คุณหนูใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า - ตอนที่ 662 สถานที่ที่มีโอกาสรอดชีวิต
ตอนที่ 662 สถานที่ที่มีโอกาสรอดชีวิต
เป็นเวลาบ่ายแล้ว ตู้เหมี่ยนลืมตาตื่นขึ้นมาจากการนอนหลับลึกอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน แสงแดดส่องลงมาจากหน้าต่างแยงตาทำให้เขาค่อยๆ หรี่ตา เขาอยู่ที่ไหน ไม่ใช่รักษาบาดแผลหรือ คนหายไปไหนหมด?
“นายท่าน ท่านตื่นแล้ว” น้ำเสียงยินดีของหว่าซงลอยเข้ามาในหู
ตู้เหมี่ยนมองกลับไป กำลังจะลุกขึ้นแต่กลับร้องออกมาเสียงดังแล้วสูดหายใจเอาอากาศเย็นเข้าไปหลายครั้ง ยื่นมือจะไปคลำโดยไม่รู้ตัว
“ท่านอย่าขยับขอรับ” หว่าซงก้าวพรวดเข้าไปหาอย่างรวดเร็ว “ท่านเจ้าอาวาสน้อยบอกเอาไว้แล้ว เมื่อยานอนหลับอะไรนั่นหมดฤทธิ์ ท่านจะกลับมาเจ็บเหมือนเดิม ต้องนอนพักอย่างสงบ อย่าลุกไปไหน
ตู้เหมี่ยนเจ็บจนกัดฟันแน่น เขาหันไปมองมือซ้ายที่ไม่มีแรงแม้แต่น้อย ทั้งยังใช้แผ่นไม้พันเอาไว้ อดรู้สึกตื่นตระหนกไม่ได้ “นี่เสร็จเรื่องแล้วใช่หรือไม่”
“แน่นอนว่าการรักษาเสร็จเรียบร้อยแล้ว” ฉินหลิวซีเดินเข้ามาจากด้านนอก นางเอ่ยกับหว่าซงว่า “ไปยกน้ำแกงเนื้อมาให้เขาดื่มเพิ่มกำลังสักหน่อย”
“ขอรับ”
“ท่านเจ้าอาวาสน้อย เหตุใดการรักษาเสร็จเรียบร้อยแล้วแต่ข้าไม่รู้อะไรเลย?” ตู้เหมี่ยนเอ่ยด้วยเสียงแหบแห้ง นอกจากร่างกายที่เจ็บปวดอย่างที่สุด เขานึกไม่ออกเลยว่าผ่านอะไรมาบ้าง
ฉินหลิวซียิ้มบางๆ “ให้ท่านรู้ตัว กลัวว่าท่านจะเจ็บจนเป็นลมไป ไม่ตื่นมานั่นแหละดีแล้ว ดังนั้นจึงให้ดื่มยานอนหลับทำให้หลับลึกชั่วคราว ไม่มีความรู้สึกเจ็บปวด สะดวกแก่การลงมีด จนถึงตอนนี้บาดแผลบนตัวท่านได้รับการรักษาเรียบร้อยแล้ว ในวันต่อๆ ไปให้ดื่มยาตามใบสั่ง พักผ่อนอย่างสงบ แผลบนร่างกายก็จะค่อยๆ ดีขึ้น เพียงแต่มือซ้ายของท่าน จะให้หายดีต้องใช้เวลาสักหน่อย”
ตู้เหมี่ยนตกใจ “มือข้างนี้ของข้าเอ็นขาดไปแล้ว ยังสามารถหายเป็นปกติได้หรือไม่”
“อืม ข้าช่วยท่านเย็บเชื่อมเอ็นติดกันแล้ว แต่เพราะว่ามันขาดไปจะให้กลับมาเป็นเหมือนเมื่อก่อน ต้องอยู่ที่ตัวท่านว่าสามารถฟื้นฟูร่างกายได้แค่ไหน แต่ถึงอย่างไรก็ไม่รวดเร็วเท่ากับบาดแผลอื่นๆ บนตัวท่าน”
