คุณหนูใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า - ตอนที่ 961 ข้าขาดคุณธรรมยิ่งใหญ่ คนดูแลศาลเทพเจ้า
พาซาหยวนจื่อกลับถึงศาลเทพเจ้าประจำเมือง ฉินหลิวซียังตั้งใจนำไก่ย่างหนึ่งตัว และเหล้าที่ตนทำเองก่อนหน้านี้มาด้วย เพื่อไหว้เทพเจ้าประจำเมือง
“เหล้านี้หอมจริงๆ รสชาติกลมกล่อม ข้ารู้สึกเหมือนเคยดื่มที่ใดมาก่อน” เทพเจ้าประจำเมืองเอ่ยอย่างพอใจ
ฉินหลิวซีคิดในใจ แน่นอนว่าท่านเคยดื่มมาก่อน ยังดื่มไม่น้อยด้วย เป็นเหล้าที่ขโมยมาจากนางทั้งนั้น
เทพเจ้ามองไปยังซาหยวนจื่อซึ่งดูโง่เง่า เอ่ยถาม “เด็กโง่นี่คือผู้ใดหรือ โอ้ วิญญาณของเขาบาดเจ็บหรอกหรือ ขอดูสักหน่อย อ๊ะ ดูเหมือนจะถูกค้นวิญญาณไปแล้ว โอ้ย ผู้ใดทำเรื่องไร้คุณธรรมเยี่ยงนี้ได้”
ฉินหลิวซีหยุดมือที่กำลังจะรินเหล้า หัวเราะเย็นออกมา ปิดฝาไหเหล้ากลับคืน เหล้าในเหยือกก็ไม่เทแล้ว
กราบไหว้ท่านเสียเปล่าแล้ว
เทพเจ้าประจำเมืองส่งเสียง โย่ว ขึ้นมา “ไยจึงไม่รินต่อแล้วเล่า”
“เพราะข้าไร้คุณธรรม”
เทพเจ้าประจำเมือง “?”
สตรีผู้นี้ยังมีนิสัยต่อว่าตนเองด้วยอย่างนั้นหรือ
เขาเอ่ยถามอย่างระมัดระวัง “เอ่อ ผู้ใดทำให้เจ้าโมโหแล้วหรือ”
ใบหน้านี้อย่างกับเด็ก คิดจะเปลี่ยนปุบปับก็เปลี่ยน
“เรื่องไร้คุณธรรมนี้ข้าเป็นคนทำ” ฉินหลิวซีชี้ไปยังซาหยวนจื่อ
นี่ค่อนข้างกระอักกระอ่วนแล้ว
เทพเจ้าประจำเมืองกระแอมไอสองครั้ง มองไก่และเหล้าตรงหน้า เอ่ยแก้ตัวอย่างเคร่งขรึม “เช่นนั้นคงจะเป็นเด็กคนนี้ที่ทำให้เทพองค์ใดไม่พอใจอย่างแน่นอน”
“ก็ใช่น่ะสิ เขาเกือบจะทำให้อาจารย์ข้าตายแล้ว”
นั่นคือความแค้นที่ไม่อาจยกโทษได้
“เช่นนั้นไยเจ้าต้องพาเขามาที่นี่” เทพเจ้าประจำเมืองสงสัย เพราะดูเหมือนว่าฉินหลิวซีไม่มีท่าทีที่อยากจะฆ่าซาหยวนจื่อเลยนี่นา
ฉินหลิวซีเอ่ย “ต่อไปเขาจะมาเป็นผู้ดูแลศาลเทพเจ้า จนกว่าชีวิตเขาจะจบสิ้นลง”
เทพเจ้าประจำเมืองตกใจ
นั่นหมายความว่าเขาจะเป็นผู้ดูแลของศาลเทพเจ้าประจำเมือง
ซาหยวนจื่อมองไปยังรูปปั้นเทพเจ้า ก้าวไปข้างหน้า ยื่นมือไปยังรูปปั้น ปิดตาลงเล็กน้อย
เทพเจ้าประจำเมืองรับรู้ถึงความตั้งใจของซาหยวนจื่อที่ต้องการติดต่อกับเทพเจ้าในทันที แม้จะดูโง่ แต่เขาก็มีความสามารถบางอย่างอยู่นี่นา
เมื่อเขาติดต่อกับซาหยวนจื่อ ในภวังค์ของความว่างเปล่า ซาหยวนจื่อนั่งคุกเข่าต่อหน้าเทพเจ้าและน้ำตาไหลออกมา
เทพเจ้ารู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย ด้วยสัญชาตญาณทำให้เขาประคองซาหยวนจื่อขึ้นมา “เด็กโง่ ไม่จำเป็นต้องทำเช่นนี้”
ฉินหลิวซีกอดอกพลางเหยียดยิ้ม
เนิ่นนานซาหยวนจื่อก็ดึงมือกลับคืน ดวงตาคู่นั้นมองไปยังฉินหลิวซีอย่างเปล่งประกาย
