คุณหนูใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า - ตอนที่ 928 อนุวั่น ‘ปรุงยาทำหมันให้ข้าเถิด’
ตอนที่ 928 อนุวั่น ‘ปรุงยาทำหมันให้ข้าเถิด’
ฉินหลิวซีถามเรื่องในบ้านขึ้นมาเอง ฉีหวงย่อมตอบตามความเป็นจริง
“คนบ้านรองและบ้านสามกลับเมืองหลวงแล้ว ในบ้านก็เงียบสงบขึ้นในทันที และนายหญิงใหญ่กับท่านอาหญิงใหญ่ก็เดินทางไปเมืองหลวงแล้ว ในจวนมีอยู่ไม่กี่คน อีกทั้งอยู่ในช่วงไว้อาลัย สงบสุขเป็นอย่างมากเจ้าค่ะ”
“นายท่านใหญ่ก็สงบสุขหรือ” ฉินหลิวซีประหลาดใจเล็กน้อยที่บิดานิสัยไม่ดีของตัวเองกลับสงบสุข
“กำลังอยู่ในช่วงไว้อาลัย ไม่อาจไปไหนมาไหนข้างนอกได้ ลำบากก็แต่คุณชายน้อยทั้งสอง ถูกนายท่านใหญ่ไล่ให้ไปศึกษาเล่าเรียน คุณชายน้อยสามเอาแต่หลบตลอดเวลาเจ้าค่ะ” ฉีหวงเอ่ยด้วยรอยยิ้ม
พูดถึงโจโฉ โจโฉก็มา
มีเสียงสองฝีเท้าดังมาจากข้างนอก
ฉินหลิวซีเดินไปที่หน้าประตู มองไปยังเด็กหนุ่มน้อยใหญ่ทั้งสอง
เมื่อฉินหมิงเยี่ยนเห็นนางก็ตกตะลึง แต่ฉินหมิงฉุนกลับพุ่งเข้าไป สายตาเต็มไปด้วยความสุข “พี่หญิงใหญ่ ท่านกลับมาแล้ว”
ฉินหมิงเยี่ยนเดินเข้ามา โค้งคำนับอย่างเป็นทางการ “คารวะพี่หญิงใหญ่!”
ฉินหมิงฉุนเห็นดังนั้น ก็คำนับตามทันที
“มาทำอะไร” ฉินหลิวซีเห็นว่าสีหน้าของฉินหมิงเยี่ยนเขียวเล็กน้อย เอ่ยว่า “เจ้าไม่ได้ดูแลรักษาตัวเองอย่างดีหรือ เหตุใดสีหน้าดูแย่เช่นนี้”
ฉินหมิงเยี่ยนดีใจเล็กน้อย เอ่ยว่า “ตอนนี้อยู่ในช่วงไว้อาลัย จึงทานได้เพียงมังสวิรัติ ก็เลยสูญเสียสีสันไปบ้าง”
ฉินหลิวซีไม่ได้เอ่ยสิ่งที่เป็นการอกตัญญู นางไม่ได้สนใจการไว้อาลัยต่อนายหญิงฉินผู้เฒ่า เป็นเพราะไม่มีความรู้สึก แต่ฉินหมิงเยี่ยนนั้นแตกต่าง หลานชายภรรยาเอกคนโต และนับว่าป็นคนที่นายหญิงผู้เฒ่ารักและเอ็นดูมาจนโต กินมังสวิรัติไว้อาลัยแสดงความกตัญญูต่อนางนั้นเป็นสิ่งที่ควรทำ
“ไว้ข้าจะเขียนใบสั่งยาน้ำแกงมังสวิรัติให้เจ้า ให้ป้าหลี่ในครัวใหญ่ช่วยตุ๋นให้เจ้าดื่ม ร่างกายของเจ้าได้รับบาดเจ็บสาหัส จะเพิกเฉยไม่ได้” ฉินหลิวซีเอ่ยเสียงเรียบ
“ขอบคุณพี่หญิงใหญ่ขอรับ” ฉินหมิงเยี่ยนเอ่ยขอบคุณ
ฉินหลิวซีให้ฉีหวงไปหยิบหมอนรองมาแล้วจับชีพจรให้เขา เขียนใบสั่งยาปรับสภาพร่างกาย จากนั้นก็เขียนวัตถุดิบสำหรับทำน้ำแกงมังสวิรัติให้แก่เขา
