คุณหนูใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า - ตอนที่ 823 ทำดีชดใช้
ตอนที่ 823 ทำดีชดใช้
……….
สะใภ้หวังจูงมือฉินหลิวซีเข้าไปในห้อง เมื่อเห็นอนุวั่นยกน้ำชาเข้ามา นางจึงเอ่ย “เจ้าไม่ต้องทำงานหรอก มานั่งฟังด้วยกัน”
อนุวั่นรับคำอย่างเชื่อฟังและนั่งลง
สะใภ้หวังเอ่ยกับฉินหลิวซีก่อน “มือของเจ้าหนาวไปหน่อยจริงๆ ปีนี้เริ่มหนาวเร็ว ให้ฉีหวงเตรียมเสื้อผ้าหนาๆ ให้เจ้าหน่อย เป็นสาวเป็นนางอย่าให้เป็นหวัดได้ ถึงเจ้าจะเป็นหมอ แต่ถ้าไม่ป่วยจะดีที่สุด ยาก็ไม่ใช่ของดีอะไร ขมออกมิใช่หรือ”
“ท่านพูดถูก” ฉินหลิวซีเชื่อฟังมาก
สะใภ้หวังพอใจมาก นางยกชาขึ้นมาจิบอึกหนึ่ง แต่แล้วนางก็ส่งเสียงสูดปากออกมา รอยแดงปรากฏขึ้นที่ริมฝีปากนาง ขณะที่นางกำลังจะเอื้อมมือไปแตะ ก็ถูกฉินหลิวซีจับไว้เสียก่อน
“อย่าแตะ เป็นแผลพุพอง” ฉินหลิวซีดึงมือนางมาจับชีพจร หลังจากนั้นไม่นานก็เอ่ย “ฤดูใบไม้ร่วงที่แห้งมาก ไฟในกระเพาะก็มากเช่นกัน สองคืนนี้ท่านนอนไม่หลับหรือ”
สะใภ้หวังยิ้มขื่น “หลายวันมานี้ ข้ารู้สึกกระสับกระส่าย กลางคืนก็นอนไม่หลับ จู่ๆ วันนี้ฮูหยินผู้เฒ่าก็มาเป็นแบบนี้อีก ข้าร้อนใจนัก”
ฉินหลิวซีปลดถุงเงินลงมา “ไปนอนลงบนตั่ง ข้าจะฝังเข็มให้”
อนุวั่นรีบไปเอาหมอนใบใหญ่มาให้สะใภ้หวังพิง นางยังยืนข้างๆ และปิดหน้าต่างทางทิศใต้เพื่อไม่ให้ลมเข้ามา ปากก็ไม่หยุด “ข้าจะไปบอกให้แม่นมเสิ่นกลับมาดูแลท่านดีหรือไม่ ข้างกายท่านจะไม่มีใครเลยก็ไม่ได้”
ฉินหลิวซีเห็นว่านางทำอะไรรอบคอบ ในใจคิดว่านางโง่ แต่มีหลายครั้งที่นางก็ละเอียด
สะใภ้หวังเห็นท่าทางกังวลของอนุวั่น แล้วก็ตบมือนางเบาๆ พลางเอ่ยปลอบ “ไม่ต้องหรอก ตอนนี้ฮูหยินผู้เฒ่าจำเป็นต้องมีคนอยู่ด้วยยิ่งกว่า”
ขั้นแรกฉินหลิวซีนวดจุดฝังเข็มของนางเพื่อผ่อนคลายร่างกายก่อน จากนั้นจึงสอดเข็มเงินลงไปในจุดฝังเข็มต่างๆ เพื่อกำจัดไฟในกระเพาะอาหาร กำจัดลมในตับ ลดไฟในหัวใจ ช่วยให้นอนหลับ บำรุงตับ และบรรเทาอาการซึมเศร้า
สะใภ้หวังถอนหายใจ รอให้นางปักเข็มลงและนั่งลงข้างๆ จึงถามว่า “ตอนนี้ฮูหยินผู้เฒ่าเป็นเช่นนี้ ซีเอ๋อร์คิดว่าเราควรจะเรียกเสี่ยวซื่อและเสี่ยวอู่กลับมาหรือไม่”
