คุณหนูใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า - ตอนที่ 951 หลบไป นางจะก้าวหน้าแล้ว
ตอนที่ 951 หลบไป นางจะก้าวหน้าแล้ว
ฉินหลิวซีเหลือบมองไปยังชายหนุ่มข้างกายที่กำลังร่ำไห้อย่างหมดท่า รู้สึกคุ้นตา ในตอนที่เขาเงยหน้าขึ้นเช็ดน้ำมูกอยู่ครู่หนึ่ง นางก็จำได้ในทันที
นี่คือบุรุษที่นางเคยรักษาภรรยาของเขาที่ศาลเทพเจ้าประจำเมืองในวันอัญเชิญเทพเจ้า ชื่ออะไรนะ ไล่ซาน อะไรนั่นหรือไม่
“ภรรยาเจ้าเป็นอะไร”
เสียงอันเย็นยะเยือกดุจน้ำแข็งของนางดังเข้าไปในโสตประสาทของไล่ซาน เขาเงยหน้ามองมาทางฉินหลิวซีมึนงงอยู่ครู่หนึ่ง แต่ไม่นานก็จำนางได้ “ท่านอาจารย์หรือ”
สามปีผ่านไป ฉินหลิวซีก็บรรลุนิติภาวะอายุครบยี่สิบปีแล้ว เติบโตเต็มที่แล้ว รูปลักษณ์ของนางไม่ใช่แบบที่ละเอียดประณีตหรือชวนให้ตกตะลึง แต่กลับเป็นใบหน้าที่เย็นชาราวกับหิมะราวกับน้ำแข็ง นัยน์ตาเฉียบคมแต่เต็มไปด้วยพลังอำนาจจนทำให้ผู้คนต้องเกรงกลัว
ไล่ซานหันมาคุกเข่าลงต่อหน้านาง “ท่านอาจารย์ เป็นท่านจริงๆ ท่านมีฝีมือการรักษาเยี่ยมยอด โปรดช่วยภรรยาของข้าด้วยเถิด”
ฉินหลิวซีได้กลิ่นคาวเลือดอ่อนๆ บนร่างของเขาอีกทั้งยังพินิจพิเคราะห์โหงวเฮ้งของเขา เอ่ย “ภรรยาเจ้าเป็นอะไร เดินไปเอ่ยไปเถิด”
ไล่ซานรีบลุกขึ้นและนำทางไปทันที ตลอดทางก็ร้องไห้สะอึกสะอื้นเล่าถึงเรื่องของภรรยา
ที่แท้ภรรยาของไล่ซานเพิ่งคลอดบุตรชายอ้วนท้วนคนหนึ่งมาได้ไม่นาน ในระหว่างการคลอด แม้จะยากลำบาก แต่สุดท้ายทั้งแม่และลูกก็ปลอดภัยดี แต่ความยินดีนั้นก็ยังไม่ทันผ่านไป ในวันที่ทารกแรกเกิดได้อาบน้ำเป็นครั้งแรก ภรรยาของเขา เติ้งซื่อกลับมีอาการตกเลือดอย่างรุนแรง พอเชิญท่านหมอมารักษา ต่างก็เอ่ยว่าเป็นอาการตกเลือดหลังคลอด ยาที่จ่ายมาก็ไม่สามารถหยุดเลือดได้ ตอนนี้นางใกล้สิ้นลมแล้ว ทุกคนต่างเอ่ยว่านางคงไม่รอดคืนนี้
“ข้าไม่เข้าใจเลย ทั้งที่คลอดได้ปลอดภัยแล้ว ไยถึงเกิดอาการตกเลือดได้ หากกรรมที่ข้าเคยทำไว้ในอดีตมันจะย้อนกลับมาก็ขอให้มันลงโทษข้าแทน ขออย่าได้ทำร้ายภรรยาของข้าเลย” ไล่ซานตบหน้าตัวเองซ้ำไปซ้ำมา
ฉินหลิวซีเอ่ย “เจ้าดูจะใส่ใจภรรยาผู้นี้นัก”