“เจ้าล่ะ ไม่ไปสำนักศึกษาหรือ” ฉินหลิวซีมองไปยังฉินหมิงฉุน
ฉินหมิงฉุนฉีกยิ้มพลางเอ่ย “ต้องไป เพียงแต่ว่าช่วงนี้ท่านอาจารย์ป่วย เกรงว่าจะแพร่มาสู่ข้า ดังนั้นจึงให้ข้ากลับมาพักที่บ้านสองวันขอรับ”
หืม เจ้าสำนักถังป่วยหรือ
ฉินหลิวซีรู้สึกนั่งไม่นิ่งในทันที มองไปยังฉีหวง “ให้เจาเจาเตรียมกล่องยา อีกสักครู่ข้าจะไปเยี่ยมที่จวนถัง”
“เจ้าค่ะ”
“ไปด้วยกันเถิด” ฉินหลิวซีเอ่ยกับน้องชายไม่เอาไหนทั้งสองว่า “ข้าจะไปเยี่ยมท่านแม่เล็กสักหน่อย”
บรรดาพี่น้องสามคน เดินออกจากเรือนไปพร้อมกัน
เรือนหลัก
ฉินปั๋วหงกำลังพิงหมอนอิงใบใหญ่ข้างหน้าต่างทางทิศใต้อ่านตำรา อนุวั่นที่นั่งอยู่ข้างเขากำลังดึงผ้าเช็ดหน้าด้วยความเบื่อหน่าย จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว นางไม่เข้าใจบันทึกประวัติศาสตร์ไม่เป็นทางการที่เขาอ่านให้นางฟังแม้แต่นิด เข้าหูซ้ายทะลุหูขวาซ้ำยังหาวอีกด้วย
ก็ไม่รู้ว่านายท่านเกิดเป็นบ้าอะไรขึ้นมา จะอ่านตำราให้นางฟังให้ได้ บอกว่าสาวงามต้องคอยอยู่ข้างๆ ยามอ่านตำรา น่าเบื่อจะตายอยู่แล้ว
หากมีเวลาว่างเช่นนี้ ไม่สู้นางไปเด็ดดอกเฟิ่งเซียนมาทาเล็บ ก็ไม่ได้อีก อยู่ในช่วงไว้อาลัย ทาไม่ได้ เช่นนั้นก็ทำเสื้อคลุมเล็กๆ สักสองตัว?
อนุวั่นเหลือบมองออกไปข้างนอก ทันใดนั้นก็เห็นสามคนพี่น้องเข้ามาในเรือน ดวงตาเป็นประกายในทันที มีคนมาช่วยแล้ว
นางลุกขึ้นยืนแล้วพุ่งไปที่หน้าประตูทันที ตะโกนอย่างตื่นเต้นว่า “ซีเอ๋อร์กลับมาแล้ว”
ตำราในมือฉินปั๋วหงร่วงหล่นลง มองออกไปข้างนอก เป็นฉินหลิวซีกลับมาแล้วจริงๆ รีบยกถ้วยชาขึ้นมาแล้วนั่งลง
“ท่านแม่เล็ก” ฉินหลิวซีคำนับ
“ตายจริง ในที่สุดเจ้าก็กลับมาแล้ว” อนุวั่นกระตือรือร้นเป็นอย่างมาก ทำเอาฉินหลิวซีรู้สึกแปลกๆ เล็กน้อย เกิดอะไรขึ้นกับนาง
แค่กๆๆ
เสียงกระแอมของฉินปั๋วหงดังมาจากในห้อง เตือนให้รู้ว่าเขายังอยู่
ฉินปั๋วหงเปลือกตากระตุก นี่มันเป็นการคำนับอะไรกัน เรียกบิดาไม่ได้ก็ไม่เป็นไร แม้แต่ท่านพ่อก็ไม่เรียกเสียแล้ว
“เรียกท่านพ่อไม่เป็นหรือ” ฉินปั๋วหงรู้สึกไม่พอใจ
ฉินหลิวซีไม่ได้กลัวเขา เอ่ยว่า “ไม่ได้เรียกมาสิบกว่าปีแล้ว ข้าไม่ชิน”
“แต่ข้าก็ยังเป็นบิดาของเจ้า!”
