คุณหนูใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า - ตอนที่ 1216 เจ้าว่าเจ้าไปยั่วยุนางทำไม
ตอนที่ 1216 เจ้าว่าเจ้าไปยั่วยุนางทำไม
………………..
แม้ว่าคนจะตายไปแล้ว แต่ก็ยังไม่พลาดที่จะซ้ำเติมและคิดบัญชีเสร็จสรรพ นี่เป็นสิ่งที่ฉินหลิวซีทวงคืนความยุติธรรมให้แก่มู่จิ่น
ตอนนี้หรือ เมื่อเห็นบุญกุศลเหล่านี้ นางพลันมีความคิดอื่น
เมื่อเห็นว่าฮ่องเต้คังอู่ใบหน้าบูดเบี้ยวเนื่องจากโมโห จึงเอ่ยอีกว่า “จะบอกเจ้าให้ก็ได้ว่าเดิมทีเจ้าสามารถลุกขึ้นยืนได้ แต่นิสัยของเจ้าขัดหูขัดตาข้าจริงๆ ดังนั้นเจ้าอย่าลุกขึ้นยืนจะดีกว่า อีกอย่างเจ้านั่งตำแหน่งนี้นานเกินไปแล้ว ควรจะให้ฉีเชียนนั่งได้แล้ว”
ขณะที่นางเอ่ยก็มองไปยังหน้าประตูตำหนักบรรทม ฉีเชียนกับฮองเฮามู่และคนอื่นๆ พากันเดินเข้ามาแล้ว ซ้ำยังมีข้าราชบริพารคนสำคัญอีกมากมาย
ผู้ดูแลใหญ่ข้างกายฮ่องเต้คังอู่หยิบราชโองการมอบให้เสนาบดีลิ่นแล้วร้องไห้ขึ้นมา
เสนาบดีลิ่นอ่านราชโองการ ระบุว่าอดีตรัชทายาทที่ถูกปลดสมคบคิดกับตระกูลโจวที่เป็นตระกูลของมารดา ใช้ยาลูกกลอนสังหารฮ่องเต้โดยมีจุดประสงค์ยึดครองบัลลังก์ โทษประหารชีวิต และให้รัชทายาทขึ้นครองบัลลังก์
ใช่แล้ว เจ้าคนโง่เขลาที่อยู่ตรงหน้า ตอนนั้นฉินหลิวซีกล่าวอย่างชัดเจนว่าบนร่างกายเขามีพิษไฟที่พร้อมจะลุกลาม ซ้ำเขายังเชื่อคำพูดเหลวไหลของบุตรชายคนโต เริ่มกินยารักษา สุดท้ายจบลงด้วยการกินยาจนตาย!
ฮ่องเต้คังอู่คำรามด้วยความโกรธ “ของเท็จ ราชโองการนั้นเป็นเท็จ เราไม่เคยเอ่ยเช่นนั้น”
“แน่นอนว่าเป็นเช่นนั้น เจ้ากินยาจนเสียชีวิตเร็วขนาดนั้น ย่อมไม่มีโอกาสมาเขียนคำสั่งเสีย แต่เจ้าลืมไปแล้วว่าเมื่อฮ่องเต้องค์ใหม่ขึ้นครองบัลลังก์ ข้าราชบริพารเก่าก็จะถูกแทนที่ด้วยข้าราชบริพารของราชวงศ์ใหม่ เมื่อได้กำหนดรัชทายาท และมีคนเก่งๆ มากมายคอยให้การสนับสนุน ราชโองการนี้ บอกว่ามันเป็นอย่างไรก็เป็นอย่างนั้น ไหนเลยยังต้องให้เจ้ายืนยันว่าเป็นคำสั่งเสียของเจ้าหรือไม่” ฉินหลิวซีเอ่ยเหน็บแนมว่า “เจ้าดูสิว่าพวกเขามีข้อสงสัยสักนิดหรือไม่”
ฮ่องเต้คังอู่มองไป ไม่ว่าจะเป็นฮองเฮามู่หรือเสนาบดีลิ่น หรือหนิงอ๋องที่เขาคิดว่าเป็นผู้จงรักภักดี เสนาบดีผู้ซื่อสัตย์ซ้ายขวา ไม่มีใครมีความเห็นขัดแย้ง ต่างพากันคุกเข่าลงบนพื้น