“นั่นคือภรรยาของข้า พ่อของข้าทำความดีมามากจึงมีบุญให้ข้าได้พบกับหญิงที่ดีงามเช่นนี้ หากไม่มีนาง ข้าก็ไม่รู้จะไปอยู่ที่ใด คงไม่มีทางมีครอบครัวที่อบอุ่นได้เลย” ไล่ซานสะอื้นพร้อมเอ่ย “แต่วันเวลาที่อบอุ่นผ่านไปยังไม่ถึงสองวัน ความหายนะก็มาเยือน ถ้าหากภรรยาของข้าไม่อยู่แล้ว ครอบครัวของข้าคงพังทลาย”
เขาปาดน้ำตาอีกครั้ง เอ่ย “ทุกคนต่างบอกว่าภรรยาของข้ารักษาไม่ได้แล้ว ข้าจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากไปขอพรจากเทพเจ้าประจำเมือง แต่ครั้งก่อนภรรยาของข้าเคยมีหนอนในท้องไม่ใช่หรือ ก็ยังรักษาหายที่ศาลเทพเจ้าประจำเมืองนี้ ข้าไม่คิดเลยว่าจะได้พบกับท่านอาจารย์อีกครั้ง”
“เจ้ามาถูกทางแล้ว” ฉินหลิวซีเอ่ย “เทพเจ้าประจำเมืองบอกข้าว่าภรรยาของเจ้าจะหายดี เมื่อนางหายดีแล้ว พวกเจ้าสามคนพ่อแม่ลูกจงมาถวายเครื่องเซ่นและขอพรที่ศาลเจ้านี้อีกครั้ง และตั้งป้ายอายุยืนของเทพเจ้าประจำเมืองไว้บูชาเป็นประจำเถิด”
เทพเจ้าประจำเมืองต้องการพลังแห่งศรัทธา นางต้องก้าวหน้าสักหน่อย ช่วยเขาสะสม
ไล่ซานดีใจอย่างมาก รีบเร่งเท้าพาฉินหลิวซีไปยังบ้านหลังเล็กที่อยู่ใกล้กับริมแม่น้ำ บริเวณนี้มีชาวบ้านอยู่หลายคน
“ไล่ซาน เจ้าไปตายที่ใดมา ภรรยาเจ้าจะไม่รอดแล้ว เจ้ายังไม่เฝ้าอยู่ข้างนางอีกหรือ” ป้าคนหนึ่งชี้หน้าไล่ซานและด่าว่า
“ข้าไปขอพรจากเทพเจ้าประจำเมืองมา ภรรยาของข้ามีทางรอดแล้ว” ไล่ซานเอ่ยพร้อมรอยยิ้ม
ฉินหลิวซีกวาดตามองไปที่บ้านหลังเล็กนี้ ดูแล้วไม่ใช่ครอบครัวที่มีฐานะมั่งคั่ง ข้าวของดูเรียบร้อย หน้าต่างยังมีภาพตัดกระดาษสีแดงติดอยู่ ดูท่าจะเป็นฝีมือของเจ้าของบ้านหญิงซึ่งมีฝีมือพอควร
ไล่ซานผู้นี้มีใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยย่น ร่างกายที่เห็นได้ชัดว่าผ่านมรสุมชีวิตมามาก ดูแก่ลงไปจากเมื่อสามปีก่อนมาก มือทั้งสองข้างหยาบกระด้าง ดูท่าช่วงสามปีนี้เขาเปลี่ยนแปลงไปไม่น้อย อย่างน้อยก็เห็นได้ว่าเขาทะนุถนอมภรรยาของเขายิ่งนัก
คนในลานบ้านต่างเหลือบมองฉินหลิวซีด้วยความสงสัย เด็กสาวคนนี้เป็นใครกัน
ใช่แล้ว ฉินหลิวซีเติบโตขึ้นเต็มที่แล้ว แม้ใบหน้าของนางยังคงมีเค้าคล้ายชายหญิงไม่ชัดเจน แต่หน้าอกของนางเริ่มอวบอิ่มขึ้นจนผู้ที่มองเห็นรู้ได้ในทันทีว่านางเป็นหญิงสาว
