คุณหนูใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า - ตอนที่ 927 นางยังคงเป็นจอมมารผู้ชั่วร้าย
ตอนที่ 927 นางยังคงเป็นจอมมารผู้ชั่วร้าย
ทันทีที่เฮยอู๋ฉังจากไป เว่ยเสียก็ขมวดคิ้ว เหลือบมองไปยังฉินหลิวซี
“ท่านเชื่อเรื่องไร้สาระเกี่ยวกับวิญญาณอีกโลกหนึ่งจริงๆ หรือ”
“เชื่อสิ ทำไมจะไม่เชื่อ” ฉินหลิวซีกระตุกมุมปาก “ก่อนหน้านี้หลานโย่วก็เคยมาที่นี่แล้ว ตอนนี้มีมาอีกคนจะเป็นอะไรไป แม้แต่ข้าก็มาจากโลกอื่นเช่นกัน”
เว่ยเสียรูม่านตาหดลง “ท่าน?”
“แม้แต่หมีเฮยซาตัวนั้นก็ยังรู้เลย” ฉินหลิวซีมองไปยังทิศทางที่เฮยอู๋ฉังหายตัวไป เอ่ยว่า “พื้นที่แห่งนี้มีช่องโหว่”
เว่ยเสียถาม “อีกโลกหนึ่งเป็นอย่างไรหรือ”
ฉินหลิวซีเงียบ มีความทรงจำผ่านเข้ามาในหัว แต่เร็วเกินกว่าที่นางจะนึกขึ้นมาได้ ส่ายหน้าพลางเอ่ยว่า “ข้าจำไม่ได้แล้ว”
ในหัวของนางมีความทรงจำมากมาย แต่ก็ไม่ชัดเจน
“เช่นนั้นปล่อยให้หยวนอิงไปจะไม่มีปัญหาหรือ” เว่ยเสียรู้สึกเสียใจและหงุดหงิดเล็กน้อย หากรู้ตั้งแต่แรกเขาจะแย่งไปก่อนแล้ว
“ใครจะไปรู้ว่าชีวิตจะเป็นอย่างไร ล้วนขึ้นอยู่กับโชคชะตาของแต่ละคน” ฉินหลิวซีนึกถึงนิสัยของหยวนอิง หัวเราะ “นางเป็นคนมองโลกในแง่ดี คนเช่นนี้ ไม่ว่าจะอาศัยอยู่ที่ไหนก็จะมีชีวิตที่รุ่งเรือง”
นางกลับไม่รู้ว่าทันทีที่หยวนอิงได้เริ่มต้นที่อีกโลกหนึ่งก็ด่านางแทบไม่เหลือชิ้นดี!
“อย่างไรเสียข้าก็รู้สึกว่ามันแปลกเล็กน้อย เสกจิตสำนึกของผู้มีคุณธรรมสูงส่งใส่ดวงวิญญาณอะไรนั่น รู้สึกว่าเป็นกับดัก” เว่ยเสียรู้สึกอยู่เสมอว่ามีบางอย่างผิดปกติ
ฉินหลิวซีหรี่ตาลง เอ่ยพึมพำว่า “บางทีอาจจะกลัวข้าตายกระมัง!”
เว่ยเสียใจเต้นแรง
ฉินหลิวซีไม่ได้เอ่ยอะไรอีก เพียงแต่เอ่ยว่า “เจ้าพิจารณาเรื่องฝึกบำเพ็ญผีเถิด”
เว่ยเสีย “?”
