คุณหนูใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า - ตอนที่ 1162 ได้กระบี่ไร้จิตวิญญาณจากศาสตราวุธ
ตอนที่ 1162 ได้กระบี่ไร้จิตวิญญาณจากศาสตราวุธ
………………..
ฉินหลิวซีตื่นเต้นมาก
นี่คือหนูทองคำ ผู้เก็บสมบัติเก่งที่สุด หากปล้นสมบัติทั้งหมดมาได้ก็รวยแล้ว แน่นอนนางเองไม่ได้ได้มาเปล่าๆ บอกว่าจะสร้างร่างให้มันก็ต้องให้จริงๆ
แต่ผู้ใดบอกนางได้ สมบัติที่ซุกซ่อนก็คือสมบัติที่ซุกซ่อน แล้วไยต้องเอาไปซุกซ่อนไว้ในกองอุจจาระเช่นนี้เล่า ดูขนาดของมูลนั่นสิ เป็นกองอุจจาระของสัตว์ใหญ่ที่เอาไว้ใช้เป็นปุ๋ย
สีหน้าของฉินหลิวซีเริ่มเขียวขึ้น นางมองไปยังหนูทองคำแล้วเอ่ยเบาๆ “ในฐานะที่เป็นหนู เจ้าต้องรักความสะอาดสิ ซุกซ่อนสมบัติได้ แต่เอามาซ่อนไว้ที่แห่งนี้น่ะหรือ”
หนูทองคำร้องเสียงแหลมสองครั้งทุบอกตัวเอง มุมที่อันตรายที่สุดนั่นแหละปลอดภัยที่สุด ผู้ใดจะคิดว่าในที่สกปรกเช่นนี้จะเป็นที่ซ่อนสมบัติเล่า
มันกระโดดลงไปในบ่ออุจจาระแล้วเริ่มขุดดิน มูลลอยกระจายไปทั่ว
ฉินหลิวซีถอยหลังไปสองก้าวอย่างเงียบๆ “…”
ไม่อาจทนมองได้
หนูทองคำขุดดินรวดเร็ว ไม่นานก็ขุดเป็นโพลงใหญ่พอสำหรับคนเข้าไปได้ ส่งเสียงร้องเรียกฉินหลิวซีสองครั้ง บอกให้นางลงไปในโพลง
ฉินหลิวซีกลั้นหายใจ กลืนน้ำลายลงคอ
นางอยากเอ่ย เจ้าเอาของออกมาได้ แต่เกิดมันยังซ่อนสมบัติอื่นเอาไว้อีกเล่า
เพื่อสมบัติแล้วนางจะยอมก้มหัว
ฉินหลิวซีลังเลและพยายามฝืนใจเข้าไปในโพรงนั้น พอเข้าไปก็พบว่าในโพรงนั้นยังมีช่องทางอีก นางเริ่มรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาอีกครั้ง
ตามหลังหนูทองคำเข้าไปในโพลง และสิ่งที่นางพบก็เหมือนกับการเปิดเผยโลกใหม่ มันเป็นถ้ำใต้ดินขนาดเล็กที่มีหินงอกหินย้อยแปลกประหลาดและมีหยดน้ำตกลงมา ทำให้หินงอกเหล่านั้นยิ่งงดงามขึ้น
ฉินหลิวซีมองไปรอบๆ รู้สึกถึงความอันตรายแรงกล้า นางอดไม่ได้เดินเข้าไปด้านใน
หนูทองคำดูเหมือนแปลกใจอยู่บ้าง แต่ครุ่นคิดชั่วครู่ก็วิ่งนำไป ปีนขึ้นไปบนหินก้อนใหญ่ ชี้ไปยังหินงอกลักษณะคล้ายลำไส้ปลา ร้องจี๊ดๆ
แต่เมื่อนางมองไปข้างบนก็เห็นว่าเป็นหินงอกธรรมชาติ มีน้ำหยดลงมา สมบัตินั่นจะอยู่ที่นี่ได้อย่างไร
ฉินหลิวซีเอ่ย “เจ้าเอามันเข้าไปได้อย่างไร”
หนูทองคำร้องเสียงแหลมแสดงความภูมิใจ จากนั้นก็โดดข้ามไปจับหินงอกนั้นไว้ อ้าปากกว้าง แกร๊กๆๆ
มันเริ่มทั้งกัดทั้งเคี้ยวก้อนหินนั้น
ฉินหลิวซีตกตะลึง มองไปที่มันด้วยความงงๆ “เจ้าหิวแล้วจริงๆ กินทุกอย่างเลยสินะ”
