คุณหนูใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า - ตอนที่ 587 เจ้าปากร้ายเกินไปหรือไม่
ตอนที่ 587 เจ้าปากร้ายเกินไปหรือไม่
ก่อนที่จะจับชีพจร ไปเยี่ยมชมที่ห้องนอนของผู้ป่วยก่อน
ทันทีที่ฉินหลิวซีเอ่ยเช่นนี้ ทุกคน ณ ที่นี่ต่างก็รู้สึกแปลกๆ และประหลาดใจ เฉียวจื่อหลิงขมวดคิ้วพลางเหลือบมองน้องชายภรรยา ไยจึงรู้สึกว่าหมอที่เหวินหลิวเชิญมาครั้งนี้ไม่น่าเชื่อถือ
ไม่เคยพบเห็นหมอที่ต้องไปดูห้องนอนก่อนแล้วค่อยรักษา ทำไมหรือ โรคนี้เกี่ยวกับที่อยู่อาศัยด้วยหรือ
เดี๋ยวก่อนนะ เขาเป็นถึงหลานชายภรรยาเอกคนโต เรือนของเขาครอบครองพื้นที่ขนาดใหญ่และมีทิวทัศน์ที่สวยงาม ตอนที่แต่งงาน ในเรือนได้รับการปรับปรุงให้ใหญ่เป็นพิเศษ หน้าต่างส่องสว่างและห้องสะอาดนั้นเป็นสิ่งจำเป็น
แต่ฉินหลิวซีกลับต้องการดูห้องของเจ้าของเรือน ซ้ำยังไม่ใช่เพียงห้องรับแขกทั่วไป แต่เป็นห้องนอนที่เป็นห้องส่วนตัว ซึ่งทำให้เฉียวจื่อหลิงรู้สึกอึดอัด
เจียนเหวินเหยียนก็ประหลาดใจเป็นอย่างมาก นางเคยพบหมอมาไม่น้อย ก็ไม่มีอะไรเช่นนี้ หรือว่าวิธีการวินิจฉัยของหมอลัทธิเต๋านั้นแตกต่างจากธรรมเนียมหมอทั่วไป
เจียงเหวินหลิวได้สติกลับมา อย่างไรเสียเขาก็เป็นคนที่เคยใช้เส้นทางหยิน และได้เคยเห็นผีจริงๆ เขายังรู้ด้วยว่าในโลกนี้นอกเหนือจากคนที่ยังมีชีวิตอยู่ ผีที่ตายไปแล้วก็ยังคงเตร็ดเตร่อยู่ในโลกใบนี้แทนที่จะไปเกิดใหม่ทั้งหมด
เช่นนั้นฉินหลิวซีกำลังบอกว่าห้องของพี่หญิงไม่ค่อยสะอาดอย่างนั้นหรือ
เจียงเหวินหลิวส่งสายตาให้พี่หญิง เหลือไว้เพียงแม่นมกับสาวใช้คนสนิทเท่านั้น จากนั้นจึงได้ถามฉินหลิวซีว่า “ท่านเจ้าอาวาสน้อย หรือว่าห้องของพี่หญิงข้าไม่สะอาด”
สีหน้าของเจียงเหวินเหยียนกับเฉียวจื่อหลิงเปลี่ยนไป เฉียวจื่อหลิงเอ่ยออกมาด้วยความไม่พอใจว่า “เหวินหลิว เจ้าเป็นถึงบัณฑิตจิ้นซื่อ เป็นปัญญาชน เหตุใดจึงได้เชื่อเรื่องอำนาจลี้ลับ”
เจียงเหวินหลิวเอ่ยโดยสีหน้าไม่เปลี่ยน “ฮูหยินผู้เฒ่าตระกูลพวกท่านก็ไปปฏิบัติเต๋าที่อารามจินหัวอยู่บ่อยๆ ไม่ใช่หรือขอรับ”
เฉียวจื่อหลิงสำลัก
“อีกอย่างอาการป่วยของพี่หญิงข้าก็รักษาไม่หายมานานแล้ว เปลี่ยนหมอไปเท่าใด ดื่มยาไปมากมายแค่ไหน จนจะกลายเป็นกระบอกยาอยู่แล้วก็ยังไม่ดีขึ้น ใครจะไปรู้ว่าเป็นเพราะสิ่งสกปรกกำลังก่อกวนอยู่หรือไม่”
“เจ้า!”
