คุณหนูใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า - ตอนที่ 674 หวงเซียน ‘พวกเรารู้จักการโอ้อวด’
ตอนที่ 674 หวงเซียน ‘พวกเรารู้จักการโอ้อวด’
หลังจากทำการฝังเข็มให้ตู้เหมี่ยนและเฉวียนจิ่งตามลำดับแล้ว ฉินหลิวซีก็เข้าใจถึงความสามารถในการฟื้นตัวทางกายภาพของทั้งสองคนมากขึ้น
อาการของตู้เหมี่ยนเกิดจากการรักษาบาดแผลที่ไม่เหมาะสมทำให้เกิดแผลเน่า กัดกินพลังชีวิตทีละน้อย เป็นการทำให้ร่างกายอ่อนแอลงอย่างช้าๆ
ส่วนเฉวียนจิ่งกลับเป็นพิษที่ร้ายแรง ทั้งรวดเร็วและรุนแรง เนื่องจากเป็นพิษ ทำให้อวัยวะภายในทั้งหมดในร่างกายของเขาได้รับความเสียหาย พลังชีวิตจึงถูกทำลาย
ดังนั้นบาดแผลของตู้เหมี่ยนได้รับการรักษาดีแล้ว และใช้ยาที่ดีทั้งนั้น ทั้งเขายังเป็นผู้ร่ำเรียนวรยุทธ์ ตราบใดที่พักผ่อนได้ดีก็จะฟื้นตัวเร็วกว่าเฉวียนจิ่ง
ร่างกายของเฉวียนจิ่ง เหมือนกับก้อนสำลีอ่อนนุ่มบางเบา ไม่แข็งแรง
เป็นปัญหานัก
ร่างกายนี้ต้องทนรับพิษที่รุนแรงกว่าพิษร้ายแรงอย่างอัคคีเยือกน้ำแข็ง แม้ว่าจะรอดมาได้ก็ต้องพักฟื้นเป็นเวลานาน ไม่ต้องเอ่ยถึงว่าจะรอดมาได้หรือไม่
ฉินหลิวซีเอ่ยกับเฉวียนจิ่งว่า “ข้ากะว่าจะไปหาแมงป่องทองทะเลทรายที่ทะเลทรายดำมายับยั้งอัคคีเยือกแข็งกร่อนกระดูกนี้ แมงป่องทองขึ้นชื่อว่าเป็นราชาแห่งทะเลทราย พิษร้ายแรงไร้เทียมทาน แม้ว่าจะกลั่นออกมาได้ แต่ด้วยร่างกายของเจ้าในตอนนี้เกรงว่าจะรับไม่ไหว ยังต้องบำรุงให้แข็งแรงขึ้นอีกสักหน่อย”
“ตำรับปรุงยาและยาลูกกลอนที่ท่านเขียนให้ ข้าจะกินให้ตรงเวลา” เฉวียนจิ่งเอ่ยตอบ
ฉินหลิวซีพยักหน้า เอ่ย “นอกจากยาแล้ว ยังมีผลไม้บางชนิดที่ดีต่อร่างกาย เจ้าต้องการหรือไม่”
เฉวียนจิ่งประหลาดใจ “ผลไม้?”
