คุณหนูใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า - ตอนที่ 894 เวทีพร้อมแล้ว แต่เจ้ากลับเลิกแสดง
ตอนที่ 894 เวทีพร้อมแล้ว แต่เจ้ากลับเลิกแสดง
…………….
ข้อเท็จจริงย่อมเหนือกว่าการโต้แย้ง ไม่เชื่อในเรื่องผีสางก็ไม่เป็นไร ขอแค่ได้เห็นการมีอยู่ของพวกมันก็ถือว่าเพียงพอแล้ว ซึ่งก็ได้พิสูจน์ให้เห็นว่าคำพูดของฉินหลิวซีไม่ได้เป็นเรื่องเหลวไหลแต่อย่างใด
หลังจากใต้เท้าจั่วดึงสติกลับมาจากความตื่นตระหนกแล้ว สีหน้าของเขาก็ซีดเผือดดุจจานสีที่ถูกพลิกคว่ำก็มิปาน อย่าให้พูดเลยว่าสีหน้าดูไม่ได้เพียงใด
ทว่าจั่วจงเหนียนตะเกียกตะกายลุกขึ้นจากพื้น เอ่ยด้วยท่าทีตื่นเต้น “ท่านอาจารย์ พวกเราเชื่อแล้ว เรื่องที่ท่านบอกว่าน้องชายข้ายังมีชีวิตอยู่เป็นเรื่องจริงหรือ แต่พวกเราออกตามหามาตั้งนานก็ยังไม่เจอ จะเป็นไปได้อย่างไรกัน”
ใต้เท้าจั่วอยากเอ่ยอะไรบางอย่าง ทว่าพอเห็นสายตาที่เหมือนจะยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้มของผู้เฒ่าอวี๋ จึงเม้มปิดปากเงียบ
“ตายแล้วเห็นศพถึงจะถือว่าตายจริง บางคนหายตัวไปนานแต่ไม่เห็นร่างก็ยังถือว่าแค่หายตัวไป แต่ตระกูลของพวกท่าน เขาแค่หายตัวไปยังไม่ถึงปีก็ปักใจเชื่อแล้วว่าเขาตาย จัดงานศพตั้งแต่ยังไม่ครบปีด้วยซ้ำ”
จั่วจงเหนียนมองไปทางใต้เท้าจั่วโดยไม่รู้ตัว ถอนหายใจเฮือกหนึ่งกล่าว “น้องรองตกลงไปในร่องธารน้ำแข็งเช่นนั้น อากาศก็หนาวขนาดนั้น นี่…”
ด้วยสถานการณ์เช่นนั้นย่อมเหลือทางรอดได้ยาก และไม่มีทางรอดแน่นอน!
“คนที่โชคดีและมีบุญวาสนาย่อมมีโอกาสรอดจากสถานการณ์เสี่ยงตาย ในเมื่อเขาตกลงไปแต่หาร่างไม่เจอ เช่นนั้นก็ต้องดูที่สภาพภูมิศาสตร์บริเวณนั้นด้วย เพราะร่องธารน้ำแข็งบางที่มักมีแม่น้ำ หรือบางทีอาจมีกระแสใต้น้ำ ตอนตกลงไปถูกซัดพัดพาไปหรือไม่ เราต้องตรึกตรองถึงจุดนี้ด้วย” ฉินหลิวซีเอ่ยต่อ “หากหาในบริเวณนั้นไม่เจอก็ต้องสอดส่องค้นหาบริเวณใกล้เคียง แต่หาอยู่ไม่กี่เดือนก็ล้มเลิกตามหาแล้ว หากคนไม่รู้คงคิดว่าไม่ใช่ลูกแท้ๆ กระมัง”
ใบหน้าของใต้เท้าจั่วเขียวปั๊ดอีกครั้ง
จั่วจงเหนียนกลับผงะไปชั่วขณะ มีกระแสใต้น้ำหรือไม่ เขาไม่ได้นึกถึงจุดนี้เลยจริงๆ
“หากไม่ตายจริงๆ แล้วเวลานี้น้องรองของข้าอยู่ที่ไหนหรือ ท่านเจ้าอาวาสน้อยช่วยตรวจดูดวงชะตาให้ได้หรือไม่” จั่วจงเหนียนเผยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความหวัง
ครั้นใต้เท้าจั่วได้ยินคำว่าตรวจดูชะตา เส้นเลือดสีเขียวตรงขมับทั้งสองข้างก็เต้นตุบๆ กระทั่งเกือบสบถออกมาว่าเหลวไหล!