ความคิดผ่านเข้ามาในหัว
“เจ้า พวกเขา พวกเจ้าเป็นพวกเดียวกัน” ใบหน้าอันสง่างามของฮ่องเต้คังอู่ในเวลานี้ได้เต็มไปด้วยความโกรธเคืองเนื่องจากถูกทรยศหักหลัง แต่ไม่มีประโยชน์แล้ว เขาได้ตายไปแล้ว ต่อให้เขาจะโกรธเคืองแค่ไหนก็ทำอะไรไม่ได้
ฉินหลิวซียิ้มอย่างร้ายกาจ “ใช่แล้ว เป็นพวกเดียวกัน เดิมทีฉีเชียนไม่ได้มีชะตากรรมนี้ เป็นข้าที่เปลี่ยนให้เขา คนเหล่านี้ก็เป็นข้าที่จัดตั้งขึ้นมาให้เขา ประหลาดใจหรือไม่ เจ้าคิดว่าบุตรชายแห่งรักแท้เป็นเจ้าที่อุ้มชูขึ้นมา ความจริงแล้วไม่ใช่ เป็นพวกเราที่ยืมมือของเจ้าผลักดันขึ้นไป”
ฮ่องเต้คังอู่ “!”
ยมทูตขาวดำ ‘ขอถามหน่อยว่าผีกระอักเลือดได้หรือไม่’
เขาอยากจะอาเจียน
สมแล้วที่ฮ่องเต้คังอู่เป็นฮ่องเต้มาหลายสิบปี ระงับความโกรธ เอ่ย “ท่านอาจารย์ ทำให้เรากลับไป เราจะแต่งตั้งท่านเป็นราชครู แต่งตั้งอารามชิงผิงเป็นอารามหลวงของราชวงศ์ เป็นอารามอันดับหนึ่งในใต้หล้า”
ฉินหลิวซีแสยะยิ้ม “หากข้าต้องการสิ่งเหล่านี้ เจ้าว่าฉีเชียนให้ข้าได้หรือไม่ ทั้งใต้หล้าข้าก็ได้เอามาถวายตรงหน้าเขาแล้ว แลกกับตำแหน่งราชครูอะไรนั่น เป็นอารามหลวงของราชวงศ์ก็เป็นเรื่องสมควรแล้วกระมัง ในเมื่อสามารถได้มาง่ายๆ เหตุใดข้าจะต้องเสี่ยงอันตรายแก้ไขชะตาชีวิตให้ตาเฒ่าอย่างเจ้า รังเกียจว่าฟ้าผ่าข้าไม่ตายหรือ”
ฮ่องเต้คังอู่ถูกเย้ยหยันจนดวงวิญญาณบิดเบี้ยว มีสัญญาณจางๆ ว่าจะกลายเป็นวิญญาณร้าย
เฮยอู๋ฉังรีบกล่าวว่า “นายท่าน เห็นแก่สมควรแล้ว หากเขากลายเป็นผีร้ายขึ้นมาจริงๆ ท่านก็ต้องรับผลกรรมไปด้วย”
ดวงตาฮ่องเต้คังอู่เป็นประกาย เช่นนี้ก็ได้หรือ
เด็กเมื่อวานซืน คิดว่าเราทำอะไรเจ้าไม่ได้หรือ
ตอนเรายังมีชีวิตอยู่ก็เป็นฮ่องเต้ ตายไปเหตุใดจะกลายเป็นราชาผีไม่ได้
พลังของเขาเกรี้ยวกราดขึ้นมาในทันที เมื่อบุญกุศลและพลังศรัทธาที่ได้สะสมในขณะที่เป็นฮ่องเต้มาหลายปีนี้ได้กลายเป็นพลังผีที่เกรี้ยวกราด ดวงตาสีแดงเลือด เนื่องจากความขุ่นเคืองเพราะไม่เต็มใจที่จะตาย สูญเสียสติไปเกือบทั้งหมดในทันที โจมตีเข้าใส่ฉินหลิวซี
ฉินหลิวซีสนุกเป็นอย่างมาก ในที่สุดก็มาถึงวันนี้ นางรีบตะโกนห้ามยมทูตขาวดำทันที “พวกเจ้าห้ามเข้ามายุ่ง!”
