คุณหนูใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า - ตอนที่ 821 โรคชรา หมดทางรักษา!
ตอนที่ 821 โรคชรา หมดทางรักษา!
……….
ตอนที่ฉินหลิวซีเดินเข้ามา นางบังเอิญได้ยินสิ่งที่ลูกศิษย์ของนางพูดพอดี จึงยกยิ้มมุมปากเล็กน้อย แล้วรีบเดินเข้าไปในห้อง
“ซีเอ๋อร์กลับมาแล้ว” สะใภ้กู้เป็นคนแรกที่เห็นฉินหลิวซี และตะโกนออกมาด้วยความดีใจและประหลาดใจ
ใบหน้าของสะใภ้หวังเต็มไปด้วยยินดี แต่เสียงของนางกลับเจือสะอื่นเมื่อเอ่ย “ซีเอ๋อร์ เจ้ากลับมาแล้วก็ดี ท่านย่าของเจ้า…”
เถิงเจาขยับออกไปแล้ว และเมื่อฉินหลิวซีนั่งลงเพื่อตรวจชีพจร เขาก็เอ่ย “ท่านหมอเหมาฝังเข็มให้แล้วขอรับ”
“อืม”
ฉินหลิวซีกดสองนิ้วลงบนชีพจรของฮูหยินผู้เฒ่า แล้วหันไปมองใบหน้านางเล็กน้อยก่อนจะเอ่ย “ป้อนน้ำแกงโสมให้นางหรือยัง”
“เพิ่งป้อนขอรับ”
“เกิดอะไรขึ้น ล้มลงหรือ” ฉินหลิวซีเห็นว่าใบหน้าของหญิงชรามีรอยฟกช้ำและรอยขีดข่วน ซึ่งเห็นได้ชัดว่าเป็นผลมาจากการเสียดสีกับพื้นหลังจากล้มลง
สะใภ้หวังเหล่มองสะใภ้เซี่ย “เจ้าพูดเองเถิด”
สะใภ้เซี่ยตัวสั่นทันที และเหลือบมองท่านหมอเหมาที่แสร้งทำเป็นไม่เห็น และไม่ได้พูดว่าจะจากไปด้วย
ฉินหลิวซีอยู่ที่นี่แล้ว ทำไมเขาจะไม่ถือโอกาสนี้สังเกตการรักษาและขโมยวิชาจากนางเล่า?
สะใภ้เซี่ยโกรธมากทำไมบุรุษผู้นี้ถึงได้ไม่รู้กาลเทศะเลย
ฉินหลิวซีมองมาแล้ว สะใภ้เซี่ยก็เอ่ยทันที “ฮูหยินผู้เฒ่าออกไปขับถ่าย นั่งอยู่นาน ข้าอยากจะไปเอาน้ำมาให้นางล้างทำความสะอาดสักหน่อย แต่จู่ๆ นางก็ล้มลงหลังจากที่ข้าหันหลังให้เดินไปได้ไม่กี่ก้าว ข้าไม่ได้ตั้งใจนะ”
การขับถ่ายมักจะต้องนั่ง แต่ถึงกระนั้นก็ไม่สามารถทิ้งได้ โดยเฉพาะคนชราที่อ่อนแอซึ่งเป็นโรคหลอดเลือดในสมอง เดิมทีการนั่งยองๆ เป็นเวลานานก็ทำให้สองขาชา เลือดไหลไม่สะดวกอยู่แล้ว เรี่ยวแรงก็ไม่มี เมื่อเวียนหัว ถ้าไม่ระวังก็จะล้มลง
การหกล้มของผู้สูงอายุจะหนักหรือเบา กระดูกเปราะบางอยู่แล้วก็อาจแตกหักได้ ถ้ารุนแรงหน่อย ก็อาจจะตายได้เลย โดยเฉพาะคนที่มีโรคประจำตัวอยู่แล้ว เช่น คนชราที่เป็นโรคหลอดเลือดในสมองหรือโรคหัวใจ ดังนั้นคนชราเช่นนี้จึงต้องมีคนอยู่ด้วยตลอดเวลา
ดูอย่างสะใภ้เซี่ย แค่นางหันหลังเดินไปไม่กี่ก้าว ฮูหยินผู้เฒ่าก็หมดสติไปแบบนี้แล้ว
“ข้าไม่ได้ตั้งใจนะ ข้าก็นึกไม่ถึงด้วย พวกเจ้าเชื่อข้าหรือไม่” สะใภ้เซี่ยเอ่ยริมฝีปากสั่นเทา
นางกลัวว่าหากฮูหยินผู้เฒ่าตายไปแล้วจะเป็นความผิดของนาง ถึงเวลานั้นนางคงไม่สามารถยืดอกได้อีก และได้ชื่อว่าเป็นสะใภ้ที่ทำให้แม่สามีต้องตาย ถึงเวลานั้นคำครหาว่านางอกตัญญูก็จะทุบตีนางจนตาย กระทั่งทำให้ลูกๆ ของนางพลอยเดือดร้อนไปด้วย ถ้าฉินปั๋วกวงรู้เข้า ก็คงจะเขียนหนังสือหย่าให้นางออกจากบ้านไปทันที
ฉินหลิวซีเยาะ “สุขภาพร่างกายของฮูหยินผู้เฒ่านี้จะต้องมีคนอยู่ด้วยตลอดเวลา ในเมื่อท่านเป็นคนพานางไปเข้าห้องน้ำ แต่ไม่ได้ดูแลนาง อยากให้นางตายเร็วๆ หรือ”
สะใภ้เซี่ยหน้าซีดลง น้ำเสียงก็แหลมสูง “เจ้าพูดจาเหลวไหล ข้าอยากให้ฮูหยินผู้เฒ่าอายุยืนมากที่สุดแล้ว ข้าแค่หันหลังให้ชั่วครู่…”