ฉินหลิวซีเอ่ยว่า “การฝึกบำเพ็ญผี หากสามารถฝึกบำเพ็ญจนบรรลุผลในทางคุณธรรม ไม่แน่เจ้าอาจจะสามารถทำงานเป็นเทพผีในยมโลกได้ การเวียนว่ายตายเกิดก็เพียงเท่านี้”
น้ำเสียงฟังดูเศร้าเล็กน้อย
“ไว้ค่อยคุยกันทีหลังเถิด!” เว่ยเสียยักไหล่ อย่างไรเสียเขาก็ตัวคนเดียว ไม่มีอะไรต้องห่วง
…
เมื่อพาเถิงเจากลับไปที่บ้านฉิน ก็เห็นฉีหวงถือสะดึงนั่งอยู่ที่เรือนอย่างเหม่อลอย ได้ยินเสียงความเคลื่อนไหวจึงหันมา เมื่อเห็นฉินหลิวซี ดวงตาทั้งสองข้างเป็นประกาย
“คุณหนูกลับมาแล้ว”
ฉินหลิวซีเดินไปหา เอ่ยหยอกล้อว่า “เจ้าเลิกทำร้ายผ้าไหมผืนนี้ได้แล้ว เดี๋ยวก็จิ้มตรงนั้น เดี๋ยวก็จิ้มตรงนี้ ข้ายังรู้สึกน้อยใจแทนมันเลย”
น้ำเสียงหยอกล้อเช่นนี้ ทำเอาฉีหวงรู้สึกมีความสุข ก้มหน้าลงมองสะดึงที่ถูกตัวเองปักยุ่งเหยิงไปหมด หน้าแดง รีบโยนมันลงไปในตะกร้างานเย็บปัก
“คราวนี้ออกไปข้างนอกเป็นเวลานาน ซูบผอมหมดแล้ว บ่าวจะไปตุ๋นน้ำแกงมาให้ท่านเจ้าค่ะ” จู่ๆ ฉีหวงก็นึกขึ้นมาได้ว่านายหญิงฉินผู้เฒ่าพึ่งจากไปได้ไม่นาน ที่นี่ยังคงอยู่ในช่วงไว้อาลัย จึงเอ่ยว่า “ตุ๋นน้ำแกงผักนะเจ้าคะ”
“ตามแต่เจ้าเถิด” ฉินหลิวซีหยิบถุงสัมภาระ เอ่ยว่า “ข้าจะไปที่เรือนโอสถ”
ฉีหวงจากไปอย่างมีความสุข
ในเรือนโอสถ ฉินหลิวซีวางวัตถุดิบยาสุดท้ายไว้บนชั้นวาง ใบหน้ายิ้มแย้มอย่างมีความสุข ในที่สุดก็รวบรวมจนครบแล้ว
“ท่านเตรียมจะปรุงยาลูกกลอนให้กับท่านอาจารย์ปู่หรือขอรับ” เถิงเจามองดูชั้นวางที่เต็มไปด้วยวัตถุดิบยาหายาก ในใจคิดว่าหากเอาออกไปใช้ตามอำเภอใจ จะต้องหัวแตกเป็นแน่กระมัง
ฉินหลิวซีพยักหน้า “หากมีโชค หนึ่งเตาสามารถหลอมได้สักสามเม็ด จะเหลือให้เจ้าหนึ่งเม็ด ตั้งใจฝึกบำเพ็ญให้ดี”
เถิงเจาขมวดคิ้วพลางถามว่า “การฝึกบำเพ็ญสร้างรากฐานจะต้องใช้ยาลูกกลอนช่วยจึงจะสำเร็จหรือ”
“แน่นอนว่าไม่ใช่ ผู้ที่มีวิชาเต๋าล้ำเลิศอย่างแท้จริงต้องการสร้างรากฐาน ตราบใดที่ฝึกบำเพ็ญอย่างสมบูรณ์ รอดพ้นด่านเคราะห์สายฟ้าไปได้ก็พอแล้ว เพียงแต่ว่าโลกในทุกวันนี้กำลังขาดพลังวิญญาณ หากมียาลูกกลอนก็จะช่วยได้มากยิ่งขึ้น อย่างไรเสียเนื้อหนังของคนเราต้องมาต้านทานด่านเคราะห์สายฟ้า ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่นี่เป็นสิ่งที่ต้องแบกรับ และเป็นการทดสอบการฝึกบำเพ็ญและความเข้าใจของเจ้าด้วย ดังนั้นไม่ต้องกังวล วิชาเต๋าขั้นพื้นฐานจะต้องมั่นคง เมื่อสิ่งเหล่านี้มั่นคงแล้ว จึงจะสามารถอดทนฝึกบำเพ็ญไปได้ มิเช่นนั้น ต่อให้เจ้าจะประสบความสำเร็จในก้าวเดียว หากไม่มีพื้นฐานที่มั่นคงก็จะพังทลายลงอย่างรวดเร็ว”
