คุณหนูใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า - ตอนที่ 818 น้องชาย ระวังข้าจะถลกหนังเจ้า!
ตอนที่ 818 น้องชาย ระวังข้าจะถลกหนังเจ้า!
……….
ไม่เพียงแต่คนตระกูลฉินเท่านั้นที่ให้ความสนใจกับเรื่องของตระกูลผู้ว่าการเนี่ย ทางด้านกงปั๋วเฉิงก็ได้ให้คนจับตาดูนานแล้ว ตอนนี้มีตระกูลฉังซุ่นปั๋วเพิ่มขึ้นมาอีก รู้มาว่าบุตรชายสุดที่รักของตระกูลเนี่ยถูกคนคลุมถุงกระสอบหักมือหักเท้าและองคชาต ซ้ำยังตะโกนว่ามีผีตามรังควานอย่างบ้าคลั่ง และเมื่อผู้ว่าการเนี่ยตามหาหมอทั่วทั้งเมือง ทุกคนต่างพากันเงียบ ชื่อของคนที่ลงมือทำร้ายอยู่เบื้องหลังผู้นั้นผุดขึ้นมาในหัว ฉินหลิวซี
แม้ว่านางจะไม่ยอมรับ แต่ก็เป็นฝีมือนาง!
ในช่วงข้ามคืน คนของกงปั๋วเฉิงกับตระกูลทังก็เริ่มเคลื่อนไหว
ก็แค่ผู้ว่าการ เพียงแค่ปลดทิ้งก็พอแล้ว เปลี่ยนเป็นผู้ที่มีเหตุผลและเชื่อฟังแทน และให้คนที่ไม่มียศมีตำแหน่งอย่างพวกเขาเป็นอิสระมากขึ้น
ดังนั้นในชั่วข้ามคืน รายงานเกี่ยวกับการกล่าวโทษผู้ว่าการเนี่ยถูกส่งไปยังเมืองหลวงอย่างรวดเร็วพร้อมด้วยหลักฐานจำนวนมาก นำเสนอต่อกรมยุติธรรม และกิจการที่ผู้ว่าการเนี่ยแอบขูดเลือดขูดเนื้อราษฎร ก็ได้รับการโจมตีครั้งใหญ่อีกด้วย
เดิมทีผู้ว่าการเนี่ยก็อยู่เฝ้าบุตรชายเพียงคนเดียวทั้งคืน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อรู้ว่าองคชาตของบุตรชายอาจจะไม่หายดี ความโกรธของเขารุนแรงมากขึ้นจนลุกลามไปทั่วหลังคาจวน ส่งคนไปตามหาโจรที่ลอบทำร้ายไม่หยุด
แต่อย่างไรก็ตาม จะไปตามหาที่ไหน
ไม่ว่าจะเป็นคำให้การจากผู้ที่ติดตามบุตรชายออกไปหรือเพื่อนบ้านตอนที่เกิดเหตุ ต่างก็บอกว่าไม่เห็นคนที่ทำ ดูเหมือนว่าทุกอย่างจะเกิดขึ้นโดยตัวบุตรชายเอง หรือว่าจะเจอผี
เมื่อนึกย้อนกลับไปถึงท่าทางตะโกนว่ามีผี กรีดร้องด้วยความหวาดกลัว ทำให้ผู้ว่าการเนี่ยตกใจในทันที หรือว่าจะถูกผีตามรังควานจริงๆ
บุตรชายเป็นคนอย่างไร เขาที่เป็นบิดาไหนเลยจะไม่รู้ มีศพหลายศพถูกโยนลงในหลุมศพหมู่ ล้วนตายด้วยน้ำมือของเขา เอ่อ แล้วเหตุใดไม่โยนลงในบ่อน้ำในจวนอย่างที่คนอื่นกล่าว
