คุณหนูใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า - ตอนที่ 816 นายท่านผู้นี้ทำให้คนต้องอับอายต่อหน้าสาธารณชน
- Home
- คุณหนูใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า
- ตอนที่ 816 นายท่านผู้นี้ทำให้คนต้องอับอายต่อหน้าสาธารณชน
ตอนที่ 816 นายท่านผู้นี้ทำให้คนต้องอับอายต่อหน้าสาธารณชน
……….
ร่างกายไม่แข็งแรงพอหมายถึงการเกิดมาพร้อมกับความบกพร่องในครรภ์ ซึ่งอาจเกิดจากสาเหตุต่างๆ แต่ต้นตอของการบกพร่องของทังเอ้อร์กลับเกิดจากบิดามารดา
สารจิงของทังเจิ้งเฉวียนอ่อนแอ เดิมทีก็ยากที่จะมีบุตร หนึ่งคือโชคชะตา แต่การมีสองคือโชคดีที่ได้สะสมบุญกุศลมาหลายชั่วอายุคน แต่โชคดีไม่ได้ทำให้สารจิงของเขาแข็งแรง สารจิงอ่อนแอ ร่างกายของมารดาก็อ่อนแอ หากตัวอ่อนแข็งแรงจึงจะเป็นเรื่องแปลก
ดังนั้นหลังจากที่ฮูหยินทังตั้งครรภ์ ก็นอนอยู่บนเตียงเป็นเวลาสามเดือนเพื่อรักษาทารกในครรภ์ จริงๆ แล้วมากกว่านั้น การตั้งครรภ์ของนางครั้งนี้นั้นมีค่าแต่อ่อนแอเป็นพิเศษ ส่วนใหญ่ถูกดูแลประคบประหงมอย่างดี ฝืนรักษาไว้จนคลอดออกมาเมื่อครบแปดเดือน จากนั้นก็ใช้ยายื้อมาจนอายุสิบห้าปี
แต่ความเปราะบางของร่างกายยังคงมีอยู่
ทังเจิ้งเฉวียนสีหน้าเหม่อลอย สารจิงอ่อนแอ หมายความว่าเขาไม่ได้เรื่องหรือ
ท่านหมอซุนไอจนหน้าแดง นายท่าน ท่านมาตรวจอาการ ไม่ได้มาสร้างความเกลียดชังเสียหน่อย
“ท่านกับฮูหยินได้บุตรมาไม่ง่ายเลยกระมัง” ฉินหลิวซีเอ่ยขึ้นมาหนึ่งประโยค จากนั้นก็มองไปยังคุณชายใหญ่ทังเสวี่ยน กล่าวว่า “ร่างกายของคุณชายใหญ่ แม้ว่าจะไม่ได้ไม่สมประกอบเหมือนกับคุณชายรองเช่นนั้น แต่ตอนเด็กๆ ก็ป่วยออดๆ แอดๆ ท่านมาออกกำลังกายในภายหลัง จึงได้ค่อยๆ แข็งแรงขึ้น ได้พบอาจารย์ที่ดีหรือ”
ทังเสวี่ยนพยักหน้าตามสัญชาตญาณ
ทังเจิ้งเฉวียนกับฮูหยินทังมองหน้ากัน จะว่าไปแล้วพวกเขาแต่งงานกันมาห้าปีกว่าจะมีบุตรชายคนโตจริงๆ ตอนนั้นมีความสุขเป็นอย่างมาก แต่การเลี้ยงบุตรนั้นเป็นเรื่องยากมากจริงๆ เนื่องจากเขาร่างกายอ่อนแอเจ็บป่วยง่าย หลังจากอายุเจ็ดปี ได้ฟังคำแนะนำของท่านหมอที่พอมีชื่อเสียงอยู่บ้าง ฝากตัวเป็นลูกศิษย์เรียนศิลปะการต่อสู้เสริมสร้างร่างกาย แม้ว่าจะไม่เต็มใจ แต่ร่างกายก็ค่อยๆ ดีขึ้น
หลังจากที่ทังเสวี่ยนฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ออกกำลังกาย แม้ว่าจะไม่ได้อ่อนแอเหมือนตอนยังเป็นเด็ก แต่ก็ยังคงผอมบาง มองแวบแรกก็รู้ว่าเขาเป็นปัญญาชนที่อ่อนแอหยิบจับเคลื่อนย้ายอะไรไม่ได้
“หลังจากบุตรชายคนโต ห่างเป็นเวลาสิบปี พวกท่านจึงได้มีบุตรชายคนรอง กล่าวตามตรง ด้วยร่างกายของฮูหยิน ซ้ำยังมีสารจิงที่ไม่แข็งแรงพอของท่านปั๋ว ไม่เหมาะที่จะตั้งครรภ์ เดิมทีการตั้งครรภ์ไม่ใช่เรื่องง่าย การเลี้ยงดูทารกในครรภ์ยิ่งยาก คลอดบุตรออกมาเลี้ยงดูมาจนถึงทุกวันนี้ได้ เป็นเพราะตระกูลทังทำความดีสั่งสมคุณธรรม มีจิตใจเมตตาอันใหญ่หลวง มีบุญบารมีของบรรพบุรุษคุ้มครอง และสิ่งที่สำคัญคือจวนของท่านมีเหมืองแร่”
ทุกคน “?”