“เป็นบุญของท่าน แต่หันหลังให้ชั่วครู่ นางก็ล้มลง ไม่ฟื้นขึ้นมาแล้ว” ฉินหลิวซียิ้มเยาะ “ฮูหยินผู้เฒ่าเป็นโรคหลอดเลือดในสมอง แต่พวกท่านก็ยังกล้าประมาทเลินเล่อขนาดนี้ แม้ในใจไม่คิด แต่การกระทำก็หมายความเช่นนั้น”
หลังจากถูกหลานสาวเปิดโปง ไม่ต้องพูดถึงสะใภ้เซี่ย แม้แต่สะใภ้กู้และสะใภ้หวังก็ยังรู้สึกอับอายจนแทบแทรกแผ่นดิน
“ซีเอ๋อร์ ท่านย่าของเจ้าจะไม่ฟื้นขึ้นมาแล้วหรือ” สะใภ้หวังถาม
ฉินหลิวซีเอ่ย “บอกได้ยาก การทำงานของอวัยวะภายในช้าลง พลังชีวิตอ่อนแอ เลือดพุ่งไปที่ศีรษะ นางคงนั่งยองๆ นานเกินไป เลือดไหลไม่สะดวก พอลุกขึ้นยืนกะทันหัน เลือดก็พุ่งขึ้นศีรษะ วิงเวียนและล้มลง”
นางปลดถุงที่ห้อยอยู่แล้วเอ่ยกับเถิงเจา “เอาเข็มทองมา”
เถิงเจารับมา และหยิบเข็มทองออกมา
ฉินหลิวซีทำความสะอาดมือ เช็ดให้แห้ง จากนั้นจึงเลือกจุดฝังเข็มกำจัดพิษ “ข้าจะฝังเข็มด้วยเข็มทองก่อนเพื่อเปิดหลอดเลือดสู่ศีรษะที่อุดตันของนาง นางจะฟื้นหรือไม่…” นางลังเลก่อนจะเอ่ย “ก็ขึ้นอยู่กับโชคชะตา”
เถิงเจาเหลือบมองนางแล้วจึงมองหญิงชรา
ทั้งๆ ที่เห็นลางมรณะอยู่รางๆ แล้ว ท่านอาจารย์ยังอยากฝืนลิขิตสวรรค์หรือ
การฝังเข็มทองคำไม่ใช่เรื่องยากสำหรับฉินหลิวซี แค่ชั่วพริบตา หญิงชราก็มีเข็มทองหลายเล่มปักอยู่บนศีรษะของนาง แม้แต่แขนและเท้าก็มีเข็มปัก
ท่านหมอเหมารู้สึกว่าเขามองไม่ทัน และไม่เข้าใจเหตุผลของการเลือกจุดฝังเข็มเหล่านี้ แต่ตอนที่เขาเห็นว่าลมหายใจของหญิงชราเริ่มสงบลง ปลายเข็มทองสั่นเล็กน้อย ใบหน้าของฉินหลิวซีกลับซีดเล็กน้อย
นี่เป็นการใช้พลังงานภายในกระตุ้นเข็มทองเคลื่อนปราณผ่านเส้นลมปราณ
หนึ่งเค่อต่อมา ปลายเข็มก็ค่อยๆ หยุดสั่น หน้าผากของฉินหลิวซีเต็มไปด้วยเหงื่อ ฉีหวงใช้ผ้าเช็ดหน้าซับให้นางเล็กน้อย ในใจเต็มไปด้วยความสงสาร
เจ้านายใช้พลังไปมาก
การใช้ปราณแท้กำลังภายในกระตุ้นเข็มทองนั้นเทียบเท่ากับการใช้เข็มบินเพื่อหมุนเวียนในเส้นลมปราณ ไม่ว่าพวกมันจะผ่านไปที่ไหน เส้นลมปราณจะทะลวงตัวมันเอง
เจ้านายทำมามากพอแล้ว
ฉีหวงมองฮูหยินผู้เฒ่าด้วยที่มีสีหน้าซีดเซียวและคิดกับตัวเองว่า บุญวาสนาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตนี้ของนางคือการมีหลานสาวเช่นนี้ และสิ่งที่เจ้านายทำเพื่อพวกท่านนั้นมากพอแล้ว กระทั่งมากเกินไปด้วยซ้ำ ต่อให้ต่อไปนางจะไม่ทำอะไรเลย ไม่เหลือบแลตระกูลฉินอีกต่อไป ในสมุดบันทึกความดีความชั่วก็ไม่มีทางบันทึกไว้
เพราะเวรกรรมที่มีต่อกันได้รับการชำระเรียบร้อยแล้ว
ฉินหลิวซียกเข็มขึ้น ตรวจดูชีพจรแล้วเอ่ยว่า “ให้ดื่มน้ำแกงโสมหนึ่งชามทุกวันเถิด”
รักษาชีวิตไว้ได้นานเท่าไหร่ก็เท่านั้น ฮูหยินผู้เฒ่าจะรอดได้หรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับว่านางยึดติดกับการกลับมาของบุรุษตระกูลฉินพวกนั้นมากน้อยแค่ไหนแล้ว
ฉินหลิวซีประสานมือให้ท่านหมอเหมา “ข้าเตรียมใบสั่งยาเองได้ ครั้งนี้รบกวนท่านแล้ว ท่านอาสะใภ้สาม ช่วยส่งท่านหมอเหมากลับด้วย”
“ได้”
ท่านหมอเหมากลับถามว่า “ใบสั่งยาที่ท่านสั่งจะรักษาชีวิตไว้ได้หรือไม่”
ฉินหลิวซีตอบอย่างเฉยเมย “ท่านก็รู้อยู่แก่ใจว่า นางใกล้จะหมดแรงเต็มที ก็เพียงแต่ฝืนเท่านั้น โรคชรา หมดทางรักษา!”