ฉินหลิวซีกลับมองไปทางผู้เฒ่าอวี๋ พลางเอ่ย “เรามาตรวจอาการของฮูหยินผู้เฒ่ามิใช่หรือ”
เหตุการณ์กลับตาลปัตรนี้ก็เพื่อตอกกลับคนหัวรั้นไม่ยอมเชื่อให้อกแตกตาย
จั่วจงเหนียน ไม่สิ ข้าตั้งเวทีให้พร้อมเสร็จสรรพแล้ว แต่เจ้ากลับเลิกแสดงอย่างนั้นหรือ
ผู้เฒ่าอวี๋รู้ว่าในเมื่อฉินหลิวซีพูดออกมาแล้ว ย่อมไม่มีทางเพิกเฉยได้ เวลานี้เป็นจังหวะที่จะทำให้ฮูหยินผู้เฒ่ากลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง และนั่นก็คือข่าวเรื่องที่จั่วจงจวิ้นยังมีชีวิตอยู่
ฉินหลิวซีไม่เล่นไปตามบท ดังนั้นคนในตระกูลจั่วจึงจนใจ หลังจากเข้าไปในห้องนอนหลัก นายหญิงใหญ่จั่วที่คอยปรนนิบัติก็รีบรุดหน้าเข้ามาต้อนรับ สีหน้าเจือไปด้วยความอ่อนล้า
แม่สามีนอนป่วยบนเตียง เพื่อแสดงใจกตัญญู นอกจากนางจะต้องคอยปรนนิบัติแล้ว นางยังต้องคอยอบรมสั่งสอนทั้งบุตรชายและบุตรสาว ไม่เจ็บป่วยก็นับว่านางสุขภาพดีแล้ว ทว่าสีหน้าท่าทางยากจะปกปิดความเหน็ดเหนื่อยอ่อนแรงไว้ได้
เมื่อครู่นางได้ยินเสียงข้างนอกแล้ว แต่เพราะเมื่อครู่แม่สามีอาเจียน อีกทั้งมัววุ่นๆ อยู่แต่กับบ่าว นางจึงไม่ได้ออกไปหา
ยามนี้ครั้นเห็นคนมากมายเดินเข้ามา นางก็รู้สึกแปลกใจอยู่บ้าง
ทว่ากลิ่นภายในห้องไม่ค่อยพึงประสงค์นัก ทั้งกลิ่นยา ทั้งกลิ่นเหม็นเปรี้ยวที่ยากจะเอื้อนเอ่ย รวมถึงกลิ่นคนแก่
หากกล่าวว่าเป็นกลิ่นคนแก่ ความจริงเพราะฮูหยินผู้เฒ่าป่วยอยู่ภายในห้องมานาน อากาศไม่ค่อยถ่ายเท จึงแปรเปลี่ยนเป็นกลิ่นเน่าเหม็นอย่างเห็นได้ชัด
แสงภายในห้องนี้ค่อนข้างมืดสลัว พอเห็นหญิงชราที่นอนอยู่บนเตียงอย่างหมดอะไรตายอยาก ศีรษะเต็มไปด้วยเส้นผมสีขาวแกมเงิน พวงแก้มซูบตอบ พลันก็รู้จุดที่ทำให้ห้องนี้อยู่ไม่สบายในทันที
อึดอัดหม่นหมอง ไร้ซึ่งชีวิตชีวา หากบรรยากาศอันหนักอึ้งนี้ชวนให้รู้สึกสบายใจสิน่าแปลก
ผู้เฒ่าอวี๋รุดหน้าเดินเข้าไปมองแวบหนึ่ง พลันก็รู้สึกสองดวงตาร้อนผ่าว ตะโกนเรียกชื่อ “ชุนเหนียง”
ฮูหยินจั่วผู้เฒ่าเปลือกตาสั่นระริก ก่อนจะเบิกตากว้าง ครั้นเห็นผู้เฒ่าอวี๋ก็ผงะไป ก่อนกระตุกมุมปากเอ่ยเสียงแหบพร่า “เจ้ามาเยี่ยมข้าแล้ว”