เจียงเหวินเหยียนเริ่มหงุดหงิดมากขึ้นเรื่อยๆ พลางเอ่ย “ทั้งสองหยุดเถียงกันได้แล้ว ท่านเจ้าอาวาสน้อยจะว่าอย่างไร”
“น่าจะมีอะไรบางอย่างอยู่บนคานตรงประตู ให้คนไปเอาลงมา” ฉินหลิวซีเอ่ยขึ้นมา ตรงนั้นมีพลังหยินจางๆ
สีหน้าของทุกคนเปลี่ยนไป
สายตาของเจียงเหวินหลิวเย็นชาและเกรี้ยวกราดขึ้นมาทันที เหลือบมองเฉียวจื่อหลิง หากพี่หญิงถูกของสกปรกเช่นนี้ทำร้ายจนป่วยเป็นเวลาหลายปีขึ้นมาจริงๆ ตระกูลเจียงของเขาไม่มีวันยอมปล่อยไปแน่ๆ
เฉียวจื่อหลิงโมโหเล็กน้อย สายตาเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร
“แม่นม เจ้าให้คนไปนำบันไดมาปีนขึ้นไปดู” กลางหว่างคิ้วของเจียงเหวินเหยียนแฝงไว้ด้วยความโกรธ
แม่นมคนสนิทถอยออกไปด้วยสีหน้ามืดครึ้ม
เจียงเหวินเหยียนเหลือบมองเฉียวจื่อหลิงด้วยสีหน้าเรียบเฉย เอ่ยกับฉินหลิวซีว่า “ข้าจะพาเจ้าอาวาสน้อยไปเยี่ยมชมสักหน่อย”
นางเดินนำอยู่ข้างหน้าพาฉินหลิวซีไปที่ห้องนอน
เฉียวจื่อหลิงกัดฟันพลางเอ่ยกับเจียงเหวินหลิวว่า “เหวินหลิว คนที่เจ้าพามาเป็นใครกันแน่ มีจุดประสงค์อะไร”
“แน่นอนว่าเป็นปรมาจารย์ที่เชี่ยวชาญด้านศาสตร์ทั้งห้าของเสวียนเหมินอย่างแท้จริง” เจียงเหวินหลิวเอ่ยเสียงเรียบว่า “ไม่สู้พี่เขยลองฟังดูว่านางจะกล่าวว่าอย่างไร จะได้ไม่เป็นการกล่าวหาใคร”
เขาเอ่ยพลางเดินตามไป เฉียวจื่อหลิงสะบัดแขนเสื้อด้วยความโกรธ เขาอยากจะรู้จริงๆ ว่าผู้ที่เรียกว่าปรมาจารย์ที่มีใบหน้าอ่อนเยาว์กว่าเขาจะกล่าวอ้างเหตุผลอะไรกันแน่
ฉินหลิวซีเข้าไปในห้องนอน มองดูแผนผังและการตกแต่งห้อง เลิกคิ้วเล็กน้อย ถามว่า “แผนผังการตกแต่งห้องนอน คาดว่าน่าจะขึ้นอยู่กับความชอบของเจ้าของห้อง ไม่ทราบว่าแผนผังนี้เป็นความชอบของใคร”
เฉียวจื่อหลิงขมวดคิ้วพลางกล่าวว่า “ข้าเอง”
ก่อนแต่งงาน แผนผังห้องของเขาก็เป็นเช่นนี้ รู้สึกคุ้นชินไปแล้ว มีปัญหาอะไรหรือ
“ก่อนที่ข้าจะแต่งงานก็ใช้ชีวิตเช่นนี้ ร่างกายก็แข็งแรงมาโดยตลอด” เฉียวจื่อหลิงกล่าวพลางเชิดหน้าขึ้น
ฉินหลิวซีเอ่ยเสียงเรียบว่า “ท่านอาศัยอยู่คนเดียวย่อมไม่เป็นปัญหาอะไร แต่เมื่อสามีภรรยาอาศัยอยู่ด้วยกัน กลับเป็นเรื่องง่ายที่จะทำให้สามีภรรยามีใจเหินห่าง มีเรื่องทะเลาะกันอยู่เสมอ ไม่ลงรอยกัน”