ฉินหลิวซีลูบศีรษะของเขา “อย่าคิดว่าตัวเองไร้ความสามารถไร้ประโยชน์จึงไม่สามารถปกป้องวั่งชวนได้ เจ้าอายุยังน้อย เข้าสู่ลัทธิเต๋าได้ยังไม่ถึงสามปี ประสบความสำเร็จได้อย่างเช่นตอนนี้ ก็นับว่าเป็นคนที่มีพรสวรรค์แล้ว ตราบใดที่ยังคงยึดมั่นในหัวใจเต๋า ฝึกบำเพ็ญอย่างขยันขันแข็ง เมื่อวันเวลาผ่านไป เจ้าจะต้องกลายเป็นผู้ที่มีคุณธรรมเต๋าขั้นสูง ส่วนวั่งชวน แต่ละคนมีชะตาชีวิตของตัวเอง อย่าให้นางกลายเป็นมารในใจเจ้า”
เถิงเจาสีหน้าซีด
เมื่ออาจารย์และลูกศิษย์ออกมาจากเรือนโอสถ ฉีหวงก็ยกน้ำอุ่นมาปรนนิบัติฉินหลิวซีล้างหน้า
เถิงเจากลับไปนั่งขัดสมาธิฝึกฝนวิชาที่ห้องตัวเอง
กลิ่นหอมแปลกๆ ลอยมาจากข้างหลัง
ฉินหลิวซีหันกลับไป เห็นปีศาจโสมน้อยหมอบอยู่บนธรณีประตูพร้อมกับหัวที่เต็มไปด้วยผลสีแดง แอบมองนางอย่างเงียบๆ เมื่อเห็นนางมองมา ก็หดหัวกลับไป เมื่อไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ ก็โผล่หัวออกมาอีกครั้ง
บ้าไปแล้ว หัวของมันเต็มไปด้วยผลสีแดง เทพอสูรผู้นี้กลับไม่มาเด็ดไป
ผิดปกติเกินไปแล้ว!
หรือว่ายังเสียใจกับการหายตัวไปของวั่งชวน
เมื่อปีศาจโสมน้อยนึกถึงเด็กผู้หญิงที่หาตัวไม่เจอ ก้านที่มีผลของมันก็เฉาลง รู้สึกหดหู่เล็กน้อย
มันดึงผลมาสองผล เดินไปอยู่ตรงหน้าฉินหลิวซีแล้วยื่นให้ “ข้าให้ท่าน อย่าเสียใจไปเลย สักวันหนึ่งจะต้องหานางจนเจอ”
ฉีหวงที่กำลังจัดเสื้อผ้าให้ฉินหลิวซี เมื่อได้ยินดังนั้น มือก็ชะงักไป
ฉินหลิวซีเลิกคิ้ว รับผลสองผลนั้นมา “ผลสีแดงเต็มหัวไปหมด ให้ข้าแค่สองผล? ดูเหมือนว่าค่ายอาคมรวบรวมวิญญาณที่ให้เจ้าจะต้องปลูกถ่ายไปให้พืชวิญญาณอื่นแล้วกระมัง ชนิดที่มีจิตสำนึกหน่อย”
ปีศาจโสมน้อยสะดุ้ง รีบยื่นเส้นใยรากไปให้อีกสองสามเส้นในทันที “เส้นใยรากที่ร่วงในช่วงนี้อยู่ที่นี่หมดแล้ว”
ฉินหลิวซีสบถเบาๆ ท่าทางราวกับพอใจที่เจ้ารู้ความ
