คุณหนูใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า - ตอนที่ 940 โสมผู้น่าสงสาร ผ่ามันให้ข้าเดี๋ยวนี้!
ตอนที่ 940 โสมผู้น่าสงสาร ผ่ามันให้ข้าเดี๋ยวนี้!
ฉินหลิวซีได้รับจดหมายรับรองว่าโอกาสกำลังจะมาถึงแล้ว ช่วงนี้ปีศาจโสมน้อยดูดซับแสงจันทร์อย่างหนัก กลิ่นหอมของโสมที่เป็นสมบัติล้ำค่าดึงดูดให้ภูตผีปีศาจในส่วนลึกของป่าวั่นไหวพากันมา สมบัติล้ำค่าที่กลายเป็นสิ่งที่มีจิตวิญญาณ ตราบใดที่มันกลืนกินลงไป ตบะที่ฝึกบำเพ็ญมาก็จะเพิ่มขึ้นจนกระทั่งกลายเป็นคนได้อีกครั้งก็ยอมได้
หากไม่ใช่เพราะมีเฮยซาภูตภูเขาตนนี้ช่วยปกป้องอาคมไว้ให้มัน ปีศาจโสมน้อยคงถูกสับเป็นชิ้นๆ แล้วกินเข้าไปนานแล้ว
เฮยซาได้ช่วยขับไล่ภูตผีปีศาจไปแล้ว แต่ไม่สามารถช่วยขับไล่มารในใจของเขาได้ ทันทีที่ตกสู่สมาธิอยู่ในสภาวะไร้เขตแดน มันกลับมีจิตมาร ชีวิตโสมตกอยู่ในอันตราย ทำเอาเฮยซาตกใจ ปกป้องมันพลางกำชับให้ผีภูเขาตนหนึ่งรีบนำข่าวไปบอกฉินหลิวซี
หากฉินหลิวซียังไม่กลับมาอีก ปีศาจโสมน้อยตนนี้จะระเบิดแล้ว!
ตอนนี้เฮยซามองไปที่ร่างโสมสีแดงม่วงของโสมน้อย กังวลจนแทบจะกลายร่าง เจ้าเด็กโชคร้ายผู้นี้จะระเบิดอยู่แล้ว เหตุใดนายท่านยังไม่มาเสียที
ฮือฮา
เฮยซาหูไว หันกลับไป ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่บริเวณนี้ของตัวเองได้ถูกล้อมรอบไปด้วยสัตว์น้อยใหญ่และบรรดาภูตผีปีศาจในเงามืดมากมาย จ้องมองไปที่ปีศาจโสมน้อยด้วยสีหน้ากระหาย
จะไม่กระหายได้อย่างไร กลิ่นโสมนี้ลอยออกไปมากกว่าสิบลี้ได้แล้วกระมัง และได้ดึงดูดความสนใจของนักพรตมารแล้ว นับนิ้วคำนวณดู มีสมบัติล้ำค่าปรากฏขึ้น มีหรือจะไม่มา
“ไสหัวไป!” เฮยซาส่งเสียงคำราม มือทั้งสองข้างร่ายคาถาเสกม่านอาคมให้ปีศาจโสมน้อย นึกสาปแช่งฉินหลิวซีอยู่ในใจ
หากยังไม่มาอีก ก็รอเก็บศพโสมได้เลย ไม่สิ อย่าว่าแต่ศพเลย แม้แต่กลิ่นอายของโสมก็หาไม่พบ อย่างไรเสียก็มีพวกนี้คอยจ้องมองอยากจะเป็นเจ้าข้าวเจ้าของอยู่ไม่น้อย มีหรือจะไม่แบ่งกัน
ดูสิ แม้ว่าเขาจะส่งเสียงคำราม สิ่งเหล่านั้นก็ไม่ถอยออกไปแม้แต่ก้าวเดียว ยังคงรออย่างเหนียวแน่น
ก็ต้องรอน่ะสิ
ปีศาจโสมพันปี พลังวิญญาณ แสงสีทอง อยากได้ยิ่งนัก
