คุณหนูใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า - ตอนที่ 941 ประวัติดำมืดของชีวิตโสม
ตอนที่ 941 ประวัติดำมืดของชีวิตโสม
ดั่งคำกล่าวที่ว่าหากต้องการบรรลุความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ จะต้องแบกรับความเสี่ยงสูง ปีศาจโสมน้อยอยากจะกลายร่างเป็นคน ก็ต้องอดทนต่อพลังของสายฟ้า ฝ่าด่านเคราะห์ล้างมลทิน มิฉะนั้นสวรรค์จะไม่ยอมรับ
ด้วยเหตุนี้ มันฝึกบำเพ็ญมาเป็นเวลาพันปี จะเป็นคนหรือเป็นภูตก็ขึ้นอยู่กับวันนี้
สายฟ้าสีม่วงฟาดลงมาทีละเส้น หนาขึ้นเรื่อยๆ เนื้อของปีศาจโสมน้อยเริ่มฉีกขาดแล้ว ดวงวิญญาณได้รับความเสียหาย แต่ยังคงอดทนได้
สายฟ้าเก้าเส้น มันต้องผ่านไปให้ได้
เมื่อมาถึงเส้นที่เก้า มันสะลึมสะลือ เริ่มไม่รู้เรื่องอะไรแล้ว เพียงแต่นึกถึงผู้อาวุโสท่านนั้นที่มันเคยเจอ ฝึกบำเพ็ญมานานกว่ามันหลายปี สมบูรณ์แบบกว่ามัน พลังวิญญาณในตอนนั้น เพียงพอกว่าตอนนี้เสียอีก
แต่ว่าสุดท้ายก็ไม่สามารถผ่าสายฟ้าเส้นที่เก้าไปได้ แม้แต่ดวงวิญญาณก็ไม่เหลือ หายไปในจากโลกนี้
สิ่งมีชีวิตทุกชนิดเท่าเทียมกัน ทุกสรรพสิ่งสามารถฝึกบำเพ็ญได้ แต่ภูตอย่างพวกมันเหล่านี้อยากจะกลายร่างเป็นคน เวลา สถานที่ คนที่เหมาะสม ขาดไปไม่ได้แม้แต่อย่างเดียว
มันอาจจะโชคไม่ดี
มันทนไม่ไหวแล้ว
สุดท้ายก็ต้องถูกเทพอสูรน้อยผู้นี้เอาเปรียบเสียแล้ว
ปีศาจโสมน้อยล่องลอย เกือบจะถูกลมพัดไป
ทันใดนั้นก็มีพลังงานอันบริสุทธิ์และอบอุ่นไหลเข้ามาใจดวงจิตของมัน แสงสีทองส่องประกาย
นี่มัน เป็นพลังบุญกุศลแห่งความศรัทธาหรือ
“อย่ามาแกล้งตายใส่ข้า รีบยืนหยัดขึ้นมา ยังเหลือสายฟ้าเส้นสุดท้าย และเป็นเส้นที่ทรงพลังที่สุด ต้านทานมันให้ได้” น้ำเสียงเย็นชาพุ่งเข้ามาในแท่นวิญญาณ ปีศาจโสมน้อยสบถเบาๆ แต่ขอบตากลับเปียกชื้น
ดูเหมือนว่ามันจะมีโชคมากกว่าผู้อาวุโสรุ่นก่อนอยู่บ้าง!
เฮยซาเห็นอย่างชัดเจน เทพอสูรเป็นคนปากเสีย แต่ก็เป็นคนใจกว้าง บุญกุศลแห่งความศรัทธา คิดจะให้ก็ให้เลย
สายฟ้าเส้นสุดท้ายขนาดเท่าข้อมือ ฟาดลงมาจนภูเขาสั่นสะเทือนทั้งลูก สัตว์ที่ขี้ขลาดไปหลบซ่อนตัวอยู่ในถ้ำตัวสั่นเทา และข้างนอกก็มีราษฎรมองไปตามเสียง กลางวันแสกๆ เหตุใดจึงได้มีเสียงฟ้าร้องดังเช่นนี้
นักพรตบางคนโกรธที่ตัวเองไม่มีขาเพิ่มมาอีกสองขา เป็นความจริงที่สิ่งมีจิตวิญญาณกำลังฝ่าด่านเคราะห์เพื่อเกิดใหม่ แต่ไปไม่ทันแล้ว