“อ้อ”
ฉินปั๋วหงรู้สึกโมโหกับท่าทางเช่นนี้ เอ่ยว่า “เจ้าไปไหนมา ไปทีก็นานกว่าหนึ่งเดือนแล้ว”
“กักตัวฝึกบำเพ็ญ”
ฉินปั๋วหงสำลัก นึกถึงสถานะของนาง ช่างเถิด อย่าทำให้ตัวเองโมโหจะดีกว่า เอ่ยว่า “ในเมื่อกลับมาแล้ว คืนนี้ก็อยู่กินเลี้ยงอาหารเย็นในครอบครัวด้วย เจ้าออกไปก่อนเถิด”
ฉินหลิวซีไม่ได้ตอบตกลง แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธ หันหลังแล้วจากไป
อนุวั่นรีบดึงนางไว้ “ไปนั่งเล่นที่ห้องของข้า”
เด็กน้อยทั้งสองก็อยากจะตามไปด้วย
ฉินปั๋วหงหน้าเขียว เอ่ยกับบุตรชายทั้งสองว่า “พวกเจ้าตามพ่อไปที่ห้องตำรา พ่อจะทดสอบความรู้ของพวกเจ้า”
ฉินหมิงเยี่ยนท่าทางราวกับมีผู้อาวุโสที่เคารพรักจากเขาไป
ฉินหมิงฉุนเกลียดตัวเองว่าเหตุใดจึงได้โง่ตามเข้ามาด้วย ไปหลบอยู่ที่ห้องแม่เล็กไม่ดีกว่าหรือ
ในห้องตะวันตก ฉินหลิวซีมองดูอนุวั่นเดินไปดูข้างนอกประตู จากนั้นก็ปิดประตูด้วยท่าทีระมัดระวัง อดมุมปากกระตุกไม่ได้
ป้องกันขโมยหรือ
“เกิดเรื่องอะไรขึ้น” ฉินหลิวซีสงสัยเล็กน้อย รินชาให้กันและกัน ก่อนจะยกถ้วยชาขึ้นมาจิบ
อนุวั่นมานั่งอยู่ข้างๆ ลูบมวยผมของนาง จากนั้นก็เอ่ยปากอย่างอืดอาดชักช้าว่า “คือว่า เจ้ามียาทำหมันหรือไม่ ปรุงให้ข้าสักหน่อยสิ!”