“อืม เจ้าวางใจได้ ข้าพาท่านหมอฝีมือดีมา รอเจ้าหายดีเมื่อไร พวกเราค่อยไปดื่มชาที่หอชาฝูชิงกัน” ผู้เฒ่าอวี๋เอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
ใต้เท้าจั่วกำหมัดแน่นโดยไม่พูดอะไรแม้แต่ประโยคเดียว
“นี่คือท่านเจ้าอาวาสน้อยปู้ฉิว นางช่วยตามหาตัวจวิ้นเอ๋อร์เจอแน่นอน” ผู้เฒ่าอวี๋ส่งสัญญาณให้ฉินหลิวซีเดินเข้ามา
ครั้นฮูหยินจั่วผู้เฒ่าได้ยินเช่นนั้นก็หายใจหอบถี่ สองดวงตาที่มองไปทางฉินหลิวซีมีแสงประกายลุกวาว ริมฝีปากอันแห้งผากเอ่ยเสียงตะกุกตะกัก
ฉินหลิวซีนั่งลงบนเก้าอี้ที่จั่วจงเหนียนยกมาให้ก่อนจะมองไปทางฮูหยินจั่วผู้เฒ่า เอ่ยว่า “ท่านพูดถูก บุตรชายของท่านยังมีชีวิตอยู่ ท่านยังอยากมีชีวิตอยู่ต่อไปหรือไม่ มิฉะนั้นหากเขากลับมาแล้วไม่พบท่านคงเสียใจแย่”
“ข้า…” น้ำตาของฮูหยินจั่วผู้เฒ่าก็ไหลรินลงมาจากหางตา ตื้นตันจนอยากออกแรงลุกขึ้น แต่ด้วยร่างกายที่อ่อนแรง ประกอบกับอาการวิงเวียนที่ศีรษะ จึงทำให้นางหายใจเร็วถี่
“อย่าใจร้อน” ฉินหลิวซีคว้ามือของนางมานวดคลึงอย่างเบามือ บวกกับสวดมนต์ท่อนหนึ่งปลอบประโลมใจ เป็นผลให้อารมณ์ร้อนใจของคนบริเวณนั้นสงบลง
นายหญิงใหญ่ที่ยังไม่รู้เหตุการณ์จึงงงเป็นไก่ตาแตก ก่อนจะมองไปทางสามีตนว่านี่มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงบอกว่ายังมีชีวิตอยู่หรือ
ฉินหลิวซีสั่งให้คนเอาน้ำแกงโสมป้อนนางหนึ่งถ้วย สภาพจิตใจของฮูหยินจั่วผู้เฒ่ากลับมาเป็นปกติ บนร่างมีกำลังวังชาขึ้นบ้าง พร้อมมองนางอย่างมีความหวัง
“เรื่องที่ท่านพูดเมื่อครู่เป็นความจริงหรือ บุตรชายของข้ายังมีชีวิตอยู่จริงๆ ไม่ใช่แค่เอาใจข้าใช่หรือไม่”
ฉินหลิวซีคลี่ยิ้มบางเอ่ย “แม่ลูกย่อมมีใจเชื่อมหากัน เขายังมีชีวิตอยู่หรือไม่ ท่านเองก็พอสัมผัสได้”
ฮูหยินจั่วผู้เฒ่าเริ่มน้ำตาเอ่อล้น พร้อมพยักหน้าไม่หยุด “ใช่ ใช่แล้ว บุตรชายของข้ายังมีชีวิตอยู่”
“เช่นนั้นท่านก็ต้องดีขึ้น ข้าจะตรวจชีพจรและเขียนใบสั่งยาให้ จากนั้นค่อยไปตามหาเขา แต่ท่านต้องให้ความร่วมมือกินยาก่อน” สองเรียวนิ้วของฉินหลิวซีวางลงบนข้อมือนาง