แม้ว่าเฮยซาจะโกรธ แต่ก็ไม่กล้าจากไป กลัวว่าเมื่อตัวเองจากไป ปีศาจโสมน้อยที่อยู่ในสภาวะไร้สติตอนนี้จะถูกเล่นงานเข้า
ในเวลานี้ปีศาจโสมน้อยก็กำลังต่อต้านกับจิตมารของตัวเอง ตามหลักแล้ว มันที่เป็นสมบัติล้ำค่า ดูดซับแสงจันทร์อย่างขยันขันแข็งเพื่อรอโอกาสที่จะกลายร่าง ก็ไม่สามารถที่จะเอาชนะจิตมารอะไรนั่นได้ แต่สิ่งที่แย่ก็คือในความทรงจำของมันมีผู้อาวุโสได้ล้มเหลวในการกลายร่าง ไม่เพียงแค่สูญเสียตบะที่บำเพ็ญมาเป็นเวลาหนึ่งปี ซ้ำไม่เหลือแม้แต่ซาก มันย่อมกลัวที่จะเดินตามรอยบรรพบุรุษท่านนั้น
มันฝึกบำเพ็ญมาพันปี มันอยากจะเป็นคน
นี่เป็นความยึดติดของมัน ความยึดติดก่อตัวขึ้น เมื่อไม่สามารถควบคุมมันได้ก็จะกลายเป็นจิตมาร ตกอยู่ในความสงสัยในตัวเอง
ปีศาจโสมน้อยรู้ว่าตัวเองเป็นลูกธนูที่อยู่บนคันธนูแล้ว ถอยหลังกลับไปไม่ได้แล้ว ต้องเผชิญด่านเคราะห์กลายร่าง แต่มันไม่กล้า
มันกลัวจะล้มเหลวเหมือนกับผู้อาวุโสท่านนั้น
พลังวิญญาณของปีศาจโสมน้อยระงับความพลุ่งพล่านในร่างกาย ยิ่งระงับก็ยิ่งควบคุมไว้ไม่อยู่ พลังวิญญาณรั่วไหลออกมา กลิ่นโสมกระจายไปทั่วสี่ทิศ
มันแทบจะร้องไห้แล้ว
หากว่า หากว่าไม่สามารถเป็นคนได้จริงๆ ต่อให้มันเป็นผีก็จะปล่อยเทพอสูรผู้นั้นไปไม่ได้ เป็นนางที่บอกให้มันมาฝึกบำเพ็ญที่นี่ แต่เมื่อคิดดูแล้ว เทพอสูรก็หวังดีกับมัน เป็นมันที่ไม่ได้เรื่องเอง จึงได้ตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้
แงๆ ตบะที่ฝึกบำเพ็ญมาพันปีของมัน ก็ไม่รู้ว่าสุดท้ายจะเป็นผีไม่เอาไหนตนใดได้ไป
โสมผู้น่าสงสาร!
ปีศาจโสมน้อยไม่สามารถระงับความคิดในใจเอาไว้ได้ เมื่อถึงจุดที่เกือบจะสิ้นหวัง เทพอสูรก็มาถึง
ทันทีที่ฉินหลิวซีปรากฏตัว เฮยซาก็โล่งอกในทันที ตะโกนด่าเสียงดัง “ไอ้…ท่านมาได้สักที หากยังไม่มาอีก ก็เตรียมตั้งหลุมศพให้พวกเราสองคนได้เลย!”
ฉินหลิวซีเหลือบมองเขาพลางเอ่ย “เป็นถึงภูตภูเขาก็จัดการภูตผีปีศาจเหล่านั้นไม่ได้ เช่นนั้นก็กลับเข้าไปในเตาเถิด มาทำตัวอวดเบ่งอำนาจอะไรกัน”
ภูตผีปีศาจที่ถูกดูหมิ่น ‘พวกเราไม่มีศักดิ์ศรีหรือ’
คนเดียวสู้ไม่ไหว แต่พวกเรารวมพลังสู้ได้!