โง่หรืออย่างไร ตระกูลมีอำนาจที่จะปกปิดได้ มีที่ไหนบ้างที่ทิ้งไม่ได้ ที่หมู่บ้านหรือหลุมศพหมู่ก็โยนทิ้งได้ตามอำเภอใจ แล้วเหตุใดต้องฝังศพที่มีวิญญาณขุ่นเคืองในบริเวณที่ตัวเองอาศัยด้วย ไม่รู้สึกสะอิดสะเอียนหรือ
อย่างไรก็ตามผู้ว่าการเนี่ยจะไม่มีทางทำเช่นนั้น โยนทิ้งที่หลุมศพหมู่ทั้งหมด ด้วยตำแหน่งของเขา เป็นเรื่องง่ายที่จะจัดการ แค่บอกว่าเป็นนักโทษหญิงที่สมควรตายก็พอแล้ว ใครจะไปวิเคราะห์ว่าใช่หรือไม่
เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ ผู้ว่าการเนี่ยก็ส่งคนไปตามนักพรตเต๋ามา แต่ยังไม่มีข่าวคราว เขาก็ถูกข่าวอื่นโจมตีเสียก่อน กิจการของตระกูลถูกคนลงมือ ศัตรูทางการเมืองก็เริ่มรวมตัวกันโจมตีตัวเอง ตอนนี้เขาไม่มีเวลามาสนใจบุตรชายแล้ว หากไม่มีตำแหน่งนี้แล้ว ทุกอย่างที่เขาวางแผนไว้ตลอดหลายปีก็จะสูญเปล่า
ด้วยเหตุนี้ตระกูลเนี่ยจึงตกอยู่ในความโกลาหล และลืมฉินหมิงเยี่ยนที่ถูกเนี่ยเจียเป่าลากไปตามถนนจนได้รับบาดเจ็บสาหัสไปสนิท ก็แค่ความเป็นความตายของคนถูกเนรเทศ พวกเขาไม่มีทางสนใจ ในช่วงเวลาที่วุ่นวายก็ยิ่งคิดไม่ถึงอะไรบางอย่างในนั้น
หลังจากที่คนตระกูลฉินรู้ข่าวที่ฉินปั๋วชิงไปสืบมา ก็นอนไม่หลับทั้งคืน ซ้ำยังไม่ให้ฉินหมิงมู่กลับมาอยู่บ้าน เผื่อตระกูลผู้ว่าการจะมาหาเรื่องที่นี่จริงๆ
แต่กลับคิดไม่ถึงว่ากังวลโดยเปล่าประโยชน์ทั้งคืน
ในวันรุ่งขึ้นเมื่อเห็นฉินหลิวซีมาฝังเข็ม ทุกคนล้วนมีสีหน้าพูดไม่ออก สถานการณ์น่าสังเวชของเนี่ยเจียเป่าแพร่กระจายออกไปราวกับไฟป่า พวกเขาล้วนนึกภาพนั้นออก
บุตรสาวคนโตตระกูลฉินของพวกเขาผู้นี้ดูเหมือนจะหัวรุนแรงเล็กน้อย
ฉินหลิวซีจับชีพจรให้ฉินหมิงเยี่ยนก่อน จากนั้นจึงทำการฝังเข็ม โดยเลือกที่จะเพิกเฉยต่อสายตาเหล่านั้นของคนตระกูลฉิน
“พี่ พี่หญิงใหญ่” ฉินหมิงเยี่ยนนอนเหยียดตรงอยู่บนเตียง ร้องเรียกด้วยใบหน้าแดงก่ำ
ฉินหลิวซีหันไปมอง
ฉินหมิงเยี่ยนเม้มริมฝีปาก “ขอบคุณท่านขอรับ ช่วยข้าไว้สองครั้งแล้ว”
สองครั้ง?