“เร็วเข้า ไล่ซานหายไปที่ใดแล้ว ภรรยาของเขาอาการแย่ลงแล้ว” มีผู้คนในบ้านวิ่งออกมาพร้อมเอ่ยด้วยความร้อนรน
รอยยิ้มของไล่ซานพลันหยุดชะงัก ใบหน้าซีดเผือด เขามองไปที่ฉินหลิวซี เอ่ยด้วยความหวาดหวั่น “ท่านอาจารย์…”
ฉินหลิวซีไม่รอช้ารีบก้าวยาวๆ ไปยังบ้านในทันที ไล่ซานรีบตามเข้าไป
ทันทีที่เข้าไปในบ้าน กลิ่นคาวเลือดก็อบอวลในอากาศ เสียงร้องของทารกที่ดังราวกับจะขาดใจ มีหญิงชราคนหนึ่งกำลังปลอบเด็กอย่างแผ่วเบา
ไล่ซานวิ่งไปที่ข้างเตียง มองเห็นภรรยาของเขาที่ใบหน้าเหลืองซีด ดวงตาปิดสนิท เขาทรุดลงไปคุกเข่าต่อหน้าภรรยาทันที “เจวียนเอ๋อร์ เจ้าตื่นเถิด ท่านอาจารย์มาแล้ว นางจะช่วยเจ้าได้แน่”
ฉินหลิวซีเดินตรงไปหาหญิงชราที่อุ้มทารกอยู่ นางยื่นมือไปลูบศีรษะทารกเบาๆ เอ่ยกับหญิงชราที่มองดูด้วยความร้อนใจ “อุ้มเขาออกไปข้างนอกเถิด”
หญิงชราตกใจไม่น้อย เพราะทันทีที่ฉินหลิวซีลูบศีรษะเด็ก เด็กที่เดิมร้องไม่หยุดก็เงียบลง เพียงสะอื้นอย่างเบาๆ นางมองฉินหลิวซีเดินไปยังเตียงแล้วจึงรีบอุ้มเด็กออกไป
“ถอยออกไป” ฉินหลิวซีเตะไล่ซานเบาๆ มองไปยังเติ้งซื่อที่มีผ้าโพกศีรษะ นอนหมดสติ นางจึงเปิดผ้าห่มขึ้น กลิ่นคาวเลือดรุนแรงเกือบทำให้นางต้องอาเจียน
นางดูเพียงชั่วครู่ จากนั้นก็หยิบเข็มทองออกมาจากถุงข้างเอว สั่งให้คนที่ไม่จำเป็นออกไปจากห้อง จากนั้นนางจึงเริ่มใช้เข็มทองปักลงไป เพื่อหยุดเลือดก่อน มิฉะนั้น หากเลือดยังไม่หยุดไหล สุดท้ายจะต้องตายเพราะเสียเลือดมากเกินไป
เข็มทองถูกปักที่จุดมิ่งเหมิน กวนหยวน และ เซวี่ยไห่ โดยไม่มีความลังเลและมือสั่นแม้เพียงเล็กน้อย
โดยเฉพาะที่จุดมิ่งเหมินและเซวี่ยไห่ ที่นางใช้เวลานวดเข็มนานเป็นพิเศษ
หลังจากปักเข็มเรียบร้อย ฉินหลิวซีก็จับข้อมือเติ้งซื่อเพื่อวินิจฉัยชีพจร พบว่าชีพจรทั้งหกของนางอ่อนแรงและว่างเปล่า แสดงถึงภาวะม้ามและกระเพาะอาหารอ่อนแอ ไม่สามารถควบคุมเลือดได้ ตอนคลอดก็ได้รับความหนาวเย็นจึงอ่อนแอมากขึ้น กลายเป็นภาวะขาดพลังชี่อย่างรุนแรง ทำให้เลือดพุ่งออกมาเหมือนน้ำพุ เป็นสถานการณ์ที่อันตรายอย่างยิ่ง
“วันที่ข้าให้ยาสมุนไพรเพื่อปรับสมดุลร่างกายของภรรยาเจ้า นางไม่ได้ดื่มยาหรือ” ฉินหลิวซีมองไปที่ไล่ซาน
