คุณหนูใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า - ตอนที่ 930 มีบางอย่างผิดปกติ
ตอนที่ 930 มีบางอย่างผิดปกติ
Ink Stone_Romance
ฉินหลิวซีมักจะรู้สึกว่าการตายของเหยียนฉีซานนั้นค่อนข้างไม่สมเหตุสมผล แต่เทพเจ้าน้ำเฟิงปั๋วกลับบอกชัดเจนว่าเป็นอุบัติเหตุ เขาเป็นครึ่งเทพ คงไม่ได้ดูผิดไปหรอกกระมัง
“โหงวเฮ้งก็สามารถเปลี่ยนไปได้ โชคลาภของผู้คนเปลี่ยนไปตามพลังงาน หากโชคดีทุกอย่างก็จะดำเนินการไปอย่างราบรื่น หากโชคร้ายไปติดสิ่งอัปมงคลก็จะแตกต่างออกไป โหงวเฮ้งก็จะเปลี่ยนไปด้วย” ฉินหลิวซีอธิบายกับเจ้าสำนักถังว่า “ตามอาการของท่านอาจารย์เหยียนเช่นนี้ เป็นการเสียชีวิตอย่างผิดธรรมชาติ คงจะไปแปดเปื้อนพลังงานชั่วร้ายมา”
เจ้าสำนักถังกล่าวว่า “เขาก็สามารถแปดเปื้อนสิ่งเหล่านั้นได้ด้วยหรือ ตระกูลของพวกเขาไม่ได้มีโชคลาภอันยิ่งใหญ่หรอกหรือ ก็ควรจะราบรื่นสงบสุขจึงจะถูก”
ฉินหลิวซีเอ่ยเสียงเรียบว่า “มีโชคลาภคอยคุ้มครอง แต่ไม่ได้หมายความว่าทุกอย่างจะไร้กังวล เพียงแค่มีโชคดีหรือเมื่อพบกับปัญหาเรื่องร้ายก็จะกลายเป็นดี แต่ก็ใช่ว่าทุกคนจะเป็นเช่นนี้ แล้วเฟิงปั๋วก็บอกว่าเป็นอุบัติเหตุ ข้ารู้สึกว่าค่อนข้างประหลาด”
เจ้าสำนักถังสีหน้ามืดมน “กล่าวอะไรไปก็ไร้ประโยชน์ ตอนนี้เขาไม่อยู่แล้ว เมื่อข้าได้รับข่าวร้ายนี้ ก็โกรธจนส่งผลกับหัวใจ จึงได้มีอาการโรคหัวใจ เนื่องจากระยะทางห่างไกล ท่านอาจารย์แม่ของเจ้าไม่วางใจ อีกทั้งเจ้าก็ไม่อยู่ มิเช่นนั้นข้าจะไปส่งเขาเป็นครั้งสุดท้าย ตอนนี้ไม่ได้เห็นหน้าเขาเป็นครั้งสุดท้ายเลยด้วยซ้ำ ก็แยกจากกันคนละโลกแล้ว”
ฉินหลิวซีคิดอยู่ครู่หนึ่ง เอ่ย “เขาตายอย่างผิดธรรมชาติ ก็จะไม่วนเวียนอยู่ในโลกมนุษย์ ไว้ข้าจะให้คนไปพาตัวเขามาถาม พวกท่านก็จะได้เจอกันอีกครั้ง”
เจ้าสำนักถังดวงตาเป็นประกาย “ได้หรือ”
“ตามหลักแล้วหยินหยางนั้นแตกต่างกัน ไม่อาจอัญเชิญดวงวิญญาณที่เข้าสู่ประตูวิญญาณแล้วกลับมาได้ตามใจชอบ เปิดตาทิพย์มองดูวิญญาณก็เป็นผลเสียต่อร่างกาย โดยเฉพาะผู้ที่ไม่ได้ฝึกบำเพ็ญเต๋าอย่างท่าน ซ้ำยังร่างกายอ่อนแอ ก็ยิ่งไม่ดี” ฉินหลิวซีเอ่ยว่า “แต่ว่าเขาจากไปอย่างกะทันหัน ซ้ำยังจากไปด้วยเหตุผลที่ไม่น่าเชื่อ ข้าก็อยากจะถามเขาเช่นกัน”
บังเอิญว่าเฮยอู๋ฉังพึ่งจะติดค้างน้ำใจอยู่พอดี หากไม่ใช้จะเสียเปล่า อ้อ น้ำใจนี้ได้ถูกซื้อหนึ่งแถมหนึ่งไปแล้ว?