ฉินปั๋วหงกับฉินหยวนซานสีหน้าเต็มไปด้วยความสงสัย
ฉินหลิวซีเอ่ยตอบ “ไม่ต้องขอบคุณ ในภายภาคหน้าแค่คืนเงินให้ข้าก็พอ ค่ารักษาข้าแพงมาก ยาที่ให้เจ้ากินเม็ดนั้นยิ่งแพงกว่า อย่าคิดว่าแค่ขอบคุณประโยคเดียวก็ไม่ต้องให้เงินแล้ว คำขอบคุณไม่ได้แลกเป็นเงิน เป็นคนต้องมีความซื่อสัตย์”
ฉินหมิงเยี่ยนหน้าผากกระตุก เอ่ยด้วยความงอนแต่ก็เหมือนน้อยใจด้วยว่า “ท่านวางใจเถิด ในภายภาคหน้าข้าจะคืนให้ท่านอย่างแน่นอน”
“เช่นนั้นก็ดี”
ทั้งสองคนเงียบไปครู่หนึ่ง
ฉินหมิงเยี่ยนรออยู่ครู่หนึ่ง ในที่สุดก็อดไม่ได้ ถามว่า “คราวที่แล้วจดหมายที่ท่านให้ข้าเขียน ความจริงแล้วเป็นท่านที่ส่งให้ท่านแม่ด้วยตัวเองหรือ”
“แน่นอน”
“ที่นกกระเรียนตัวนั้นบินได้ก็หลอกข้าหรือ” ข้ารู้อยู่แล้วว่าท่านเป็นนักต้มตุ๋น หลอกเอาเงินข้า ซ้ำยังหลอกความรู้สึกข้าด้วย!
“จะให้มันบินไปก็ได้ แต่เจ้าไม่กลัวท่านแม่เจ้าจะตกใจหรือ ข้าสามารถให้มันบินไปอยู่ตรงหน้านางได้ ทำให้นางประหลาดใจสักหน่อย!”
ฉินหมิงเยี่ยน “…”
นางจะตกใจมากกว่า เหตุใดท่านต้องพูดจาคลุมเครือเช่นนี้
ฉินหยวนซานก้าวเข้ามาหา กล่าวว่า “ที่พวกเจ้าเอ่ยหรือว่ากำลังพูดถึงเรื่องเฉิงเหย่าจินที่เยี่ยนเอ๋อร์เคยพูดถึง”
ฉินหมิงเยี่ยนตอบ “ขอรับ” ด้วยใบหน้าแดงก่ำ ซ้ำยังเหลือบมองฉินหลิวซี ในใจรู้สึกมีความสุขเล็กน้อย ที่แท้ตอนนั้นที่รู้สึกถึงความคุ้นเคยและความใกล้ชิดนั้นมีเหตุผล นางเป็นพี่หญิงสายเลือดเดียวกันกับเขาจริงๆ แม้ว่าตอนนั้นนางจะไม่ได้ยอมรับก็ตาม
“ดูจากจดหมายทางบ้าน เจ้ายังให้วิธีทำผลไม้แช่อิ่มให้ท่านแม่ของเจ้าเปิดร้านด้วยหรือ” ฉินปั๋วหงเอ่ยว่า “ท่านแม่ของเจ้าสตรีตัวคนเดียวสามารถเปิดร้านขายของได้ด้วยหรือ”
ฉินหยวนซานใจเต้นตุ๊มๆ ต่อมๆ ในใจตะโกนว่าแย่แล้ว รู้จักพูดบ้างหรือไม่
เป็นอย่างที่คิด ฉินหลิวซีแสยะยิ้ม “บางครั้งสิ่งที่สตรีสามารถทำได้นั้นมากกว่าบุรุษเสียอีก ท่านแม่นางมีความสามารถมากกว่าที่ท่านคิดอยู่มาก”
มาแล้ว น้ำเสียงที่แฝงไว้ด้วยการเสียดสี
ฉินปั๋วหงโกรธเล็กน้อย คุยดีกับคนอื่น มีเพียงกับเขาที่เป็นบิดากลับไม่คุยดีด้วย เขาทำอะไรผิดไปหรือ
ในใจคิดที่จะตำหนิ แสดงอำนาจสักหน่อย แต่ขณะที่กำลังจะเอ่ยปาก เมื่อสบตากับดวงตาของนางคู่นั้นก็กลืนลงไป แล้วหลบสายตา
เหตุใดจึงรู้สึกผิดเช่นนี้ เกิดอะไรขึ้น
แต่ไม่นานก็ดูถูกตัวเอง เป็นถึงพ่อยังจะกลัวบุตรสาว ขายหน้า!
