คุณหนูใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า - ตอนที่ 1196 บ่อน้ำพึ่งพาชีวิต
ตอนที่ 1196 บ่อน้ำพึ่งพาชีวิต
ถึงแม้ชุยซื่อเสวียจะสัมผัสได้ แต่ฉินหลิวซีก็ยังไม่ปรากฏตัว เฟิงซิวเองยังรู้สึกประหลาดใจ
“ข้านึกว่าท่านจะยอมเจอเขาเสียอีก”
“หากเจอ เขาก็คงต้องถามข้าเรื่องวิธีการหาเงิน ข้าไม่มีเวลาขนาดนั้น” ฉินหลิวซีส่ายหน้า “แต่ละคนมีหน้าที่เป็นของตัวเอง ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดี นั่นต่างหากถึงจะเป็นหนทางที่ถูกต้อง”
นางพูดพลางเหลือบมองมาทางเขาแวบหนึ่ง เอ่ยขึ้นว่า “หากเจ้ามีเงินก็บริจาคบ้าง”
“ทำไมต้องบริจาคด้วย”
“คนเราเกิดมามือเปล่า ตายไปก็เอาอะไรไปไม่ได้ ราชาปีศาจอย่างเจ้าก็ไม่จำเป็นต้องใช้เงิน หลอมเป็นบุญกุศล เพิ่มแรงศรัทธาให้ตัวเองสักหน่อย”
เฟิงซิว “ข้าไม่ทำ ข้าสร้างเรือนทองคำเหลืองอร่ามให้ตัวเองสักห้อง วันหน้าอยู่อาศัยไม่สวยกว่าหรือ”
“อืม สวยบาดตาบอดเชียวล่ะ” ฉินหลิวซีเย้ยหยันที ทันใดนั้นก็ขยับข้อมือ ดวงตาหรี่ลงเล็กน้อยก่อนจะพับแขนเสื้อขึ้น จากนั้นแมลงกู่หนอนไหมทองก็คลานออกมาจากมือของนางแล้วเดินวนไปวนมา
“เจ้าหาดวงตาค่ายกลต่อเถอะ มีเรื่องใดก็ส่งสารเป็นเสียงมา” ฉินหลิวซีก้าวขาก่อนจะหายตัวไปท่ามกลางความว่างเปล่า
เฟิงซิวโมโหไม่น้อย ได้ เขาสู้สตรีนางหนึ่งไม่ได้ด้วยซ้ำ!
ใช้แมลงกู่หนอนไหมทองในการส่งสาร นอกจากแม่มดผู้นั้นแล้วจะเป็นใครไปได้อีก
ฉินหลิวซีได้รับสารจากซือเหลิ่งเย่ว์มาจริงๆ ว่านางพบดวงตาค่ายกล แต่ค่ายกลนั้นกลับเป็นอุปสรรคของนาง กำจัดทิ้งยาก จึงทำได้แค่บอกฉินหลิวซีด้วยความจนใจ
ยามที่ฉินหลิวซีเดินทางมาถึงที่พักของซือเหลิ่งเย่ว์ก็ล่วงเลยเวลาเที่ยงมาแล้ว ท้องฟ้ามืดครึ้ม อากาศเหมือนฝนจะตกอยู่รำไร
“เสี่ยวซี”
ซือเหลิ่งเย่ว์เดินรุดเข้าไปหาฉินหลิวซี กวาดตามองนางรอบหนึ่งถึงเอ่ยพลางขมวดคิ้วมุ่น “เจ้าผอมลงอีกแล้วหรือ”
ไม่เจอกันหนึ่งปี รูปร่างของฉินหลิวซีผอมบางลงเรื่อยๆ เดิมทียามที่ร่างบางสูงชะรูดของนางยืนอยู่ตรงหน้าก็มีบุคลิกนิ่งสุขุมอยู่แล้ว แต่ตอนนี้ถึงแม้นางจะจงใจซุกซ่อนไว้บ้างแล้ว แต่ซือเหลิ่งเย่ว์ยังต้องผงะกับแรงกดทับมหาศาลจากนาง