สายฟ้าหยุดลง เมฆดำสลายไป
ฉินหลิวซีและเฮยซาจ้องมองไปที่ตำแหน่งของปีศาจโสมน้อย รอให้เศษสายฟ้าที่แตกสลายที่เหลืออยู่หายไป
ขอบฟ้าราวกับมีสีสัน สาดแสงสีทองหลากสีลงมา
บรรดาภูตผีปีศาจที่อยู่รอบๆ ต่างก็ยินดี อิจฉาริษยา แต่ก็ไม่มีใครไม่ถือโอกาสนี้ดูดซับแสงสีทอง ไม่ได้เฝ้ารออย่างเสียเปล่า
และทางด้านปีศาจโสมน้อย ในที่สุดสายฟ้าก็สลายไป เผยให้เห็นเจ้าก้อนเกี๊ยวตัวขาวอวบอ้วน
ฉินหลิวซีคิดอยู่ครู่หนึ่ง เดินเข้าไป กระแอมเสียงดัง เตะก้อนเกี๊ยวเบาๆ
ปีศาจโสมน้อยหดตัว ลืมตาขึ้นอย่างช้าๆ สิ่งแรกที่มองเห็นคือสองมืออันอวบอ้วน นิ้วกลมๆ เล็บสีชมพู เมื่อมองดูขาก็มีเนื้อเช่นกัน
นี่มัน…
มันคือรูปลักษณ์ของคน
ปีศาจโสมน้อยดีดตัวขึ้นจากพื้นในทันที กางมือออก ลูบตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า รูปร่างเหมือนกับฉินหมิงฉุนและคนอื่นๆ มีมือมีเท้ามีนกน้อย
“อ้ากกก ข้าเป็นคนแล้ว ข้าเป็นคนแล้ว!” ปีศาจโสมน้อยกระโดดอยู่กับที่ ร้องตะโกนพลางวิ่งออกไปอย่างบ้าคลั่ง
ฉินหลิวซี “…”
ครั้งหนึ่งในชีวิตได้เห็นโสมเปลือยเปล่า
เฮยซา “!”
เด็กผู้โชคร้าย นี่มันประวัติมืดดำของชีวิต!
หวังว่าเขาจะไม่อับอายจนโมโหตาย!
ปีศาจโสมน้อยหมุนตัวไปรอบๆ อยู่ตรงหน้าเฮยซา อายุสิบปี มีผมยาวสีดำม่วง ดวงตาก็สีดำม่วงเช่นกัน สดใสจนทำให้คนประหลาดใจ ใบหน้ากลม ผิวขาวดั่งหยก ราวกับเกี๊ยวเนื้อที่ทำให้คนอยากจะกัดกิน
“สหายเฮย ข้าเป็นคนแล้ว” ปีศาจโสมน้อยเอ่ยอย่างตื่นเต้นพลางคว้าแขนของเฮยซา
เฮยซา “ยินดีด้วย”
ปีศาจโสมน้อยยิ้มจนตาหยี ไม่ทันเห็นสีหน้าของเขาที่อยากจะกล่าวอะไรบางอย่างแต่ก็หยุดไป จากนั้นก็พุ่งไปหาฉินหลิวซี หมุนรอบตัวเอง เอ่ย “เทพอส…ซีซี ข้าสำเร็จแล้ว ข้าเป็นคนแล้ว”
ประโยคนี้ มันกล่าวซ้ำแล้วซ้ำเล่า
การกลายร่างเป็นคน เป็นแรงผลักดันที่ทำให้ยืนหยัดฝึกบำเพ็ญมาเป็นเวลาพันปี และเป็นความยึดติด
ตอนนี้มันสมดั่งปรารถนาแล้ว
ฉินหลิวซีมือกอดอก เอ่ยด้วยความรังเกียจว่า “เหตุใดต้องกลายร่างเป็นผู้ชาย”
ปีศาจโสมน้อยตกตะลึง ก้มลงมอง จากนั้นก็ค้นพบว่าตัวเองเปลือยเปล่า!
“อ๊าก!”
เสียงแห่งความอับอายและความโกรธดังก้องไปทั่วป่า มันกุมส่วนล่างแล้ววิ่งหนีไป กรีดร้องว่า “เรื่องอานาจาร! สิ่งที่เสียมารยาทไม่ควรดูพวกท่านเข้าใจหรือไม่!”