ไล่ซานเอ่ย “ดื่มไปเพียงสองชุดเท่านั้น”
ฉินหลิวซีเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เดิมนางมีร่างกายที่ไม่แข็งแรงอยู่แล้ว อีกทั้งยังมีภาวะม้ามและกระเพาะอ่อนแอ จึงต้องการการบำรุงอย่างละเอียด ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ นางไม่ได้รับการบำรุงที่เหมาะสม แต่กลับต้องทำงานหนักใช่หรือไม่”
ไล่ซานก้มหน้าด้วยความรู้สึกผิด “ช่วงปีนี้สถานการณ์ไม่ค่อยดีนัก”
ฉินหลิวซีไม่ฟังคำแก้ตัวนี้ เพียงเอ่ย “ร่างกายที่ไม่แข็งแรงเป็นพื้นฐานความอ่อนแอ นางสามารถคลอดลูกได้อย่างปลอดภัยก็นับว่าเป็นบุญ หากไม่เช่นนั้น ร่างกายนี้คงเกิดภาวะตกเลือดในขณะคลอด อาจถึงขั้นเสียชีวิตพร้อมกับลูกได้ ภรรยาผู้นี้ ใช้ชีวิตของตนเพื่อให้กำเนิดลูกให้เจ้า”
ร่างของไล่ซานอ่อนแรง ใบหน้าซีดขาวไร้สีคน
ฉินหลิวซีเอ่ยต่อว่า “ไปเอากระดาษและพู่กันมา”
ไล่ซานนึกขึ้นได้ แต่กระดูกของเขายังอ่อนแรง จึงกัดปลายลิ้นตัวเองอย่างแรงแล้วจึงไปค้นหากระดาษและพู่กัน นี่ยังเป็นของบิดาของเขาที่เคยเป็นบัณฑิตทิ้งไว้ให้
ฉินหลิวซีเตรียมหมึก ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งจึงเริ่มเขียน
คนบ้านนี้คงไม่มีปัญญาซื้อโสม จึงได้แต่ใช้ยาสูตรบำรุงด้วยน้ำแกง เสริมด้วยอาเจียว ขิง เพื่อบำรุงเสริมพื้นฐานม้าม เสริมพลังหยาง ดื่มสองชุด บวกกับนางได้ใช้เข็มทองรักษาแล้ว อาการตกเลือดนี้จะหยุดได้อย่างสมบูรณ์ หลังจากนั้นค่อยบำรุงร่างกายหลังคลอดต่อไป
“ใบสั่งยานี้ไม่แพงนัก ไปหามาดื่มสองชุดก็พอ แต่ข้าขอเตือนเจ้าไว้ ภรรยาเจ้าในสภาพนี้ จำเป็นต้องกินยาเพื่อบำรุงร่างกาย นางจะไม่มีแรงให้นมลูกแล้ว” ฉินหลิวซีส่งใบสั่งยาให้ไล่ซาน
ไล่ซานรู้สึกโล่งใจอย่างมาก รับใบสั่งยามาดู พบคำว่าอาเจียว ใจเขากระตุก กัดฟันเอ่ย “สิ่งสำคัญที่สุดคือให้ภรรยาของข้าหายดี ต่อให้ข้าต้องหมดตัวก็จะหาให้ได้”
ฉินหลิวซีมองหน้าเขา สีหน้าเคร่งขรึมลง “ถ้าเจ้าคิดจะกลับไปเป็นอันธพาล ทำเรื่องเลวทรามอีก ก็คืนใบสั่งยานี้ให้ข้า แล้วไปจัดการศพของภรรยาเจ้าเถิด ข้าไม่ยอมให้เจ้ารับผลกรรมนี้”
เพียงชั่วครู่ก็มีกรรมนำพาให้ติดคุก มิใช่เพราะทำเรื่องเลวทรามแล้วจะเป็นเพราะอะไร