หนูทองคำหันกลับมามองนางด้วยสายตาดุๆ อย่าท้าทายข้า ฟันของข้าคมนัก ข้ากัดเจ้าจนตายได้เลย
มันกัดหินอย่างรวดเร็ว ไม่นาน หินงอกนั้นก็มีรอยแยกออกมา พลังดุร้ายพวยพุ่งออกมา ฉินหลิวซีมองไปยังหินก้อนนั้น มองเห็นสิ่งที่ฝังอยู่ด้านในใจแทบสั่น
นี่มันเหมือนกับเดินทางทั่วโลกจนเหน็ดเหนื่อยแล้วกลับพบสิ่งที่ต้องการโดยไม่ต้องเสียแรง
มันคือศาสตราวุธเล่มหนึ่ง
นางเดินไปข้างหน้า ใช้มือสัมผัสที่หินงอกนั้น พริบตาเดียวหินก็แตกกระจายและศาสตราวุธก็ตกลงมาอยู่ในมือนาง
นี่คือกระบี่สีทองแดงเล่มหนึ่ง ตัวกระบี่บางคมกริบมีลวดลายเส้นทางบรรลุปัญญาแห่งเต๋า ส่วนด้ามกระบี่มียันต์สลับซับซ้อน อำนาจที่ไม่สิ้นสุดแฝงอยู่ในกระบี่นี้ พลังมืดที่กระจายออกมาราวกับกระบี่คมไร้รูปร่าง พาดไปยังร่างกายคน เลือดซึมออกจากผิวหนัง
ฉินหลิวซีรีบทำการป้องกันตัวเองด้วยคาถาป้องกัน ทว่าคาถาถูกพลังมืดเผาทำลายไปอย่างรวดเร็ว นางครุ่นคิด มือตวัดร่ายคาถา พลังพุ่งออกจากตัวนางไป ต่อสู้กับพลังมืดนั้น
นางจับกระบี่แล้วสำรวจมันอีกครั้ง มองไปยังด้ามกระบี่ที่สลักอีกษร ไล่สายตาจากตรงกลางไปจนถึงชื่อ “ชางเจี่ย” เขียนอยู่
ชางเจี่ย นี่ไม่ใช่ฉายาทางเต๋าของผู้อาวุโสเลี่ยนชี่เฟิง เมื่อครั้งก่อนตั้งสำนักชิงผิงหรือ ฟังเฟ่ยไฉบอกว่าเขาเป็นคนบ้าที่หลงใหลในการสร้างอาวุธมาก เขายอมสละชีวิตตนเองเพื่อกลายเป็นวิญญาณกระบี่ในกระบวนการฝึกฝนจนสุดท้ายสามารถสร้างเทพกระบี่เกราะทองที่สามารถกำจัดปีศาจสิ่งชั่วร้ายได้
ตำนานเล่าว่าเมื่อกระบี่เกราะทองนี้ปรากฏออกมา มันดึงดูดสายฟ้าฟาดเก้าครั้ง ต่อมาดื่มเลือดคนนับหมื่น กำจัดผีปีศาจเป็นพันเป็นหมื่น ตัวกระบี่จึงกลายเป็นสีทองแดง พลังมืดชวนตื่นตะลึง พลังไม่มีที่สิ้นสุด เพียงแต่ต่อมาสำนักชิงผิงล่มสลาย กระบี่เล่มนี้ก็หายสาปสูญ
คาดไม่ถึงว่ามันจะอยู่ในกองอุจจาระกองหนึ่ง ไม่ใช่สิ อยู่ในถ้ำใต้ดินแห่งนี้ ยังถูกผนึกไว้ใต้หินงอก
นางรู้สึกมึนงง
ถือศาสตราวุธเอาไว้ดูแล้วดูอีก ยังใช้คาถาตรวจสอบอีกครั้ง ไม่มี วิญญาณกระบี่ไปแล้ว
ศาสตราวุธที่ไม่มีวิญญาณ นั่นยังเรียกว่าศาสตราวุธอยู่หรือ
“วิญญาณของศาสตราวุธนี่เล่า” ฉินหลิวซีจ้องหนูทองคำ “ไม่ใช่ว่าชางเจี่ย เอาชีวิตตนเองมาทำเป็นวิญญาณกระบี่หรอกหรือ ไยจึงไม่มีแล้วเล่า”
หนูทองคำร้องจี๊ดๆ มันเองก็ไม่รู้ ตอนที่มันได้กระบี่เล่มนี้มา ก็เป็นเช่นนี้แล้ว ตอนพากระบี่มาที่โพรงยังรู้สึกว่าไม่ค่อยปลอดภัยนัก เลยขุดหลุมในกองหินงอกและซ่อนมันเอาไว้ อาศัยน้ำที่หยดลงมาเรื่อยๆ ตามกาลเวลา ค่อยๆ ทับถมจนเป็นหินงอกคลุมไว้อีกครั้ง ผู้ใดก็หาไม่เจอ