ฉินหลิวซีมองชุดผ้าเนื้อบางสีขาวดุจหิมะที่ปักรูปสัญลักษณ์ อีกทั้งบนหน้าผากยังมีลายสัญลักษณ์สีทองแดงเล็กๆ สักไว้ด้วย นางจึงอดเอ่ยขึ้นมาไม่ได้ว่า “นี่สักลงไปเลยหรือ”
ซือเหลิ่งเย่ว์ลูบลายสักสัญลักษณ์บนหน้าผากแล้วเอ่ย “นี่เป็นสัญลักษณ์ประจำตระกูลซือพ่อมดแม่มดสายขาว ซึ่งจะมีเพียงสายเลือดทางตรงเท่านั้น หลังจากที่ตระหนักได้ถึงพลังแม่มดอย่างแท้จริงแล้วถึงจะได้รับประทานพรจากบรรพบุรุษ จากนั้นถึงจะปรากฏ ซึ่งนี่ก็เป็นสัญลักษณ์ในฐานะเจ้าสำนักนั่นแหละ”
ฉินหลิวซียิ้มด้วยความปลื้มใจ “ยินดีด้วยนะ”
นางสัมผัสได้ถึงคลื่นพลังวิญญาณที่แผ่ออกมาจากร่างของซือเหลิ่งเย่ว์ ซึ่งเป็นพลังวิญญาณที่แตกต่างจากลัทธิเต๋า อีกทั้งแฝงไปด้วยความลึกลับที่ยากจะเดาได้ ประหลาดเล็กน้อย จะบอกว่ามันดำสนิทเลยก็ไม่ได้เพราะแฝงความศักดิ์สิทธิ์ไว้ด้วย
สรุปว่าเป็นมวลพลังของตระกูลพ่อมดแม่มดสายขาวนั่นเอง
“ตัวสัตว์ประหลาดหินที่เจ้าบอกนั่นอยู่ไหนหรือ แล้วเกิดเรื่องใดขึ้น” ฉินหลิวซีเอ่ยถามไปตรงๆ
ซือเหลิ่งเย่ว์เผยสีหน้าจริงจัง พร้อมพานางเดินตรงไปข้างหน้าแล้วเอ่ย “เป็นหินรูปสัตว์ที่ใช้วางทับบ่อน้ำ แถมเป็นแหล่งน้ำของหมู่บ้านเล็กๆ แห่งหนึ่งด้วย”
“บ่อน้ำนั้นมีปัญหาหรือ” ฉินหลิวซีคิดเชื่อมโยงได้ในทันที
ซือเหลิ่งเย่ว์เอ่ย “บ่อน้ำนั้นถูกพวกเขาบูชายกย่องให้เป็นบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์”
ในเวลานี้พอฉินหลิวซีได้ยินคำว่าศักดิ์สิทธิ์ นัยน์ตาก็ประกายความชิงชังออกมา เอ่ยเสียงเย็นชาว่า “เป็นเทพชั่วร้ายหรือ”
หากบ่อน้ำจะมีเทพย่อมไม่ใช่เรื่องน่าแปลกอะไร เนื่องด้วยสภาพภูมิศาสตร์หรือฮวงจุ้ย บ่อน้ำบางแห่งจึงมีเทพศักดิ์สิทธิ์ พอบ่อน้ำมีพลังวิญญาณ หากมีคนศรัทธาและบูชาอยู่เรื่อยๆ นานวันเข้าก็จะมีเทพขึ้นเอง จากนั้นบ่อน้ำแห่งนั้นก็จะมีรสหวาน
และทันทีที่เทพในบ่อน้ำนั้นหายไป รสชาติก็จะจืดชืดกระทั่งขุ่นลงอย่างชัดเจน
แต่หากเทพในบ่อน้ำเป็นเทพชั่วร้ายคงยุ่งยากไม่น้อย โดยเฉพาะบ่อที่เป็นแหล่งน้ำ น้ำที่ทุกคนดื่มใช้ พอสะสมนานวันเข้าจะถูกล้างสมองได้ง่าย กลัวก็แต่จะอยู่ในสมองของพวกเขา น้ำนั้นศักดิ์สิทธิ์กว่าน้ำบนฟากฟ้าและทำลายทิ้งยากกว่ามาก
