คุณหนูใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า - ตอนที่ 771 จะรักษาหรือไม่ นางไม่ได้เดือดร้อน
ตอนที่ 771 จะรักษาหรือไม่ นางไม่ได้เดือดร้อน
เมื่อฉินหลิวซีและคนอื่นๆ เข้าไปในบ้านร้างที่นายพรานทิ้งไว้ ฝนก็เทลงมาราวกับฟ้ารั่ว ทุกคนต่างก็เปียกเล็กน้อย
ฉินหลิวซีไม่เป็นอะไร ทันทีที่คิดขึ้นมาได้ ไฟนรกก็ได้แผ่ไอร้อนออกมา ไอน้ำปกคลุมนางทั้งตัว สง่างามราวกับเซียน ทำเอาบ่าวรับใช้น้อยนามว่ามู่เหนียนที่อยู่ข้างผู้เฒ่าอวี๋ตกตะลึง
จะเลื่อนขั้นเป็นเซียนหรือ
ฮัดชิ้ว
ผู้เฒ่าอวี๋อายุมากแล้ว ตอนนี้ก็ได้เข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วงแล้ว เมื่อฝนตกลงมาทำให้ไอเย็นแผ่เข้าสู่ร่างกาย ใบหน้าของเขาซีดลงไม่น้อย
มู่เหนียนไม่กล้าจ้องมองฉินหลิวซีอีก รีบหาไปไม้แห้งมาทำฟืนก่อไฟในบ้านไม้ร้างแห่งนี้
ไม่นานเสื้อผ้าของฉินหลิวซีก็แห้งสนิท กระทั่งผิงเสื้อผ้าให้ลูกศิษย์ทั้งสองของตัวเองกับฉินเสี่ยวอู่ อาจารย์และลูกศิษย์สบายตัว ราวกับไม่ได้เปียกฝนมาก่อน
ผู้เฒ่าอวี๋มองด้วยความประหลาดใจ ฉินหลิวซีเดินมาหา เอ่ยขึ้นว่า “ฝนฤดูไม้ใบร่วงตกหนึ่งครั้งก็หนาวหนึ่งครั้ง ท่านอายุมากแล้วรับไม่ไหว ให้ข้าช่วยผิงเสื้อผ้าให้ท่านหรือไม่”
“เช่นนั้นก็รบกวนเจ้าแล้ว”
ผู้เฒ่าอวี๋กระตือรือร้นที่จะลองดู ความจริงแล้วเขาก็เพียงอยากรู้อยากเห็นเท่านั้น
ฉินหลิวซีวางมือลงบนหลังของเขา ความอบอุ่นจากฝ่ามือแพร่กระจายไปทั่วร่างกาย ร้อนเป็นอย่างมาก ราวกับไฟย่าง แต่ไม่ได้รู้สึกเจ็บปวดเหมือนถูกไฟเผา
ช่างเป็นทักษะที่น่าทึ่ง!