ฉินหลิวซีมองทังเทียนโย่ว เอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “หากไม่ใช่เพราะตระกูลทังร่ำรวยมีเหมืองแร่ ใช้วัตถุดิบยาราคาแพงยื้อชีวิตของท่าน ตอนที่ท่านอยู่ในครรภ์ของมารดาก็รักษาไว้ไม่ได้แล้ว”
ครอบครัวยากจน ไหนเลยจะมีเงินรักษาทารกในครรภ์ โชคดีที่รักษาไว้ได้ แต่เมื่อคลอดออกมาก็อ่อนแอ ไม่มีเงินแล้วจะเลี้ยงให้รอดได้อย่างไร
ตั้งชื่อว่าทังเทียนโย่ว ก็ได้รับพรคุ้มครองจริงๆ
“เจ้าหมายความว่าที่บุตรของข้าไม่สมประกอบเป็นเพราะข้าหรือ” ทังเจิ้งเฉวียนถามด้วยใบหน้าแดงก่ำ
ฉินหลิวซีถามกลับไปว่า “ท่านมีบุตรกี่คน ท่านไม่รู้เลยหรือ อายุของบุตรก็ห่างกันหลายปีขนาดนี้ คงจะโทษร่างกายของฮูหยินอย่างเดียวไม่ได้หรอกกระมัง ท่านปั๋วก็คงมีอนุ แต่ว่ามีใครบ้างที่ตั้งครรภ์”
ใบหน้าของทังเจิ้งเฉวียนอดกลั้นจนแดงก่ำ แน่นอนว่ามีอนุ ไม่ว่าจะเพื่อรับมือกับสายตาของราชวงศ์หรือด้วยเหตุผลอื่น เขาก็คงไม่สามารถอยู่กันสองสามีภรรยาได้ตลอดชีวิต อนุเหล่านี้ก็ยังเป็นฮูหยินที่เลือกให้ ล้วนเลือกคนที่มาจากตระกูลที่ดีมีความซื่อสัตย์ แต่ผู้ที่ตั้งครรภ์นั้นยังไม่มีจริงๆ
“ชี่[1]ไตของท่านไม่เพียงพอ หยางไม่แข็งแรง เรื่องบนเตียงไม่เป็นดั่งใจ ย่อมเป็นเพราะสารจิงอ่อนแอ…”
แค่กๆๆๆ
เสียงไอของท่านหมอซุนดังสนั่น ขัดจังหวะวิเคราะห์ของฉินหลิวซี
นายท่าน เลิกพูดความจริงได้แล้ว คนจะถูกท่านทำให้อับอายต่อหน้าสาธารณชนอยู่แล้ว!
