คุณหนูใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า - ตอนที่ 1218 เข้ามาและทำลาย
ตอนที่ 1218 เข้ามาและทำลาย
………………..
ฉินหลิวซีเข้าไปในค่ายอาคม ราวกับเข้าไปในเมืองผี พลังชั่วร้ายแน่นหนาและรุนแรง ลุกล้ำเข้าสู่แขนขาและเส้นลมปราณ ราวกับงูพิษจำนวนนับไม่ถ้วนที่บางเหมือนเส้นไหมชอนไชไปทั่วร่างกาย ปลุกเร้าความแค้นชั่วร้ายที่สุดและความโศกเศร้าอันน่าสลดใจที่สุดในใจคน
ปัง
ไฟนรกอันร้อนแรงปะทุออกมาทั่วร่างกายของนาง พลังชั่วร้ายราวกับได้พบดาวพิฆาตอันน่ากลัว ฉับพลันจึงหายไปในทันที แม้แต่ภายในรัศมีสามก้าวของนางก็ไม่มีร่องรอยของพลังชั่วร้ายแม้แต่นิด
ฉินหลิวซีกลับมองเห็นชาวเมืองที่อยู่ไม่ไกลจากนาง ไม่ว่าจะเป็นบุรุษ สตรี คนชรา เด็ก ต่างก็ถูกพลังชั่วร้ายปกคลุม ทั้งตัวเต็มไปด้วยพลังหยินอันเยือกเย็น ผิวหนังภายนอกล้วนเป็นสีดำมืดผิดปกติ
พลังหยินชั่วร้ายเข้าสู่ร่างกาย มันจะกัดกร่อนร่างกายก่อน พลังหยินอันหนาวเย็นจะทำให้การทำงานของร่างกายอ่อนแอลง และทำให้อวัยวะภายในและหลอดเลือดเสียหายด้วยเช่นกัน ดังนั้นผิวหนังจึงมีสีดำคล้ำ
ชาวเมืองที่อยู่ตรงหน้า มีไม่กี่คนที่สามารถมีชีวิตอยู่รอดได้
ปรมาจารย์ไท่เฉิงกล่าวผิดแล้ว ผู้ที่เป็นฆาตกรไม่ใช่นาง แต่เป็นคนที่วางค่ายอาคม
ฉินหลิวซีลดสายตาลง มาที่ใจกลาง ตรงกลางเป็นสถานที่คล้ายกับจัตุรัสเล็กๆ มีรูปปั้นหินของคนผู้หนึ่งตั้งอยู่ ถือตรีศูลอยู่ในมือ สวมชุดนักรบ ใบหน้าน่าเกรงขาม เต็มไปด้วยพลังชั่วร้าย
รูปปั้นหินรูปคนถูกแกะสลักยันต์รวบรวมหยินเพื่อดึงดูดพลังชั่วร้าย โดยวาดด้วยเลือดของคน ใต้รูปปั้นหินยังมีหินสัตว์แกะสลักชั่วร้ายตัวเล็กๆ ฝังอยู่ นอกจากนี้ยังมีศพของทารกตัวน้อยวางอยู่ที่ตำแหน่งเท้าของรูปปั้นหินโดยเห็นได้อย่างชัดเจน ดวงตาสีดำสนิทของกะโหลกศีรษะทารกคู่นั้นราวกับเปล่งประกายสีแดง และบนศพของนางก็ยังมีก้านหลิ่วพันอยู่ ก้านหลิ่วนั้นราวกับผุดขึ้นมาจากพื้นดิน ก้านหลิ่วมีสีแดงเข้ม ประหลาดและดูชั่วร้าย