“อะไรนะ” เจียงเหวินเหยียนกำผ้าเช็ดหน้าไว้แน่น ดวงตาแดงก่ำ สีหน้าแฝงไว้ด้วยความโมโห
ฉินหลิวซีหยิบยันต์แคล้วคลาดออกมาให้นาง
เจียงเหวินเหยียนรับมาอย่างเชื่องช้า ที่น่าแปลกก็คือความโกรธของนางถูกระงับด้วยบางสิ่งบางอย่าง หัวใจของนางพลันเริ่มสงบลง
ฉินหลิวซีชี้ไปยังตำแหน่งตะวันตกเฉียงเหนือ แล้วจึงเอ่ย “ห้องนอนของเจ้าบ้านบุรุษหรือสตรี ตำแหน่งทิศตะวันตกเฉียงเหนือไม่ควรเว้าหรือนูน ตามหลักฮวงจุ้ย ทิศตะวันตกเฉียงเหนือเป็นตำแหน่งเฉียน ซึ่งแสดงถึงเจ้าบ้านที่เป็นบุรุษ เป็นหัวหน้าครอบครัว ตำแหน่งนี้มีปัญหา หากบุรุษไม่มีอนุภรรยาคอยปรนนิบัติจึงจะเป็นเรื่องแปลก”
หลายคนตัวแข็งทื่อ มองไปยังตำแหน่งนั้น กำแพงที่เดิมทีควรจะเรียบ แต่กลับมีส่วนเว้า ตั้งชั้นวางของไว้ โดยมีแจกันดอกไม้โบราณวางอยู่ด้านบน
“ซ้ำยังมีกระจกทองแดงนี้อีก ท่านต้องชอบมันมากแค่ไหน แม้กระทั่งมีรอยแตกแล้วก็ยังทำใจเปลี่ยนไม่ได้” ฉินหลิวซีชี้ไปที่กระจกทองแดงที่มีไม้จันทน์แดงแกะสลักลายดอกบัวคู่พลางมองไปยังเจียงเหวินเหยียนพลางเอ่ยว่า “ได้ยินมาว่ากระจกที่แตกร้าวไม่สามารถกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ กระจกมีมุมแตกแต่ยังวางไว้ในห้องนอนตัวเอง เบื่อที่สามีภรรยามีความสัมพันธ์ที่ดีเกินไปหรือ หรือไม่อยากอยู่ด้วยกันแล้ว”
เจ้าปากร้ายเกินไปหรือไม่
เฉียวจื่อหลิงกัดฟัน ชะเง้อมองดูรอยแตกเล็กๆ ที่มุมขวาล่างของกระจกทองแดง เอ่ย “แค่นิดเดียวเอง ก็ถือว่าแตกหรือ”
“แค่นิดเดียวก็เป็นรอยแตกไม่ใช่หรือ” ฉินหลิวซีเอ่ยต่อ “ไม่ว่าจะรอยเล็กหรือใหญ่ แตกก็คือแตก”
เจียงเหวินหลิวมองดูกระจกทองแดงอย่างละเอียด กล่าวว่า “พี่หญิงตอนที่ท่านแต่งงานก็มีสินสอดเป็นเครื่องไม้ต้นสาลี่ครบชุด ในนั้นก็มีโต๊ะเครื่องแป้งรวมอยู่ด้วย เหตุใดจึงไม่ใช้”
“พี่เขยเจ้าบอกว่าพวกเราเป็นคู่ข้าวใหม่ปลามัน ซึ่งดอกบัวคู่ก็มีความหมายที่ดีเป็นอย่างมาก ซ้ำไม้จันทน์แดงก็มีค่ามากกว่าไม้สาลี่ บานกระจกก็ชัดเจนกว่า” เจียงเหวินเหยียนเอ่ยพลางจ้องมองเฉียวจื่อหลิง
เจียงเหวินหลิวถามด้วยความสงสัยว่า “ไม่ทราบว่าไยพี่เขยจึงได้ใช้กระจกทองแดงบานนี้ หรือมีใครหวังดีแนะนำพี่เขยมา”