แต่ไม่เป็นไร นางหน้าหนา ขี้โกงได้!
เฮยอู๋ฉังที่กำลังจับวิญญาณร้ายตัวสั่น ปีศาจน้อยที่ไหนคิดจะรอบวางแผนนายท่านอย่างข้า
เจ้าสำนักถังกลับไม่ได้คิดอะไรมากมาย เอ่ยว่า “เช่นนั้นเจ้ารีบพาเขามาเถิด ไม่ว่าจะดีหรือไม่ ได้พบเขาอีกสักครั้ง ก็นับว่าได้เติมเต็มมิตรภาพหลายสิบปีของพวกเรา คุ้มค่าแล้ว”
อย่างไรเสียลูกศิษย์ผู้นี้ก็ไม่มีทางมองดูตัวเองถูกพลังหยินพัวพันร่างกายโดยไม่ทำอะไร พกยันต์ติดตัวให้มากขึ้นหน่อย ดื่มน้ำมนต์สักสองถ้วยก็ได้แล้ว
เมื่อฉินหลิวซีเห็นว่าถึงเวลาแล้วจึงให้เถิงเจาเอาเข็มออกให้เขา เอ่ยกำชับว่า “เอาเข็มออกแล้ว ไม่ต้องนวดที่รอยเข็ม ให้ของเสียถูกปลดปล่อยออกมาตามรอยเข็ม”
เถิงเจารับปาก เอ่ยกับเจ้าสำนักถังว่า “ท่านหายใจตามที่ข้าบอก”
เจ้าสำนักถังเชื่อฟังเป็นอย่างมาก
ฉินหลิวซีเห็นว่าเถิงเจาเอาเข็มออกได้ดี จากนั้นก็ไปหาสถานที่ข้างนอกเสกยันต์ท่องคาถาอัญเชิญเฮยอู๋ฉัง ที่ไม่ได้ในเชิญในห้องหนังสือนั้นเป็นเพราะว่าในห้องหนังสือพลังคุณธรรมของปัญญาชนนั้นรุนแรงเป็นอย่างมาก ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อวิญญาณในยมโลก
เฮยอู๋ฉังพึ่งจะใช้โซ่ตรวนวิญญาณจับวิญญาณร้ายไว้หนึ่งตน เมื่อได้ยินการอัญเชิญของนายท่านฉินหลิวซีผู้นี้ ก็โกรธจนดึงไม้เท้าสีดำออกมาจากข้างหลังแล้วตีไปที่ดวงวิญญาณร้ายอย่างแรง
“ใครใช้ให้เจ้าหนี ใครให้เจ้าทำได้ ไม่เพียงแต่ทำให้ข้ายุ่งวุ่นวาย ตอนนี้ยังมาถูกอัญเชิญไปอีก เจ้าหนีไปสิ เจ้าวิญญาณสารเลว!”
ไม้เท้าสีดำสนิทโจมตีวิญญาณร้ายซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทำเอาเขากรีดร้องด้วยความเจ็บปวด
เขาถูกใส่ร้าย!
เมื่อเฮยอู๋ฉังได้ระบายความโกรธแล้ว แต่ก็ยังรู้สึกอัดอั้นอยู่ในใจ จึงเสกให้โซ่ตรวนวิญญาณหดลง บีบวิญญาณร้ายตนนั้นจนแบนเป็นกระดาษ
วิญญาณร้าย ‘ข้าชั่วร้าย แต่มีคนชั่วร้ายกว่า!’