พลังชั่วร้ายหลั่งไหลออกมาจากสถานที่แห่งนี้อย่างต่อเนื่อง แพร่กระจายไปยังสถานที่อื่นๆ
ฉินหลิวซีหยิบยันต์วิญญาณแล้วดันหินทองคำดำก้อนเล็กลงไป เสกไปที่ก้านหลิ่วสีแดง
ลมเย็นพัดแรง พลังชั่วร้ายพลุ่งพล่านอย่างบ้าคลั่ง ชาวเมืองส่งเสียงกรีดร้อง วิ่งกรูกันเข้ามาหาฉินหลิวซีอย่างบ้าคลั่ง
ฉินหลิวซีไม่รอช้า หยิบยันต์วิญญาณกับอัญมณีเงินโบราณฝังลงไปในสถานที่ที่นางต้องการทีละชิ้น สุดท้ายก็แปะยันต์แปดทิศหยินหยางไท่จี๋ไว้บนใบหน้าของรูปปั้นหิน
นางไม่ได้ทำลายค่ายอาคมสังหารตาข่ายฟ้าทะลวงดิน แต่วางค่ายอาคมการพลิกผันหยินหยางทั้งห้าธาตุไว้ในนั้น จะมีการเคลื่อนไหวอันยิ่งใหญ่ของจักรวาล พลังคุณธรรมของธาตุทั้งห้าในใต้หล้าจะไปกำจัดพลังหยินชั่วร้าย แม้ว่าจะมีคนตายก็จะไม่ใช่ความผิดของนาง
นางกำลังช่วยคน
ขณะที่ฉินหลิวซีกำลังวางค่ายอาคม ความเคลื่อนไหวทางด้านถ้ำก็รุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ราวกับถูกกดดันให้เกิดความร้อนใจ กระแทกส่งเสียงออกมาดังขึ้นเรื่อยๆ
ปรมาจารย์ไท่เฉิงหยิบเครื่องรางของตัวเองออกมา ร่างกายเต็มไปด้วยพลังคุณธรรมที่กำลังหลั่งไหล
ถ้ำกำลังจะถูกทลาย
ในขณะที่ฉินหลิวซีกำลังร่ายคาถาวางค่ายอาคม ก็มีเสียงดังหึ่งๆ ปฐพีเปลี่ยนสีไปในทันที
ถ้ำระเบิดส่งเสียงดัง มีโลงศพหินกระเด็นออกมา พุ่งเข้าชนปรมาจารย์ไท่เฉิงโดยตรง
ปรมาจารย์ไท่เฉิง ‘เป็นหนี้ต้องจ่าย เป็นคนร้ายต้องชดใช้กรรม คำพูดนี้ช่างหลอกลวงจริงๆ!’
เขากำลังจะหลบ กลับเห็นโลงศพระเบิดเสียงดังปัง ศพสวมชุดเกราะของแม่ทัพ ในมือถือตรีศูลพุ่งเข้ามาแทงเขาพร้อมกับพลังชั่วร้ายอันเย็นยะเยือก
ศพกระตุกหรือ!
ไม่ นั่นมันคือผี!