ผู้ที่อยู่ที่นี่ นอกจากท่านปั๋วกับภรรยา ยังมีทังเสวี่ยนและภรรยา ทุกคนล้วนใบหน้าแดงก่ำ ฮูหยินน้อยทังผู้นั้นยิ่งอายจนก้มหน้าลงมองหน้าอก
“น้องหญิง เจ้าไปเตรียมน้ำแกงและข้าวร้อนๆ ไว้ตอนรับท่านหมอและคนอื่นๆ เถิด” ทังเสวี่ยนให้ภรรยาที่หน้าแดงของเขาออกไป
ฮูหยินน้อยทังตอบตกลงอย่างอ่อนโยน จากไปราวกับหนีอะไรบางอย่าง สวรรค์ ท่านหมอน้อยผู้นั้นกล่าวอะไรไร้สาระก็ไม่รู้ ทำเอาเรื่องในเรือนของท่านพ่อกับท่านแม่ถูกเปิดเผยจนหมด
ฮูหยินทังก็ทั้งอายและโกรธเช่นกัน กัดริมฝีปากเบาๆ แต่ทนฝืนไม่จากไป นางกังวลเกี่ยวกับอาการป่วยของบุตรชายคนเล็ก
ทังเจิ้งเฉวียนเป็นคนที่รับมือกับเรื่องใหญ่ได้ จึงเอ่ย “คือว่า ท่านเจ้าอาวาสน้อย ตรวจดูบุตรชายของข้าก่อนเถิด ตาแก่อย่างข้าไม่สำคัญหรอก”
อย่างไรเสียอายุปูนนี้ ฮูหยินก็ไม่สามารถตั้งครรภ์ได้อีกแล้ว อ่อนแอก็อ่อนแอเถิด
ฉินหลิวซีกล่าวว่า “ตอนนี้ก็กำลังดูอยู่ ข้าเพียงแค่บอกแก่พวกท่านถึงสาเหตุที่ทำให้ร่างกายของคุณชายรองอ่อนแอ หากรากฐานของบิดามารดาไม่ดี เขาย่อมอ่อนแอ”
ใช่ๆๆ ตอนนี้พวกเรารู้กันหมดแล้ว เลิกพูดได้แล้ว
ฉินหลิวซีให้ทังเอ้อร์อ้าปากดูฝ้าลิ้น หลังจากมอง ดม ถาม สัมผัส จึงเอ่ย “ท่านต้องทนทุกข์ทรมานจากการเสียหายทั้งชี่และเลือด ใจสั่นตกใจง่าย เลือดไปเลี้ยงหัวใจย่อมไม่เพียงพอ นอกจากนี้ท่านยังมีอาการม้ามเย็น อาหารไม่ย่อย อาการบาดเจ็บที่ตับ ท่านรู้สึกหายใจไม่ออกในที่ที่มีผู้คนพลุกพล่าน อาจเป็นเพราะอึดอัดและใจสั่น เมื่อตกใจก็จะหายใจไม่เป็นจังหวะ นับว่าเป็นการตอบสนองอย่างมีเงื่อนไข”
“วิเศษมาก!” ท่านหมอซุนปรบมือ กล่าวอย่างตื่นเต้นว่า “เหตุใดข้าจึงคิดไม่ถึงสิ่งนี้ เช่นนั้นควรจะรักษาอย่างไรหรือ”
“ต้องบำรุงเลือดและชี่” ฉินหลิวซีเอ่ย “เลือดคือแก่นแท้ของคน หากมันเติมเต็มกล้ามเนื้อและหลอดเลือด อวัยวะภายในก็จะได้รับการบำรุงหล่อเลี้ยงโดยธรรมชาติ ช่วยให้ชี่ทำงานไหลเวียนได้ ด้วยเหตุนี้หยินหยางประสานกัน จึงจะสามารถค่อยๆแข็งแรงขึ้น”
ทังเจิ้งเฉวียนดวงตาเป็นประกาย “เช่นนั้นต้องกินอาหารเสริมบำรุงเลือดหรือไม่ ต้องใช้วัตถุดิบยาอะไรบ้าง ข้าจะให้คนเตรียมไว้เยอะๆ”
“หากมันง่ายขนาดนั้นจริงๆ ท่านหมอที่เคยมาตรวจให้พวกท่านก็คงบำรุงไปนานแล้ว การบำรุงเลือดไม่ใช่แค่กินอาหารเสริมบำรุงเลือดก็พอ ร่างกายของเขาอ่อนแอ ไม่ได้จำเป็นต้องบำรุงมากมาย หากเอาแต่กินอาหารเสริม เช่นนั้นก็มีแต่จะทำให้เขายิ่งเสริมยิ่งอ่อนแอ ร่างกายกลับรับภาระมากขึ้น สิ่งนี้เรียกว่าอ่อนแอจนไม่สามารถบำรุงได้”