ตู้เหมี่ยนตกใจยิ่งนัก เขาเตรียมทำใจเอาไว้แล้วว่าจะต้องสูญเสียมือซ้าย แต่ฉินหลิวซีกลับบอกว่ายังสามารถหายเป็นปกติได้งั้นหรือ เขานิ่งไป จ้องมองมือที่ถูกไม้กระดานประกบไว้ ในใจเกิดความรู้สึกที่ไม่สามารถบรรยายออกมาได้ถูก
“เจ้าอาวาสน้อยเป็นหมอเทวดาที่เก่งที่สุดจริงๆ ได้พบกับท่านเป็นโชคดีมหาศาลของคนแซ่ตู้” ตู้เหมี่ยนมองฉินหลิวซีพลางเอ่ย “ชีวิตนี้ข้าได้ท่านช่วยกลับมา สำหรับข้าท่านเป็นเหมือนพ่อแม่ที่ให้กำเนิดข้าอีกครั้ง คำขอบคุณเท่าไหร่ก็ไม่เพียงพอ จากนี้ไปหากท่านมีคำสั่ง อาเหมี่ยนคนนี้ไม่กล้าไม่ทำให้”
ฉินหลิวซีรีบเอ่ย “ขอบคุณเท่านี้ก็เพียงพอ ข้าเองไม่กล้าเป็นบิดามารดาของท่าน ข้าเป็นหมอรักษาคน ใช้แรงใจแรงกาย ขอเพียงท่านจ่ายค่ารักษาให้ครบถ้วนก็พอ”
เป็นบิดามารดา ไม่ใช่เป็นข้ออ้างให้เขาพึ่งพา เป็นพ่อแม่ให้ไปจนโตหรอกหรือ!
“อ้า?” ตู้เหมี่ยนตกใจ
ฉินหลิวซีขมวดคื้ว “หรือว่าท่านคิดจะเบี้ยว ไม่จ่าย?”
“ไม่ใช่อย่างแน่นอน” ตู้เหมี่ยนรีบอธิบาย “ค่ารักษาต้องให้ท่านอย่างแน่นอน แต่ความรู้สึกซาบซึ้งในบุญคุณข้าต้องจดจำไว้ ท่านวางใจเถิด”
“อืม อารามชิงผิงที่สง่างามของพวกเรายังขาดอีกหลายส่วน ท่านก็บริจาคสักครึ่งของศาลเย่าหวังเพื่อเป็นทุนก็แล้วกัน” ฉินหลิวซีรีบเอ่ย
“ครึ่งศาลหรือ ทำไมต้องครึ่งหนึ่ง เพียงอารามสวยๆ หลังหนึ่งเท่านั้น ข้าผู้สืบทอดเฉาปังบริจาคไหว ข้าบริจาคหลังหนึ่ง แล้วยังจุดตะเกียงนิรันดร์ด้านในให้ด้วยก็ยังได้” อารามหลังหนึ่งจะเสียเงินสักเท่าไหร่ ต้องสร้างให้ใหญ่โตสักหน่อย จะได้ดูยิ่งใหญ่
ฉินหลิวซีหน้าบาน “ขอเทียนจวินอำนวยพรมายังท่าน แน่นอนว่าย่อมได้” ผู้นับถือเลื่อมใสในลัทธิเต๋าเช่นคนผู้นี้ยิ่งมีมากยิ่งดี
หว่าซงประคองถ้วยน้ำแกงเข้ามาในห้อง ฉินหลิวซีมองแล้วเอ่ยขึ้น “หากต้องการฟื้นตัวให้เร็ว ให้ดื่มน้ำแกงที่ต้มจากเนื้อไม่ติดมันให้มากหน่อย กินปลา กุ้ง ไก่ ไข่สักหน่อย มีประโยชน์ต่อการสมานแผล อีกอย่างยาที่เคยให้ไปก่อนหน้านี้ต้องกินอย่างต่อเนื่อง บำรุงร่างกายฟื้นฟูกำลังภายในได้เป็นอย่างดี ยาจากใบสั่งที่เขียนให้ต้องกินตามเวลา ทั้งหมดนี้ช่วยดูแลรักษาห้าอวัยวะหยินและหกอวัยวะหยาง[1]ที่อ่อนแอของท่านได้ เมื่อหยินหยางสมดุลแน่นอนว่าระบบเลือดไหลเวียนดี อวัยวะหยินทั้งห้าและอวัยวะหยางทั้งหกย่อมทำงานเป็นปกติ ยังมีอีกเรื่องคือต้องรักษาใจให้สงบร่มเย็น อย่าให้จิตใจกระทบกระเทือนมากเกินไป”