หลังจากจัดการกับวิญญาณร้ายแล้ว เฮยอู๋ฉังก็ไปหาฉินหลิวซีในทันที ในใจรู้สึกท้อแท้เล็กน้อย ได้พบกันบ่อยเกินไป เขาต้องพิจารณาเรื่องลาพักร้อนแล้ว!
ฉินหลิวซียืนอยู่ในที่มืดใต้ต้นไม้ มองดูเฮยอู๋ฉังที่ปรากฏตัวพร้อมรอยยิ้มประจบประแจง ก่อนจะเอ่ยว่า “ส่งหยวนอิงไปแล้วหรือ”
“ได้ส่งไปแล้ว” เฮยอู๋ฉังเอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “นายท่านอัญเชิญข้าด้วยเรื่องใดหรือ”
“มีบางคนที่อยากจะให้เจ้าพามา ข้ามีเรื่องจะถามเขา”
เฮยอู๋ฉังเปลือกตากระตุก “นายท่าน ไม่ดีหรอกกระมัง”
“หืม?”
เฮยอู๋ฉังตัวสั่น “ข้าหมายความว่ามีเรื่องอะไรถึงขั้นต้องให้ท่านถามด้วยตัวเอง ท่านบอกข้อความมา ข้าจะไปถามให้”
“ไม่ต้อง มีคนอยากพบเขาด้วยเช่นกัน” ฉินหลิวซีโบกมือ “ไปพาตัวเขามาก็พอ คือเหยียนฉีซานจากอวี๋หัง ดูว่าเขาไปเกิดใหม่หรือยัง”
เฮยอู๋ฉังยอมรับชะตากรรมเปิดใบเป็นตาย เขียนชื่อของเหยียนฉีซานลงไป เมื่อมองดูก็รู้สึกขำ “คนผู้นี้ตกส้วมตาย”
นี่เป็นการตายที่มีกลิ่น!
เมื่อเห็นฉินหลิวซีหน้าเขียว เขาก็ยิ้มอย่างลำบากใจ กล่าวว่า “เช่นนั้นข้าน้อยขอตัวสักครู่เดี๋ยวกลับมา”
แต่กลับไม่คิด บอกว่าไปครู่เดียวเดี๋ยวกลับมา ได้กินเวลาไปถึงหนึ่งชั่วยามกว่าเขาจะปรากฏตัวอีกครั้ง ทันทีที่ปรากฏตัว ก็เอ่ยว่า “นายท่าน เหยียนฉีซานผู้นี้ ไม่ได้เข้าสู่ประตูวิญญาณในยมโลก หรือว่าจะไม่รู้ว่าตัวเองตายแล้วจึงไม่ได้เข้าสู่ประตูวิญญาณ”
ฉินหลิวซีขมวดคิ้ว “ยมทูตตนอื่นไม่ได้จับดวงวิญญาณนี้ไว้หรือ”
“ข้าน้อยได้ตรวจสอบบันทึกทั้งหมดแล้ว แต่ไม่มีร่องรอยว่าเขามารายงานตัวที่ประตูวิญญาณ หากไม่หนีไป เช่นนั้นก็ไม่ได้ตามมา”
เฮยอู๋ฉังเอ่ย
ยมทูตจับวิญญาณ ก็ใช่ว่าจับมาแล้วก็จะไปทุกตน วิญญาณบางตนหลังจากตายไปแล้ว ยังมีความยึดติดไม่ยอมให้ยมทูตนำทางพาไปเกิดใหม่ วนเวียนอยู่ในโลกมนุษย์กลายเป็นวิญญาณเร่รอน
ดวงวิญญาณบางตนก็จะตามไป แต่ก็จะเสียใจภายหลังแล้วหนีไป อย่างเช่นวิญญาณร้ายที่เขาพึ่งจับเมื่อครู่นี้ ไม่เต็มใจ และเสียใจอยากจะหนีไป
จู่ๆ ความรู้สึกแปลกๆ ในใจของฉินหลิวซีก็เกิดขึ้นอีกครั้ง กล่าวว่า “ไม่ได้ไปต่อแถวเกิดใหม่ที่ยมโลกจริงๆ หรือ”
“ข้าน้อยรับรองได้เลย!”