ให้ตายเถอะ เมื่อครู่เขาวิ่งไปทั่วภูเขาแล้ว ขายขี้หน้าไปทั่ว
เขาสวมเสื้อคลุมสั้นสีแดงเพื่อปกปิดความน่าเกลียดอย่างรวดเร็ว เมื่อกลับมาอีกครั้ง ใบหน้าแดงก่ำ สายตาที่มองฉินหลิวซีไม่กล้าลอกแลก เอ่ยด้วยใบหน้าแดงก่ำ “ท่าน ท่านทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นได้หรือไม่”
“ก็แค่เด็กน้อย มีอะไรน่าดู” ฉินหลิวซีเยาะเย้ย เอ่ยสั่งสอนว่า “นี่เป็นคำเตือนสำหรับเจ้า ต่อไปกระทำการใดให้ระมัดระวัง อย่าหลงระเริง สูญเสียจิตสำนึกความเป็นคน ควรมีความละอายใจ”
ปีศาจโสมน้อยโกรธมาก กล่าวราวกับว่าเจ้ามีอย่างนั้นแหละ
แต่ว่าวันนี้เป็นวันดีของเขา เขาจะไม่ถือสานาง อีกอย่าง ก็ไม่สามารถถือสาได้
มันถอยหลังหนึ่งก้าว โค้งคำนับนางอย่างเป็นทางการ เอ่ย “ซีซี ที่วันนี้ข้าฝ่าด่านเคราะห์ได้สำเร็จล้วนเป็นเพราะท่าน ขอบคุณมาก”
มันเหลือบมองใบหน้าของฉินหลิวซีที่ซีดลงกว่าก่อนหน้านี้เล็กน้อย รู้ว่าสายฟ้าด่านเคราะห์เมื่อครู่นี้นางได้ช่วยบรรเทาให้ตัวเองไว้ไม่มากก็น้อย มิเช่นนั้นไม่มีทางฝ่าด่านเคราะห์ได้อย่างราบรื่น
“แม้ว่าเจ้าจะเป็นคนแล้ว แต่ก็อย่าลืมฝึกบำเพ็ญ และอย่าลืมที่จะระมัดระวัง อย่าเปิดเผยรูปร่างที่แท้จริงต่อหน้าผู้อื่น และยิ่งไม่ควรใช้อำนาจรังแกผู้อื่น” ฉินหลิวซีเอ่ยเตือนเขาว่า “ในทางโลก จิตใจของคนซับซ้อนและน่ากลัวยิ่งกว่าปีศาจ ไม่ควรมีเจตนาที่จะทำร้ายผู้อื่น และควรป้องกันตัวจากผู้อื่น ฝึกบำเพ็ญอย่างขยันขันแข็ง ก็จะมีความสามารถในการปกป้องชีวิตมากขึ้น เป็นผลดีไม่มีผลเสียต่อเจ้า”
ปีศาจโสมน้อยยิ้มเจื่อน พลางพยักหน้า “ข้าทราบแล้ว”
ท่าทางโง่เง่าเช่นนี้ เกรงว่าจะถูกคนหลอกเขาไปขายแล้วยังช่วยเขานับเงินอีกด้วย
ฉินหลิวซีเอ่ย “เจ้ามีนิสัยไร้เดียงสา อย่าเชื่อใจใครง่ายๆ และยิ่งไม่ควรเปิดเผยตัวตนตามใจชอบ หากเจอพวกบำเพ็ญสายมารเหล่านั้น ให้หลีกเลี่ยง”
ปีศาจโสมน้อยฉีกยิ้มพลางพยักหน้า เอ่ยอย่างเขินอาย “เจ้าควรจะตั้งชื่อให้ข้าได้แล้วกระมัง”
“เจ้าเป็นโสม เช่นนั้นก็ชื่อว่าเซินที่มาจากคำว่าเซินหลินซึ่งแปลว่าป่าก็แล้วกัน จะตั้งชื่ออะไรได้อีก”
ปีศาจโสมน้อยโมโห เอ่ยว่า “ไม่ใส่ใจเอาเสียเลย”
ฉินหลิวซีเหลือบมองเขา
ปีศาจโสมน้อยสะดุ้ง เอ่ยลองเชิงว่า “เช่นนั้นข้าแซ่ฉิน? ฉินเซิน”
“แล้วแต่เจ้า อย่างไรเสียเจ้าก็แปลงร่างได้ตามใจชอบ แปลงร่างเป็นสาวน้อยจะน่ารักกว่า แต่ดันจะมีนกน้อย” ซ้ำยังเป็นเด็ก
ปีศาจโสมน้อยที่ถูกรังเกียจ “…”
เขากลัวว่านางเห็นแล้วจะรู้สึกโศกเศร้า จึงได้กลายร่างเป็นเช่นนี้
แต่ว่า จากนี้ไปเขาก็คือฉินเซินที่มีชื่อแซ่และรูปร่างเป็นคน เช่นนั้นก็เป็นครอบครัวเดียวกันกับฉินหลิวซี ฉินหลิวซีงั้นหรือ น่ายินดีเป็นอย่างยิ่ง!
ฉินหลิวซีเงยหน้ามองไปยังส่วนลึกของป่าบนภูเขา คว้าตัวเฮยซาและเขา เปิดเส้นทางหยินแล้วจากไป “สถานที่นี้ไม่ควรอยู่นาน ไปเร็วเข้า”
นางถือโอกาสทิ้งยันต์ห้าสายฟ้าไว้สองแผ่น
และเมื่อพวกเขาจากไปแล้วก็ได้มีคนมาถึงที่นี่ในภายหลัง ยังไม่ทันได้หาพบ ก็มีเสียงระเบิดดังสองครั้ง ยันต์ห้าสายฟ้าระเบิดแล้ว
นักพรตเต๋าสองคนที่ถูกระเบิดจนหน้าดำควันออกปาก “!”
ให้ตายเถอะ นี่เป็นเรื่องที่คนทำกันหรือ ไม่เหลือของดีไว้ เหลือไว้แต่กับดัก!