ได้แต่นับวันรอเท่านั้น
ท่านหมอเหมาถอนหายใจ
สะใภ้หวังและคนอื่นๆ ต่างก็เข้าใจ สีหน้าของพวกนางยิ่งซีดขาวและทำอะไรไม่ถูกขึ้นทุกที
หลังจากที่ท่านหมอเหมาจากไปแล้ว สะใภ้หวังก็กลืนน้ำลายก่อนจะถามว่า “ซีเอ๋อร์ ท่านย่าของเจ้ายังมีเวลาอีกนานแค่ไหน”
“ก่อนจะล้มลงก็น่าจะมีความหวังถึงปีหน้า ส่วนตอนนี้บอกไม่ได้แล้ว อะไรที่ควรต้องเตรียมก็เตรียมไว้เสียเถิด” น้ำเสียงของนางเย็นชา ซึ่งทำให้ทุกคนรวมถึงฉินหมิงเย่ว์ที่เข้ามาทีหลังรู้สึกเย็นเยียบไปหมด
ท่านย่ามาถึงจุดนี้แล้วจริงๆ หรือ
สะใภ้เซี่ยกลอกตาด้วยความหวาดกลัวจนเป็นลมไป นางกำลังจะจบเห่แล้ว
ฉินหลิวซีรู้สึกรำคาญมาก นางเอ่ยกับเถิงเจาว่า “ฝังเข็มให้นางตื่น”
เถิงเจาหยิบเข็มมาฝังเข็มให้สะใภ้เซี่ยอย่างไร้ความปรานี
สะใภ้เซี่ยค่อยๆ ตื่นขึ้นมาและรีบวิ่งไปหาฮูหยินผู้เฒ่าพร้อมกับร้องว่า “ท่านแม่ ลูกผิดต่อท่าน สวรรค์ ท่านพาข้าไปดีกว่า ให้ข้ารับแทนท่านแม่เถิด”
ฉินหลิวซีแคะหูก่อนจะเอ่ย “นางไม่ดีอยู่แล้ว ถ้าท่านทั้งพุ่งเข้าไปทั้งกดอย่างนี้ต่อไป นางก็ตายพอดี ข้าเชื่อว่าฮูหยินผู้เฒ่าคงยินดีที่จะพาท่านไปด้วย”
สะใภ้เซี่ยชะงักค้างไปทันที
ฉินหลิวซีไม่ได้สั่งยา นางเอ่ยกับสะใภ้หวังว่า “ข้าไม่สั่งยาแล้ว ในห้องยาในเรือนของข้ายังมีสมุนไพรอยู่บ้าง ข้าจะคัดแยกและส่งมาให้ต้ม ส่วนทางฮูหยินผู้เฒ่าก็ให้ใครเฝ้าไว้สักคน ข้าจะให้ฉีหวงเอายาสำหรับใส่รอยช้ำบนใบหน้ามาให้”
พอนางเอ่ยจบ ก็เหลือบมองฮูหยินผู้เฒ่าเล็กน้อย แล้วจากไปพร้อมกับเถิงเจาและฉีหวง
สะใภ้เซี่ย “นาง นาง…”
สะใภ้หวังมองนางอย่างเฉยชา “ไม่ต้องมองนางเลย เจ้าลองคิดดูว่าต่อไปจะอธิบายพวกท่านพ่อกับอารองอย่างไรดีกว่า”
สะใภ้เซี่ยทรุดลงกับพื้น แผ่นหลังหนาวยะเยือก เหงื่อเย็นๆ ผุดขึ้นอย่างรวดเร็ว ใช่แล้ว นางควรทำอย่างไรดี