“พืชวิญญาณอื่นอะไรกัน ไหนเลยจะดีเท่าข้า พวกเราก็รู้จักกันมาสองปีแล้ว ข้าย่อมไม่ใช่สิ่งที่พืชวิญญาณระดับต่ำจะสามารถเทียบได้” ปีศาจโสมน้อยพยายามเอาใจ
ฉินหลิวซีเห็นว่าผลของมันสีแดงแกมม่วง พลังวิญญาณดีกว่าก่อนหน้านี้ มีรัศมีสีทองจางๆ ไหลเวียนอยู่รอบๆ มือกดลงบนหัวของมัน มืออีกข้างหนึ่งคำนวณอย่างรวดเร็ว แล้วเอ่ยว่า “โอกาสวาสนาในการกลายร่างของเจ้าใกล้มาถึงแล้ว”
ปีศาจโสมน้อยตกตะลึง จากนั้นก็ดีใจเป็นอย่างมาก “จริงหรือ”
ฉินหลิวซีพยักหน้า “อีกไม่กี่วันข้างหน้าจะมีพระจันทร์เต็มดวง เจ้าไปที่ยอดหน้าผาด้านหลังอารามชิงผิง ดูดซับแสงจันทร์ให้มากขึ้น หลังจากนั้นสามวันข้าจะเลื่อนขั้นให้เจ้า”
ปีศาจโสมน้อยมีความสุขมากจนทั้งตัวเปลี่ยนเป็นสีแดงในทันที พลังวิญญาณล้นหลาม
“อย่าดีใจออกนอกหน้าจนเกินไป พลังวิญญาณที่ล้นออกมาจะดึงดูดคนโลภได้ง่าย ข้าจะให้เฮยซาอยู่ฝึกบำเพ็ญเป็นเพื่อนเจ้าสักสองสามวัน” ฉินหลิวซีเก็บรวบรวมพลังวิญญาณเหล่านี้ จ้องไปที่มัน
ยิ่งเป็นช่วงเวลาที่สำคัญ เมื่อมันดูดซับแสงจันทร์ พลังวิญญาณก็จะอุดมสมบูรณ์มากขึ้น ในเวลานั้นก็จะดึงดูดความสนใจของภูตผีปีศาจหรือผู้ที่ฝึกบำเพ็ญเต๋า ด้วยตัวมันแล้ว แม้ว่าจะหนีได้ก็เกรงว่าจะได้รับความเสียหาย
หลังจากฝึกฝนมานับพันปี คงจะปล่อยให้กลายเป็นคนพิการในช่วงสุดท้ายไม่ได้หรอกกระมัง
ปีศาจโสมน้อยซึ้งใจเป็นอย่างมาก น้ำตาไหลพรั่งพรูออกมา ข้ามองนางผิดไปแล้ว นางเป็นคนดี!
“อย่างไรเสียก็จะกลายร่างแล้ว ผลเหล่านี้เจ้าก็ไม่ต้องการแล้ว ข้าจะดูแลให้เจ้าเอง เกิดหล่นขึ้นมาจะสูญเปล่า!” ฉินหลิวซีเอื้อมมือไปที่หัวของมัน
ไม่เหลือแม้กระทั่งร่องรอย อย่าว่าแต่หนึ่งลูกเลย หยดเดียวก็ไม่มี!
ปีศาจโสมน้อย “!”
แงงง ความประทับใจของข้าให้สุนัขกินไปเสียแล้ว นางยังคงเป็นเทพอสูรผู้ชั่วร้าย!
ปีศาจโสมน้อยร้องไห้พลางวิ่งหนีไป หากยังไม่ไป มันกลัวว่าแม้แต่ใยรากก็รักษาไว้ไม่ได้!
คิกๆ
ฉีหวงหัวเราะ เอ่ยดุๆ ว่า “เหตุใดท่านต้องแกล้งมันด้วยเจ้าคะ”
“เปล่าเสียหน่อย ข้าเพียงแค่เก็บค่าใช้จ่ายล่วงหน้า การเลื่อนขั้นไม่จำเป็นต้องใช้พลังวิญญาณกับบุญกุศลหรือ” ฉินหลิวซีสบถเบาๆ หยิบกล่องหยกมาหนึ่งใบ เก็บผลโสมกับเส้นใยราก จากนั้นก็พับนกกระเรียนกระดาษหนึ่งตัว ร่ายคาถาให้ไปหาเฮยซาแล้วจึงได้ถามนางว่า “ในบ้านไม่มีเรื่องอะไรหรอกกระมัง”