“ไม่ใช่ผลไม้ที่หาได้ทั่วไป นับว่าเป็นผลไม้ป่า หาได้ยาก ดังนั้นจึงราคาสูง” ฉินหลิวซีหยุดไปครู่หนึ่ง เอ่ยว่า “เอ่ยง่ายๆ ก็คือ ล้วนเป็นผลไม้แปลกๆ ทั้งสิ้น”
“ซื้อ ไม่ว่าจะแพงแค่ไหน ตราบใดที่ดีต่อคุณชายของข้า แพงแค่ไหนก็เอา เงินไม่ใช่ปัญหา” เฉวียนอันชิงตอบก่อนโดยไม่รอให้เฉวียนจิ่งตอบ
สถานะครอบครัวของแม่ทัพธรรมดาทั่วไปอาจจะแย่เล็กน้อย แต่สำหรับตระกูลเฉวียนซึ่งเป็นผู้มีอำนาจในซีเป่ยแล้ว เงินไม่ได้มีค่าอะไรมากมาย เงินมากมายแค่ไหนก็เทียบกับชีวิตของเฉวียนจิ่งไม่ได้
ตระกูลเฉวียนไม่ขาดเงิน
น้ำเสียงของเฉวียนอันทำให้ฉินหลิวซีนึกถึงเย่ว์ติ้งที่จากไปแล้ว ตระกูลตงหยางโหวก็มาจากกองทัพเช่นกัน และไม่ขาดแคลนเงิน
แต่ซ่งเย่ว์ที่เป็นแม่ทัพเช่นกันกลับไม่สู้พวกเขา นี่คือสิ่งที่บรรพบุรุษของตระกูลสั่งสมมา สำหรับคนอย่างตระกูลเฉวียนกับตระกูลเย่ว์ที่ก่อสร้างตระกูลโดยการเข้ารับราชการทหาร ความมั่งคั่งที่พวกเขาสะสมมาจนถึงทุกวันนี้ ไหนเลยจะไม่ได้แลกมาด้วยพรของบรรพบุรุษกับเลือดเนื้อของคนในตระกูล
มีอำนาจและความมั่งคั่งแล้ว แต่กลับต้องแลกกับจำนวนคนในตระกูลที่เบาบาง ตระกูลตงหยางโหวก็เป็นเช่นนี้ แต่ตระกูลเฉวียนดีกว่าตระกูลของพวกเขาอยู่บ้าง ตอนนี้แม่ทัพเฉวียนผู้เฒ่าได้แต่งภรรยาเข้ามาสองคนแล้ว ยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึงการรับอนุ หลังจากพยายามอย่างหนัก ก็มีบุตรชายเพิ่มขึ้นมา แต่ต้นกล้าของบ้านใหญ่ก็เหลือเพียงเฉวียนจิ่งเพียงคนเดียวแล้ว
ดังนั้นจึงเอ่ยได้ว่าสวรรค์ยุติธรรมเสมอ ประทานสิ่งใดแก่เจ้า ในทางกลับกันก็จะเอาบางสิ่งไปด้วย
“ตกลง เช่นนั้นข้าจะให้คนส่งมาให้” ฉินหลิวซีให้เฉวียนจิ่งนั่งสมาธิในห้องเต๋า ส่วนนางก็ไปหาเว่ยเสีย มอบจดหมายที่ลงคาถาให้ “นำสารไปส่งให้กับหวงเซียนตัวหนึ่ง ให้พวกเขาส่งผลหลิงกั่วมา ราคาตามแต่พวกเขาจะเรียก”
อย่างไรเสียตระกูลเฉวียนก็ไม่ขาดเงิน ดังนั้นก็ให้พวกมันได้ทำเงินจากสิ่งนี้
เว่ยเสีย “เดี๋ยวนะ ข้าเป็นเถ้าแก่ใหญ่ไม่ใช่หรือ เหตุใดจึงกลายเป็นเด็กวิ่งทำธุระไปเสียได้”
มีเถ้าแก่ใหญ่คนไหนที่วิ่งธุระด้วยตัวเองด้วยหรือ
ฉินหลิวซีเหลือบมองเขา “เถ้าแก่ใหญ่ก็กินอาหารด้วยไม่ใช่หรือ ในเมื่อกินก็ต้องทำงาน อย่าพูดมาก รีบไปเดี๋ยวนี้”