ฮ่องเต้คังอู่ไม่เข้าใจ เมื่อพลังผีของเขาสำเร็จลุล่วง มือคว้าฉินหลิวซี พลังชั่วร้ายกำเนิดขึ้น
“นี่ เป็นเจ้าที่เริ่มก่อน ข้าแค่ป้องกันตัว!” ฉินหลิวซีเอ่ย
ฮ่องเต้คังอู่ไม่เคยมีความสัมพันธ์ใดๆ กับนาง จึงไม่รู้นิสัยของนาง นางเก่งในการขุดหลุมพราง วางกลอุบายล่อลวงผู้อื่น
เขาลงมือก่อน เพื่อป้องกันตัวเอง นางทำได้เพียงโจมตีกลับ เช่นนี้สวรรค์ก็ว่าอะไรไม่ได้แล้ว
อย่างที่เห็น ทันทีที่เขาลงมือ ฉินหลิวซีก็หยิบหินเก้าตาของมหาเทพออกมาด้วยความรู้สึกสนุก โจมตีไปที่เขา
แรงกดทับตกลงบนร่างของฮ่องเต้คังอู่อย่างรุนแรง เขาส่งเสียงกรีดร้อง พลังผีแตกกระจาย กลายเป็นบุญกุศลและความศรัทธาอีกครั้ง
ตอนนี้นาง (ใช้กลอุบายล่อลวงคน) แข็งแกร่งจนหน้ากลัว พวกเราหวาดหวั่นเป็นอย่างมาก
ฮ่องเต้คังอู่ยังคงไม่รู้ว่าบุญกุศลกับความศรัทธานี้สำคัญกับเขามากแค่ไหน เขารู้สึกเพียงว่าดวงวิญญาณเจ็บปวดอย่างรุนแรง มีบางอย่างลอยออกจากเขาไปอย่างรวดเร็ว
เมื่อมองดูนักพรตปีศาจฉินหลิวซีผู้นั้น หลับตาลงลอยอยู่กลางอากาศ ราวกับกำลังทำพิธีดูดซับอะไรบางอย่าง ประหลาดเป็นอย่างมาก
ฮ่องเต้คังอู่กลับมามีสติอีกครั้ง เขารู้สึกราวกับตกลงไปในรางน้ำเน่า
ฉินหลิวซีขโมยบุญกุศลและความศรัทธาของฮ่องเต้คังอู่จนเหลือเพียงเศษเสี้ยวจึงได้หยุดลง แล้วเอ่ยกับยมทูตขาวดำสองตนว่า “เอาล่ะ พวกเจ้าพาเขาไปเถิด”
ฮ่องเต้คังอู่อ่อนแอเป็นอย่างมาก แต่รู้สึกว่าดวงวิญญาณอ่อนแอยิ่งกว่าตอนพึ่งตายเสียอีก จึงเอ่ย “เจ้าทำอะไรข้า ข้าเป็นถึงผู้นำในใต้หล้า เหตุใดเจ้าจึงได้บังอาจนัก ไม่กลัวถูกสวรรค์ลงโทษหรือ”
ฉินหลิวซียิ้ม “ดังนั้นข้าจึงรอให้เจ้าลงมือก่อน!”
