คุณหนูใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า - ตอนที่ 908 ชะตาชีวิตของเจ้าไม่ได้ดีอย่างที่คิดเช่นนั้น
- Home
- คุณหนูใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า
- ตอนที่ 908 ชะตาชีวิตของเจ้าไม่ได้ดีอย่างที่คิดเช่นนั้น
ตอนที่ 908 ชะตาชีวิตของเจ้าไม่ได้ดีอย่างที่คิดเช่นนั้น
จวนฉิน
ฉินหลิวซีไม่เคยมาแม้แต่ครั้งเดียว เพียงแค่ยืนอยู่หน้าประตูเหลือบมองแผ่นป้ายนั้น จากนั้นก็มองไปยังฉินหยวนซาน
ตาเฒ่าช่างเป็นงานจริงๆ ถึงขั้นเชิญนางเข้าทางประตูหลักของจวน!
ความรู้สึกของฉินหลิวซีหวั่นไหวเล็กน้อย
เมื่อเข้าไปข้างใน เห็นคนมากมาย ทุกคนในบ้านรองและบ้านสามล้วนอยู่กันหมด สีหน้าเมื่อได้เห็นนางแตกต่างกันออกไป บางคนสีหน้าสับสน บางคนสีหน้าดีใจ และบางคนก็หวาดกลัว
ฉินหลิวซีกล่าวทักทายอย่างสบายๆ แต่เด็กน้อยหลายคนโค้งคำนับนางด้วยความเคารพ
“พี่หญิงใหญ่ เหตุใดท่านจึงได้มาเมืองหลวง” ฉินหมิงเป่าที่ใกล้ชิดสนิทสนมกับนางมาเสมอ วิ่งเข้ามาหาก่อนจะดึงมือนาง สายตาแฝงไว้ด้วยชื่นชมและยินดี
ฉินหลิวซีลูบศีรษะนาง “มีธุระเล็กน้อยก็เลยมา”
เจ้าแฝดเดินได้แล้ว โซเซมากอดที่ขาของนางคนละข้าง ฉีกปากยิ้ม เห็นฟันน้ำนมหลายซีก “พี่หญิงใหญ่” น้ำลายไหล
ฉินหลิวซีย่อกายลงมาอุ้มพวกเขาขึ้นมา “ตัวหนักแล้ว”
“เดี๋ยวเจ้าจะเหนื่อยเอา” สะใภ้กู้ยิ้มพลางก้าวไปรับบุตร เอ่ยว่า “เจ้าก็ไม่ให้คนส่งจดหมายมาให้เร็วหน่อย จะได้ให้บ่าวรับใช้ไปรับเจ้าที่นอกเมือง”
ฉินหลิวซีหัวเราะ “ข้าแค่มาทำธุระเล็กน้อย อยู่ไม่นาน พรุ่งนี้อาจจะกลับเมืองหลีแล้ว”
“เร็วขนาดนั้นเชียวหรือ” ฉินปั๋วชิงประหลาดใจเล็กน้อย “ไม่อยู่ในเมืองหลวงนานอีกสักหน่อยหรือ”
“ไม่ดีกว่า ยังมีเรื่องที่ต้องทำ”
ฉินหยวนซานกล่าวว่า “สะใภ้เซี่ย พวกเจ้าไปเตรียมงานเลี้ยงเล็กๆ สักหน่อย ตอนเย็นกินข้าวด้วยกัน”
สะใภ้เซี่ยตอบรับ สงบและเชื่อฟัง
ฉินหลิวซีเหลือบมองนาง รู้สึกประหลาดใจกับความสงบนิ่งของนางเล็กน้อย จากนั้นก็เห็นสะใภ้เฉาท้องโตที่อยู่ข้างหลังห่างจากนางหนึ่งก้าว เมื่อสะใภ้เฉาเห็นนางรอยยิ้มก็แข็งทื่อ
ฉินหลิวซีละสายตา
สะใภ้กู้กล่าวว่า “ไปเถิด อาสะใภ้พาเจ้าไปดูเรือนของเจ้า จะได้พักผ่อนสักหน่อย”
“มีเรือนของข้าด้วยหรือ”