เผยแพร่ศาสนายังต้องเปลืองน้ำลาย แต่หากดื่มเข้าไปแล้วสามารถทำให้ศรัทธาต่อบ่อศักดิ์สิทธิ์ได้ด้วยความสมัครใจ เช่นนั้นก็ไม่ต้องเปลืองน้ำลายแล้ว
โลกใบนี้จัดการยากกว่าฆ่าผีมากนัก โดยเฉพาะชาวบ้านโง่ๆ หากคิดจะจัดการสิ่งที่ยึดเหนี่ยวในสมองและจิตใจอันหนักแน่นของพวกเขาต่อบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ พวกเขาคงสู้กับเจ้าอย่างสุดกำลังแน่
ฉินหลิวซีหนังศีรษะชาวาบ ตอนนี้นางกำลังสงสัยว่าจิ้งจอกสมควรตายนั่นรู้กลอุบายนี้ตั้งแต่แรกแล้วถึงได้บอกใบ้นางก่อน เอาล่ะ ตอนนี้เกรงว่านางจะต้องเจอกับเรื่องที่ไม่อยากทำเข้าจริงๆ แล้ว
นางเอ่ยด้วยสีหน้าขรึม “หากหินรูปสัตว์ประหลาดนั่นเป็นสิ่งชั่วร้าย ต่อให้เป็นเทพ ข้าก็ต้องฆ่าทิ้ง ยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึงเรื่องเทพผู้ชั่วร้ายเลย”
ซือเหลิ่งเย่ว์เอ่ย “หากเป็นเพียงเทพชั่วร้ายคงฆ่าทำลายทิ้งได้ง่ายหน่อย แต่เรื่องมันไม่ง่ายดายขนาดนั้น”
“ทำไมหรือ”
“เพราะชาวบ้านผูกบ่อน้ำนั้นไว้กับชีวิตแล้ว”
ฉินหลิวซีรูม่านตาหดลง ในสมองมีความคิดบางอย่างผุดขึ้นมา พลันใจเต้นตึกตัก
ดวงหน้างดงามของซือเหลิ่งเย่ว์เต็มไปด้วยความเย็นยะเยือก เอ่ยขึ้นว่า “หากบอกว่าเป็นเทพชั่วร้าย สู้บอกว่าเป็นเทพกู่ยังง่ายกว่า ในบ่อน้ำนั้นหล่อเลี้ยงกู่ตัวเมียกลืนกินพลังหยินไว้ตัวหนึ่ง อีกทั้งบ่อน้ำเหล่านั้นยังมีลูกกู่ พอลูกกู่เข้าสู่ร่างกายแล้วก็ต้องดื่มน้ำในบ่อนั้นเข้าไปถึงจะช่วยให้สงบลงได้ มิเช่นนั้นจะถูกดูดเลือดจนแห้งและตายในที่สุด”
ฉินหลิวซีเข้าใจแล้ว
หรือกล่าวว่านอกจากน้ำในบ่อนี้จะเป็นน้ำที่แย่งชีวิตของชาวบ้านเหล่านี้แล้ว ในทางกลับกันก็เป็นน้ำที่ช่วยชีวิตพวกเขาไว้ด้วยเช่นกัน!
ต่อให้ทำลายสิ่งที่อยู่ในบ่อน้ำทิ้ง บ่อถูกทำลายน้ำก็ถูกทำลาย ชาวบ้านที่มีลูกกู่ในร่างกายก็จะตายตามไปด้วย
ฉินหลิวซีอดสบถด่าขึ้นทีไม่ได้ จิ้งจอกสมควรตาย เจ้ามานี่เลยนะ ข้าสัญญาว่าไม่เอาเจ้าถึงตายหรอก!
ปากอัปมงคลเหลือเกิน!