ปรมาจารย์ไท่เฉิงเหงื่อไหลพลางขุนลุกซู่เมื่อเห็นขนสีขาวทั้งตัวของมันกับตรีศูลแหลมคมอันน่ากลัว ถือแส้หางม้าไว้ในมือ เติมเต็มพลังวิญญาณ แล้วโจมตีไปที่มัน
ปีศาจผีตนนั้นเคลื่อนไหวเร็วมาก ตรีศูลของมันถูกแส้หางม้าฟาดเสียหลัก มันยื่นมือไปทางปรมาจารย์ไท่เฉิง ดูเหมือนว่ากระดูกมือจะมีกลไก ทันใดนั้นก็ยาวขึ้นมา นิ้วทั้งห้าของมันกลายเป็นกรงเล็บกระดูกอันแหลมคมคว้ามาทางนี้
เมื่อปรมาจารย์ไท่เฉิงเห็นกรงเล็บกระดูกนั้นก็สีหน้าเคร่งขรึม รีบดึงแส้หางม้ากลับมาทันที ปากท่องคาถา สะบัดแส้หางม้าออกไป ในขณะที่ขวางกรงเล็บกระดูกไว้ จิตวิญญาณเต๋าก็ได้ปล่อยแสงสีทองแสบตาออกมา ฟาดลงไปที่กรงเล็บกระดูกนั่น
ปีศาจผีเจ็บปวด ดึงกรงเล็บกลับคืน กรงเล็บกระดูกนั้นมีควันสีดำลอยออกมา เขาส่งเสียงคำรามสะท้านแก้วหูด้วยความโกรธ หยิบตรีศูลออกมาแล้วไล่แทงปรมาจารย์ไท่เฉิง
ตรีศูลเต็มไปด้วยพลังอันร้ายกาจ อำนาจนั้นราวกับศาสตราวุธเทพ ไม่สิ มันก็คือศาสตราวุธเทพ ไม่รู้ว่าสังหารคนและปีศาจร้ายไปเท่าไหร่แล้ว พลังไม่ธรรมดา
ตรีศูลกำลังใกล้เข้ามา ปรมาจารย์ไท่เฉิงอัญเชิญกระจกเฉียนคุนแปดเหลี่ยมออกมา ทันทีที่อักขระสีทองของกระจกออกมา ปีศาจผีกรีดร้องอย่างรุนแรง ยกมือขึ้นมาบัง ทันใดนั้นก็เกิดความคิด ตรีศูลถูกพุ่งไปทางใบหน้าของปรมาจารย์ไท่เฉิง
ปรมาจารย์ไท่เฉิงก้มตัวลงตามสัญชาตญาณ ตรีศูลนั้นเฉียดหนังศีรษะของเขาไป จากนั้นกรงเล็บก็ได้ปรากฏขึ้นตรงหน้าของเขา เขายังไม่ทันได้หลบก็ถูกจิกลงที่หัวไหล่ของเขา
แย่แล้ว!
กรงเล็บเจาะเข้าไปในร่างกาย พลังหยินชั่วร้ายราวกับน้ำแข็งหนาวเข้าไปถึงกระดูกพุ่งเข้าสู่ร่างกายทันที
ปรมาจารย์ไท่เฉิงหยิบยันต์ห้าสายฟ้าออกมาหนึ่งแผ่นแปะลงไปบนปีศาจผี จิตวิญญาณเต๋าพุ่งทะยานไปทั่วร่างกาย รีบถอยออกมาอย่างรวดเร็ว
ปัง
ยันต์ห้าสายฟ้าระเบิดเสียงดัง แต่ว่าปีศาจผีตนนั้นได้พุ่งออกมาท่ามกลางแสงสายฟ้าและหมอกควันตรงเข้ามาหาเขา
ข้างหน้ามีปีศาจผี ข้างหลังมีตรีศูล ปรมาจารย์ไท่เฉิงรู้สึกว่าคราวนี้จบเห่จริงๆ แล้ว!
ปรมาจารย์ไท่เฉิงสายตาเกรี้ยวกราด แม้ว่าจะตายก็ต้องเอาผีพันปีตนนี้ไปด้วย
เขาอัญเชิญเครื่องรางคุ้มภัยออกมา แผนภาพเคลื่อนย้ายจักรวาลหนึ่งพันลี้ ทันทีที่ปีศาจผีตนนั้นแตะต้องเขา แผนภาพก็จะเคลื่อนย้ายเขาออกไป และตรีศูลที่เกือบจะแทงเข้าไปในร่างของเขาได้แทงเข้าไปในร่างที่ไม่เน่าเปื่อยของปีศาจผี
ยังไม่ทันได้ดีใจ ปรมาจารย์ไท่เฉิงก็เห็นปีศาจผีตนนั้นดึงตรีศูลออกจากร่างกาย ศพของมันได้รับการซ่อมแซมด้วยพลังชั่วร้าย
ปรมาจารย์ไท่เฉิง “!”