เขาแทบจะกัดฟันเอ่ยคำว่า ‘หวังดี’
“นี่เป็นสิ่งที่ตอนที่เหลียนอียังอยู่ได้บอกว่าดอกบัวคู่นั้นมีความหมายที่ดี ข้าเองก็คิดเช่นนั้น และมันก็มีคุณค่าและสวยงามมากจริงๆ อีกทั้งพึ่งทำขึ้นมาใหม่ยังไม่นาน” เฉียวจื่อหลิงรีบเอ่ยอธิบาย
เมื่อเจียงเหวินเหยียนได้ยินคำกล่าวถึงคนผู้นี้ สีหน้าพลันดูแย่ลง เหลียนอีคือสาวใช้ข้างกายเฉียวจื่อหลิงเมื่อก่อนหน้านี้ เป็นคนที่เกิดในตระกูลนี้ แต่ไม่ได้เป็นสาวใช้ข้างห้อง หลังจากที่พวกเขาแต่งงานกัน เหลียนอีก็ได้แต่งงานกับบ่าวรับใช้ในจวน ตอนนี้ได้เป็นผู้ดูแล ช่วยจัดการร้านเล็กๆ ของพวกเขา มีนิสัยอ่อนโยนเป็นอย่างมาก ซ้ำยังรู้จักกฎเกณฑ์ รู้จักขอบเขต
ฉินหลิวซีได้ชี้ไปยังอ่างกระเบื้องเคลือบขนาดใหญ่ลายปลาคู่แหวกว่ายอยู่ในน้ำบนชั้นวางของ ในนั้นมีปลาสีทองสองตัว กำลังแหวกว่ายอยู่ในอ่าง ซ้ำยังมีดอกบัวหนึ่งดอก
“เลี้ยงปลาในห้องนอนนี้เป็นความคิดของใครอีก สิ่งที่พิถีพิถันที่สุดในห้องนอนคือความอบอุ่น วางอ่างเลี้ยงปลาไว้ที่นี่ เบื่อที่ชีวิตดีเกินไปหรือ ตามหลักการชีวิต สีทองและน้ำนั้นมีความเย็นชื้น การเลี้ยงปลาในห้องนอนไม่เพียงส่งผลต่อฮวงจุ้ย ซ้ำยังทำให้ความสัมพันธ์ของสามีภรรยาค่อยๆ แย่ลง และยังส่งผลต่อร่างกาย เนื่องจากปอดเป็นทอง ไตเป็นน้ำ การวางอ่างปลาไว้ที่นี่จะไม่เป็นการทำให้ปอดและไตเย็นหรอกหรือ หากท่านร่างกายแข็งแรงดีจึงจะเป็นเรื่องมหัศจรรย์”
เจียงเหวินหลิวโกรธมาก จ้องไปยังเฉียวจื่อเหลิงพลางเอ่ย “พี่เขย เกรงว่านี่จะเป็นความคิดของท่านอีกแล้วกระมัง หรือเป็นความคิดของเหลียนอีผู้นั้น”
เฉียวจื่อหลิงหน้าซีดเผือด อ้าปากจะเอ่ยอะไรบางอย่าง เป็นความคิดของเหลียนอีจริงๆ นี่เป็นคำแนะนำของเหลียนอี เขาเห็นว่าเจียงเหวินเหยียนมีอารมณ์หงุดหงิดฉุนเฉียวหลังคลอด คิดว่าน้ำมีความอ่อนโยน เลี้ยงปลาทอง ปลูกดอกบัว ปลาคู่แหวกว่ายภายใต้ดอกบัว ก็ดูมีศิลปะและทำให้ห้องส่วนตัวมีความสดใส จึงนำมาตั้งไว้
เขาไม่ได้คิดว่าทองและน้ำมีความเย็นอะไรเหล่านั้นเลย
“นายหญิงใหญ่ พวกท่านดูสิเจ้าคะ” แม่นมคนสนิทถืออะไรบางอย่างที่รองด้วยผ้าเช็ดหน้ามาให้พวกเขาดูด้วยสีหน้าซีดเซียว
นั่นคือโครงกระดูกสัตว์หรือ