พรวด
ฉินหลิวซีพ่นน้ำชาออกมา เพิกเฉยต่อสายตารังเกียจความเลอะเทอะของอนุวั่น รับผ้าที่นางยื่นให้มาเช็ดอย่างไม่ใส่ใจ เอ่ยว่า “ท่านถามเรื่องนี้ทำไม”
“ก็เอามากินไง ยังจะทำอะไรได้อีก”
ฉินหลิวซียกมือขึ้น ยื่นไปแตะที่หน้าผากของนาง ก็ไม่ได้ร้อน จากนั้นก็จับข้อมือของนางมาตรวจชีพจร เพียงแค่อ่อนแอเล็กน้อย
อนุวั่นถามอย่างประหม่าว่า “ข้าไม่ได้ตั้งครรภ์หรอกกระมัง”
ฉินหลิวซี “…”
แต่ถึงกระนั้น ข้าก็เป็นบุตรสาวของท่าน คนเป็นมารดาพูดเรื่องนี้กับบุตรสาว ไม่ประหลาดไปหน่อยหรือ
“เหตุใดจู่ๆ ท่านจึงคิดสั้น ต้องการจะกินยานั่น” ฉินหลิวซีพูดไม่ออก
ใบหน้าของอนุวั่นเต็มไปด้วยความหงุดหงิด “ข้าไม่อยากนอนกับเขาแล้วต้องกินยาคุมกำเนิดทุกครั้ง น่ารำคาญจะตาย หากไม่กินก็กลัวจะตั้งครรภ์ขึ้นมา แม้ว่าจะไม่บ่อยและเขาจะดูไม่ค่อยไหวก็เถอะ แต่หมอตำแยบอกว่าข้าร่างกายแข็งแรงตั้งครรภ์ได้ดี สามารถตั้งครรภ์ได้ ตอนนี้อยู่ในช่วงไว้อาลัย หากตั้งครรภ์ขึ้นมา ทุกคนจะทำตัวไม่ถูก”
ฉินปั๋วหง ‘คนไม่เอาไหนผู้นี้อยากจะให้ข้าอับอายและโดดเดี่ยว!’
ฉินหลิวซีเลิกคิ้ว “ยิ่งมีบุตรมากเท่าไหร่ ตำแหน่งของท่านก็จะยิ่งมั่นคง ไม่ดีหรือ”
อนุวั่นสายตาราวกับว่าเจ้าโง่หรืออย่างไร เอ่ยว่า “ในครอบครัวของพวกเรา ยังจะต้องอาศัยบุตรชายมาแย่งชิงความโปรดปรานอยู่อีกหรือ ข้าคลอดมาสองคนแล้ว ซ้ำยังเลี้ยงมาได้ ตำแหน่งนี้มั่นคงจนไม่รู้จะมั่นคงอย่างไรแล้ว อีกอย่างยิ่งคลอดบุตรก็ยิ่งส่งผลเสียต่อร่างกาย โดยเฉพาะข้านั้นไม่ใช่เด็กสาววัยสิบแปดปียี่สิบปีแล้ว มีชีวิตอยู่ดีๆ ไม่ชอบ ไปตะลุยด่านวิญญาณเพื่อคลอดบุตร คิดว่าข้าโง่หรือ ข้าเป็นอนุของท่านพ่อเจ้า ก็เพียงเพื่อความมั่งคั่งร่ำรวยมีเกียรติ มิเช่นนั้นบุปผางดงามบอบบางอย่างข้าจะลงเอยกับบุรุษที่อายุมากกว่าสิบกว่าปีหรือ ข้าไม่อยากจะสู้ตายเพื่อคลอดบุตร ไม่เพียงแต่ทำลายรูปร่าง ซ้ำยังอาจเสียชีวิตได้ คลอดบุตรนั้นเจ็บปวดมาก ยังไม่ทันได้เพลิดเพลินกับความมั่งคั่งก็สูญเสียชีวิตไปแล้ว ข้าจะไม่ขาดทุนหรือ”
ไม่ธรรมดา เห็นตามความเป็นจริง!
“อย่างไรเสียข้าก็ไม่อยากตั้งครรภ์อีกต่อไปแล้ว ความจริงแล้ว หากไม่ถือเป็นความอกตัญญู ข้ายังอยากจะให้นกเขาของท่านพ่อเจ้าไม่ขัน อย่างไรเสียสตรีอย่างพวกเรากินยาก็เป็นการทำร้ายร่างกาย!” ใบหน้าของอนุวั่นเต็มไปด้วยความเสียใจ
ในที่สุดฉินหลิวซีก็อดหัวเราะออกมาไม่ได้ เพื่อความยุติธรรม ควรกินยาไปใช่หรือไม่
ฉินปั๋วหงที่กำลังเดินไปห้องตำรา ทันใดนั้นก็รู้สึกถึงลมกระโชกแรงพัดผ่านเป้ากางเกง เข้าไปถึงน้องชายของเขา เย็นยะเยือก อดตัวสั่นไม่ได้