คุณหนูใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า - ตอนที่ 1170 นักแสดงแสดงเก่งจริงๆ
ตอนที่ 1170 นักแสดงแสดงเก่งจริงๆ
………………..
หากเป็นเมื่อก่อน การที่ฉินหลิวซีจะจัดการกับน้ำท่วมคงไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เพราะนางได้รับการถ่ายทอดจากปรมาจารย์ซานชิงจึงมีการเปลี่ยนแปลง การทำให้น้ำท่วมลดลงจึงไม่ยากเลย
เฟิงซิวมองใบหน้าขาวซีดของนาง เอ่ย “ท่านเพิ่งฝ่าม่านอาคมไร้ขอบเขตมา เดิมก็สูญเสียพลังปราณไปไม่น้อย อีกทั้งยังใช้พลังวิญญาณวาดค่ายอาคม อยังจะฝืนต่อไปไหวหรือ เวทมนตร์ก็มีวันที่พลังเหือดแห้ง หากใช้จนไม่เหลือแม้เพียงหยดเดียว แล้วดันไปเจอเจ้าปีศาจเฒ่าเข้า ท่านก็ไม่ต่างจากปลาที่นอนบนเขียง รอให้เขาฆ่าอย่างไร้ทางขัดขืน”
“น้ำท่วมครั้งนี้หากไม่ลดลง ความสูญเสียของชาวบ้านจะยิ่งเพิ่มขึ้น คนตายก็จะมากขึ้น ข้ารอได้ แต่สรรพชีวิตรอไม่ได้” ฉินหลิวซียิ้ม “อีกอย่าง ข้ายังมีเสี่ยวเฟิงเฟิงอยู่ที่นี่ เจ้าจะปล่อยให้ข้าตกอยู่ในอันตรายได้หรือ”
เฟิงซิวแค่นเสียงเย็นชา “พอใช้ข้าก็เรียกเสี่ยวเฟิงเฟิง พอรังเกียจข้าก็เรียกจิ้งจอกชั่ว”
ฉินหลิวซียกมุมปากเล็กน้อย นางกลืนโอสถที่ปรุงจากรากโสมน้อยไปหนึ่งเม็ด ปรับลมปราณเล็กน้อย จากนั้นจึงเริ่มวาดยันต์แบ่งสายน้ำ โดยใช้ไม้จินกังเป็นกระดานอัญเชิญเทพเทวา
นางตั้งใจใช้อาคมอวี่ปู้ (ข้ามน้ำ) เพื่ออัญเชิญเทพเจ้า ใช้วิชาแบ่งสายน้ำเพื่อช่วยให้น้ำลด
จุดธูปอัญเชิญเทพเสร็จ นางถือไม้จินกังแล้วทะยานขึ้นกลางอากาศ ตั้งใจเดินบนสายน้ำที่ท่วมท้น การกระทำนี้เรียกสายตาผู้คนให้มองตามไม่น้อย ไม่รู้ผู้ใดร้องอุทานออกมา คนรอบข้างจึงหันมามองกันโดยพร้อมเพรียง
การเดินข้ามน้ำจำเป็นต้องใช้แผนที่ดวงดาวและแผนผังแปดเหลี่ยม นางจึงวาดมันขึ้นบนกระดาษยันต์ด้วยพลังวิญญาณ หลังร่ายอาคม กระดาษยันต์ก็ลุกไหม้ขึ้นเอง ปรากฏแสงสีทองสว่างไสว ในห้วงอากาศซึ่งสายตาคนธรรมดามองไม่เห็น ผังแปดเหลี่ยมขนาดใหญ่ผุดขึ้นใต้เท้านาง
ฉินหลิวซียืนอยู่ตำแหน่งซวิ่น[1]ในผังแปดเหลี่ยม มือถือไม้จินกังกวัดแกว่งในห้วงอากาศ เฟิงซิวราวกับได้ยินเสียงกลองดังทุ้ม เป็นเสียงที่เกิดจากพลังวิญญาณกระทบกันเพื่อเรียกเทพ