“จากนี้ไป เจ้าจะเป็นคนเฝ้าศาลเทพเจ้า กระทั่งเจ้าจะตายจากไป ก็ต้องรักษาศาลเทพเจ้าและบูชาเทพเจ้า อย่าให้คนมาลบหลู่เทพเจ้าได้” ฉินหลิวซีเอ่ย “เจ้าตกลงหรือไม่”
ซาหยวนจื่อพยักหน้าหนักๆ “ข้าตกลง”
“ไปจัดห้องพักเถิด” ฉินหลิวซีชี้ไปยังทิศทางหนึ่ง
ซาหยวนจื่อเป็นราวกับแมลงรีบตอบตกลงแล้วไปจัดการทันใด
“ท่านอาจารย์”
ฉินหลิวซีหันไปเห็นไล่ซานถือตะกร้าใบหนึ่งที่บรรจุของบูชาและของถวาย เอ่ย “มาแล้วขอรับ”
ไล่ซานเอ่ยด้วยใบหน้าซาบซึ้ง “ภรรยาของข้าดีขึ้นมากแล้ว ข้ามาที่นี่เพื่อบูชาและคารวะต่อเทพเจ้า”
ฉินหลิวซีหลบออกไป ดูเขาจัดของถวาย เริ่มทำพิธีจุดธูปคำนับ เห็นเทพเจ้าประจำเมืองยิ้มตาหยี พยักหน้าเบาๆ
หลังจากไล่ซานลุกขึ้น ฉินหลิวซีจึงเอ่ย “ข่าวว่าศาลเทพเจ้าประจำเมืองมีความศักดิ์สิทธิ์ เจ้าควรเผยแพร่ไปมากๆ”
ไล่ซานตะลึงไปสักพัก
“ยิ่งศาลเจ้าประจำเมืองมีความศักดิ์สิทธิ์มากขึ้น เทพเจ้าประจำเมืองก็จะยิ่งศักดิ์สิทธิ์มากขึ้น เจ้าก็จะได้รับประโยชน์ด้วย”
“ใช่ๆๆ ท่านอาจารย์วางใจเถิด ข้าคุ้นเคยกับงานนี้” ไล่ซานเอ่ยด้วยรอยยิ้มและถูมือของเขา
ฉินหลิวซีมองเขาด้วยหางตา เอ่ย “เงินทองที่ได้นั้นไม่ใช่ภูเขาทองภูเขาเงิน แม้มีก็หมดไปได้ เจ้าต้องคิดถึงอนาคต การช่วยเหลือครั้งสองครั้ง ไม่แน่ว่าจะมีครั้งที่สาม”
“ท่านอาจารย์วางใจเถิด ข้ากำลังหางานอยู่ ภรรยาข้าก็บอก หลังจากพักฟื้น นางจะทำซาลาเปาขาย ซาลาเปาที่นางทำอร่อยมาก”
ฉินหลิวซีพยักหน้า ประดูศาลเทพเจ้ามืดลง มีคนมาอีกแล้ว เป็นหญิงที่เคยมากราบไหว้ผู้นั้น ด้านข้างยังมีคู่หนุ่มสาวหนึ่งคู่ตามมาด้วย ชายผู้นั้นกำลังประคองหญิงสาว ใบหน้ามีความสุข
“โอ้ ท่านอาจารย์ก็อยู่ที่นี่ด้วย ท่านอาจารย์ทำนายถูกต้องจริงๆ ลูกสะใภ้ของข้ามีบุตรแล้ว นี่ครอบครัวของเรามาที่นี่เพื่อบูชาแล้วเจ้าค่ะ” หญิงผู้นั้นมองไปรอบๆ แล้วเอ่ยถาม “แต่ว่ากล่องทำบุญในศาลเจ้าไปไหนแล้วหรือ”
เทพเจ้าประจำเมืองโมโหขึ้นมา เอ่ยกับฉินหลิวซี “จะไปที่ใดได้ ของบูชาข้าถูกขโมยไปหมด ตอนนี้กล่องทำบุญถูกพวกขอทานและผู้ลี้ภัยทำลายไปแล้ว พวกเขาไม่กลัวการลงโทษจากเทพเจ้าเลยสักนิด”
ฉินหลิวซีเอ่ยกับหญิงผู้นั้น “ผู้ใจบุญมีเมตตานัก เงินน้ำมันตะเกียงวางไว้ที่โต๊ะก่อน เดี๋ยวข้าจะทำกล่องทำบุญให้ใหม่”
หญิงผู้นั้นให้บุตรชายและสะใภ้บูชาเทพเจ้า ส่วนนางหยิบเหรียญทองแดงจากกระเป๋าออกมาวางบนโต๊ะบูชา เห็นฉินหลิวซีมองเหรียญทองแดงนั้น นางก็รู้สึกละอายใจ เอ่ย “เมื่อสะใภ้ของข้าปลอดภัยในการคลอด ข้าจะมาที่นี่อีกเพื่อบูชาและทำบุญเพิ่ม”
ฉินหลิวซียิ้ม เอ่ยหนึ่งประโยค “การบูชาอย่างสม่ำเสมอจะได้รับการคุ้มครองจากเทพเจ้า ผู้ใจบุญเพียงแค่ทำตามความปรารถนาก็พอ”