เมื่อคนขับรถที่เป็นองครักษ์นามว่ามู่ซินกับคนขับรถตระกูลจงนามว่าจงจิ่วผู้นั้นหอบกองฟืนเข้ามา ผู้เฒ่าอวี๋ก็ตัวแห้งแล้ว
มู่เหยียนกลับมาพร้อมกิ่งไม้เล็กๆ เมื่อเห็นภาพนี้ก็ตกใจเล็กน้อย ยิ่งอยากรู้มากกว่าเดิม
มู่ซินก็ประหลาดใจเช่นกัน ระยะทางจากที่จอดรถม้ามาจนถึงบ้านหลังนี้ต้องใช้เวลาเดินระยะหนึ่ง เสื้อผ้าจะต้องเปียกแน่นอน แต่พวกเขาไม่เปียกหรือ
ผู้เฒ่าอวี๋รู้สึกอบอุ่นไปทั่วร่างกาย ยกมือขึ้นคำนับฉินหลิวซีพลางเอ่ย “ท่านเจ้าอาวาสน้อยเก่งกาจยิ่ง หรือว่านี่เป็นวิชาลัทธิเต๋าของพวกเจ้า”
“ประมาณนั้น แค่ทักษะเล็กๆ น้อยๆ ไม่ควรค่าให้กล่าวถึง” ฉินหลิวซียิ้ม
ผู้เฒ่าอวี๋ส่ายหน้า “นี่ไม่ใช่แค่ทักษะเล็กๆ น้อยๆ แล้ว คนธรรมดาอย่างข้า ซ้ำยังเป็นคนแก่พิการเช่นนี้ หลังจากโดนฝน แม้ว่าจะก่อไฟแล้ว ความหนาวเย็นก็ยังโจมตีร่างกาย บางครั้งเพียงแค่ไข้หวัดก็แทบจะเอาชีวิตไปแล้ว วิชานี้ของเจ้า ต่อให้เจอฝนแรงแค่ไหนก็ไม่กลัวแล้ว”
เมื่อก่อไฟขึ้น ฉินหลิวซีก็ให้เถิงเจาและคนอื่นๆ มานั่งหน้ากองไฟ แล้วหยิบเสบียงอาหารแห้งและของว่างที่จงจิ้นซื่อเตรียมไว้สำหรับกินระหว่างทางมาให้พวกเขารองท้อง
ผู้เฒ่าอวี๋ถือแป้งย่างที่ฉินหลิวซีแบ่งให้มองอยู่ด้านข้าง ยิ้มพลางเอ่ย “แม้ว่าเจ้าจะเป็นเพียงเด็ก แต่กลับมีความรับผิดชอบของการเป็นอาจารย์”
นางดูแลเด็กน้อยเหล่านี้เป็นอย่างดี
ฉินหลิวซียิ้มอย่างภาคภูมิใจ “คนของข้าย่อมต้องปกป้องเป็นอย่างดี ท่านรองท้องกำจัดความหนาวไปก่อน อีกสักครู่ข้าจะจับชีพจรให้ท่าน อาการปวดเอวรุนแรงอยู่กระมัง”
ผู้เฒ่าอวี๋ลูบบริเวณเอวที่ปวดเมื่อย เอ่ยตอบ “เป็นอาการป่วยเรื้อรังแล้ว”
เขาดื่มน้ำที่บ่าวรับใช้น้อยยื่นให้แล้วกัดแป้งย่างไปหนึ่งคำ เคี้ยวสองสามคำแล้วกลืน เอ่ย “ตอนยังเด็กเคยถูกม้าเหยียบเอว รักษามาเป็นเวลานาน ตอนนั้นไม่ได้มีวิธีการดูแลรักษาที่ดี ต่อมาก็นับว่าดีขึ้นแล้ว แต่อย่างไรรากฐานของร่างกายก็เสียหายไปแล้ว กลายเป็นบ่อเกิดโรค เมื่อเปลี่ยนฤดูก็จะรู้สึกปวด หากถูกกระแทกจากแรงภายนอกก็ยิ่งไม่ต้องพูดถึง แต่ก็ชินเสียแล้ว”
“ก่อนหน้านี้ข้าจับชีพจรดูแล้ว ดูเหมือนท่านจะมีอาการเลือดอุดตันเส้นลมปราณ คาดว่าเกิดจากการได้รับบาดเจ็บภายนอก เจ็บปวดจากการเปลี่ยนแปลงฤดู เนื่องจากอากาศเย็นทำให้เกิดการอุดตันกลายเป็นโรคไขข้ออักเสบ” ฉินหลิวซีเอ่ย