ตู้เหมี่ยนพยักหน้าแล้วพยักหน้าอีก “รอให้เดินเหินได้เป็นปกติ คนแซ่ตู้จะต้องไปอารามชิงผิงจุดธูปเทียน จุดตะเกียงตามสัญญา”
ฉินหลิวซียินดี นางยังเอ่ยอีกสองสามประโยค นัดหมายว่าจะมาฝังเข็มให้อีกในวันรุ่งขึ้น จากนั้นจึงกล่าวอำลาจากไป
ขณะที่ตู้เหมี่ยนได้รับการดูแลป้อนน้ำแกง เขาถามหว่าซงถึงขั้นตอนการใช้มีดผ่าตัดในครั้งนี้
หว่าซงตัวสั่น “นายท่าน ท่านอย่าถามจะดีกว่าขอรับ”
“ข้าให้เจ้าเอ่ยออกมา” ตู้เหมี่ยนกดเสียงเอ่ย “ร่างกายข้าถูกฟันติดๆ กันหลายสิบแผล ยังฟังเรื่องนี้ไม่ได้อีกหรื”
หว่าซงเห็นเขายืนยัน จึงเอ่ยออกไปว่า “นายท่าน ท่านเจ้าอาวาสน้อยอายุยังน้อย แต่เป็นหมอเทวดาจริงๆ ท่านสลบไปไม่รู้เรื่อง นางลงมืออย่างแม่นยำและว่องไว ไม่ลังเลแม้แต่น้อย เหมือนกับว่าตัดเนื้อหมูอย่างไรอย่างนั้น นางขูดเอาเนื้อตายออกจนหมด ตัดเนื้อออกแล้วใช้วิธีการเย็บปักเย็บแผลที่ยาวให้ติดกันเหมือนเย็บเสื้อผ้า…!”
ตู้เหมี่ยน “!”
อย่าฟังอีกเลย ร่างกายจิตใจยังอ่อนแอ เรื่องนี้ช่างเลวร้ายนัก
…
เฟยฉางเต๋า
เมื่อเฉวียนจิ่งเดินทางมาถึงก็ยังคงไม่พบ เพราะฉินหลิวซีรับงานออกไปตรวจรักษาข้างนอก นางออกไปรักษาคนป่วยแล้ว ดังนั้นจึงต้องรอต่อไป
แต่การรอไม่สูญเปล่า เฉินผีเห็นท่าทางเฉวียนจิ่งอ่อนแอเช่นนั้น จึงจัดให้เขาเข้าไปนั่งพักในห้องเต๋า จนถึงตอนนี้เขาคอยมาสามชั่วยามแล้ว
เฉวียนจิ่งอยู่อย่างเป็นสุข ในขณะที่หว่านไป๋ที่เดินทางมาด้วยกลับแสดงออกว่าไม่พอใจในการรอคอยถึงสามครั้ง เฉินผีสุดที่จะทนได้เขาจึงเดินออกไปในที่สุด
จะรอไม่รอ มาอวดเบ่งที่นี่ให้ใครดูกัน
หว่านไป๋นั่งหน้าบึ้งอยู่ที่หน้าประตู นางไม่ไป อยากจะดูว่าคนคนนั้นหน้าตาเป็นอย่างไร
หวังอวี้เชียนเอ่ยกับเฉวียนจิ่งว่า “หว่านไป๋ผู้นี้ขี้โมโหรุนแรง ข้าคิดว่าท่านให้นางกลับไปรอที่ที่พักจะดีกว่า อย่าให้นางเผชิญหน้ากับน้องสาวข้าเลย ไม่อย่างนั้นนางอาจทำเสียเรื่องได้”