ปีศาจโสมน้อย ‘หยุดพูดพล่ามได้แล้ว มาดูข้าก่อน’
ฉินหลิวซีก้าวไปข้างหน้า เหลือบมองปีศาจโสมน้อย จากนั้นก็เข้าไปเอามือกดลงบนศีรษะของมัน กล่าวว่า “หยุดควบคุมได้แล้ว เผชิญด่านเคราะห์เถิด”
ปีศาจโสมน้อยตกใจ “แต่ แต่สภาพอากาศในวันนี้ จะสามารถเรียกสายฟ้ามาเผชิญด่านเคราะห์ได้หรือ”
มันกลัว หากเรียกสายฟ้ามาเผชิญด่านเคราะห์ไม่ได้จะเปล่าประโยชน์
“มีข้าอยู่ มีหรือจะเรียกมาไม่ได้” ฉินหลิวซีสีหน้ามืดครึ้ม “เจ้าไม่เชื่อข้า?”
ปีศาจโสมน้อยตัวสั่น กล่าวอย่างอ่อนแรงว่า “ข้าไม่เชื่อตัวเอง ข้ากลัว…”
“กลัวอะไร เผชิญด่านเคราะห์สำเร็จเจ้าก็กลายเป็นคนแล้ว หากไม่สำเร็จ เช่นนั้นก็…”
“หากไม่สำเร็จจะเกิดอะไรขึ้น”
ฉินหลิวซีเอ่ยอย่างเย็นชาว่า “หากไม่สำเร็จก็ลาภปากข้าอย่างไรล่ะ ข้าจะเอาเจ้ามาใช้ให้เกิดประโยชน์ที่สุด ควรปรุงยาก็ปรุง ควรใช้ผสมตัวยาก็ใช้”
ฟังสิ นี่เป็นคำที่ควรพูด เป็นสิ่งที่คนทำกันหรือ
ปีศาจโสมน้อย “!”
เจ้าคนนิสัยไม่ดี!
“ดังนั้นหากไม่อยากถูกข้าเอาไปผสมยาปรุงออกมาก็ไม่ต้องคิดอะไรทั้งนั้น จงตั้งมั่นในความปรารถนาที่อยากจะเป็นคน” ฉินหลิวซียิ้มเจ้าเล่ห์ “เป็นคนกับเป็นยาปรุง สองตัวเลือก เชิญเลือกได้ตามใจชอบ”
ปีศาจโสมน้อยโกรธจนแทบจะระเบิด ยังต้องเลือกอีกหรือ มันไม่มีทางให้นางได้เปรียบ
“ทำตามข้า ปรับลมหายใจ ระดมพลังวิญญาณของเจ้า” ฉินหลิวซีปล่อยมัน เอ่ยพลางหยิบยันต์สีเหลืองสองสามแผ่นออกมาจากแขนเสื้อ กัดปลายนิ้วใช้เลือดวาดยันต์ลงบนหนึ่งในนั้น เสกลงบนร่างโสม ที่เหลืออีกสองสามแผ่น เป็นยันต์ว่างเปล่า แสงสีทองส่องประกายออกมา เมื่อยันต์สำเร็จ ก็เปล่งประกายล้อมรอบตัวของมัน
ทันใดนั้นปีศาจโสมน้อยก็รู้สึกสงบลงในทันที ช่างเถิด
หากไม่สำเร็จ อย่างน้อยก็ทำเต็มที่แล้ว แย่ที่สุดผลลัทธ์ก็คือนางได้เปรียบไป ไม่ขาดทุน!