เสียงกลองดัง นางหลับตาลงเล็กน้อย กลั้นลมหายใจเดินตามจังหวะ
ในลัทธิเต๋า การเดินข้ามเพื่ออัญเชิญเทพนั้นทรงอิทธิฤทธิ์ ทว่าตำแหน่งก้าวย่างต้องแม่นยำ อีกทั้งจิตใจต้องตั้งมั่น แต่เห็นเท้าซ้ายสวมรองเท้าขนนก ก้าวเท้าซ้ายแตะตำแหน่งหลีกว้า [2]เท้าขวาแตะตำแหน่งคุนกว้า[3]หมุนตัวอ่อนช้อย เท้าซ้ายแตะตำแหน่งเจิ้นกว้า[4] เท้าขวาแตะตำแหน่งตุ้ยกว้า[5]…
เฟิงซิวไม่ใช่ว่าไม่เคยเห็นนางทำพิธี ครั้งนั้นนางยังเยาว์วัย ถือแส้หางม้าใบหน้าเอาจริงเอาจังเหยียบย่างตามตำรา เหมือนกำลังดูเด็กเต้นรำ แม้ดูน่าเลื่อมใสทว่ายังมีความรู้สึกขัดตาอยู่บ้าง
บัดนี้นางอยู่ในวัยยี่สิบปีเต็ม ใบหน้าค่อยๆ เติบโตเต็มวัย ไม่ได้งดงามอ่อนหวาน แต่กลับน่ามองขึ้นเรื่อยๆ ท่าทางเหมือนเคลื่อนไหวสะเปะสะปะ ทว่ากลับก้าวลงบนตำแหน่งแปดเหลี่ยมอย่างแม่นยำ อ่อนช้อยคล่องแคล่ว เส้นอักขระสีทองที่ปักอยู่บนอาภรณ์ของนางพลิ้วไหวตามการเคลื่อนไหว แสงสีทองสว่างสดใสดูเหมือนดอกบัวทองคำงอกขึ้นมาจากใต้ฝ่าเท้า
“เซียน นั่นต้องเป็นเซียนแน่ๆ” ชาวบ้านตะลึงมองภาพนั้นตาพร่า ต่างพากันคุกเข่าลงพนมมือด้วยความตื่นเต้น
ฉินหลิวซีวางเท้าซ้ายขวาประสานตรงประตูคน ดึงลมหายใจเข้าสู่สมดุล ริมฝีปากบางเปิดเล็กน้อย เริ่มท่องคาถา บทอาคมที่ฟังแปลกหูล่องลอยออกมา ไม้จินกังถูกนางอัญเชิญให้ลอยขึ้นเหนือศีรษะ หมุนอยู่กลางอากาศ ตัวอักษรสลักบนไม้จินกังถูกนางเซ่นบูชา หมุนวนอยู่บนศีรษะเปล่งแสงสีทองกระจายออกไปในรัศมีกว้าง
“ฟ้าดินไร้ขอบเขต ฟ้าดินยืมใช้กฎ ราชามังกรสั่งการ น้ำถอยกลับไร้ร่องรอย เพี้ยง”
ตามด้วยเสียงคำราม เสียงดังกล่าวสะท้อนในอากาศ ขณะนั้นนางได้โยนยันต์แยกน้ำที่ถืออยู่ในมือไปบนอากาศ เหมือนมีเสียงมังกรคำรามดังขึ้นในอากาศ มีเงามังกรพุ่งไปคว้าเครื่องรางนั้นแล้วหายไปในความมืด ไม่นานท้องฟ้าครึ้มมืดกลับถูกลมพัดเปิดออก เสมือนลมพัดเปิดม่านมืดเผยให้เห็นท้องฟ้าที่สดใสเป็นสีคราม
นางถือไม้ทองคำทิ่มลงไปในน้ำท่วมขัง น้ำท่วมราวกับถูกแบ่งออกกลาง รั่วไหลไปทั้งสองฝั่งและไหลไปสู่แม่น้ำ ซึ่งระดับน้ำในแม่น้ำก็ลดลง