สะใภ้กู้หัวเราะเบาๆ พลางเอ่ย “กล่าวไร้สาระอะไรกัน เจ้าเป็นคุณหนูใหญ่ตระกูลฉินของพวกเรา ย่อมมีเรือนของตัวเองอยู่แล้ว เพียงแต่พี่สะใภ้ใหญ่บอกว่าตอนนี้พวกเจ้าอาศัยอยู่ที่เมืองหลี เพื่อไม่ให้คนนอกเข้าไป จึงไม่ได้จัดการให้มีบ่าวรับใช้ไปดูแล ปกติก็ใส่กุญแจไว้ แต่ยังคงไปทำความสะอาดอยู่บ้างทุกๆ สามถึงห้าวัน เพื่อไม่ให้ร้างจนมีฝุ่นเกาะ”
“ใส่ใจแล้ว”
สะใภ้กู้รู้สึกเศร้าใจเล็กน้อย “เจ้าเกรงใจกับคนในครอบครัวแล้ว”
ในเวลานี้สะใภ้เซี่ยได้เอ่ยขึ้นมาว่า “น้องสะใภ้สามพวกเจ้าไปกันเถิด ข้าจะไปเตรียมอาหารเย็น”
สะใภ้กู้รับคำ ให้บ่าวรับใช้พาบุตรชายทั้งสองไป จากนั้นก็พาฉินหลิวซีกับฉินหมิงเป่าไปที่เรือน ฉินหมิงเย่ว์คิดอยู่ครู่หนึ่งจากนั้นก็ตามมา แต่ฉินหมิงซินไม่ได้ตามมาด้วย
“ท่านอาสะใภ้รองเปลี่ยนไปแล้วหรือ” ฉินหลิวซีถามสะใภ้กู้เสียงเบา
สะใภ้กู้เห็นว่าฉินหมิงเย่ว์เดินอยู่ข้างหลัง จึงตอบเสียงเบาว่า “สะใภ้เฉาเป็นคนมีความคิดลึกซึ้ง ท่านอาสะใภ้รองของเจ้าพ่ายแพ้เพราะนางหลายครั้งแล้ว ทุกครั้งที่ทะเลาะกัน ท่านอารองของเจ้าก็จะใช้เรื่องท่านย่าของเจ้ามาขู่นาง แพ้หลายครั้งเข้าก็เลยเชื่อฟัง และตอนที่พี่สะใภ้ใหญ่ยังอยู่ก็ได้ตักเตือนไปหนึ่งรอบ ก็เลยสงบลงบ้าง หวังว่านางจะคิดได้จริงๆ มิเช่นนั้นมีจุดอ่อนขนาดนี้ ซ้ำยังมีอนุเฉาอยู่ด้วย หากท่านอารองของเจ้าเอาใจออกห่าง ผู้ที่เสียเปรียบก็คือนาง”
ฉินหลิวซีกล่าวว่า “ท่านแม่ไม่อยู่ เรื่องเรือนหลัง ท่านใส่ใจระมัดระวังสักหน่อย ต่อไปคาดว่าจะมีคนอยากมาใกล้ชิดกับตระกูลฉิน อย่าหลงระเริง”
สะใภ้กู้ตกตะลึง มาใกล้ชิดกับตระกูลฉิน ใครกัน
ฉินหลิวซีไม่ได้เอ่ยอะไรมาก
เดิมทีตระกูลฉินก็เป็นจวนหลังใหญ่ที่มีห้าทางเข้า หลังจากถูกยึดทรัพย์ จวนนี้ถูกทางการปิดผนึกมาโดยตลอด ต่อมาได้กลับมาแล้ว แต่กลับมีบ่าวรับใช้ไม่กี่คน เจ้านายก็ไม่มาก โดยเฉพาะบ้านใหญ่ยังอยู่ที่บ้านเดิม ก็มีเพียงบ้านรองบ้านสามและนายท่านผู้เฒ่าอีกหนึ่งคน จวนค่อนข้างเงียบสงบอย่างชัดเจน มีเรือนบางแห่งยังถูกใส่กุญแจปิดไว้
เรือนหลักได้มอบให้กับบ้านใหญ่ และเรือนของฉินหลิวซีที่อยู่ในตำแหน่งที่ห่างไกลออกไป ค่อนข้างติดกับถนนด้านหลัง แต่การตกแต่งนั้นเงียบสงบร่มรื่นเป็นอย่างมาก