“เรียกกลับมาเพื่ออะไร พวกเขาสามารถดูแลคนแก่หรือเทอึเทฉี่ได้หรือ ทำอะไรไม่ได้ก็ให้เรียนหนังสือไป อย่าได้กลับมาสร้างปัญหาเพิ่ม โรคของคนแก่นี้ไม่ใช่ว่าพอพวกเขาแสดงความกตัญญูสักเล็กน้อยแล้วก็จะหายดีได้” ฉินหลิวซีเอ่ย “อีกอย่าง นางก็ยังไม่ฟื้น แสดงความกตัญญูไป นางก็มองไม่เห็นอยู่ดี จะแสดงให้ใครดู”
อนุวั่นเหลือบมองนาง พูดแบบนี้ไม่กลัวบ้างหรือว่าจะทำให้ฮูหยินใหญ่โกรธจนเข็มเด้งออกมา
“ข้าแค่กลัวว่าหากฮูหยินผู้เฒ่าจากไป จะไม่มีหลานชายอยู่ในบ้านเลย” สะใภ้หวังถอนหายใจ
“ไม่หรอก” ดวงตาของฉินหลิวซีที่มองสะใภ้หวังสว่างขึ้น แล้วนางก็เอ่ยขึ้นทันที “ตอนที่นางจะจากไปจริงๆ ข้าจะลากพวกเขากลับมาคุกเข่าร้องไห้ข้างเตียงส่งนางเอง คงไม่ถึงกับจะไม่มีเลย”
สะใภ้หวังหลับตา “…”
นางอยากจะหลับแล้ว จะทำอย่างไรดี
แค่แสร้งทำเป็นหลับก็ยังทำไม่ได้ นางลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง “ฮูหยินผู้เฒ่าต้องการคนดูแล ข้าอยากจะซื้อบ่าวรับใช้เพิ่มอีกสองคนมาดูแลนางเป็นการเฉพาะ”
“ไม่จำเป็นหรอก เรายังมีท่านอาสะใภ้รองอยู่มิใช่หรือ ยังมีพวกพี่น้องฉินหมิงเย่ว์ด้วย ทำไมไม่ให้พวกนางแสดงความกตัญญูดูแลคนป่วยเล่า?” ฉินหลิวซีเอ่ย “คนที่ซื้อมาจากภายนอกจะเอาใจใส่รู้ใจเหมือนคนในบ้านได้อย่างไร”
“อาสะใภ้รองจะดูแลใครได้ ถ้าไม่ใช่เพราะนาง ฮูหยินผู้เฒ่าคงไม่มาถึงขั้นนี้” หว่างคิ้วของสะใภ้หวังกระตุกเล็กน้อย “หวังให้นางดูแล ฮูหยินผู้เฒ่าก็ยิ่งไม่มีโอกาสรอด”
“ไม่หรอก นางจะทำได้ดีกว่าใครๆ เพราะไม่มีใครในบ้านหลังนี้ที่กลัวว่าฮูหยินผู้เฒ่าจะจากไปมากกว่านางแล้ว” ฉินหลิวซีหัวเราะเบาๆ “เพื่อช่วยให้ฮูหยินผู้เฒ่ารอด จะให้นางล้วงอึล้างฉี่ก็ยังยินดี ท่านเชื่อหรือไม่”
สะใภ้หวังตะลึง
อนุวั่นเหลือบมองฉินหลิวซีอีกครั้ง ในใจก็คิดว่านางจะต้องจงใจแกล้งสะใภ้เซี่ยแน่ๆ!
“ถ้าอย่างนั้นก็ให้นางดูแลเถิด แล้วให้พวกหมิงเย่ว์คอยช่วย” สะใภ้หวังคิดอยู่ครู่หนึ่ง ฮูหยินผู้เฒ่ายังไม่ได้สติ ที่ต้องดูแลจริงๆ ก็ไม่มีอะไร อ้อ เรื่องน่ารังเกียจที่สุดนั้น แค่อดทนหน่อยก็ผ่านไปแล้ว สะใภ้เซี่ยจะได้รู้ด้วยว่า ถ้านางไม่ระวังจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง!
พอสะใภ้เซี่ยรู้ว่าสะใภ้หวังขอให้ตนเองและลูกๆ คอยเฝ้าดูแลคนป่วย นางก็งุนงงไปเลย นางดูแลผู้สูงอายุไม่เป็นนี่
“พี่สะใภ้ใหญ่ ไม่ใช่ว่าข้าไม่ยินดี แต่ข้าก็ทำไม่เป็น งานที่ต้องการความเชี่ยวชาญก็ต้องให้บ่าวรับใช้ทำมิใช่หรือ ติงหมัวหมัวกับจวี๋เอ๋อร์ก็อยู่นี่?”