“ลด ลดจริงๆ น้ำท่วมลดแล้ว” เสียงตะโกนดังขึ้นไม่รู้มาจากไหน
“เทพเจ้าปรากฏแล้ว”
“โอ้ สวรรค์…”
เฟิงซิวกอดอกมองดูฉินหลิวซีที่ยังลอยอยู่กลางอากาศ แล้วก็ค่อยๆ หัวเราะเบาๆ
ฮ่าๆ นักแสดงแสดงดีจริงๆ
พลังศรัทธามากมายพุ่งมาทางจิตวิญญาณของตน ทำให้ฉินหลิวซีรู้สึกเหมือนเจอของขวัญ
น้ำท่วมลดลงอย่างรวดเร็ว เผยให้เห็นพื้นดิน ถึงแม้จะเต็มไปด้วยความพินาศและโคลนเละเทะ แต่ในทุ่งนาบางแห่ง พืชผลบางชนิดที่ถูกน้ำท่วมจนหักงอไปยังไม่ตาย มีรวงข้าวที่หลุดร่วงบางส่วน แต่ยังมีบางต้นที่ติดอยู่บนต้น
บ้านเรือนถูกทำลายหนัก แต่บางคนยังสามารถหาบ้านของตนเจอ
ชาวบ้านร่ำไห้ดีใจ ทั้งที่บ้านพังไปแล้ว พืชผลก็หายไป แต่ที่สำคัญคือน้ำท่วมลดไปแล้ว ซึ่งถือเป็นโชคดีในโชคร้าย
บางคนทันได้คิดขึ้นมาว่า เอ่ย “ต้องเป็นเทพธิดาที่สวรรค์ส่งมาช่วยพวกเราเป็นแน่ เราควรสร้างศาลหินเพื่อบูชาท่าน เพื่อคุ้มครองเมืองเรา”
หลายคนพากันเห็นชอบ
เฟิงซิวซึ่งยังอยู่ในอากาศได้ยินดังนั้นก็หันไปมองฉินหลิวซี เอ่ย “จงใจสินะ ไยต้องทำแบบนี้ล่ะ ไยไม่ไปใช้เวทมนตร์ที่อื่นแทน ท่านกำลังใช้ศรัทธาเป็นเครื่องมือ”
ฉินหลิวซีกระแอมไอออกมาเบาๆ เอ่ย “ข้าไม่ใช่คนเช่นนั้น เป็นเพียงความโชคดีเท่านั้น”
เหอะ ข้าเชื่อความร้ายกาจของท่านมาก
เฟิงซิวเห็นสีหน้าของนางขาวซีดเหมือนคนตายก็อดไม่ได้ที่จะส่งพลังวิญญาณไปให้
ฉินหลิวซีรู้สึกสบายตัวขึ้นมา “ยังเป็นจิ้งจอกเช่นเจ้าที่พึ่งพาได้”
“เช่นนั้นเอาตัวเองมาตอบแทนเถิด”
“มนุษย์กับปีศาจต่างสายพันธุ์ การสมรสข้ามสายพันธุ์นั้นผิดธรรมชาติ”
“ข้ามสะพานแล้วเอาไม้กระดานออก[6] ไสหัวไปซะ”
ฉินหลิวซีหัวเราะเบาๆ สองครั้ง พร้อมกับเตรียมจะไปยังที่ว่าการเมืองตู ทว่าเห็นเห็นขุนนางหนุ่มผู้หนึ่งที่มีหนวดและสวมหมวกขุนนาง ใส่ชุดราชการของเจ้าเมืองในสมัยนั้นขี่ม้าเร็วเข้ามา ข้างหลังเขามีข้าราชการตามมาเป็นขบวน ทุกคนต่างตกตะลึงและหยุดอยู่บนเนินเขา มองดูทิวทัศน์ของหมู่บ้านที่เปิดออกหลังจากน้ำท่วมลดลงไป
“ใต้เท้า น้ำท่วมลดลงแล้วขอรับ” ข้าราชการวัยกลางคนที่ติดตามเจ้าหน้าที่วัยกลางคนผู้นั้นกล่าวด้วยสีหน้าภูมิใจ