“พี่สะใภ้ใหญ่เป็นคนเลือกให้เจ้า นางบอกว่าเจ้าจะต้องชอบตำแหน่งนี้” สะใภ้กู้กล่าวอธิบาย “หากเจ้ารู้สึกว่าไม่ดี ยังมีเรือนอื่นอีก”
ฉินหลิวซีเม้มริมฝีปาก “ไม่ต้องหรอก ที่นี่ดีมากแล้ว”
ติดถนนด้านหลัง เข้าออกสะดวก นี่เป็นการคำนึงถึงตำแหน่งเรือนของนางที่บ้านเดิมในเมืองหลี ดังนั้นจึงได้เลือกที่นี่ให้นาง
ฉินหลิวซีไม่ได้สนใจ อย่างไรเสียนางก็ไม่ได้อยู่ที่นี่ตลอดไป จะมีที่พักหรือไม่ก็ได้ทั้งนั้น อย่างไรเสียในเมืองหลวงนางก็ไม่ได้ขาดแคลนที่พัก ความตั้งใจของสะใภ้หวัง นางรับไว้แล้ว
เรือนไม่มีชื่อ สะใภ้กู้จึงให้ฉินหลิวซีตั้งขึ้นเอง ฉินหลิวซีกล่าวว่า “เรียกว่าซีย่วนเถิด”
ตำแหน่งที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตก เรียบง่ายเป็นอย่างมาก
สะใภ้กู้รู้สึกหมดปัญญาเล็กน้อย ไม่พิถีพิถันเอาเสียเลย
ในเวลานี้มีบ่าวรับใช้มารายงานสะใภ้กู้ จวนฉังผิงปั๋วให้คนมาส่งของขวัญขอโทษ ตอนนี้นายท่านผู้เฒ่ากำลังต้อนรับซื่อจื่อแห่งจวนฉังผิงปั๋วกับฮูหยินซื่อจื่ออยู่ ได้เชิญให้สะใภ้เซี่ยไปต้อนรับด้วย แต่สะใภ้เซี่ยยังคงสับสน ซ้ำยังมีอีกหลายตระกูลมาส่งของขวัญ สะใภ้เซี่ยคนเดียวไม่สามารถจัดการได้ จึงให้สะใภ้กู้ไปต้อนรับ
ฉินหลิวซีคิดในใจ หน้าตาของเฉิงเอินโหวพ่อตาของฮ่องเต้ผู้นี้ใช้ได้จริงๆ มากันเร็วเหลือเกิน!
“ท่านอาสะใภ้สามไปทำธุระเถิด” ฉินหลิวซีเอ่ยด้วยรอยยิ้ม
สะใภ้กู้จึงให้บุตรสาวกับหมิงเย่ว์อยู่เป็นเพื่อนฉินหลิวซี
ฉินหมิงเย่ว์ก้าวไปข้างหน้าอย่างลังเลเล็กน้อย ถามฉินหลิวซีเกี่ยวกับเรื่องของจิ่นหนางผู้นั้น
ฉินหลิวซีเหลือบมองนาง กล่าวว่า “นับแต่นี้เป็นต้นไป ยิ่งใกล้วันที่สิ้นสุดการไว้อาลัยมากขึ้นเท่าไหร่ เรื่องการหมั้นหมายของพวกเจ้าจะมีคนกล่าวถึงอยู่เรื่อยๆ ส่วนการเลือกของเจ้า อย่างที่ข้าบอก อดเปรี้ยวไว้กินหวาน กับหวานก่อนแล้วค่อยเปรี้ยว แล้วแต่เจ้าจะเลือกอย่างไร”
ฉินหมิงเย่ว์ใบหน้าแดง “ไม่มีทางเลือกอื่นแล้วหรือ จะต้องลำบากไม่ราบรื่นหรือ”
“ชะตาชีวิตของเจ้าไม่ได้ดีอย่างที่เจ้าคิดเช่นนั้น!” ฉินหลิวซีตอบเสียงเรียบ
ฉินหมิงเย่ว์หน้าแดงทันที ไม่กล้ากล่าวอะไรอีก
ฉินหมิงเป่าที่อยู่ข้างๆ กะพริบตา แอบเม้มริมฝีปาก หากพูดถึงเรื่องต่อกร ต้องเป็นพี่หญิงใหญ่ เพียงแค่ประโยคเดียวก็ทำเอาพี่หญิงรองหุบปากไปเลย!