ฉินหลิวซีจึงถามว่า “ในใบเป็นตายเขียนว่าเขาตายเพราะอุบัติเหตุ ไม่ได้เป็นเพราะถูกฆาตกรรมใช่หรือไม่”
“ใช่แล้ว ไม่ใช่ฝีมือคนทำ”
หรือว่าจะมีการยึดติด
ไม่ควรเป็นเช่นนั้น มีเฟิงปั๋วอยู่ ในเมื่อตรวจสอบการตายของเขาแล้ว ก็ควรจะพบว่าดวงวิญญาณของเขายังอยู่หรือมีความยึดติดอะไรหรือไม่
“รบกวนให้เจ้าต้องเป็นธุระให้แล้ว” ฉินหลิวซีเสกสุราหนึ่งไหกับไก่ย่างหนึ่งตัวให้เขา
เฮยอู๋ฉังรับมาด้วยรอยยิ้มแล้วจากไป
เจ้าสำนักถังฝืนอาการง่วงนอน เมื่อเห็นฉินหลิวซีเข้ามาอีกครั้ง จึงถามว่า “เป็นอย่างไร อัญเชิญมาได้หรือไม่”
ฉินหลิวซีส่ายหน้า “ไม่ได้ไปต่อแถวเกิดใหม่”
เจ้าสำนักถังประหลาดใจเป็นอย่างมาก “นี่เป็นเพราะเหตุใดหรือ”
คนก็ได้ตายไปแล้ว เหตุใดเขาจึงไม่ไปเกิดใหม่
“อาจเป็นเพราะมีความยึดติด วิญญาณเตร็ดเตร่อยู่ในโลกมนุษย์ หรือวนเวียนอยู่ที่เดิม หรือไม่ก็ไม่มีดวงวิญญาณแล้ว”
“ไม่มีดวงวิญญาณแล้ว หมายถึงดวงวิญญาณแตกสลายหรือ” เจ้าสำนักถังสีหน้าตกใจกลัว เมื่อเห็นนางพยักหน้าก็ขนลุกไปทั้งตัว ใบหน้าซีดขาว
คนดีๆ แม้ว่าจะตายไปแล้ว จะวิญญาณแตกสลายโดยไร้สาเหตุได้อย่างไร
“หรือนี่หมายความว่าการตายของเขาไม่ใช่อุบัติเหตุ” เจ้าสำนักถังลำคอแห้ง
“ใบเป็นตายบันทึกว่าตายเพราะอุบัติเหตุจริงๆ แต่ดวงวิญญาณไม่ได้ไปเกิดใหม่ นับว่ามีบางอย่างผิดปกติจริงๆ” ฉินหลิวซีเม้มริมฝีปาก เอ่ยว่า “เขาไปกินเหล้าที่ไหน ท่านบอกที่อยู่แก่ข้า ไว้ข้าจะลองไปดูที่นั่น”
“ข้าไปกับเจ้า”
ฉินหลิวซีปฏิเสธโดยไม่ต้องคิด “ไม่ได้ ร่างกายของท่านในตอนนี้ไม่สามารถทนต่อความทรมานได้ ข้าไม่อยากเปลืองแรงมาดูแลรักษาท่านครั้งใหญ่ ช่วงนี้ข้ายุ่งเป็นอย่างมาก”
เจ้าสำนักถังห่อเหี่ยว สีหน้าน้อยใจ
ฉินหลิวซีเห็นดังนั้นก็ไม่ได้ใจอ่อน เห็นได้ชัดว่าเรื่องนี้มีบางอย่างน่าสงสัย นางไม่อยากพาเขาไปเสี่ยงอันตราย!