“ไม่กี่ชั่วโมงก่อน ยังเป็นทะเลสาบกว้าง ไยจู่ๆ น้ำถึงหายไปหมด น้ำหายไปไหนแล้ว” ข้าราชการคนหนึ่งถามด้วยความตกใจ
เจ้าหน้าที่หนุ่มมองไปที่ชาวบ้านบนเนินเขา เอ่ย “ไปถามชาวบ้านดูสิว่าน้ำไปไหน”
“ข้าน้อยจะไปขอรับ”
ฉินหลิวซีและเฟิงซิวปรากฏตัวขึ้นในขณะที่ทุกคนไม่ทันได้สังเกต มีคนหนึ่งเหลือบมองไปเห็นพวกเขาโดยไม่ตั้งใจ “พวกท่านเป็นใคร มาจากไหนกัน”
แปลกแท้ เมื่อครู่ยังไม่เห็นพวกเขาเลย ไยจู่ๆ มาปรากฏตัวขึ้นที่นี่ ยังหน้าตาดีเช่นนี้ คงไม่ใช่ผีอะไรกระมัง
เมื่อได้ยินคำถามนั้น เจ้าหน้าที่หนุ่มหันกลับมา พลันเห็นฉินหลิวซีทันที สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความตกใจ กะพริบตาก่อนจะเอ่ย เจ้าอาวาสปู้ฉิวหรือ”
ฉินหลิวซีเดินเข้าไปข้างหน้า ประสานมือยิ้มเอ่ย “ใต้เท้าเจียง ไม่เจอกันนาน ท่านไม่อยู่ที่เสฉวนหรือ ไยจึงมาเป็นเจ้าเมืองที่เมืองตูได้”
คนที่ยืนอยู่ตรงหน้าไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นเจียงเหวินหลิว ศิษย์ของเหยียนฉีซาน เมื่อปีนั้นเขาสอบได้เป็นขุนนางระดับจิ้นซื่อ และยังเคยถามฉินหลิวซีถึงอนาคตของเขา ซึ่งฉินหลิวซีได้แนะนำให้เขาเริ่มต้นที่เสฉวนเพื่อเสริมโชค แต่ไม่คิดว่าเขาจะมาปรากฏตัวที่หลิ่งหนาน
ฉินหลิวซีมองเขาเพียงแวบเดียว คนผู้นี้มีความดีที่สะสมมาแล้ว ดูเหมือนจะทำผลงานดีในหน้าที่การงานจึงได้รับผลบุญมาเช่นนี้
เจียงเหวินหลิวตื่นเต้นแทบบ้า เป็นฉินหลิวซีจริงๆ ด้วย เขาลงจากม้าทันที วิ่งเข้าหาฉินหลิวซีด้วยความตื่นเต้นท่ามกลางความตื่นตกใจของผู้คน พุ่งเข้าหาฉินหลิวซีราวกับลูกนกบินเข้าหาป่า “ท่านเจ้าอาวาส เป็นท่านจริงๆ ด้วย ฉยงจังคิดถึงท่านมาก”
เฟิงซิวสีหน้าทะมึน ในตอนที่เจียงเหวินหลิวกำลังจะพุ่งเข้ามาหา ใช้มือจิ้มไปที่หน้าผากของเขา ชายชู้จากที่ใดกัน ไสหัวไป
พลั่ก
เจียงเหวินหลิวถูกผลักไปข้างหลัง กระแทกลงไปในโคลนอย่างแรง ร่างทั้งร่างจมลงไปในโคลน
[1] ลม
[2] ไฟ
[3] แผ่นดิน
[4] ฟ้าผ่า
[5] ความสุข
[6]ข้ามสะพานแล้วเอาไม้กระดานออก ทำตัวไม่รู้คุณคนหลังจากได้ประโยชน์แล้ว
………………..