“รู้จักแต่เรียกใช้ข้า…” เสียงบ่นของเว่ยเสียเปลี่ยนไปภายใต้สายตาของฉินหลิวซี “เอ่อ วันนี้อากาศดีจริงๆ ข้ากำลังอยากออกไปเดินเล่น เฉินผี วั่นเช่อ พวกเจ้าเฝ้าร้าน พี่ชายจะออกไปข้างนอกสักหน่อย”
หลังจากที่เขาเอ่ยจบก็หมุนตัวหายไปในอากาศ
แม้ว่าเฉินผีและคนอื่นจะรู้ที่มาของเว่ยเสีย แต่เมื่อวั่นเช่อเห็นสถานการณ์เช่นนี้ก็ยังคงรู้สึกตื่นตระหนกอยู่เล็กน้อย
เสวียนเหมินนี้ได้เปิดโลกกว้างของเขาแล้วจริงๆ ไม่ว่าอะไรก็ได้เห็นทุกอย่าง
พวกเขาไม่กลัว แต่เฉวียนอันที่พึ่งแง้มประตูเล็กน้อยต้องการจะเดินออกมาได้เห็นภาพที่เว่ยเสียหายตัวไป กะพริบตาปริบๆ ขยี้ตาอย่างบ้าคลั่ง หยิกที่เอวของตัวเองอย่างแรง
เขาฝันไปหรือนี่
เหตุใดจู่ๆ เถ้าแก่ใหญ่ผู้นั้นจึงได้หายตัวไป
ซี๊ด เจ็บมาก
ไม่ใช่ความฝัน เช่นนั้นก็หมายความว่าคนเป็นๆ หายตัวไปต่อหน้าต่อตาเขาจริงๆ
เฉวียนอันทรุดนั่งลงกับพื้น สีหน้าซีดขาว
“เจ้าเป็นอะไรไป” เฉวียนจิ่งลืมตาขึ้นมา เมื่อเห็นท่าทีสูญเสียการควบคุมของเขาก็มึนงงเล็กน้อย
เฉวียนอันเอ่ยอย่างสั่นเครือว่า “คุณ คุณชาย เกรงว่าเถ้าแก่ใหญ่ร้านนี้จะไม่ใช่คน ข้าเห็นผี”
เฉวียนจิ่ง “?”
“จริงๆ นะขอรับ ข้าน้อยพึ่งเห็นเขาหายไปในอากาศ แวบเดียวก็ไม่เห็นแล้ว”
เฉวียนจิ่งเงียบไปสักพักใหญ่ เอ่ย “ช่วงนี้ลำบากเจ้าแล้ว วันนี้เจ้าไม่ต้องปรนนิบัติอยู่ข้างกายข้าแล้ว ให้เฉวียนหมิงมาแทน เจ้ากลับไปพักผ่อนสักวันเถิด”
เป็นเวลากว่าหนึ่งปีแล้วที่ต้องมาปรนนิบัติคนพิการครึ่งหนึ่งอย่างเขา นับว่าเหนื่อยมากจริงๆ
เฉวียนอันกรีดร้องในใจ ‘ข้ากำลังพูดความจริง เหตุใดท่านจึงไม่เชื่อ’
เว่ยเสียออกไปเป็นเวลานานแล้วก็ยังไม่เห็นกลับมาสักที กลับมีชายวัยกลางคนอายุสี่สิบกว่าปีมีใบหน้ากลมจูงมือเด็กน้อยคนหนึ่งมาปรากฏตัวที่หน้าประตูร้านเฟยฉางเต๋าเสียก่อน
ฉินหลิวซีมองดู ให้เฉินผีต้อนรับเขาเข้ามา
เมื่อชายวัยกลางคนเห็นฉินหลิวซีก็ก้าวไปข้างหน้าเล็กน้อย ยกมือขึ้นคำนับ “ข้าน้อยหวงซื่อคำนับท่านเจ้าอาวาสน้อย”
จากนั้นก็สะกิดเด็กน้อยที่อยู่ข้างๆ เอ่ย “รีบโขกศีรษะทำความเคารพท่านเจ้าอาวาสน้อยเร็วเข้า”
เด็กชายซึ่งอายุเพียงเจ็ดแปดขวบคุกเข่าลง โขกศีรษะคำนับสามทีอย่างซื่อสัตย์ เสียงดังราวกับระฆัง “หวงสิบเก้าคำนับท่านเจ้าอาวาสน้อย”