สะใภ้หวังเอ่ย “ตั้งแต่เข้าฤดูใบไม้ร่วงมา ติงหมัวหมัวก็สามวันดีสี่วันไข้ นางแก่ปูนนี้แล้ว ตอนนี้ก็ยังต้องกินยาอยู่ นางเต็มใจ แต่เจ้าลองคิดดูเถิดว่านางจะเฝ้าอยู่ได้ตลอดเวลาหรือ”
สะใภ้เซี่ยมองติงหมัวหมัว นางดูป่วย ผมหงอกขาว ร่างผอมบาง สีหน้าอมทุกข์
แม้ว่าเมื่อก่อนติงหมัวหมัวจะเป็นบ่าวรับใช้ แต่เพราะนางเป็นพี่เลี้ยงประจำตัวของฮูหยินผู้เฒ่า ข้างกายนางก็มีเด็กหญิงสองคนคอยรับใช้ หลังจากกลับมาที่บ้านเดิม ถึงแม้นางจะไม่ได้ทำงานหนัก แต่ก็ไม่เหมือนกับตอนที่ตระกูลฉินยังไม่ตกต่ำอย่างแน่นอน เพราะหวาดกลัว ตกใจ และอายุมากแล้ว ทั้งยังต้องคอยปลอบใจฮูหยินผู้เฒ่าอยู่บ่อยๆ อีกฝ่ายนอนไม่หลับก็ต้องอดนอนไปด้วย ซึ่งส่งผลเสียต่อร่างกายไม่น้อย
เป็นไปไม่ได้เลยจริงๆ ที่จะไว้วางใจให้ติงหมัวหมัวคอยดูแลรับใช้ฮูหยินผู้เฒ่า
สะใภ้เซี่ยยังอยากจะพูดอะไรอีก สะใภ้หวังเอ่ยเรียบๆ “ถ้าข้าเป็นเจ้าก็จะทำให้ดีที่สุด เพราะถ้าฮูหยินผู้เฒ่าฟื้นขึ้นมา เจ้าก็จะดีไปด้วย ทำดีชดใช้ความผิด เจ้าไม่เข้าใจหรือ”
สะใภ้เซี่ยสั่นสะท้านทันที
“จวี๋เอ๋อร์ก็ต้องอยู่ด้วยอยู่แล้ว แต่สำหรับโรคของฮูหยินผู้เฒ่า นางก็ต้องต้มยาและเตรียมอาหารการกินด้วย ใครจะเป็นคนทำ?” สะใภ้หวังมองหน้านาง “โรคของฮูหยินผู้เฒ่าใช่จะหายดีได้ในชั่วข้ามคืน กระทั่งอาจไม่สามารถรักษาให้หายได้ เราแค่รอวันเวลานั้น”
ใบหน้าของสะใภ้เซี่ยซีดลง แล้วท่านก็ยังให้ข้าคอยดูแล
นางคุกเข่าลงต่อหน้าสะใภ้หวังทันที “พี่สะใภ้ใหญ่ เราเชิญท่านหมอมาเพิ่มอีกสองสามคมดีกว่า บางทีพวกเขาอาจจะรักษาฮูหยินผู้เฒ่าได้ก็ได้ จะสรุปว่าไม่สามารถรักษาฮูหยินผู้เฒ่าได้แล้วเพราะคำพูดซีเอ๋อร์คนเดียวได้อย่างไร”
สะใภ้หวังโกรธมาก “เจ้าเลอะเลือนแล้ว สุขภาพร่างกายของฮูหยินผู้เฒ่าเป็นอย่างไร เจ้าก็รู้ดีอยู่แก่ใจว่า แม้แต่ซีเอ๋อร์ก็ทำอะไรไม่ได้ คนอื่นจะทำได้หรือ อีกอย่างท่านหมอเหมาจากร้านยาตำหนักอายุวัฒนะก็บอกแล้ว เจ้าคิดว่าคนอื่นจะทำให้นางฟื้นคืนชีพได้หรือ ใช่ อาจมีหมอที่สามารถเรียกชีวิตนางกลับมาได้ด้วยยาเทียบเดียว แต่นั่นเป็นยาประเภทไหน เจ้าไม่เข้าใจหรือ”
ยาที่ทำให้คนตื่นขึ้นมาได้ด้วยเทียบเดียวนั้นเป็นยาที่ร้ายกาจอย่างแน่นอน โดยปกติแล้วยาเช่นนั้นจะถูกสั่งจ่ายในสถานการณ์ที่ไม่มีทางเลือกแล้วเท่านั้น เพราะยาเช่นนี้มีผลมาก แต่ก็ทำให้ร่างกายของผู้ป่วยทนไม่ได้เช่นกัน
สะใภ้หวังเอ่ยอย่างเย็นชา “ถ้าฮูหยินผู้เฒ่าใช้ยาที่ร้ายกาจนั่นจริงๆ แล้วจากไปไวกว่าเดิม เจ้าะอธิบายให้ท่านพ่อ เจ้ารอง และพี่น้องคนอื่นๆ ที่เหลือฟังอย่างไร”
มือของสะใภ้เซี่ยคลายออก นางก็ทรุดตัวลงกับพื้นด้วยสีหน้าซึมเซา
สะใภ้หวังลูบหน้าผากที่ปวดระบมแล้วเอ่ย “เอาอย่างนี้แหละ บางทีสวรรค์อาจจะเมตตาให้เวลาบ้าง อย่างน้อยก็รอจนกว่าท่านพ่อและคนอื่นๆ จะกลับมา”
สะใภ้เซี่ยไม่ได้ยิน จิตใจของนางเต็มไปด้วยเรื่องที่จะเกิดขึ้นเมื่อต้องดูแลผู้สูงอายุ ทั้งอุจจาระปัสสาวะเต็มสมองนางไปหมด
เรื่องจริงก็เป็นเช่นนั้น ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา พวกสะใภ้เซี่ยก็ต้องทนทุกข์ทรมานกับเรื่องอุจจาระปัสสาวะ พร่ำบ่นไม่รู้จบ