มันเป็นหนูที่ฉลาดแต่ไม่เย่อหยิ่ง
ฉินหลิวซีแทบกระอักเลือดตายแล้ว รอบข้างไม่มีวิญญาณกระบี่ นางจะไปหาวิญญาณกระบี่ใหม่จากที่ใดมาใส่ลงไป
สวรรค์ไม่ได้เรื่องนี่ เจ้าแกล้งข้า
รู้ทั้งรู้ว่านางต้องการ ยังไม่ให้สมปรารถนา คิดจะบีบให้ข้ากบฏหรือ
หนูทองคำเห็นฉินหลิวซีสีหน้าเปลี่ยนเป็นโมโห ร่างกายหนูสั่นเทาโดยไม่อาจควบคุมได้ ภาพลักษณ์เทพธิดาที่น่าเชื่อถือก่อนหน้านี้หายไปไหนแล้วเล่า
ฉินหลิวซีหันไปมองรอบๆ โพรง เอ่ย “วิญญาณกระบี่ซ่อนอยู่ที่ใดหรือไม่ เจ้าหาออกมาให้ข้า”
นางใช้วิชาอาคมหลายครั้งเพื่อปิดกั้นพลังมืดในกระบี่ แล้วเริ่มค้นหาวิญญาณกระบี่ทั่วโพรง
ทว่าไม่มี แม้แต่วิญญาณผีสักดวงยังไม่มี
ฉินหลิวซีกำศาสตราวุธในมือแน่น พยายามระงับความโกรธ นี่เรียกว่าอะไร ทำให้นางเจอแม่กุญแจชั้นดีแต่ไม่เจอลูกกุญแจอย่างนั้นหรือ
นางสูดหายใจลึก พึมพำร่ายคาถา ไม่รีบ ไม่มีวิญญาณกระบี่ เติมให้ก็ได้แล้ว
ฉินหลิวซีหันไปมองหนูทองคำ “เอาล่ะ เอาสมบัติของเจ้าออกมาทั้งหมด แล้วเราจะไปกัน”
หนูทองคำ “?”
หมายความเยี่ยงไร สิ่งที่เจ้าต้องการเดิมก็เป็นสิ่งนี้กระมัง ยังต้องการอย่างอื่นอีกหรือ
จี๊ดๆๆๆๆ
หนูทองคำเริ่มขบฟัน ใบหน้าของมันเต็มไปด้วยความกังวล ฟันมันคมกริบสะท้อนแสง สมกับที่เป็นฟันที่กัดก้อนหินได้ แหลมคม
ฉินหลิวซีกัดฟันปลอบโยน “เจ้าไปกับข้า ถึงจะได้ร่างใหม่ไงเล่า แต่บ้านข้าไม่ได้อยู่ที่นี่ ในเมื่อเจ้าต้องไปกับข้า ก็ต้องไปจากคุนหลุน เจ้าไม่อยู่ คนอื่นขุดโพรงเจ้าจนไม่เหลืออะไรเลยจะทำอย่างไร”
หนูทองคำ เจ้ายังจะเอ่ย ตอนนี้เจ้าก็กำลังขุดลอกโพรงข้าอยู่นะ
“ข้าทำเพื่อเจ้า ความจริงเจ้าซ่อนของพวกนี้เอาไว้ก็ไม่มีประโยชน์ใช่หรือไม่ อยู่ไม่เอามา ตายไม่เอาไป เจ้าเป็นเพียงหนูตัวหนึ่ง จะเก็บไว้ทำไมกัน มิสู้เป็นหนูที่ดี ยกมันให้ข้า”
หนูทองคำ หนูที่มีอายุมากว่าหลายร้อยปี ไม่เคยเห็นผู้ใดขโมยของแล้วเอ่ยวาจาดูดีเช่นนี้มาก่อน
มนุษย์ช่างไร้ยางอายจริงๆ
เจ้าโสมน้อยไม่รู้ว่าเข้ามาจากที่ใด มองเห็นหนูท่าทางกำลังโกรธเกรี้ยว หัวเราะหึออกมา ในที่สุดก็มีคนซ้ำรอยเจ้าโสมน้อยพันปีอย่างเขาเหมือนตอนนั้นแล้ว
คิดไปถึงตอนนั้น…
ช่างเถิด ความทรงจำที่แสนเจ็บปวดไม่เอ่ยถึงเสียจะดีกว่า ต้องโทษตอนนั้นไร้เดียงสาเกินไป
ครืนนน
ฉินหลิวซีได้ยินเสียงพื้นสั่นไหว ใบหน้าพลันเปลี่ยน เอ่ยกับเจ้าโสมน้อย “เจ้าพาหนูทองคำไป เอาของที่ซ่อนไว้ในบ้านมันออกมาให้หมด”
นางเอ่ยจบก็หลบออกจากโพรงไปอย่างรวดเร็ว