คุณหนูใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า - ตอนที่ 1181 ข้าขอพรด้วยความศรัทธาเพื่อชิงสมบัติสูงสุดแห่งพระพุทธศาสนา
- Home
- คุณหนูใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า
- ตอนที่ 1181 ข้าขอพรด้วยความศรัทธาเพื่อชิงสมบัติสูงสุดแห่งพระพุทธศาสนา
ตอนที่ 1181 ข้าขอพรด้วยความศรัทธาเพื่อชิงสมบัติสูงสุดแห่งพระพุทธศาสนา
………………..
เมื่อถูกรอยยิ้มที่สดใสเกินไปของฉินหลิวซีทำให้จิตใจสั่นสะท้าน ศีรษะโล้นของฟ่านคงร้อนผ่าวขึ้นมา
มาแล้ว เขาก็รู้ว่าบนโลกนี้ไม่มียาเม็ดใดที่ไม่ต้องจ่าย
ตอนนี้คายออกมาได้หรือไม่
ฟ่านคงเอ่ย “ท่านต้องการอะไร”
ท่านบังคับข้ากินอะไรไม่ต้องเอ่ยถึงแล้ว เขากลัวว่าเอ่ยแล้ว นางจะทำให้เขาอดไม่ได้อยากสังหารคน เช่นนั้นเป็นบาปใหญ่หลวงแล้ว
“ในเจดีย์ที่พวกท่านเก็บกระดูกพุทธะ ข้าจำได้ว่าเคยมีสัตว์เทพตัวหนึ่งชื่อซวนหนี ซึ่งถูกแกะสลักจากทองคำดำ และผ่านการเบิกเนตรโดยพระสงฆ์ผู้มีอาคมแกร่งกล้าของพุทธศาสนาของพวกท่าน ก่อนจะถูกเก็บไว้ในเจดีย์ เพื่อใช้สำหรับการสะกดกระดูกพุทธะไม่ใช่หรือ” ฉินหลิวซีเอ่ยด้วยรอยยิ้ม
ฟ่านคงใจเต้นแรง เอ่ย “ท่านต้องการซวนหนีนั่นหรือ นั่นเป็นสมบัติประจำเจดีย์วัดเทียนซานของข้า”
“ไม่ถูกสิ นั่นไม่ใช่ของเจดีย์ เป็นสิ่งที่สะกดกระดูกพุทธะของมารเอ้อฝูซื่อหลัว”
ฟ่านคงเกือบจะกระอักเลือด นี่มันต่างอะไรกัน
ล้วนเป็นสมบัติของวัดเทียนซานพวกเขา มีอายุนับพันปี อยู่มาโดยตลอด เพื่อทำให้มันมีวิญญาณยิ่งขึ้น เมื่อเจ้าอาวาสรูปเข้ารับตำแหน่งก็จะมาสวดปลุกวิญญาณให้มีชีวิต
สิ่งนั้นมีค่าไม่ได้ด้อยไปกว่าอัฐิพระพุทธเจ้าด้วยซ้ำ
ตอนนี้ฉินหลิวซีเอ่ยถึง นางไม่เอ่ยถึงอย่างอื่น เอ่ยถึงสิ่งนี้ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่านางหมายตาเอาไว้แล้ว
รู้ทั้งรู้ว่ายาเม็ดนั้นมีพิษ
ฉินหลิวซีหยิบเอาศาสตราวุธออกมาจากถุงเฉียนคุนพลังอาฆาตพัดเข้าหาฟ่านคง เขารีบใช้วิชาปัดเป่าทันใด พลังรุนแรงนั้นหยุดชะงัก ชั่วครู่ก็กลับมาวนเวียนที่ข้อมือฉินหลิวซี ความอาฆาตเย็นยะเยือกเข้ากระดูก
“อยู่นิ่งๆ” ฉินหลิวซีตีไปที่กระบี่
ฟ่านคงมองสำรวจดีๆ เอ่ย “เป็นศาสตราวุธ แต่ท่านใช้พลังอาฆาตมาเป็นวิญญาณกระบี่หรือ ศาสตราวุธชิ้นนี้รูปลักษณ์งามทว่าไร้กลิ่นอาย”
“ดังนั้นจึงจำเป็นต้องปรับแต่งขึ้นมาใหม่” ฉินหลิวซีขยับกระบี่ เอ่ย “ซวนหนีทองคำดำชิ้นนั้น ให้ข้าเถิด ครึ่งหนึ่งข้าจะใช้ทำกระบี่ใหม่ อีกครึ่งข้าจะทำแท่นอาคมกักเซียน ถึงตอนนั้นข้าจะใช้มันจัดการกับเจ้าซื่อหลัวบ้านั่น”
นางเอ่ยพลางหยิบแท่นค่ายอาคมออกมาจากกองสมบัติของหนูทองคำ สิ่งของทั้งสองชิ้นนี้ยังขาดวัตถุศักดิ์สิทธิ์ที่เปี่ยมด้วยพลังแห่งเทพมาเติมเต็มก่อนจะวางลงตรงหน้าฟ่านคง
แม้ฟ่านคงจะเป็นพระทว่าไม่อาจอดทนต่อการปะทุออกมาได้ เอ่ย “สมบัติของพุทธศาสนาข้า ไหนเลยที่ท่านจะบอกว่าต้องการก็จะเอาไปได้”
“ท่านกินยาเม็ดโสมพันปีของข้าไปแล้ว”
“ท่านบีบบังคับมายัดใส่ปากข้าเอง”
“แต่ท่านก็กินมันเข้าไปแล้ว”
ฟ่านคงพูดไม่ออก หากรู้แต่แรก เขาจะบีบคอเอาออกมาให้หมด
“ดูท่านในตอนนี้สิ เส้นลมปราณเหล่านี้เพียงกลืนยาเม็ดโสมนี้เข้าไป หากท่านสำเร็จสมาธิได้แล้ว รัศมีทองคำหมื่นจั้งสาดส่องไปยังเหล่าลูกศิษย์ไม่ดีหรือ” ฉินหลิวซีตบไหล่เขา
ฟ่านคง “!”