เมื่อฉินหลิวซีดึงเข็มออกให้ฉินหมิงเยี่ยนแล้วจึงเอ่ย “นอนหลับให้มาก ใช้สมองให้น้อย ดื่มยาให้ตรงเวลา แค่นั้นก็พอ”
เมื่อฉินหมิงเยี่ยนเห็นนางเก็บเข็มแล้วกำลังจะจากไป จึงถามด้วยความร้อนใจว่า “ท่านจะไปแล้วหรือ”
“หากไม่ไปจะให้ข้าอยู่จ้องตากับเจ้าที่นี่หรือ หรือจะให้คุยเรื่องชีวิตในอุดมคติกับเจ้า”
ฉินหมิงเยี่ยนเอ่ย “ท่าน ท่านเล่าเกี่ยวกับท่านแม่และคนในครอบครัว ซ้ำยังมีเสี่ยวอู่ แม่เล็ก และคนอื่นๆ ให้ข้าฟังหน่อยได้หรือไม่ ข้ายังได้ยินท่านอาสามบอกว่าท่านสามารถใช้วิชาภาพลวงตาบันทึกภาพชีวิตจริงได้ ข้า ข้าก็อยากเห็นท่านแม่และคนอื่นๆ จะได้หรือไม่…”
“ไม่ได้ อย่าแม้แต่จะคิด ข้ากลัวว่าเจ้าจะร้องไห้ หลับให้มาก พูดให้น้อย” ฉินหลิวซีเอ่ยอย่างไร้ความปรานี
ฉินหมิงเยี่ยนสีหน้ามืดมน
นางไม่ชอบเขาจริงๆ ด้วย
“เยี่ยนเอ๋อร์ก็เป็นขนาดนี้แล้ว เจ้าทำตามความปรารถนาของเขาหน่อยไม่ได้หรือ เขายังเด็กอยู่” ฉินปั๋วหงเห็นว่าบุตรชายดวงตาแดงก่ำ ก็อดกล่าวขึ้นมาไม่ได้
ฉินหลิวซีหัวเราะ “อ้อ? เพราะเขายังเด็กอยู่ ดังนั้นจึงห้ามละเลยความต้องการเขาอย่างนั้นหรือ”
ฉินปั่วหง “?”
ท่านพ่อ ท่านอย่าขวางข้า ข้าอยากจะตบเจ้าเด็กไม่รักดีคนนี้จริงๆ ดูนางพูดเข้าสิ
ฉินหลิวซีมองฉินหมิงเยี่ยน กล่าวเสียงดุว่า “อย่าคิดถึงสิ่งที่ไม่เป็นจริงเหล่านั้นที่นี่ การพักฟื้นเป็นหน้าที่อันดับแรกของเจ้าในตอนนี้ หลังจากรักษาหายดีแล้วเจ้าก็สามารถกลับไปดูท่านแม่ของเจ้าได้จนพอใจ หากเจ้ากล้ารนหาที่ตาย ไม่ดูแลรักษาให้ดี เสียยาเม็ดนั้นของข้าไปโดยเปล่าประโยชน์ ระวังข้าจะถลกหนังเจ้า!”
นางยกกำปั้นขึ้น มันมีมูลค่าถึงหนึ่งแสนตำลึงเชียวนะ หากรักษาไม่ดี หมัดของนางได้เปื้อนเลือดแน่นอน!
เมื่อเห็นท่าทางตกตะลึงของฉินหมิงเยี่ยน ฉินหลิวซีก็ส่งเสียงหึแล้วหันหลังเดินจากไป
ดวงตาของฉินหมิงเยี่ยนกลับเต็มไปด้วยรอยยิ้ม พี่หญิงใหญ่ช่างขัดแย้งเสียจริง!