ผู้เฒ่าอวี๋เอ่ยด้วยความอยากรู้ว่า “แต่ตอนที่เจ้าเสกอาคมเมื่อครู่นี้ ร่างกายก็รู้สึกอบอุ่น ไม่ได้รู้สึกปวดมากนัก นี่คือวิชาอะไรหรือ รักษาโรคได้หรือไม่”
ฉินหลิวซีหัวเราะ “จะบอกว่ารักษาได้ก็คงจะได้อยู่ เรียกว่าไฟบำบัดจะดีกว่า ทางการแพทย์เรียกว่าการรักษาด้วยการใช้ความร้อนไล่ลมหนาว เพียงแต่ต้องใช้เครื่องมือบางอย่างควบคู่ด้วย เช่นการฝังเข็ม หากท่านเชื่อใจข้า ข้าสามารถให้ท่านลองได้”
“เอาเลยๆๆ” ผู้เฒ่าอวี๋ไม่กินแป้งย่างแล้ว พันแขนเสื้อขึ้น ยื่นข้อมือให้ฉินหลิวซี “เจ้าช่วยตรวจชีพจรให้ร่างกายแก่ชราของข้าสักหน่อย”
มู่ซินกล่าวงึมงำ “นายท่าน”
ผู้เฒ่าอวี๋โบกมือ ส่งสัญญาณว่าไม่ต้องพูดมาก
ฉินหลิวซีรับหมอนรองจากเถิงเจามาวางไว้บนตักของตัวเอง ให้ผู้เฒ่าอวี๋วางมือลงบนนั้น สองนิ้ววางบนข้อมือของเขา
แปะ แปะ
ในห้องเงียบสงบมาก มีเพียงเสียงประกายไฟปะทุที่ดังออกมาจากกองฟืนที่ถูกไฟเผาไหม้ มู่ซินและคนอื่นๆ พากันจ้องมองฉินหลิวซีจับชีพจร
ฉินหลิวซีเปลี่ยนมืออีกหนึ่งข้าง ใช้เวลาจับชีพจรค่อนข้างนาน หลังจากเงียบไปนานก็เอ่ยว่า “บาดแผลที่ซ่อนอยู่ทำให้เกิดการเจ็บป่วยอย่างรุนแรงเรื้อรัง เลือดอุดตันขวางเส้นลมปราณ ทำงานหนักจึงได้เกิดโรค นอกจากอาการบาดเจ็บที่เอวแล้ว ท่านยังมีบาดแผลอื่นซ่อนอยู่อีกกระมัง ในช่วงฝนตกหรือฤดูหนาว บาดแผลที่ซ่อนอยู่ก็จะกำเริบเจ็บปวดขึ้นมา พอความเย็นเข้าสู่ร่างกาย ในเวลากลางคืนนอนไม่หลับพลิกไปมา นี่ก็เป็นอาการไข้หนาวเรื้อรังอย่างหนึ่ง”
ผู้เฒ่าอวี๋พยักหน้า คิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงเอ่ย “ที่หัวไหล่ข้ามีอาวุธลับอยู่หนึ่งชิ้น ไม่ได้เอาออกมา”
“ถอดเสื้อให้ข้าดูเถิด”
มู่เหนียนรูม่านตาสั่น นักพรตหญิงอย่างเจ้ากล้าเกินไปแล้วกระมัง
ผู้เฒ่าอวี๋กระแอมเบาๆ แต่ก็ไม่ได้เขินอาย คลายเข็มขัด ถอดเสื้อออก เห็นเพียงบริเวณไหล่
สายตาของฉินหลิวซีกวาดมองบาดแผลถูกแทงหลายแผลบนหลังของเขา จากนั้นก็แตะบริเวณกระดูกผีเสื้อตรงไหล่ที่นูนออกมาเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ย “ตอนนั้นท่านหมอไม่ได้ผ่าออกมาให้ท่านหรือ”
“บอกว่าติดอยู่ลึก ใกล้กับเส้นลมปราณ จะทำให้ขาดได้ง่าย จึงไม่กล้าผ่าลงไปลึก” ผู้เฒ่าอวี๋กล่าวว่า “หลายปีมานี้ ก็คงผ่าออกมาไม่ได้แล้ว”