“อย่าทำหน้าเช่นนี้เลย ทั้งหมดนี้ก็เพื่อความจำเป็นชั่วคราว ล้วนเพื่อปกปักรักษาประชาชนในใต้หล้า ศาสนาพุทธเสียสละเพื่อผู้คน ไม่ใช่เพื่อส่วนตัวสักหน่อยมิใช่หรือ ยิ่งไปกว่านี้ครั้งนี้เพื่อสยบมาร พวกท่านออกแรงมาก นับเป็นบุญกุศลไม่อาจประมาณได้”
ฟ่านคงยิ้มเย็น “เพื่อสมบัติล้ำค่าของศาสนาพุทธข้า ท่านจอมหลอกลวงใช้คำล่อลวงได้เก่งนัก”
“หากท่านคิดว่าข้าเอ่ยไม่ถูก ท่านสามารถโต้แย้งข้าได้นี่ แต่ท่านไม่ทำ เห็นได้ชัดว่าท่านเห็นด้วย”
“ข้าเปล่า เป็นท่านที่พูดเองเออเอง”
อมิตาภพุทธ นางกำลังบีบให้ภิกษุข้าผิดศีลแล้ว
ฉินหลิวซีถอนหายใจ “ไม่มีแล้วก็ไม่มีเถิด แต่สิ่งที่ข้าเอ่ยล้วนเป็นความจริงมิใช่หรือ เชื่อเถิดว่าเหล่าพุทธศาสนิกชนของท่านล้วนยินยอม อย่างไรการช่วยเหลือชีวิตคนหนึ่งชีวิตประเสริฐยิ่งกว่าการสร้างเจดีย์เจ็ดชั้น ยิ่งไปกว่านั้นการช่วยชีวิตประชาชนเล่า เพียงซวนหนีทองคำดำ ให้ข้าใช้ในทางที่ถูกที่ควร จะเป็นไรไป”
นางลุกขึ้น ฟ่านคงตัวแข้งทื่อ ทว่าถูกนางดึงขึ้นมา เอ่ย “ไป ไปถามบรรพบุรุษของท่าน”
เขานึกว่านางจะหยิบธูปจากในวิหารมาจุด ทว่าไม่ใช่นางเอาธูปหอมเชิญเทพที่ตนทำเองออกมา ไม่ได้ใช้ไฟ ทว่าเอ่ยวาจาล่อลวงก่อนหน้านี้ขึ้นมาอีกรอบ จากนั้นปักธูปลงในกระถางธูป
ข้าขอนมัสการพระพุทธเจ้าขอพระองค์ได้โปรดตอบรับ
ฟ่านคงใช้การรับรู้ทางจิตมองดู ธูปนั้นไม่มีการเคลื่อนไหว ไม่ได้ถูกจุดไฟขึ้น
ฉินหลิวซีเอ่ยเบาๆ “พระอาจารย์คิดว่า หากมีเทพเจ้าชั่วร้ายกลัวว่าใต้หล้าจะสงบ เช่นนั้นสวรรค์ไม่รู้จะครึกครื้นเพียงใด”
พรึบ
มีแสงไฟเล็กๆ โชติช่วงขึ้น ธูปที่หน้าองค์พระพุทธรูปติดไฟขึ้นมาแล้ว
ฟ่านคง จบแล้ว เขาไม่อาจปกป้องเจดีย์เอาไว้ได้ ยิ่งไม่อาจปกป้องสมบัติล้ำค่าของวัดเก่าแก่แห่งนี้ได้
ฉินหลิวซีคำนับด้วยรอยยิ้ม “พระพุทธเจ้าเมตตา”
ธูปเผาไหม้รวดเร็ว ราวกับเร่งให้นางออกไป
ฉินหลิวซีมองไปยังฟ่านคง อีกฝ่ายกำลังเดินออกไปด้านนอก
ไม่นานทั้งสองก็เดินมาถึงบ่อน้ำสวรรค์
ฟ่านคงใบหน้าไม่ยินยอม ฉินหลิวซีจึงเอ่ย “อย่าเป็นเช่นนี้เลย หากหลอมศาสตราวุธนี้ขึ้นมาใหม่ได้ หลังเสร็จภารกิจ ก็คืนให้พวกท่านนำไปเก็บที่วัดเช่นเดิมเป็นอย่างไร”
“วาจานี้จริงหรือ”
มีเรื่องเช่นนี้อยู่หรือ เขาไม่อยากเชื่อนัก