เฉวียนจิ่งลืมตา มองเขาพลางเอ่ย “ท่านพบน้องสาวท่านเพียงครั้งเดียว เหตุใดจึงเกรงนางถึงเพียงนี้”
“ไม่ใช่ข้าเกรงนาง แต่อารมณ์นางร้อนแรงกว่าหว่านไป๋มาก หากล่วงเกินนางเข้า แม้นางรักษาได้ก็จะไม่รักษาให้ท่าน ท่านลำบากลำบนมาเสียเที่ยวอีกไม่ใช่หรือ” หวังอวี้เชียนเอ่ยต่อ “ท่านเดินทางไกลเป็นพันลี้มาขอรับการรักษา มาเสียเปล่าอาจจะไม่ดีนัก แล้วยังหว่านไป๋ผู้นี้ อารมณ์ร้อนไม่นับ แต่ข้าเห็นนางปฏิบัติกับท่าน เกรงว่ามีความนัยอื่น ท่าทางวางตัวเป็นเจ้านายโดยพลการ ใครไม่รู้ต้องนึกว่าเป็นคนรู้ใจของท่าน”
เฉวียนจิ่งขมวดคิ้ว
“ข้าพูดจาไม่น่าฟังท่านอย่าถือสา ข้าเพียงเตือนท่านสักหน่อยเท่านั้น น้องสาวข้านิสัยใจคอไม่อาจกล่าวได้ว่าเป็นคนอ่อนโยน แม้ท่านอาหญิงของข้าก็เตือนมาแล้วครั้งหนึ่ง หากต้องการขอรับการรักษา อย่าได้มีทิฐิ ต้องแสดงให้เห็นว่าต้องการขอความช่วยเหลือ ท่านลองคิดให้ดีเถิด”
คำพูดของหวังอวี้เชียนเพิ่งหลุดออกจากปาก ก็ได้ยินเสียงโหวกเหวกฟังไม่ชัดจากด้านนอก สองคนสบตากันทันที
“คุณชาย ไต้ซือท่านนั้นกลับมาแล้ว” คนคุ้มกันรายงานที่หน้าประตูห้องฝึกตน
หวังอวี้เชียนรีบประคองเขาขึ้นมา เฉวียนจิ่งนั่งอยู่นานจนนึกว่าตัวเองขาชาหน้ามืดตาลาย แต่กลับไม่เป็นเช่นนั้น
นั่งอยู่สามชั่วยาม เขาไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อย แต่กลับรู้สึกจิตใจเบาสบายกว่าแต่ก่อนเล็กน้อย มีแรงกำลังมากพอ เฉวียนจิ่งตกใจเล็กน้อย ขยับตัวไปมาโดยไม่ตั้งใจ ความรู้สึกหนักอึ้งหลังจากถูกพิษ ตอนนี้เหมือนว่าสลายไปแล้วครึ่งหนึ่ง เขาอดไม่ได้มองไปรอบๆ ห้องฝึกตนเล็กๆ นี้ ในใจคิดว่าที่แห่งนี้มีพลังลึกลับอะไรอยู่อย่างนั้นหรือ”
“เดินไปทางทิศใต้ ที่นั่นอย่างน้อยยังมีโอกาสรอดชีวิต” ความลับสวรรค์ที่นักพรตจิ่วเหมยเปิดเผยดังขึ้นที่ข้างหู หรือว่าที่นี่มีโอกาสรอดชีวิตอยู่จริงๆ?
[1] อวัยวะภายในจำแนกตามการทำหน้าที่เป็นอวัยวะตันทั้ง 5(五脏)ได้แก่ หัวใจ ปอด ม้าม ตับ ไต เป็นยิน เพราะทำหน้าที่เก็บสะสมสารจำเป็น (หยุดนิ่ง) และอวัยวะกลวงทั้ง 6 (六腑)ได้แก่ ถุงน้ำดี กระเพาะอาหาร ลำไส้ใหญ่ ลำไส้เล็ก กระเพาะปัสสาวะ ซานเจียว เป็นหยาง เพราะทำหน้าที่ย่อย ระบาย ขับถ่าย (มีการเคลื่อนไหว)