่านั้น ซ้ำนางยังมีโชคอีกด้วย”
ไท่ชิงหัวเราะ “พรสวรรค์และโชคเป็นสิ่งเดียวกัน แต่ว่านางสามารถสงบสติอารมณ์ได้ดีจริงๆ ได้ยินว่านางพึ่งจะเข้าสู่ลัทธิเต๋าอย่างแท้จริงตอนห้าขวบ แต่กลับสามารถกักตัวฝึกบำเพ็ญเป็นเวลาหนึ่งเดือนท่ามกลางฤดูหนาวในเดือนสิบสองโดยไม่มีเหตุการณ์ใดเกิดขึ้น สำหรับวิชาแพทย์ ตอนที่นางอายุห้าหกขวบ ก็กล้าที่จะไปเก็บศพสดๆ ในหมู่บ้าน สำรวจจุดฝังเข็มบนร่างกายของคนเพื่อฝึกการฝังเข็ม”
เหอหมิงตกใจเป็นอย่างมาก
ความแข็งแกร่งของบางคน ที่แท้ไม่ได้มาได้ง่ายๆ
เมื่อนึกได้ว่านางสามารถเสกยันต์ขึ้นมาด้วยแสงแห่งจิตวิญญาณเพียงเล็กน้อย เขาก็ยิ่งรู้สึกละอายใจมากขึ้น แค่สิ่งนี้เพียงอย่างเดียว นางก็สามารถเอาชนะคนในเส้นทางเดียวกันได้ไม่น้อยแล้วกระมัง แต่นางดันทำได้ทุกอย่าง
ไท่ชิงถามอย่างสงสัยว่า “แม้ว่าก่อนหน้านี้เจ้าจะนับถืออาจารย์อาปู้ฉิวของเจ้าเป็นอย่างมาก แต่ก็ไม่เหมือนตอนนี้ เห็นนางเป็นเจ้าลัทธิไปแล้ว เกิดอะไรขึ้นหรือ”
เหอหมิงเงียบไปครู่หนึ่ง เอากล่องใส่กำยานออกมาจากแขนเสื้อ กล่าวว่า “นี่คือกำยานสงบดวงจิตที่อาจารย์อาปู้ฉิวทำ”
และกลิ่นหอมนี้ก็ได้แฝงไว้ด้วยพลังวิญญาณจางๆ ทำให้คนรู้สึกกระปรี้กระเปร่า เขามองดูตัวกำยานสีม่วงแดง บนกำยานมีลวดลายเล็กน้อย ไท่ชิงรูม่านตาหดลงเล็กน้อย
นี่คือลายกำยาน!
ยามีลวดลายของยา กำยานก็มีลวดลายของกำยาน ล้วนเป็นการหล่อหลอมด้วยคาถาที่เกี่ยวข้อง ตราบใดที่หล่อหลอมสำเร็จก็จะปรากฏลวดลาย กำยานที่อยู่ในมือของเขาตอนนี้ก็มี
นี่เป็นเพียงการทำกำยาน
ไท่ชิงก็บอกไม่ถูกว่ารู้สึกอย่างไร ราวกับว่าลูกศิษย์ของคนอื่นช่างเก่งเหลือเกิน
“เพียงแค่แท่งเดียวหรือ” ไท่ชิงวางกำยานกลับเข้าไปอย่างระมัดระวัง กลัวว่ากลิ่นจะหายไป
เหอหมิงส่ายหน้า “สิ่งนี้อาจารย์อามอบให้ข้า”
ไท่ชิงกำลังจะส่งกล่องคืนให้เขา เมื่อได้ฟังดังนั้นก็มือสั่น “มอบให้เจ้า?”
เหอหมิงพยักหน้า กะพริบตาปริบๆ ถือกล่องไว้แน่น เมื่อเห็นท่าทางอิจฉาริษยาผ่านทางใบหน้าของอาจารย์ก็ถือกล่องกำยานไว้ไม่ยอมปล่อย กล่าวหยั่งเชิงว่า “หากอาจารย์อยากได้ ท่านก็เก็บไว้เถิด”
ให้ความเคารพอาจารย์ให้ความสำคัญแก่เต๋านั้นเป็นสิ่งจำเป็น!