“แน่นอน เป็นนักบวชกันทั้งนั้น ของท่านของข้าจะต่างอะไรกัน” หากต้องใช้มายืมก็ได้แล้ว
ฟ่านคงจ้องมองนางนิ่งก่อนจะนั่งลง สองมือทำสัญลักษณ์ร่ายอาคม เป็นดังที่ฉินหลิวซีบอก มียาโสมบำรุง รูปแห่งธรรมของเขาสง่างามและทรงพลัง แสงสีทองเปล่งประกาย ทำให้คนไม่อาจละสายตา
เขาเดินลงไปในบ่อสวรรค์ น้ำสีเขียวมรกตแหวกออก เผยให้เห็นเจดีย์เก้าชั้น
ฟ่านคงสวดคาถา นั่งขัดสมาธิลงตรงหน้าเจดีย์ สวดจบหนึ่งบท อัญเชิญซวนหนีทองคำดำ กลับมาบนฝั่ง
เป็นดั่งที่ฟ่านคงบอก นี่เป็นสมบัติล้ำค่าโบราณที่มีความศักดิ์สิทธิ์ เบิกเนตรโดยพระสงฆ์ผู้ใหญ่ ให้มันมีชีวิตและได้รับการบำรุงจนพละกำลังอำนาจเต็มเปี่ยม
ฉินหลิวซีเอื้อมมือไปหยิบมันขึ้นมา แต่ฟ่านคงกลับจับมันไว้แน่นไม่ยอมปล่อย จึงเอ่ย “เดิมมันถูกสร้างมาเพื่อสะกดกระดูกพุทธะ ตอนนี้กระดูกพระพุทธเจ้าถูกทำลายไปแล้ว มันก็เสร็จสิ้นภารกิจของมันแล้ว ถึงเวลาที่จะต้องทำภารกิจต่อไป”
ฟ่านคงปล่อยมือออก
ฉินหลิวซีรับมันมา ซวนหนีทองคำดำนี้ไม่ใหญ่มาก แต่นำไปใช้ในการหลอมศาสตราวุธและค่ายอาคมกักเซียนได้ดี
“ท่านตั้งใจจะหลอมเมื่อใด” ฟ่านคงเอ่ยถาม
ฉินหลิวซีนับนิ้วมือชั่วครู่ เอ่ย “คืนยามมงคล ข้าต้องเตรียมของสักหน่อย รบกวนไต้ซือช่วยเฝ้าม่านอาคมให้ข้าได้หรือไม่”
เนื่องจากเหตุแผ่นดินไหวที่ผ่านมา บ้านของแอดคนเดิมที่รับผิดชอบอัพเดทใน มม.ได้พังถล่ม จึงเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้นขอออภัย จนกว่าแอดจะกลับมาเราจะรับหน้าที่แทนก่อน
เหอะๆ ก่อนหน้านี้เป็นพระ ตอนมีเรื่องจะขอเป็นไต้ซือแล้ว
ฟ่านคงเอ่ย “หลอมศาสตราวุธใหม่ ไม่ใช่เรื่องง่าย ท่านมั่นใจหรือไม่”
อย่าทำให้ศาสตราวุธนั้นและสมบัติล้ำค่าของเราเสียหายเล่า
“ถ้าเป็นเมื่อก่อนข้าคงไม่มั่นใจ แต่ตอนนี้ข้าได้รับถ่ายทอดจากปรมาจารย์ซานชิงแล้ว ไม่มีทางเอาศาสตราวุธมาล้อเล่น ท่านรอดูเถิด” ฉินหลิวซีใช้ผ้าแดงห่อซวนหนีทองคำดำเอาไว้ก่อนจะใส่ไว้ในถุงเฉียนคุน เอ่ยว่า “ข้าจะไปเอาของสักหน่อย เดี๋ยวกลับมา”
นางเอ่ยจบ คนก็หายไปทันที
ฟ่านคงนวดขมับ มองไปยังบ่อสวรรค์อีกครั้ง ถอนหายใจออกมา มิน่าตอนนั้นก่อนที่อาจารย์จะจากไปได้เอ่ยว่า เขาไม่ต้องกังวลมากเกินไปว่าสมบัติของพุทธศาสนาจะต้องเป็นของพุทธศาสนา มันจะมีทางไปที่ดีกว่าของมัน
ที่บอกคงจะหมายถึงกลายไปเป็นศาสตราวุธกระมัง