ฉินหลิวซีส่ายหน้า “หากต้องการบำรุงเลือดและชี่ ต้องดำเนินการทีละขั้นตอน ใช้น้ำแกงยาเป็นหลัก อาหารเสริมเป็นรอง จากนั้นก็อาบน้ำยาสมุนไพรเสริมสร้างกล้ามเนื้อและกระดูกให้แข็งแรง”
“แล้วก็จะหายขาดเลยหรือ”
ฉินหลิวซีมองทังเอ้อร์พลางเอ่ย “ไม่ได้หายขาดทั้งหมด คุณสมบัติได้ถูกกำหนดไว้แล้ว ล้วนเป็นสิ่งที่บิดามารดามอบให้”
ทุกคนต่างผิดหวังเล็กน้อย
“ไม่ได้หายขาด แต่ก็ไม่ถึงขั้นเพียงแค่ลุกมานั่งบนเตียงก็หอบ อยู่ในสถานที่ที่คนพลุกพล่านก็หายใจไม่ออกแล้ว สามารถเดินได้วิ่งได้ แต่ยังคงแตกต่างจากคนที่ร่างกายแข็งแรงอย่างแท้จริง อย่างไรเสียเขาก็ร่างกายอ่อนแอมาจากรากฐาน รากฐานได้ถูกสร้างขึ้นแล้ว” ฉินหลิวซีเอ่ยเสียงเรียบว่า “ดูแลรักษาอย่างที่ข้าบอกไป แม้ว่าจะไม่สามารถอยู่ได้ถึงเจ็ดสิบแปดสิบปี แต่การที่จะมีชีวิตอยู่ถึงตอนที่ส่งบิดามารดาจากไปนั้นไม่ใช่ปัญหา ที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับชะตาชีวิตแล้ว”
ทุกคนดีใจในทันที เช่นนั้นอย่างน้อยก็มีเวลายี่สิบสามสิบปีแล้วกระมัง
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการเดินได้วิ่งได้จึงจะเป็นความปรารถนาอันล้ำค่า ต้องรู้ว่า อย่าว่าแต่วิ่งเลย เพียงแค่เดินเร็วไม่กี่ก้าวเขาก็ทรมานแล้ว แต่หากสามารถดูแลรักษาจนวิ่งได้จริงๆ หากไม่ใช่ความปรารถนาอันล้ำค่าแล้วจะเป็นอะไรได้อีก
“รบกวนท่านเจ้าอาวาสน้อยเขียนใบสั่งยาให้บุตรชายของข้าด้วย” ทังเจิ้งเฉวียนยกมือคำนับขอบคุณ
ฉินหลิวซีพยักหน้า กล่าวว่า “ข้าจะฝังเข็มให้เขาก่อนเพื่อระบายการอุดตันของชี่ ทำให้ชี่ไหลเวียนได้”
“ให้ข้าเป็นผู้ช่วยเจ้าหรือไม่” ท่านหมอซุนไม่ละทิ้งโอกาสที่จะขโมยวิชาแต่อย่างใด
ฉินหลิวซีมองเขาพลางยิ้มใบหน้านิ่ง เอ่ย “ได้ ท่านคอยดูอยู่ข้างๆ จากนี้ไปท่านก็มาฝังเข็มให้เขาเป็นประจำ”
อย่างไรเสียนางก็ไม่สามารถอยู่ที่ซีเป่ยได้เป็นเวลานาน ท่านหมอซุนเป็นหมอประจำของทังเอ้อร์ ดังนั้นจึงรับงานนี้ต่อได้พอดี
[1] ชี่ หรือลมปราณ หมายถึง ไหลเวียนอยู่ในร่างกายเราทุกคน เสมือนเป็นพลังงาน ของชีวิตที่ใช้ขับเคลื่อนในชีวิตประจาวัน สารขนาดเล็กในร่างกายที่มีการเคลื่อนไหวตลอดเวลา
……….