“ไม่จำเป็นต้องพิธีรีตองขนาดนี้” ฉินหลิวซียิ้มพลางเอ่ย “พวกเจ้ามาเร็วเสียจริง”
แขกมาแล้ว แต่เถ้าแก่ใหญ่ยังไม่กลับมา ต้องไปแอบขี้เกียจอยู่ที่ไหนสักแห่งเป็นแน่
หวงซื่อฉีกยิ้มพลางเอ่ย “ได้ยินว่าท่านเรียกพบ ไม่อาจรอช้า ปู่ทวดรองเผ่าของพวกเราได้บอกไว้แล้วว่าหากท่านเรียกพบ ไม่ว่าเรื่องใดก็ต้องวางไว้ก่อนแล้วรีบไปพบท่าน”
“เกรงใจแล้ว นำของมาด้วยหรือไม่”
หวงซื่อรีบปลดถุงผ้าที่แบกอยู่แล้วเปิดออก หยิบมาหนึ่งกล่องยื่นให้ไปก่อน “มาพบท่านเจ้าอาวาสน้อยครั้งแรก นี่คือของขวัญการพบกันที่พวกเรามอบให้ท่าน”
ฉินหลิวซีเปิดดู เป็นกล่องถังเช่าชั้นดี ที่มีอยู่ในตลาดก็ยังเทียบมันไม่ได้
ทั้งกล่องนี้มีมูลค่ามากกว่าพันตำลึงทอง
“ไม่จำเป็นต้องมอบของขวัญล้ำค่าเพียงนี้ ที่ข้าให้พวกเจ้านำของมาให้เพราะมีแขกต้องการพอดี ของเหล่านี้พวกเจ้าเก็บไว้เองเถิด ในเผ่ามีคนมาก ย่อมมีเรื่องต้องให้ใช้เงินมาก” ฉินหลิวซีดันกลับไป
เมื่อหวงซื่อได้ยินนางบอกว่าในเผ่าของตัวเองมีคนมาก ใบหน้ากลมก็ฉีกยิ้มไปจนถึงดวงตา เผ่าหวงเซียนของพวกมันต้องอาศัยโอกาสและโชคในการขอเลื่อนขั้นจึงกลายร่างเป็นคนได้ แต่ฉินหลิวซีกลับเรียกพวกมันว่าคน จะไม่ให้มีความสุขได้อย่างไร
ตอนนี้เมื่อเห็นว่าฉินหลิวซีไม่รับก็ร้อนใจ “หรือว่าคิดว่าของเหล่านี้ของพวกเรามีหน้ามีตาไม่พอหรือไม่ เป็นเรื่องจริงที่ถังเช่ามีเกลื่อนกลาดเต็มถนน แต่ในเผ่าของพวกเราตอนนี้มีแต่ของพวกนี้ ซ้ำยังมาอย่างเร่งรีบ จึงไม่ได้กลับเผ่าไปเอาของที่ดีกว่านี้มา หากท่านชอบของโบราณ คราวหน้าข้าจะนำมาด้วย ในเผ่าก็พอมีของเก่าอยู่บ้าง”
เผ่าหวงเซียนหาเลี้ยงชีพอยู่ในหุบเขาใหญ่ มีสมบัติล้ำค่าชนิดใดบ้างที่ขุดออกมาไม่ได้
เฉวียนอันที่วั่นเช่อเดินนำออกมาเตรียมจะชำระเงินได้ยินคำพูดเหล่านี้เข้า หันไปมองโดยไม่รู้ตัว ของอะไรที่มีเกลื่อนกลาดเต็มถนน
อ้อ ถังเช่า ไม่ใช่ว่าเขาไม่รู้จัก แต่ของชั้นดีเช่นนี้ อีกฝ่ายกลับบอกว่ามีเกลื่อนกลาดเต็มถนน?
เฉวียนอันมองไปยังหวงซื่อ ปากแหลมดวงตาเล็ก สวมชุดสีเหลืองทั้งตัว รูปร่างหน้าตาธรรมดาเช่นนี้ แต่สิ่งที่ออกมาจากปากเขาคำไหนๆ ก็ฟังเป็นการโอ้อวด
ใต้หล้าเปลี่ยนไปแล้วหรือ คนไม่รู้จักถ่อมตนแล้วหรือ