มันเริ่มปรับลมหายใจ เคลื่อนย้ายพลังวิญญาณที่ฝึกบำเพ็ญมาหลายปี รวบรวมขึ้นมา ทันใดนั้นก็ก่อตัวขึ้นเป็นเกลียว
ฉินหลิวซีนั่งขัดสมาธิอยู่ข้างๆ ส่งเสียงกังวาน “หากอยากจะได้รับประโยชน์ด้วยก็จงรออย่างเชื่อฟัง ใครกล้าเข้ามาแย่งไป ก็แบกรับผลที่ตามมาด้วยตัวเอง”
คำเตือนนี้ดั่งเสียงฟ้าร้อง ราวกับสายฟ้าระเบิด เข้าไปในหูของภูตผีปีศาจที่รายล้อมอยู่ข้างนอก พากันตัวสั่น
ไม่ควรทำให้นางขุ่นเคือง
ปีศาจโสมน้อยได้ตกอยู่ในสภาวะลืมตัวตน
เหนือศีรษะเมฆดำค่อยๆ ก่อตัวขึ้น ความมืดปกคลุม ทำเอาพื้นที่โดยรอบของป่าวั่นไหวกระสับกระส่ายเล็กน้อย
มือทั้งสองข้างของฉินหลิวซีร่ายคาถา เสกลงบนยันต์เหล่านั้น ทำเอาพวกมันหมุนอย่างรวดเร็ว และขณะนั้นนางก็ได้พึมพำคาถาไปด้วย
กลิ่นหอมของโสมลอยไปร้อยลี้
เมฆดำรวมตัวกันเหนือศีรษะ สายฟ้าสว่างวาบ ท้องฟ้าบริเวณนี้สีดำสนิท ราวกับจะพังทลายลงได้ทุกเมื่อ
มีคนมุ่งหน้ามาทางด้านนี้อย่างรวดเร็วอยู่เรื่อยๆ
พลังวิญญาณของร่างที่เหนือชั้นของปีศาจโสมน้อยได้แสดงออกมาจนถึงขีดสุด แต่สายฟ้ากลับไม่ผ่าลงมาเสียที
ฉินหลิวซีลืมตา ในมือถือยันต์เรียกสายฟ้าหนึ่งแผ่น โยนขึ้นไปข้างบน สายฟ้าไม่มา นางจะดึงลงมาเอง
“คำสั่งสายฟ้า ระดมวิญญาณทั้งหมด มอบพลังศักดิ์สิทธิ์แก่ข้า สวรรค์ประทานห้าสายฟ้าลงมา…”
ในเมฆมืดครึ้มที่ปกคลุมผืนฟ้า ได้เกิดเสียงฟ้าร้องดังขึ้น
“ยังไม่มา?” ฉินหลิวซีสายตาเกรี้ยวกราด หากไม่มานางจะอาละวาดแล้ว
เปรี้ยง
มีประกายไฟของสายฟ้า
เมื่อเห็นว่าพลังวิญญาณของปีศาจโสมน้อยได้เคลื่อนไปถึงจุดสูงสุดแล้ว มือทั้งสองข้างของฉินหลิวซีร่ายคาถา เสกพลังวิญญาณออกไป “ฝึกบำเพ็ญนับพันปี ทุกสรรพสิ่งมีวิญญาณ ข้าขอออกคำสั่งนี้ ประทานร่างคน ฟ้าดินเป็นใจ ออกคำสั่งโดยพลัน!”
ฟ้าร้องอย่างรุนแรง แต่ไม่ผ่าลงมา
หัวใจของเฮยซาจมลง ดวงตาแดงก่ำ มองปีศาจโสมน้อยที่เกือบจะโปร่งใสด้วยความกังวลเล็กน้อย กำหมัดแน่น
ฉินหลิวซีลืมตา เงยหน้ามองไปบนฟ้า ตะโกนด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกราด “ให้ไว ผ่ามันให้ข้าเดี๋ยวนี้!”
เปรี้ยง
สายฟ้าสีม่วงหนาเท่านิ้วมือผ่าลงไปที่ปีศาจโสมน้อย!