ไท่ชิงสบถ กล่าวว่า “เอาเถิด แม้ว่าอาจารย์จะอยากได้ แต่ในเมื่ออาจารย์อาปู้ฉิวของเจ้ามอบให้เจ้าเช่นนั้นก็เก็บไว้เถิด กำยานนี้ไม่ใช่กำยานสงบดวงจิตที่อารามของเราจะเทียบได้ เจ้าเก็บไว้เป็นสมบัติก้นหีบเถิด หากไม่จำเป็นก็ไม่ต้องเอาออกมาใช้ จะสิ้นเปลืองเปล่าๆ”
ของดีล้วนต้องใช้ในยามฉุกเฉิน
เหอหมิงตอบรับด้วยรอยยิ้ม เก็บกล่องใส่ไว้ในแขนเสื้อ กล่าวว่า “อาจารย์อาปู้ฉิวทำไว้ยี่สิบแท่ง แต่ละแท่งล้วนมีลายกำยาน ดังนั้นศิษย์จึงได้รู้สึกว่านางเก่งมาก ก่อนหน้านี้เห็นนางใช้แสงแห่งจิตวิญญาณเพียงเล็กน้อยก็เสกยันต์ได้สำเร็จ ตอนนี้เห็นนางทำกำยานซ้ำยังเสกลายกำยานออกมา หากนางหล่อหลอมยาลูกกลอนก็คงจะไม่ใช่เรื่องใหญ่หรอกกระมัง”
ไท่ชิงกล่าวพลางถอนหายใจ “ได้ยินนางบอกว่าตอนที่อาจารย์ละสังขารนางพึ่งจะหลอมยาสร้างรากฐานสำเร็จ น่าเสียดายที่อาจารย์อาชื่อหยวนยังไม่ทันได้ทานยาเม็ดนี้ก็ละสังขารแล้ว อาจารย์บอกว่านางได้พยายามรวบรวมวัตถุดิบอย่างยากลำบากเพื่อหล่อหลอมยาสร้างรากฐานนี้”
เหอหมิงเงียบไป กล่าวว่า “ตอนที่ปรมาจารย์ชื่อหยวนจากไป นางต้องเสียใจมากแน่ๆ”
“ตอนนี้พวกเราเสียใจแค่ไหนที่เห็นว่าอาจารย์ปู่ของเจ้าดวงจิตและอวัยวะภายในเสียหาย ตอนนั้นนางก็เจ็บปวดเพราะอาจารย์ของนางมากแค่นั้น อาจารย์กับศิษย์ อาจารย์เปรียบดั่งบิดา ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าปรมาจารย์ชื่อหยวนไม่ได้ละสังขารจากการเลื่อนขั้นเต๋า แต่เป็นเพราะแพ้การต่อสู้อาคม” ไท่ชิงเอ่ยพลางเหลือบมองไปทางด้านเจ้าอาวาสชิงหลาน หากฉินหลิวซีไม่มา จุดจบของเขาจะเหมือนกับอาจารย์อาชื่อหยวนหรือไม่
“วางใจเถิด ข้าไม่มีทางให้อาจารย์ของเจ้ามีจุดจบเหมือนกับตาเฒ่าของข้า ปีศาจเฒ่าตนนั้นก็อย่าหวังว่าจะทำสำเร็จ” ไม่รู้ว่าฉินหลิวซีปรากฏตัวอยู่ที่หน้าประตูตั้งแต่เมื่อไร นางเดินเข้ามาพลางเอ่ย “ไปเอาของมา วางค่ายอาคมวิญญาณ พวกเรามาเริ่มฝังเข็มกันเถิด”
[1] ยาจิ่วจ่วนต้าหวน ยาวิเศษที่กล่าวกันว่าช่วยฟื้นฟูความเยาว์วัยและสุขภาพหลังจากบริโภค