ฮ่องเต้คังอู่ยังจะมีอะไรไม่เข้าใจอีก เขาถูกลอบวางแผนแล้ว
เฮยอู๋ฉังก้าวมาข้างหน้า เอ่ยกับฉินหลิวซีว่า “พวกเราได้พบผู้ทรยศในยมโลกแล้ว มียมทูตสองตนที่ถูกซื่อหลัวควบคุมตั้งแต่เมื่อร้อยปีก่อน ใช้โอกาสตอนที่ออกไปจับดวงวิญญาณข้างนอก เชื่อมจิตวิญญาณในวังจิตของพวกเขา และได้ทำการวางแผนขโมยพลังแห่งโชคลาภในโลกมนุษย์ นอกจากนี้ยังมีอีกหนึ่งเรื่อง ใบเป็นตายมีการเปลี่ยนแปลง ชะตาชีวิตของผู้คนมากมายก็เปลี่ยนไปด้วย”
ฉินหลิวซีขมวดคิ้ว
เฮยอู่ฉังกล่าวอย่างระมัดระวังว่า “กล่าวก็คือเขาใกล้จะสำเร็จแล้ว”
เมื่อเขากล่าวจบก็ไม่ได้รีรอคำตอบของฉินหลิวซี รีบพาตัวฮ่องเต้คังอู่กลับไปยังยมโลกพร้อมกับไป๋อู๋ฉังทันที
ฮ่องเต้คังอู่ยังคงไม่เต็มใจ เขาตายไปไม่พอ อยากจะเป็นราชาผี ก็ไม่รู้ว่านักพรตปีศาจผู้นั้นทำอะไรกับเขา จึงอดถามยมทูตขาวดำไม่ได้ว่าเมื่อครู่ฉินหลิวซีทำอะไรกันแน่
ไป๋อู๋ฉังถูกถามจนรำคาญ กล่าวว่า “เจ้าเป็นถึงฮ่องเต้ แม้ว่าจะไปที่ยมโลก เมื่อกลับชาติไปเกิดก็จะได้ถูกจัดให้อยู่ที่อันดับหนึ่ง ด้วยบุญกุศลและความศรัทธาที่เจ้าได้สะสมไว้เมื่อตอนดำรงอยู่ในตำแหน่ง ชาติหน้าเจ้ายังคงได้ไปเกิดในที่ที่ดี จะเป็นองค์ชายก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่”
ฮ่องเต้คังอู่ใจเต้นรัว “แล้วตอนนี้ล่ะ”
ไป๋อู๋ฉังตำหนิ “ตอนนี้ บุญกุศลและความศรัทธาของเจ้าถูกนางขโมยไปแล้ว เจ้าคิดจะใช้สิ่งเหล่านี้เพื่อให้ได้ไปเกิดใหม่ในที่ที่ดีนั้นเป็นไปไม่ได้แล้ว ยังเหลืออยู่อีกน้อยนิด เป็นชาวนาที่ร่ำรวยยังพอได้”
อะไรนะ
เฮยอู๋ฉังเหลือบมองเขา “เจ้าว่าเจ้าไปยั่วยุนางทำไม ลงมือกับนางก็เท่ากับเปิดโอกาสให้นางจัดการเจ้าไม่ใช่หรือ เรื่องผิดศีลธรรมที่เจ้าทำมาในหลายปีนี้ก็ไม่น้อย ถูกนางด่าสักสองประโยคจะเป็นไรไป ซ้ำเจ้ายังคิดว่าตัวเองเป็นฮ่องเต้ คิดจะลงมือก็ลงมือเลย สูญเสียบุญกุศลไปโดยเปล่าประโยชน์!”
ฮ่องเต้คังอู่ “?”
เดี๋ยวนะ เขาเป็นเหยื่อไม่ใช่หรือ เขาเป็นฮ่องเต้ น้ำเสียงดูถูกของพวกเขาเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร
ไม่สิ พวกเขาบอกว่าบุญกุศลและความศรัทธาของตัวเองถูกนักพรตปีศาจตนนั้นขโมยไป เขาไม่สามารถไปเกิดในตระกูลที่ดีได้แล้ว!
ฮ่องเต้คังอู่หันหลังแล้ววิ่งหนีไป เขาจะเป็นราชาผี เขาจะไปแก้แค้นนักพรตปีศาจฉินหลิวซีผู้นั้น
“นักพรตปีศาจ เอาบุญกุศลเราคืนมา!” ฮ่องเต้คังอู่ตะโกนร้องอย่างเกรี้ยวกราด