“ได้ๆ ข้าจะให้ความร่วมมือ” เชื่อฟังได้แค่ไหนก็จะเชื่อฟังให้มากที่สุด
ความจริงฮูหยินจั่วผู้เฒ่าเป็นโรคทางใจ เมื่อได้รับยาทางใจ อาการของนางย่อมดีขึ้นเกินครึ่ง ที่เหลือก็กินยารักษาอาการเพื่อขจัดโรคเรื้อรังที่สั่งสมมานาน จากนั้นค่อยตามหายาใจของนางกลับมา แค่นี้อาการก็หายเป็นปลิดทิ้งโดยไม่ต้องพึ่งยาแล้ว
ดังนั้นฉินหลิวซีจึงเขียนใบสั่งยาอย่างรวดเร็ว เพราะรู้ว่าไม่ได้นอนหลับสนิทมานาน บวกกับอารมณ์ที่เปลี่ยนแปลงกะทันหันส่งผลเสียต่อการฟื้นฟูร่างกายในเวลานี้ นางจึงเพิ่มส่วนผสมช่วยให้นอนหลับลงในใบสั่งยา หลังจากต้มยาดื่มเสร็จ ฉินหลิวซีก็ทำการฝังเข็มอีกครั้ง เพื่อช่วยให้หลับลึกมากขึ้น
ฉินหลิวซีสั่งให้ระบายอากาศภายในห้องก่อนจะจุดเทียนหอมช่วยให้หลับสนิท พลันรู้สึกว่านางคงนอนหลับได้หนึ่งวันหนึ่งคืนเต็ม
“นางหลับไม่ลึก ต่อให้นอนหลับก็หลับไม่สนิทและมักสะดุ้งตื่นจากฝันร้าย ทำให้จิตใจไม่สงบส่งผลให้สุขภาพทรุดโทรมลงอย่างรวดเร็ว ในตำรับยานี้มีส่วนผสมช่วยให้นอนหลับดี การฝังเข็มก็ช่วยให้จิตใจสงบและหลับลึก ปล่อยให้นางหลับไปโดยไม่ต้องปลุกนาง ในเมื่อนางไม่ได้หลับดีๆ มานานมากแล้ว รอนางตื่นเมื่อไรค่อยให้กินโจ๊กเบาๆ กินน้ำแกงถั่งเช่าตุ๋นเนื้อหมูไม่ติดมัน ค่อยๆ ปรับสภาพบำรุงร่างกายไป แต่ไม่ต้องบำรุงมากนัก”
คล้อยหลังฉินหลิวซีก็บอกข้อควรระวังต่ออีกหลายประการ
“แล้วท่านแม่ของข้าจะดีขึ้นเมื่อไรหรือ” จั่วจงเหนียนเอ่ยถาม
ใต้เท้าจั่วเองก็มองมา พอเห็นภรรยานอนหลับปุ๋ยสบายก็อารมณ์สงบลง เวลานี้เขาเริ่มเชื่อในตัวฉินหลิวซีขึ้นมามากแล้ว ในเมื่อนับตั้งแต่เกิดเรื่องขึ้นกับบุตรชาย ภรรยาก็นอนไม่หลับทั้งคืนดุจดอกไม้ที่ขาดน้ำจนเหี่ยวเฉาอย่างรวดเร็ว รวมถึงไม่เคยนอนหลับลึกมานานมากแล้ว
“โรคของฮูหยินผู้เฒ่าเป็นแค่โรคทางใจ หากน้องชายของท่านกลับมา นางย่อมดีขึ้นเอง” ฉินหลิวซีลุกขึ้นแล้วเอ่ย “อย่าคุยกันที่นี่เลย หาห้องอื่นดีกว่า เอาตัวเลขวันเดือนปีเกิดของจั่วจงจวิ้นมา แล้วเตรียมของบางส่วนมาด้วย ข้าจะทำนายดวงชะตาให้”