เทพเจ้าประจำเมือง “ไยจึงรู้สึกเหมือนมีความหมายแฝงอยู่ นางกำลังปล้นเงินทำบุญหรือ”
ไล่ซานถือตะกร้าออกไป รอครอบครัวของสตรีผู้นั้นไปแล้ว ฉินหลิวซีรีบใช้ไม้ที่ซื้อมาสร้างกล่องทำบุญใหม่ เขียนว่ากล่องทำบุญ วางไว้บนโต๊ะบูชา
ซาหยวนจื่อทำความสะอาดไปหนึ่งรอบ
ไล่ซานกลับมาอีกครั้ง ด้านหลังของเขามีชายวัยกลางคนท่าทางเหมือนพ่อบ้านตามมาด้วยหนึ่งคน
“ท่านอาจารย์ คนนี้ต้องการให้ท่านรักษาให้กับเจ้านายของเขาขอรับ”
ชายวัยกลางคนมองไปยังฉินหลิวซีด้วยความประหลาดใจ “ยังมีนักพรตหญิงเป็นผู้ดูแลศาลเจ้าด้วยหรือ”
ชายกลางวัยมองไปยังเทพเจ้าที่ดูสง่างาม มองใบหน้าฉินหลิวซีที่ดูเยาว์วัยเกินไปอีกครั้ง รู้สึกว่าไม่น่าเชื่อถือนัก
ไล่ซานเอ่ย “พ่อบ้านจาง ข้าไม่ได้หลอกท่าน อาจารย์ท่านนี้มีความสามารถจริงๆ ภรรยาของข้า ขาข้างหนึ่งเข้าไปในประตูผีแล้ว นางยังช่วยกลับมาได้”
พ่อบ้านจางคิดว่ามาก็มาแล้ว จึงเอ่ย “เดี๋ยวข้าจะไปเชิญเจ้านายข้า”
ฉินหลิวซียกโต๊ะบูชาเก่าๆ ตัวหนึ่งมาตั้งไว้มุมหนึ่งของศาลเทพเจ้า หยิบกระดาษและพู่กันออกมา นำหมอนยาออกมาด้วย รอนางเตรียมเรียบร้อย พ่อบ้านจางก็พาคนหนุ่มคนหนึ่งมาปรากฏตัวที่หน้าประตูศาลเทพเจ้า
“สิ่งชั่วร้ายบังอาจนัก” เทพเจ้าตะโกนเสียงดัง แสงเทพเจ้าสีทองส่องไปยังประตูศาลเทพเจ้า
ฉินหลิวซีขมวดคิ้วเล็กน้อย มองไป แสงสีทองส่องไปยังคนหนุ่มคนนั้น แต่ได้ยินเสียงร้องอย่างเจ็บปวด เงาผีหนีลงจากหลังเขาไป
“นายน้อย ท่านระวังขอบประตู” พ่อบ้านจางช่วยประคองคนหนุ่มเดินเข้าประตูไป
คนหนุ่มยิ้มให้เขาและเดินเข้าไป เห็นรูปปั้นเทพเจ้าสวมชุดเหลือง ไม่รู้ทำไม ความหนักอึ้งในร่างกายหายไป รู้สึกผ่อนคลายขึ้นมาก
“ท่านอาจารย์ นี่คือนายน้อยของข้า เจ้านายข้าแซ่หลัว” พ่อบ้านจางดันนายน้อยของตนไปข้างหน้า
เมื่อเห็นฉินหลิวซี ใบหน้าซีดของหลัวฉี่พลันแดงขึ้น ก้าวเท้าอย่างลังเล เป็นนักพรตหญิง อาการป่วยของเขา เป็นโรคที่ยากจะเอ่ยออกมาได้
“ผู้เป็นหมอมีใจดุจบิดามารดา ในสายตาของหมอไม่มีการแบ่งแยกเพศ ผู้ใจบุญไม่ต้องรู้สึกไม่สะดวกใจ” ฉินหลิวซีเอ่ย “เป็นเพียงโรคไตอ่อนแอเท่านั้น”
หลัวฉี่ “…”
พ่อบ้านจางตกใจมาก “ท่านยังไม่ตรวจชีพจรก็รู้แล้วหรือ”
ฉินหลิวซีชี้ไปยังเทพเจ้า “เป็นพลังที่เทพเจ้าประทานให้ ท่านมาถูกที่แล้ว หมอทั่วไปคงรักษาโรคนี้ไม่ได้”
“หมายความเช่นไรหรือ”
“เพราะว่าผู้ใจบุญถูกผีหญิงรบกวน” ฉินหลิวซีเอ่ย “เมื่อครู่ท่านยืนอยู่ที่นี่ เทพเจ้าได้ใช้พลังขับไล่นางออกไปแล้ว”
หลัวฉี่และพ่อบ้านจาง ฟังดูแล้ว คำพูดนี้ฟังดูเหมือนคล้ายคำของนักต้มตุ๋น