ฉินหลิวซีพูดถูก คนนอกคิดว่าตระกูลฉินมีเฉิงเอินโหวคอยหนุนหลัง ย่อมมองตระกูลฉินสูงขึ้น และอยากมีความสัมพันธ์ ก็ไม่มีอะไรดีไปกว่าการแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์ ในฐานะที่ฉินหมิงเย่ว์และคนอื่นๆ ถึงวัยที่ต้องแต่งงานแล้วจึงมีตัวเลือกไม่น้อย
ผู้ที่มาส่งของขวัญขอโทษถึงหน้าประตูในตอนนี้ ก็เป็นสัญญาณอย่างหนึ่ง
และท่านอาทั้งสองรวมถึงท่านอาสะใภ้ที่ต้อนรับอยู่ด้านหน้า ล้วนทราบว่าสาเหตุมาจากฉินหยวนซาน รู้สึกประหลาดใจมากที่ได้ปีนขึ้นไปบนกิ่งไม้สูง แต่ฉินหยวนซานกลับสงบนิ่ง ตักเตือนไปรอบหนึ่ง ซ้ำยังบอกถึงคำพูดของฉินหลิวซี หลายคนราวกับถูกสาดด้วยน้ำเย็น เงียบสงบลง
คนอย่างฉินหลิวซีไม่ใช่คนที่พวกเขาจะควบคุมได้ หากไปทำให้นางขุ่นเคืองขึ้นมาจริงๆ จะต้องจบเห่อย่างแน่นอน!
ฉินหยวนซานให้ลูกสะใภ้ทั้งสองนำรายการของขวัญที่รับมา ส่งของขวัญคืนกลับไปในมูลค่าที่สอดคล้องกัน หมายความว่าต้องการปัดเป่าเรื่องนี้ออกไป ไม่ได้อยากจะมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้ง
และจอมเสเพลเหล่านั้น เขาเคยถามฉินหลิวซีไปแล้ว ไม่เอาความแล้ว
เมื่อมีผู้คนมากมายส่งเทียบเชิญไปงานเลี้ยงหรือมาเยี่ยมที่จวน ฉินหยวนซานก็กล่าวไปว่ากำลังอยู่ในช่วงไว้อาลัย ไม่ได้ให้บุตรชายและลูกสะใภ้ไปร่วมงานเลี้ยง เพื่อไม่ให้เกิดเรื่องขบขันในช่วงไว้อาลัย จนทำให้เกิดเรื่องเสียงหาย
ฉินหลิวซีพอใจกับสิ่งนี้เป็นอย่างมาก สิ่งที่กลัวที่สุดคือนายท่านผู้เฒ่าผู้นี้จะจากไปเหมือนกับนายหญิงผู้เฒ่าที่ล่วงลับ
ตกกลางคืน ฉินหลิวซีวาดยันต์สองสามยันต์ และได้เอาหินหยกมาจากทางจิ่วเสียนเล็กน้อย จัดฮวงจุ้ยในจวนตระกูลฉิน ตระกูลรุ่งเรืองผู้คนแข็งแรง นี่เป็นสิ่งตอบแทนเล็กๆ น้อยๆ ของนาง