“ชาวบ้านพวกนั้นไม่รู้บ้างเลยหรือ”
ซือเหลิ่งเย่ว์เอ่ย “เจ้าทายดูสิว่าพวกเขารู้หรือไม่ พวกเขาออกห่างจากที่แห่งนี้ไม่ได้ หากพวกเขาออกจากที่แห่งนี้ไปย่อมต้องพกน้ำไปด้วยมากพอ ทันทีที่ไม่มีน้ำจากบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์นี่ พวกเขาก็ต้องตาย ไม่มีใครเดาออกเลยหรือ พวกเขาเดาออก กระทั่งทำพิธีบูชากราบไหว้ทุกๆ ปีด้วยซ้ำ”
“ดื่มน้ำอื่นไม่ได้เลยหรือ”
“ใช่ และต่อต้านด้วย” ซือเหลิ่งเย่ว์เอ่ยด้วยใบหน้านิ่งขรึม “และเพราะแบบนี้ นอกจากชาวบ้านในหมู่บ้านนั้นจะไม่แบกน้ำไป หรือยามที่ต้องออกไปไหนเพื่อทำธุระชั่วคราว พวกเขาก็จะรีบกลับมาในเวลาอันรวดเร็ว”
ฉินหลิวซีมุ่นคิ้วเอ่ย “กู่กลืนกินพลังหยินนี่เลื่อนไปอยู่ในระดับเทพได้อย่างไรหรือ”
“กู่กลืนกินพลังหยินกำเนิดขึ้นเพราะการดูดซับพลังหยินเข้าไป พอลูกกู่อาศัยอยู่ในร่างก็ต้องใช้เลือดเพื่อหล่อเลี้ยงกู่อยู่ตลอด สิ่งที่เรียกว่าแม่กู่ย่อมมีความเกี่ยวข้องกัน เลือดที่พวกมันกินเป็นอาหารจะส่งไปถึงทางแม่ของมันด้วย ทันทีที่เจ้าของร่างตาย ลูกกู่ก็ต้องตายตามไปด้วย จากนั้นพลังหยินที่กลืนกินเข้าไปก็จะตีกลับไปที่ร่างของกู่ตัวแม่” ซือเหลิ่งเย่ว์กล่าวอธิบาย “กล่าวได้ว่าลูกกู่และเจ้าของร่างที่มันเกาะเป็นกาฝากก็คืออาหารของแม่กู่ตัวนั้นเพื่อใช้หล่อเลี้ยง โดยเฉพาะสตรีคือตัวเลือกที่ดีที่สุด”
ฉินหลิวซีเอ่ยอย่างไม่เข้าใจอยู่บ้าง “เช่นนั้นไม่ว่าจะไปจากที่นี่หรือไม่ คนเหล่านั้นก็ต้องตายอยู่แล้ว ลำพังแค่จำนวนคนของหมู่บ้านเดียวจะเพียงพอหล่อเลี้ยงมันได้อย่างไร”
หากอยากฝึกหลอมตนเป็นเทพกู่ย่อมต้องใช้คนเป็นจำนวนมาก แต่อายุขัยของมนุษย์มีอย่างจำกัด ประกอบกับมีแมลงเกาะเป็นกาฝากในร่างกาย ในเมื่ออายุขัยไม่ได้อยู่อย่างยาวนานจะมีคนหล่อเลี้ยงมันมากมายได้อย่างไร
ซือเหลิ่งเย่ว์แค่นเสียงหัวเราะ “เจ้ารู้หรือไม่ว่าชื่อบ่อน้ำนี้มีอีกชื่อว่าอะไร บ่อน้ำประทานบุตร”
ทันใดนั้นฉินหลิวซีก็รู้สึกคลื่นไส้ขึ้นมา
“ตำนานบอกว่าหากดื่มน้ำศักดิ์สิทธิ์ในบ่อประทานบุตรนี้เข้าไปก็จะมีบุตร เจ้าว่าสตรีที่รู้เรื่องนี้จะมาขอดื่มสักถ้วยหรือไม่เล่า” ซือเหลิ่งเย่ว์เอ่ยเสียงเย็นชา “แต่หมู่บ้านบ่อน้ำโบราณมีกฎว่ามาขอดื่มน้ำได้ แต่ต้องหาใครมาแต่งงานเกี่ยวดองด้วยคนหนึ่ง ชายหรือหญิงก็ได้ และไม่เกี่ยงเรื่องอายุ นี่จึงทำให้ชาวบ้านในหมู่บ้านบ่อน้ำโบราณไม่มีวันสูญสิ้น อีกทั้งเวลานี้มีคนในหมู่บ้านสองร้อยกว่าคนแล้วด้วย”
พลันแววตาของฉินหลิวซีก็หม่นลง หากเป็นเช่นนี้คนในหมู่บ้านบ่อน้ำโบราณย่อมรู้ความลับในร่างกายของตนดี แต่นอกจากพวกเขาจะไม่ปล่อยให้รั่วไหลออกไปแล้ว ในทางกลับกันพวกเขายังดึงดูดคนจากหมู่บ้านอื่นมาเติมเต็มทดแทนคนที่ตายไป อีกทั้งยังทำร้ายคนอื่นด้วย แบบนี้สมควรตายนัก!