“มันยากที่จะเอาออกมาแล้ว ได้เติบโตเป็นเนื้อเดียวกันไปกับผิวหนังและกระดูกแล้ว หากผ่าอีกครั้ง ด้วยอายุของท่านนี้ จะยิ่งสร้างความเสียหายให้กับรากฐานของร่างกาย” ฉินหลิวซีสัมผัสรูปร่างอาวุธลับที่รวมเป็นเนื้อเดียวกันกับกระดูกแล้ว ส่ายหน้าพลางเอ่ย “ท่านทำได้เพียงอยู่ร่วมกับมัน ให้มันเป็นสัญลักษณ์แห่งความกล้าหาญของท่าน”
“สัญลักษณ์งั้นหรือ คำพูดนี้น่าสนใจ ฮ่าๆ มันก็คือสัญลักษณ์ที่ข้าไม่สามารถให้คนอื่นเห็นได้” ผู้เฒ่าอวี๋หัวเราะอย่างร่าเริง
ในเวลานี้มู่ซินจึงเอ่ยขึ้นมาว่า “หากจะเอาออกมา ท่านจะเอาออกมาได้หรือ”
“จะเอาออกมามันก็ได้อยู่หรอก แต่ไม่จำเป็น” ฉินหลิวซีเอ่ยว่า “แม้ว่ามันจะมีอาการเจ็บปวดเมื่อฝนตก แต่ก็ไม่ได้ทำให้เกิดโรค หากเปิดแผลเพื่อเอาอาวุธลับออกมา อาจจะทำให้เลือดไม่หยุดไหล กระทั่งสร้างความเสียหายให้กับเส้นลมปราณ หากร้ายแรงอาจตายได้ แม้ว่าจะเอาออกมา การผ่าตัดก็ทำให้รากฐานของร่างกายเสียหายเป็นอย่างมาก ต้องรักษาตัวเป็นเวลานาน เขาอายุปูนนี้แล้ว อย่าต้องมาทุกข์ทรมานเลย”
มู่ซินรู้สึกเสียใจเล็กน้อย
ฉินหลิวซีกดที่บริเวณเอวของผู้เฒ่าอวี๋เบาๆ กล่าวว่า “แต่อาการปวดเอวสามารถรักษาหายได้”
“หืม?” ดวงตาทั้งสองข้างของผู้เฒ่าอวี๋เป็นประกาย “รักษาเอวให้หายได้จริงหรือ”
“โรคไขข้อเรื้อรังเกิดจากอากาศเย็นสะสมเป็นพิษเย็น ข้าจะฝังเข็มที่ลนไฟเพื่อขับไล่ความเย็น ดื่มยาต้มขับไล่ความหนาวเย็นจากภายใน และใช้ขี้ผึ้งทาภายนอก ในวันปกติทั่วไปต้องรักษาความอบอุ่น ก็จะไม่ต้องทุกข์ทรมานอีกแล้ว” ฉินหลิวซีมองดูลมฝนรุนแรงข้างนอก ยังมีไอฝนผสมกับลมหนาวพัดเข้ามา เอ่ยต่อไป “ที่แห่งนี้คงไม่เหมาะ ไม่สะดวกที่จะฝังเข็มให้ท่าน ข้าจะเจาะเลือดที่จุดเหว่ยจงบริเวณข้อพับขาบรรเทาอาการให้ท่านก่อน ท่านลุกขึ้น”
“เจาะเลือด?” มู่ซินกล่าวขึ้นมาโดยไม่คิดว่า “นายท่าน ไม่ได้นะขอรับ”
มู่เหนียนก็กล่าวอีกว่า “ใช่ขอรับ นายท่าน พวกเราไปหา…”
เขาเหลือบมองฉินหลิวซี รู้สึกไม่ดีเล็กน้อยที่จะพูดต่อ หรือว่าจะให้บอกว่านางหน้าเด็ก ดูไม่น่าเชื่อถือ
ฉินหลิวซีเลิกคิ้ว กอดอกอย่างสงบนิ่ง ใบหน้าดูไม่ได้เดือดร้อน
จะรักษาหรือไม่ ก็ตามใจ หากไม่ใช่เพราะเห็นว่าท่านนี้มีบุญกุศลติดตัว นางก็ขี้เกียจจะไปยุ่งเรื่องของคนอื่น พวกเขาก็ไม่ได้มีกิมเซียมซูทองเป็นค่าตอบแทนให้นางสักหน่อย!