นายท่านน้อย ข้ากับศัตรูมีความเหลื่อมล้ำกันเกินไป มาช่วยกันหน่อยสิ!
เมื่อเห็นว่าปีศาจผีพัวพันไม่ลดละ ปรมาจารย์ไท่เฉิงสายตาพร่ามัว เงาสีเขียวปรากฏขึ้นตรงหน้า โจมตีเข้าใส่ปีศาจผีตนนั้น
ศาสตราวุธเทพในมือของฉินหลิวซีสนุกเป็นอย่างมาก พวกเดียวกัน เป็นพวกเดียวกัน หากกลืนกินวิญญาณอาวุธและพลังดุร้ายของตรีศูลนี้ มันก็จะยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้น
แน่นอนว่าอาวุธป้องกันตัวควรจะแข็งแกร่งกว่านี้ ทันทีที่ฉินหลิวซีฟาดลงไป ปีศาจผีตนนั้นก็ใช้ตรีศูลสกัดตามสัญชาตญาณ จากนั้นดูเหมือนว่าคมมีดสามแฉกจะสั่นเทา
ปีศาจผีตาแดงก่ำ จ้องมองฉินหลิวซี ใช้กลอุบายเก่าอีกครั้ง กรงเล็บกระดูกคว้าไปที่นาง แต่คนตรงหน้ากลับไม่หลบหลีกเหมือนตาเฒ่าผู้นั้น ซ้ำยังพุ่งเข้าใส่
ปรมาจารย์ไท่เฉิงกลืนยันต์ระงับพลังชั่วร้ายอย่างไม่ต้องคิดพลางตะโกนว่า “ระวังสิ่งนั้น กรงเล็บกระดูกร้ายกาจเป็นอย่างยิ่ง ยันต์ห้าสายฟ้าก็ทำอะไรมันไม่ได้”
ฉินหลิวซีกล่าวว่า “ยันต์ห้าสายฟ้าทำอะไรไม่ได้ เช่นนั้นก็ดูว่าไฟนรกจะทำได้หรือไม่”
อะไรนะ
ทันทีที่กรงเล็บกระดูกโดนตัวฉินหลิวซี ไฟก็ปะทุขึ้นมาทันที มันส่งเสียงกรีดร้องคำรามอย่างรุนแรง ก้าวถอยหลัง พยายามสะบัดไฟออกจากกรงเล็บ
แต่ไฟกลับพุ่งเข้าใส่แขนของมันอย่างรวดเร็ว มันพยายามจะหักแขนที่ติดไฟ แต่กลับสายเกินไป
เสียงดังสนั่น
ไฟนรกราวกับลิ้นพันรอบตัวมัน ไฟแผดเผาทั่งร่างกาย
ปรมาจารย์ไท่เฉิงมองดูไฟนรกที่ราวกับบงกชแสงสีทองแดงม่วงแล้วกลืนน้ำลาย
ไฟนี้ร้ายกาจยิ่งกว่าสายฟ้าเสียอีก
ที่แท้ก็เป็นข้าคนเดียวที่มีความเหลื่อมล้ำกับศัตรู ไม่ใช่นายท่านน้อยตรงหน้าผู้นี้!
ไฟนรกบงกชแดงสามารถแผดเผาบาปทั้งปวง ยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึงกระดูกแห้งที่ไม่เน่าเปื่อยมานับพันปีของปีศาจผี ต้องใช้ไฟเผา แต่หากสายฟ้าทำอะไรมันไม่ได้ หรือว่ามีคนปกป้องมัน
ฉินหลิวซีมองดูปีศาจผี กลายเป็นขี้เถ้าร่วงหล่นลง นางมองดูถ้ำด้วยดวงตาเกรี้ยวกราด หนึ่งฝ่ามือโจมตีเข้าใส่ “ในเมื่อมาแล้ว เหตุใดจึงเอาแต่ซ่อนหัวโผล่หาง”